Categories
สุขภาพ

ดูแลลูกแมว อย่างไรให้ห่างไกลจากโรคผิวหนัง 

ลูกแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก หากใครมีโอกาสที่ได้เลี้ยงดูพวกเขาก็คงจะตกหลุมรักได้ไม่ยากเย็น สิ่งที่คนเลี้ยงแมวอย่างพวกเราต้องการมากที่สุดไม่มีอะไรไปมากกว่าการ ดูแลลูกแมว ให้พวกเขานั้นจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีความร่าเริงแจ่มใสตามฉบับแมวทั่วไป

ดูแลลูกแมว

แต่อย่างไรก็ตามการดูแลลูกแมวนั้นจำเป็นที่จะต้องใส่ใจอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะพวกเขาเพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นานทำให้ยังมีร่างกายที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากมายโดยเฉพาะโรคผิวหนัง เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีโรคผิวหนังอะไรบ้างที่สามารถเกิดขึ้นได้กับพวกเขาและเราจะมีวิธีการดูแลพวกเขาอย่างไร 

ดูแลลูกแมว รวมโรคผิวหนังที่ลูกแมวมีโอกาสเสี่ยงสูง 

ดูแลลูกแมว
  • โรคเชื้อรา หากคุณดูแลลูกแมวไม่ดีพอสิ่งที่จะตามมาเป็นอันดับแรกเลยก็คือเชื้อรานั่นเอง มันเป็นโรคที่อันตรายแถมยังรักษาให้หายยากเย็นอีกต่างหาก สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกแมวของคุณก็คือผลจะร่วงออกมาเป็นวง มีอาการผิวหนังแดงอักเสบและตกสะเก็ด หากผิวหนังถูกทำลายไปมากก็อาจจะเกิดอาการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมา การดูแลนอกจากจะต้องทายาหรือกินยาตามที่หมอสั่งแล้วเรายังต้องดูแลความสะอาดให้ดีอีกด้วย เพราะมันเป็นโรคที่สามารถติดมาสู่มนุษย์ได้ 
ดูแลลูกแมว
  • ปรสิตภายนอก สุขภาพแมวจะไม่ดีอย่างแน่นอนหากพวกเขามีปรสิตมาเกาะตามตัว โดยปรสิตภายนอกนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบนั่นก็คือเห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ว่าจะเป็นเห็บหรือหมัด เราต้องกำจัดให้หมด ดูแลความสะอาดพวกเขาให้ดี อาจจะต้องมีการหยอดยาป้องกันเห็บหมัดให้กับพวกเขาอยู่เป็นประจำ และแบบที่ต้องส่องกล้องอย่างเช่นพวกไรขี้เรื้อนหรือไรในหู ปรสิตเหล่านี้เราจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัดเพราะมันอาจจะทำให้พวกเขาถึงขั้นพิการได้เลยทีเดียว
ดูแลลูกแมว
  • ติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย สังเกตเห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะมีอาการคัน บนผิวหนังมีสีแดงและเป็นตุ่มหนอง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ สาเหตุที่พบบ่อยมักเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันลดลง และมักจะเกิดขึ้นกับแมวที่ชอบอยู่ในบริเวณที่ชื้นหรือเปียก 

เปิดวิธีการสังเกตและดูแลป้องกันโรคผิวหนังให้แมว

ดูแลลูกแมว

เวลาที่เราดูแลลูกแมวเราก็ไม่อยากให้พวกเขาป่วยเป็นอะไรโดยเฉพาะโรคผิวหนัง ดังนั้นเราจึงต้องดูแลและป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวให้พวกเขามีสุขภาพแมวที่ดี สิ่งที่เราต้องทำเป็นประจำก็คือตรวจสอบสุขภาพผิวหนังของพวกเขาด้วยตาเปล่าอยู่เสมอ โดยจะต้องดูเส้นขน ผิวหนัง เล็บ และใบหู

เมื่อลูกไปตามลำตัวพวกเขาแล้วขนจะต้องนุ่มไม่ร่วงติดมือออกมา แหวกขนไปถึงผิวหนังจะต้องไม่พบปรสิต ตุ่มแดง สะเก็ดรังแค หรือตุ่มหนอง ดูบริเวณใต้ลำคอ ขาหนีบ รักแร้ว่ามีรอยแดงหรือไม่ เปิดหูพวกเขาทั้งสองข้างดูว่าสะอาดดีหรือไม่หรือมีอะไรเปลี่ยนชื้นอยู่ข้างใน รวมไปถึงอุ้งเท้าที่บริเวณโคนเล็บจะต้องสะอาด หากเราเจอสิ่งผิดปกติก็ต้องรีบพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

วัคซีน แมว สิ่งสำคัญที่คนเลี้ยงแมวควรใส่ใจดูแล 

การรับแมวมาเลี้ยง 1 ตัวนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายและภารกิจที่ตามมาอีกมากมาย เพราะเมื่อเรารับพวกเขามาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วย่อมต้องการให้พวกเขาอยู่กับเราไปอีกนานๆ แต่พวกเขาจะอยู่กับเราได้ไม่นานหากมีอาการป่วยโดยเฉพาะโรคร้ายแรงของแมวทั้งหลาย

สิ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือการฉีดวัคซีนเช่นกับมนุษย์นั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าหลังรับแมวมาแล้วตัวนึงเราจะต้องพาพวกเขาไปฉีด วัคซีน แมว อะไรบ้าง 

รวม วัคซีน แมว ที่คนเลี้ยงแมวต้องทำให้ครบ 

วัคซีนแมว
  • โรคพิษสุนัขบ้า เป็นวัคซีนแมวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อที่พบได้ทั่วไปในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และยังสามารถติดต่อมาสู่มนุษย์ได้อีกด้วย สัตว์ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีพฤติกรรมดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด 
  • โรคหัดแมว เป็นวัคซีนที่ป้องกันการเกิดปัญหาแมวป่วยได้เป็นอย่างดี เพราะลูกแมวส่วนใหญ่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมากกว่าปกติ ส่งผลให้แมวมีอาการขาดน้ำ เบื่ออาหาร มีไข้ ซึม และอาเจียน หากลูกแมวมีอาการป่วยเป็นโรคนี้โอกาสที่จะรักษาหายค่อนข้างต่ำ
วัคซีนแมว
  • โรคเอดส์แมว เป็นโรคที่คล้ายคลึงกับเชื้อไวรัส HIV ที่พบได้ในมนุษย์ ทำให้ภูมิคุ้มกันภายในร่างกายบกพร่อง สามารถแบ่งออกได้เป็นถึง 5 ระยะเลยทีเดียว แต่หากสามารถพบได้เร็วและรักษาอย่างถูกวิธีก็จะช่วยยืดอายุแมวได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่การฉีดวัคซีนป้องกันไม่ให้แมวมีอาการป่วยเป็นโรคนี้อย่างแน่นอน
  • โรคไข้หวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิดที่มีอาการป่วยแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการเบื่ออาหาร ไอ จาม มีไข้ เจ็บปวดเนื้อตัว หากติดเชื้อไวรัสรุนแรงอาจส่งผลถึงชีวิตเลยทีเดียว
วัคซีนแมว
  • โรคลูคีเมีย เป็นมะเร็งที่สามารถพบได้บ่อยแถมยังสามารถติดต่อผ่านน้ำลาย ของเสีย หรือเส้นขนได้อีกด้วย ส่วนใหญ่มักพบว่ามีไข้สูง ท้องเสีย น้ำหนักลง หายใจไม่สะดวก 

แมวควรฉีดวัคซีนเมื่อมีอายุครบกี่เดือน 

วัคซีนแมว

หากรับลูกแมวมาดูแลตั้งแต่เป็นแมวแรกเกิดนั้นควรพามารับวัคซีนแมวเมื่อมีอายุครบ 8 สัปดาห์ ไม่ควรให้ฉีดวัคซีนทันทีหลังคลอดเนื่องจากยังไม่หย่านมแม่ที่มีภูมิคุ้มกันจึงยังไม่จำเป็นต้องฉีดแต่อย่างใด

แต่หากลูกแมวไม่มีประวัติสุขภาพแล้วรับมาเลี้ยงในภายหลัง มีอายุเกิน 8 สัปดาห์ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ทันทีหากไม่มีอาการแมวป่วย หากรับแมวโตมาเลี้ยงและไม่ทราบประวัติสุขภาพควรกักตัวดูอาการประมาณ 2 สัปดาห์แล้วพามาพบแพทย์เพื่อวางแผนในการฉีดวัคซีนต่อไป 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

ทำหมัน แมว หนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพให้กับแมวแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง 

มนุษย์ธรรมดาทั่วไปเมื่อป่วยจนต้องได้รับการผ่าตัดเราต่างทราบกันดีว่าการผ่าตัดนั้นล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบตามมาไม่มากก็น้อย แล้วนับประสาอะไรกับแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ดังนั้นการ ทำหมัน แมว ถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด เพราะขึ้นชื่อว่าการผ่าตัดอย่างไรก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำหมันให้กับแมวจะมีอะไรกันบ้าง 

รวมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการ ทำหมัน แมว

ทำหมัน แมว
  • ผลข้างเคียงจากยาสลบ การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวที่หลายคนเลือกทำเนื่องจากช่วยปรับพฤติกรรมให้กับแมวได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดนั้นจำเป็นต้องใช้ยาสลบซึ่งไปกดการทำงานของทั้งหัวใจและปอดซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นน้อยเพราะจะมีการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเสียทีเดียวแต่อย่างใด 
  • สำลักขณะสลบ เมื่อสรุปแล้วไม่ว่าจะมนุษย์หรือแมวต่างสูญเสียความสามารถในการกลืนทั้งสิ้น ดังนั้นหากคนเลี้ยงแมวไม่ได้ทำการอดน้ำหรืออดอาหารตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด มันจึงมีความเสี่ยงไม่น้อยเลยทีเดียวที่แมวจะสำลักน้ำหรืออาหารที่รับประทานเข้าไปก่อนเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากของเหล่านั้นไหลขึ้นมาจากกระเพาะสู่ปอดนั่นเอง 
ทำหมัน แมว
  • ปัญหาเกี่ยวกับแผลผ่าตัด หากดูแลแผลผ่าตัดไม่ดีหรือมีความผิดพลาดตั้งแต่ขั้นตอนการผ่าตัดแผลผ่าตัดอาจมีปัญหาได้ไม่ว่าจะเป็นมีเลือดออก หากติดเชื้ออาจมีน้ำหนองไหลออกมา รอยเย็บจะมีความบวมและเป็นจ้ำแดงมากขึ้นกว่าเดิม มีพฤติกรรมเดินหลังค่อม แต่โดยปกติแล้วสัตวแพทย์จะป้องกันด้วยการให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้ออยู่แล้ว 
  • ท้องผูก หลังจากผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วแมวต้องเผชิญกับความเครียด ความเจ็บปวด ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะไม่ค่อยรับประทานอาหารสักเท่าไหร่ มันจะเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแมวจึงมักท้องผูกอยู่เสมอเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ให้เราสังเกตให้ดีหลังผ่าตัดตั้งแต่ 48 ถึง 72 ชั่วโมงว่าแมวมีการถ่ายอุจจาระหรือไม่ หากแมวไม่ขับถ่ายเลยให้ปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วนเพราะอาจมีอาการแทรกซ้อนได้

พฤติกรรมแมวคุณอาจเปลี่ยนไปหากพาพวกเขาไปทำหมันให้แมว 

ทำหมัน แมว

การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวแถมยังช่วยปรับเปลี่ยนนิสัยให้พวกเขากลับมาอยู่ในร่องในรอยเหมือนกับสมัยยังเป็นเด็กอีกครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกตัวแต่อย่างใด แมวบางตัวอาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เป็นแมวที่เรียบร้อย กินเยอะ ดูอวบอั๋นมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่แมวบางตัวนั้นก็ยังคงมีระบบเผาผลาญที่ยอดเยี่ยม ยังคงวิ่งไล่ได้ตามปกติ แถมอาจจะยังมีพฤติกรรมก้าวร้าวอีกด้วย ซึ่งเกิดจากนิสัยของพวกเขาไม่ใช่ผลจากการทำหมันแต่อย่างใด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวป่วย เป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน 

เชื่อว่ามนุษย์หลายคนเคยป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบมาแล้วโดยเฉพาะมนุษย์เพศหญิง มันเป็นโรคที่เหมือนกับอยู่คู่กับเรามาตั้งแต่สมัยที่โตเป็นสาวก็ว่าได้ และที่สำคัญโรคดังกล่าวผู้ชายก็สามารถเป็นได้เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าความเสี่ยงจะน้อยกว่า นับประสาอะไรกับสัตว์ตัวเล็กอย่างแมวถึงจะไม่ป่วยเป็นโรคนี้ รู้หรือไม่ว่ามีแมวมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เคยประสบปัญหาป่วยเป็นโรคดังกล่าวมาแล้ว เราจึงจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับ แมวป่วย โรคนี้กันว่าพวกเขามีอาการอย่างไรและเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง 

ทำความรู้จักกับโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ แมวป่วย ที่ต้องได้รับการรักษา 

แมวป่วย

หากคุณเคยป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบมาก่อนคุณจะเข้าใจดีถึงความทรมานและความยากลำบากในการใช้ชีวิต อาการของแมวป่วยโรคดังกล่าวไม่ได้แตกต่างจากเวลาที่มนุษย์ป่วยเป็นโรคนี้สักเท่าไหร่ ปัญหาดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกเขาอย่างเช่นการรับประทานอาหารที่ผิดปกติไปจากเดิม การกินน้ำน้อย อาการที่จะเกิดขึ้นก็คือฉี่นอกกระบะทราย ฉี่กระปิดกระปอย มีอาการส่งเสียงเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ ไม่เพียงเท่านั้นอาการเจ็บป่วยของพวกเขายังส่งผลให้พวกเขารู้สึกเซื่องซึม ไม่สนใจกิจกรรมที่ปกติแล้วชื่นชอบ ไม่วิ่งเล่นสนุกสนานเหมือนที่เคยเป็น ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจขาดความกระตือรือร้นอีกด้วย

แมวป่วย

หากตรวจสุขภาพแมวหรือสังเกตเห็นอาการแมวพบว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวควรพาแมวไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมาอีกมากมาย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่โรคที่เป็นอันตรายถึงตายแต่ก็ทำให้แมวที่เรารักไม่มีความสุขเช่นเดียวกัน เมื่อพาไปพบแพทย์แล้วแพทย์อาจมีการวินิจฉัยและให้ยา คนเลี้ยงจะต้องดูแลหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นการให้ยาพวกเขาอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง พาไปพบแพทย์ตามนัดตรงต่อเวลา ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การกระตุ้นให้พวกเขากินน้ำมากขึ้นกว่าเดิม หากพวกเขาไม่ยอมกินน้ำเองก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องป้อนน้ำพวกเขาเช่นเดียวกัน และอย่าลืมให้อาหารสูตรพิเศษที่จะช่วยลดค่าความเป็นกรดด่างของปัสสาวะพวกเขาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือจะให้แคนเบอรี่ที่ลดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระก็ได้เช่นเดียวกัน

ป้องกันอย่างไรไม่ให้แมวป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ

แมวป่วย

เวลาแมวป่วยคนเลี้ยงก็เหมือนจะป่วยไปด้วย เพราะเมื่อสุขภาพแมวไม่ดีพวกเขาย่อมไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนเดิม ดังนั้นการป้องกันจึงดีกว่าการแก้ไขก่อนที่พวกเขาจะป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ เราต้องกระตุ้นให้พวกเขาดื่มน้ำอยู่เป็นประจำ อาจต้องลองใช้น้ำพุแมวหรือจัดวางน้ำเอาไว้ในบริเวณที่เหมาะสม เนื่องจากแมวจะไม่ดื่มน้ำหรืออาหารที่อยู่ใกล้แหล่งสกปรกอย่างเช่นกระบะทราย กระตุ้นให้พวกเขากินอาหารอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามโภชนาการ ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพียงเท่านี้พวกเขาก็จะมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยแล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวไม่กินน้ำ ปัญหาที่ทำให้ทาสหลายคนต้องปวดหัว 

แมวเป็นสัตว์ที่มีอาการป่วยรุมเร้าเป็นจำนวนมากหากเราไม่ดูแลรักษาสุขภาพพวกเขาให้ดีตั้งแต่เริ่มนั่นก็คือพฤติกรรมการรับประทานนั่นเอง หากพิจารณาดูให้ดีพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคไตอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาชอบอาหารที่มีรสเค็ม เนื่องจากลิ้นของพวกเขาไม่สามารถรับรสหวานได้ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังไม่ค่อยกินน้ำสักเท่าไหร่ตามธรรมชาติอีกด้วย สาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่ยอมกินน้ำนั้นมีมากมายแต่วิธีการที่จะสามารถกระตุ้นให้พวกเขากินน้ำก็มีเช่นเดียวกัน เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีวิธีการรับมืออย่างไรหาก แมวไม่กินน้ำ ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน 

รวมเทคนิคที่จะช่วยแก้ปัญหา แมวไม่กินน้ำ เทคนิคที่จะกระตุ้นแมวให้กินน้ำมากขึ้นกว่าเดิม 

แมวไม่กินน้ำ
  1. ความสะอาด แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาดเป็นอย่างมาก หากแมวไม่กินน้ำก็อาจจะหมายถึงพวกเขารู้สึกว่าน้ำสกปรกหรืออยู่ใกล้แหล่งสกปรกก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงควรดูแลสุขภาพแมวด้วยการเปลี่ยนน้ำพวกเขาเป็นประจำทุกวันให้มั่นใจว่าน้ำนั้นสะอาดบริสุทธิ์อย่างแน่นอน พยายามวางน้ำและชามอาหารให้ไกลจากสิ่งสกปรกอย่างเช่นกระบะทราย ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังไม่ชอบกินน้ำที่นิ่งอีกด้วย ดังนั้นการใช้น้ำพุแมวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถกินน้ำได้มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
  2. ทางเลือก การดูแลสุขภาพแนวนั้นจำเป็นต้องใช้เงิน หากแมวของคุณไม่ยอมกินน้ำอาจเกิดจากการที่พวกเขานั้นมีความชอบที่แตกต่างกันออกไป แมวบางตัวชอบกินน้ำในชามธรรมดา แมวบางตัวชอบกินน้ำแบบน้ำพุ ดังนั้นการมีภาชนะใส่น้ำที่หลากหลายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับพวกเขานั้นก็จะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาอยากกินน้ำมากยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี
  3. ประเภทของน้ำ คนเลี้ยงแมวแต่ละคนมีน้ำให้สัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกันออกไป บางคนเลือกใช้น้ำประปาแต่มันถูกผสมฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ สำหรับแมวแล้วมันอาจจะน่าขยะแขยงจนไม่อยากจะกินก็เป็นได้ เราอาจจะลองใช้น้ำจากเครื่องกรองน้ำหรือใช้น้ำดื่มที่ซื้อเป็นขวดให้พวกเขาดู ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะชื่นชอบน้ำเหล่านั้นก็เป็นได้ และยังต้องไม่ลืมเรื่องอุณหภูมิอีกด้วย บางตัวอาจจะชอบน้ำเย็นในขณะที่บางตัวก็อาจจะชอบน้ำอุ่นเช่นเดียวกัน 

เหลือครึ่งเดียว = หมดแล้ว สาเหตุที่ทำให้แมวไม่กินน้ำ 

แมวไม่กินน้ำ

ปัญหาการเหลืออาหารแค่ครึ่งเดียว = หมดแล้วหลังจากนั้นแมวก็มาร้องให้เราเติมอาหารนั้นได้เกิดขึ้นกับอาหารเพียงแค่อย่างเดียวแต่เกิดขึ้นกับน้ำด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงควรเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอเพื่อแก้ปัญหาแมวไม่กินน้ำ สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่น้ำที่เหลืออยู่เพียงแค่น้อยนิดในชามทำให้พวกเขากินลำบาก การเติมให้เต็มจะช่วยพวกเขากินง่ายมากขึ้นกว่าเดิมและมันก็กระตุ้นความอยากกินน้ำของพวกเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายจากการได้เล่นน้ำอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการดูแลสุขภาพแมวให้ดีก็อย่าลืมหมั่นเติมน้ำแมวอยู่เป็นประจำ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

วัคซีนแมว สิ่งสำคัญที่มีหลายเรื่องที่คนเลี้ยงแมวอาจไม่เคยรู้มาก่อน 

สำหรับคนเลี้ยงแมวเราต่างรู้ดีว่าการฉีดวัคซีนให้แมวนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดูแล เนื่องจากมันเป็นการช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แมวปลอดภัยจากโรคอันตรายทั้งหลายที่จะพรากชีวิตพวกเขาไปจากเรา แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนนั้นก็ยังมีอะไรมากมายที่คนเลี้ยงแมวธรรมดาทั่วไปอาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำต้องเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุกี่เดือน แมวแบบไหนบ้างที่ไม่ควรได้รับการฉีดวัคซีน เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการฉีด วัคซีนแมว มากขึ้นกัน 

รวมสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับการฉีด วัคซีนแมว

วัคซีนแมว

วัคซีนแมวเป็นสิ่งสำคัญที่ควรเลี้ยงแมวทุกคนต้องทำแต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายสิ่งที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับแมว หากคุณนั้นได้ดูแลแมวตั้งแต่แรกเกิด เมื่อพวกเขามีอายุครบ 6 สัปดาห์ถึง 8 สัปดาห์เราสามารถพาพวกเขาไปรับวัคซีนเข็มแรกได้ในทันที แต่เราไม่ควรให้ลูกแมวได้รับวัคซีนในทันทีหลังจากคลอดเช่นเดียวกัน เนื่องจากในช่วงที่ลูกแมวกำลังดื่มนมแม่อยู่นั้น นมแม่แมวจะเปรียบเสมือนกับเกราะป้องกันอันตรายจากโรคร้ายรวมไปถึงไวรัสและแบคทีเรียให้ลูกแมวยังคงปลอดภัย

วัคซีนแมว

ดังนั้นมันจึงไม่มีสาเหตุที่เราต้องเร่งนำเอาลูกแมวที่ยังไม่แข็งแรงมากพอไปรับวัคซีนให้เสี่ยงอันตราย แต่หากคุณรับลูกแมวที่ไม่รู้ประวัติสุขภาพตั้งแต่พวกเขาเกิดมาดูแล เราสามารถพาพวกเขามารับวัคซีนได้เมื่อพวกเขามีอายุตั้งแต่ 6 ถึง 8 สัปดาห์เป็นต้นไป แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อเราได้รับเขามาดูแลแล้วให้ทำการกักตัวเพื่อสังเกตอาการความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ หากลูกแมวปกติดีก็ให้นำมาพบสัตวแพทย์ได้เลย แต่ในกรณีที่คุณรับแมวผู้ใหญ่มาเลี้ยงและไม่ทราบประวัติเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขาเลย จำเป็นจะต้องกักตัวเช่นเดียวกับกรณีของลูกแมว จากนั้นให้นำมาหาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ที่สำคัญก็คือถึงแม้ว่าเราจะฉีดวัคซีนทุกเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่แมวควรได้รับการกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุก 1 หรือ 2 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของพวกเขานั้นได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอและมีสุขภาพแมวที่ดี

แมวแบบไหนบ้างที่เราไม่ควรพาไปรับวัคซีน

วัคซีนแมว

การฉีดวัคซีนแมวอาจช่วยให้สุขภาพแมวดีก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้วมีแมวอยู่บางกลุ่มเช่นเดียวกันที่ไม่ควรพาไปรับวัคซีน นั่นก็คือแมวที่มีโรคประจำตัวหรือแมวที่กำลังมีอาการเจ็บป่วย ให้ทำการรักษาและเลื่อนกำหนดการฉีดออกไปจนกว่าพวกเขาจะมีร่างกายที่แข็งแรง หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะวัคซีนอาจไปกระตุ้นให้แมวเกิดอาการเจ็บป่วยหนักกว่าเดิม อีกหนึ่งกลุ่มที่ไม่ควรได้รับวัคซีนก็คือแมวที่กำลังตั้งท้อง เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกแมวที่อยู่ในครรภ์ได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

รู้หรือไม่ ให้ อาหาร แมว ไม่ตรงเวลาส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิด 

สิ่งสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ก็คือการให้อาหาร การให้อาหารไม่เพียงแต่เราจะต้องเลือกสารอาหารที่เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะเป็นคุณภาพและโภชนาการเท่านั้น แต่เรายังต้องใส่ใจในเวลาให้อาหารอีกด้วย ระบบภายในร่างกายสัตว์นั้นความจริงแล้วก็มีความใกล้เคียงกับมนุษย์นั่นก็คือหากรับประทานอาหารตรงเวลาก็จะมีสุขภาพที่ดี หากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันก็ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นสำหรับทาสแมวทั้งหลายจึงควรให้ อาหาร แมว ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน เพราะหากคุณทำไม่ได้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าผลเสียของการให้อาหารไม่ตรงเวลาจะมีอะไรกันบ้าง 

รวมผลกระทบที่แมวจะได้รับหากคุณให้ อาหาร แมว ไม่ตรงเวลา 

อาหารแมว
  • ระบบภายในร่างกาย การให้อาหาร แมวไม่ตรงเวลานั้นจะทำให้ระบบภายในร่างกายของพวกเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากคุณลืมให้อาหารพวกเขาจะทำให้พวกเขามีระดับน้ำตาลต่ำ มีปัญหาเรื่องการดูดซึมอาหารและระบบย่อยอาหาร ส่งผลต่อสุขภาพแมวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากพวกเขามีอาการป่วยอยู่แล้วอาจจะส่งผลรุนแรงถึงชีวิตเลยก็เป็นได้
  • น้ำหนักตัว การให้อาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันจะก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญพลังงาน และหากผู้เลี้ยงพบว่าตัวเองให้อาหารช้าไปหรือลืมให้อาหารในบางมื้อกลัวพวกเขาหิวจึงให้อาหารเพิ่ม หรือไม่ก็มีการให้รับประทานขนมระหว่างมื้อมากจนเกินไป รวมไปถึงการให้อาหารดึกเกิน จะส่งผลให้พวกเขามีน้ำหนักตัวมากขึ้นกว่าเดิมและเสี่ยงที่จะเป็นโรคตามมาอีกมากมาย
อาหารแมว
  • ส่งผลเสียต่อพฤติกรรม สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะแมวหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นหากได้รับอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันจะเกิดปัญหาทางอารมณ์ พวกเขาจะมีอารมณ์แปรปรวนไม่ว่าจะเป็นวิตกกังวล เครียด หงุดหงิด เนื่องจากพวกเขารู้สึกหิว ไม่เพียงเท่านั้นอาจยังเกิดปัญหาจิตใจไม่มั่นคง มีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว อาจมีการท้าทายเจ้าของอีกด้วย 
  • ขาดความเชื่อมั่น สัตว์เลี้ยงจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเจ้าของเช่นเดียวกัน หากคุณให้อาหารไม่เป็นเวลาอยู่เป็นประจำพวกเขาจะขาดความเชื่อมั่นต่อตัวเจ้าของเอง พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงไม่ได้กินอาหาร พวกเขาจะรู้สึกกังวล สิ่งเหล่านี้จะส่งผลทำให้พวกเขาไม่เชื่อมั่นและเชื่อใจผู้เลี้ยงอย่างเราอีกต่อไป 

ให้อาหารแมวตรงต่อเวลาทุกวัน ช่วยให้แมวสุขภาพจิตและกายดี 

อาหารแมว

จากผลเสียทั้งหมดที่ว่ามาทำให้เราสามารถสรุปได้ว่าการให้อาหารแมวตรงต่อเวลาเป็นประจำทุกวันนั้นจะช่วยให้สุขภาพแมวดีขึ้นทั้งกายและใจ พวกเขาจะได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน ระบบภายในร่างกายทำงานได้ดี เป็นแมวที่มีอารมณ์ดี พฤติกรรมดี ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ให้อาหารไม่ตรงเวลาอยู่เป็นประจำ ขอแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนดู ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้แมวตัวใหม่ที่นิสัยไม่เหมือนเดิมก็เป็นได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

ทำหมันแมวตัวผู้ คืออะไร เพราะเหตุใดสัตวแพทย์จึงแนะนำ 

เมื่อรับสัตว์มาเลี้ยงแล้วสิ่งที่เราต้องทำก็คือการดูแลให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการดูแลทำความสะอาดหรือให้อาหารอย่างถูกต้องเท่านั้น แต่เรายังต้องใส่ใจถึงสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย แมวเป็นสัตว์ที่มักจะมีปัญหาเมื่อพวกเขาโตขึ้นมาจนถึงวัยผสมพันธุ์ โดยเฉพาะแมวตัวผู้ พวกเขามักจะฉี่ไปเรื่อยเพื่อสร้างกลิ่น มีพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้สัตวแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้คนเลี้ยงแมว ทำหมันแมวตัวผู้ หากไม่ต้องการให้แมวไปผสมพันธุ์กับแมวตัวเมีย เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าการทำหมันให้กับแมวนั่นคืออะไรและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ทำความรู้จักกับการ ทำหมันแมวตัวผู้ และเพราะเหตุใดเราจึงควรทำ 

ทำหมันแมวตัวผู้

การทำหมันแมวตัวผู้นั้นนับเป็นการดูแลสุขภาพแมวอีกวิธีหนึ่งหากคุณไม่ได้ต้องการให้แมวของคุณไปผสมพันธุ์กับแมวตัวเมีย โดยสัตวแพทย์จะนำเอาท่อน้ำเชื้อรวมไปถึงอัณฑะของพวกเขาออก ดังนั้นตามสภาพของคนเลี้ยงแมวแล้วการทำหมันจึงหมายถึงการตัดไข่สำหรับแมวตัวผู้นั้นเอง หลังจากนั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถผสมพันธุ์ให้แมวตัวเมียสามารถมีลูกออกมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสามารถผสมพันธุ์ได้อยู่ดีเพราะไม่ได้นำเอาอวัยวะเพศและถุงอัณฑะออกแต่อย่างใด ความจริงแล้วการคุมกำเนิดแมวนั้นมี 2 วิธีนั่นก็คือแบบชั่วคราวและแบบถาวร

ทำหมันแมวตัวผู้

ซึ่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาและพบว่าแบบชั่วคราวนั้นส่งผลกระทบที่อันตรายต่อสุขภาพของแมวจึงยกเลิกวิธีการดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากต้องการคุมกำเนิดแมวก็มีอยู่วิธีการเดียวก็คือการทำหมันนั่นเอง สาเหตุที่สัตวแพทย์มักจะแนะนำให้คนเลี้ยงแมวที่ไม่ต้องการลูกแมวเพิ่มทำหมันเมื่อมีอายุตั้งแต่ประมาณ 5-6 เดือนก็เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นการลดพฤติกรรมปัสสาวะไม่เป็นที่ซึ่งเป็นการแสดงอาณาเขต การหนีออกจากบ้านเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ พฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าวอย่างเช่นการทะเลาะกับแมวตัวอื่นภายในบ้านซึ่งอาจเกิดจากการแย่งคู่ผสมพันธุ์ อาจทำให้แมวติดเชื้อหรือได้รับบาดเจ็บได้ ช่วยลดพฤติกรรมส่งเสียงดังรบกวนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรงเกี่ยวกับฮอร์โมนและเพศอย่างเช่นมะเร็งอัณฑะได้อีกด้วย 

เปิดข้อดีข้อเสียในการทำหมันให้แมวที่คนเลี้ยงแมวควรพิจารณา 

ทำหมันแมวตัวผู้

การทำหมันแมวตัวผู้เป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลสุขภาพแมวที่ผู้เลี้ยงจะต้องพิจารณาให้ดี ประโยชน์ของการทำหมันนะมีมากมายไม่ว่าจะเป็นช่วยลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของแมวอย่างเช่นการปัสสาวะไม่เป็นที่ พฤติกรรมก้าวร้าว การหนีออกจากบ้าน นอกจากนี้ยังช่วยให้แมวมีสุขภาพดีในระยะยาว สามารถประหยัดเงินได้ในอนาคต และยังช่วยควบคุมประชากรแมวได้อีกด้วย สำหรับแมวตัวผู้นั้นการทำหมันไม่มีผลเสียร้ายแรงแต่อย่างใด ส่วนใหญ่ผลกระทบที่พบก็คือขนที่ถูกลงบริเวณแผลผ่าตัดจะมีสีที่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่านั้น นอกจากนี้พบว่าแมวบางตัวจะมีอัตราการเผาผลาญลดลงทำให้พวกเขาอาจน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

การ ทำหมันแมว มีขั้นตอนอย่างไร คลายความกังวลและความสงสัยของคนเลี้ยงแมว 

เมื่อคุณรับลูกแมวมาเลี้ยงสิ่งที่ต้องเตรียมไม่ใช่แค่สถานที่เลี้ยง การดูแลความสะอาด หรือแม้แต่อาหารการกินเท่านั้น การดูแลสุขภาพก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่ เมื่อลูกแมวอายุประมาณสัก 5-6 เดือนพวกเขาจะเริ่มมีอาการหง่าวหรือติดสัตว์ ซึ่งหากเป็นแมวตัวผู้พฤติกรรมของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น เริ่มฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง อยากหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าววิธีการที่ดีที่สุดก็คือการ ทำหมันแมว นั่นเอง แต่เชื่อว่าคนเลี้ยงแมวหลายคนคงรู้สึกสงสารและเป็นกังวลไม่น้อย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าการทำหมันให้แมวนั้นมีขั้นตอนอย่างไรและการดูแลหลังจากนั้นต้องทำอะไรบ้างกัน 

เปิดขั้นตอนการ ทำหมันแมว อย่างละเอียด 

ทำหมันแมว
  • ก่อนทำหมันแมวสัตวแพทย์จะมีการตรวจความพร้อมสุขภาพร่างกายของแมวว่าสุขภาพแมวดีพอที่จะเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่ อาจมีการตรวจเลือดเพื่อให้แน่ใจ ดังนั้นการทำหมันจึงอาจจะต้องพาแมวไปพบสัตวแพทย์อย่างน้อย 2-3 ครั้ง
  • หักผลทุกอย่างออกมาว่าแมวมีสุขภาพที่ดีสัตวแพทย์ก็จะตัดสินใจทำการผ่าตัดโดยเริ่มต้นจากการให้ยาสลบซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธีประกอบไปด้วยการฉีดหรือการดมยา 
ทำหมันแมว
  • ในกรณีที่อัณฑะของแมวอยู่ในถุงอัณฑะโดยปกติสัตวแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กบนถุงอัณฑะแล้วนำเอาก้อนอัณฑะทั้ง 2 ลูกออก แต่หากเป็นแมวที่ลูกอัณฑะไม่เคลื่อนลงมาอยู่ในจุดที่ถูกต้องหรือเลื่อนลงมาเพียงแค่ลูกเดียว สัตวแพทย์อาจจะต้องมีการเปิดแผลบริเวณหน้าท้องเพิ่มเติม 
  • สัตวแพทย์จะพิจารณาว่าแผลผ่าตัดมีขนาดใหญ่ไหมหากมีขนาดใหญ่อาจจะต้องใช้ไหมเย็บซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ดังนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วแผลผ่าตัดจึงมักจะมีขนาดเล็กและสัตวแพทย์จะใช้แผ่นปิดแผลธรรมดาทั่วไปปิดเอาไว้เท่านั้น หากมีการเย็บแผลจะมีการนัดตัดไหมภายในเวลา 2 สัปดาห์ 
  • หลังจากการผ่าตัดและการทำแผลเสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วสัตวแพทย์จะเปิดออกซิเจนเพื่อให้แมวฟื้นจากยาสลบในเวลาต่อมา 

ดูแลแมวหลังทําหมันแมวอย่างไรให้ปลอดภัยและสุขภาพดี

ทำหมันแมว

การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวอีกทางหนึ่งแต่ก็เป็นการผ่าตัดที่เราต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน หลังการผ่าตัดควรระมัดระวังไม่ให้แมวนั่งคอตกเนื่องจากอาจทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดได้ซึ่งเป็นผลมาจากฤทธิ์ของยาสลบ ไม่ควรรีบป้อนอาหารหรือน้ำทันทีหลังจากการผ่าตัดเนื่องจากแมวอาจจะยังไม่ฟื้นจากยาสลบอย่างเต็มที่และเป็นอันตรายได้ ควรสวมปลอกคอกันเลียอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ในระหว่างช่วงพักฟื้นให้ติดตามสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมหรือแม้แต่บริเวณแผลผ่าตัดก็ตาม ไม่ควรให้แมวทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายมากจนเกินไป ให้ยาแมวตามที่สัตวแพทย์แนะนำและไม่ควรหยุดยาเองโดยเด็ดขาด รักษาความสะอาดบริเวณที่เลี้ยงแมวเป็นพิเศษ ห้ามให้แพ้สัมผัสกับน้ำ และพาแมวไปพบสัตวแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวหูหนวก แมวพิการที่ต้องรับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ 

แมวนั้นมีร่างกายที่สามารถสมบูรณ์พร้อมหรือจะพิการก็ได้เช่นเดียวกันเพราะสุดท้ายแล้วถึงพวกเขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงแต่พวกเขาก็ยังคงเป็นสัตว์โลกที่เหมือนกับพวกเราทุกคน การดูแลเหล่าแมวธรรมดาก็ว่ายากแล้ว แต่การดูแลเหล่าแมวที่พิการนั้นยากกว่า ยิ่งเป็นอาการพิการที่สังเกตได้ยากอย่างเช่นอาการหูหนวกยิ่งต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าหากแมวที่คุณรับมาเลี้ยงเป็น แมวหูหนวก เราจะสามารถดูแลพวกเขาอย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้บ้าง 

รวมสาเหตุและวิธีการดูแลเมื่อพบว่า แมวหูหนวก 

แมวหูหนวก

แมวเป็นสัตว์ที่มีความพิการได้ไม่เว้นแม้กระทั่งการหูหนวก สาเหตุที่แมวหูหนวกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็นอายุมากขึ้นทำให้แก้วหูยืดหยุ่นน้อยลง ประสิทธิภาพในการรับเสียงจึงลดน้อยถอยลงไปด้วย แมวบางตัวอาจเกิดจากความบกพร่องทางพันธุกรรมทำให้พิการมาตั้งแต่กำเนิดก็มีเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วแมวที่หูหนวกมาตั้งแต่กำเนิดนั้นส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเม็ดสี พวกเขามักเป็นแมวที่มีขนสีขาวตลอดทั้งลำตัวแต่ไม่ใช่แมวเผือกแต่อย่างใด รวมไปถึงแมวที่มีตาสองสี ตาสีฟ้า และตาสีเขียว จะมีความเสี่ยงในการหูหนวกมากกว่าแมวธรรมดาทั่วไป

แมวหูหนวก

การดูแลแมวเหล่านี้มีหลายอย่างที่ต้องระมัดระวัง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเราต้องเลี้ยงพวกเขาในระบบปิดเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมรอบข้าง การปล่อยให้พวกเขาออกไปใช้ชีวิตข้างนอกไม่ต่างอะไรจากการปล่อยให้พวกเขาไปตาย เพราะพวกเขาไม่ได้ยินเสียงรถบนถนน ไม่ได้ยินเสียงแตร ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเรียกของมนุษย์ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เราอาจจะต้องฝึกให้พวกเขาใช้สายจูงให้ชิน โดยเฉพาะหากคุณต้องการจะพาแมวออกไปเดินเล่นนอกบ้าน บางตัวอาจมีสัมผัสพิเศษในการรับรู้แรงสั่นสะเทือนบนพื้นหากมีอะไรเข้ามาใกล้ แต่บางตัวก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน 

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแมวหูหนวก รวมสัญญาณที่แมวของคุณอาจพิการ 

แมวหูหนวก

อาการหูหนวกนั้นเป็นอาการพิการที่ค่อนข้างสังเกตได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นแมวหูหนวก เพราะแมวปกติทั่วไปต่อให้เราเรียกพวกเขาก็ไม่หันมาอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสัญญาณที่ทำให้เราสามารถสังเกตเห็นได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นอาการสะดุ้งหรือตื่นตกใจได้ง่าย เรียกไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินเสียงดัง หากต้องการพิสูจน์อาจใช้วิธีการเขย่ากุญแจหรือปรบมือ หากพวกเขาไม่มีปฏิกิริยาก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาอาจจะพิการ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถสังเกตจากเสียงร้องได้อีกด้วย พวกเขาจะร้องเสียงดังเป็นพิเศษเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ยินเสียงของตนเอง หากพบว่าแมวของเรามีอาการพิการสิ่งสำคัญก็คือเราต้องดูแลแมวให้ดีและเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพียงเท่านี้พวกเขาก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้แล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ: