Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

อาหารต้องห้าม แมวจะขอแค่ไหนเจ้าของห้ามให้กินโดยเด็ดขาด

      มีหลายคนที่เลี้ยงแมวเหมือนกับลูก ทำให้เวลาที่พวกมันมาทำหน้าตาน่าสงสาร อ้อนใส่เราเวลาที่เรารับประทานอาหารอยู่ หลายคนก็มักจะใจอ่อนและหยิบยื่นอาหารคนให้กับพวกมัน ความจริงแล้วอาหารคนที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาตินั้นไม่ควรให้แมวรับประทานอยู่แล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลต่อสุขภาพและอาจจะทำให้แมวกลายเป็นโรคไตได้ ไม่เพียงเท่านั้นหากคุณไม่ทราบว่าอาหารที่คุณกำลังจะหยิบยื่นให้แมวเป็น อาหารต้องห้าม ที่แมวไม่สามารถรับประทานได้ ยิ่งจะส่งผลร้ายมากยิ่งขึ้นไปอีก วันนี้เราจึงจะมาแนะนำว่าอาหารไหนที่แมวไม่สามารถรับประทานได้ให้คนเลี้ยงทุกคนได้ระมัดระวังกัน 

รวมอาหารที่แมวกินไม่สามารถกินได้ ห้ามให้แมวกินเด็ดขาด

  1. หัวหอมและกระเทียม เป็น อาหารต้องห้าม ที่ แมวกินไม่ได้ โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแบบสุกแล้วหรือแบบดิบอยู่เพราะมันจะเป็นอันตรายสำหรับแมวต่อสุขภาพโดยตรง เข้าไปทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงบวมและแตกออกมา ก่อให้เกิดภาวะโลหิตจาง และยังก่อปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารของแมวอีกด้วย
  2. ยาพาราเซตามอล หลายคนเข้าใจว่าหากแมวไม่สบายก็สามารถรับประทานยาเหมือนกับเราได้แต่ความจริงแล้วไม่เหมือนกัน แม้ว่ายาบางอย่างของคนนั้นจะสามารถให้แมวรับประทานได้แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรให้ยาแมวโดยที่ไม่มีความรู้ อย่างเช่นยาพาราเซตามอลซึ่งเป็นยาสามัญของมนุษย์นั้นเป็นอันตรายกับแมวเป็นอย่างมาก หากแมวป่วยควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อจัดยาสำหรับแมวโดยเฉพาะจะปลอดภัยมากที่สุด
  3. ช็อคโกแลต เช่นเดียวกับสุนัข แมวไม่สามารถรับประทานช็อกโกแลตได้แม้ว่ามันจะเป็นของโปรดที่เราชื่นชอบก็ตาม หากคุณรู้สึกสงสารที่เจ้าแมวไม่สามารถรับประทานช็อกโกแลตได้ขอให้คิดเอาไว้ว่าแมวไม่สามารถรับรสหวานได้ รับประทานไปมันก็ไม่อร่อยอยู่ดี
  4. ก้างปลาและกระดูก แม้ว่าแมวบางตัวอาจจะเคยรับประทานสิ่งของเหล่านี้มาแล้วแต่เราก็ยังไม่แนะนำให้รับประทานอยู่ดีเพราะมันอาจจะมีเศษไปติดคอ ทิ่มหลอดอาหารหรือหลอดลมจนทำให้เกิดแผลบริเวณทางเดินอาหารได้ หากอาการรุนแรงมากอาจจะต้องผ่าตัดเพื่อทำการรักษากันเลยทีเดียว 

นมวัว กับดักที่หลายคนถือให้ลูกแมวรับประทาน 

      หลายคนที่รับลูกแมวมาเลี้ยงโดยที่ไม่ทันได้ศึกษาหาความรู้มาก่อน รู้เพียงแค่ว่าต้องเอานมให้พวกมันรับประทานเลยนำเอานมวัวให้พวกมัน แต่ความจริงแล้วนมวัวนั้นถือเป็นอีกหนึ่ง อาหารต้องห้าม ที่ แมวกินไม่ได้  เพราะแมวนั้นไม่มีเอนไซม์สำหรับการย่อยน้ำตาลแลคโตสเช่นเดียวกับมนุษย์ที่แพ้นมวัว เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วอาจเกิดอาการอาเจียนหรือท้องเสีย หากอาการหนักอาจจะส่งผลต่อชีวิตได้ หากรับลูกแมวที่ยังไม่หย่านมมาเลี้ยงเราขอแนะนำให้ใช้นมแพะหรือนมสำหรับแมวโดยเฉพาะจะดีกว่า 

 

 

 

สล็อตผ่านวอเลท ไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

อุ้งเท้าแมว อวัยวะที่กุมความลับเจ้าเหมียวของเรา

หนึ่งในอวัยวะของเจ้าเหมียวที่ผู้คนชื่นชอบเป็นอย่างมากเห็นทีก็คงจะหนีไม่พ้นอุ้งเท้าของพวกมัน โดยเฉพาะคนไทยที่ชื่นชอบอุ้งเท้าของแมวเป็นอย่างมากจนมีชื่อเรียกเฉพาะในประเทศของเราว่าเท้ามังคุดกันเลยทีเดียว แต่นอกจากอุ้งเท้าของแมวจะน่ารักน่าชัง ช่วยให้พวกมันสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วและกระโดดได้สูงแล้ว อวัยวะนี้ยังกุมความลับอีกมากมายของเจ้าเหมียวที่เราเลี้ยงไว้โดยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปไขความลับของ อุ้งเท้าแมว กันว่าแท้จริงแล้วมันสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

ไขความลับซึ่งเท้าของแมวที่คนเลี้ยงอาจไม่เคยรู้ 

  1. อุ้งเท้าแมว สามารถใช้เพื่อรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ เคยได้ยินหรือไม่ว่าก่อนจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวแมวมักจะมีพฤติกรรมงุ่นง่านและวิตกกังวลเป็นพิเศษ นี่เป็นอีกหนึ่ง ประโยชน์ของอุ้งเท้า ซึ่งเป็นความลับของเจ้าเหมียวเรา รองเท้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนนุ่มนั้นเต็มไปด้วยเส้นประสาทมากมายที่มีความไวมากกว่ามนุษย์หลายเท่า ทำให้พวกมันสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ทดสอบอุณหภูมิบนพื้นได้ เป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกมันสามารถล่าเหยื่อได้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะเหยื่อที่อยู่ใต้ดิน
  2. แมวเดินด้วยปลายเท้า แม้ว่าอุ้งเท้าของเจ้าเหมียวนั้นจะมีขนาดใหญ่และนุ่มนิ่มแต่ความจริงแล้วพวกมันเดินโดยใช้เพียงแค่ปลายเท้าเท่านั้น การเดินเพียงแค่ปลายเท้าจะช่วยให้การเดินของพวกมันมีความเงียบมากกว่าสัตว์ประเภทอื่น ไม่เพียงแต่เดินเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการยืนและกระโดดก็มักจะใช้ปลายเท้าอยู่เสมอ 
  3. ช่วยซับแรงกระแทก แมวนั้นเป็นสัตว์ที่ชอบขึ้นที่สูงอยู่เป็นประจำทำให้เวลาที่มันกระโดดลงมาจะต้องรับแรงกระแทกสูง แมวอุ้งเท้าของพวกมันจะนุ่มนิ่มและบอบบางแต่ความจริงแล้วสามารถรองรับแรงกระแทกจากการกระโดดลงจากที่สูงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
  4. ระบายความร้อน ใต้อุ้งเท้าของแมวนั้นมีต่อมเหงื่อที่ช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากใครที่เลี้ยงแมวจึงควรตรวจสอบว่าที่อุ้งเท้าของแมวมีขนยาวหรือไม่ เพราะหากขนยาวจนทำให้อุ้งเท้าไม่เป็นอิสระก็อาจจะทำให้พวกมันรู้สึกร้อนมากขึ้นได้

รู้หรือไม่ แท้จริงแล้วแมวมีข้างที่ถนัดด้วย

มนุษย์เรานั้นต่างก็มีมือข้างที่ถนัดอย่างเช่นมนุษย์ส่วนใหญ่ถนัดมือด้านขวา แต่ความจริงแล้วแมวแต่ละตัวเองก็มีข้างที่ถนัดเช่นเดียวกัน เราจะสังเกตเห็นได้ว่าพวกมันมักจะใช้ อุ้งเท้าแมว ข้างใดข้างหนึ่งอยู่เป็นประจำสำหรับการทำกิจกรรมเสมอ หากมันใช้ข้างที่ถนัดก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมได้มากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการใช้ ประโยชน์ของอุ้งเท้า ได้อย่างเต็มที่ หากเราอยากรู้ว่าแมวเหมียวของเราถนัดข้างไหนก็ลองสังเกตดูว่าพวกมันก้าวเท้าข้างไหนเข้าไปในกระบะทรายเป็นข้างแรก ข้างนั้นคือข้างที่ถนัดของมัน 

 

 

 

บาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวตาสองสี เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร

      แมวปกติทั่วไปนั้นมักจะมีสีตาอยู่เพียงแค่ไม่กี่สีเท่านั้นอย่างเช่นสีเหลือง สีเขียว หรือสีฟ้า แต่สำหรับแมวที่มีตาสองสีนั้นจะมีสีข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง และอีกข้างหนึ่งเป็นสีฟ้า บางตัวอาจมีตาสองสีในดวงเดียวก็ได้เช่นเดียวกันซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ตาสองสีนั้นเป็นสิ่งที่หายากทำให้หากแมวตัวไหนมีตาสองสีก็จะมีราคาที่พุ่งสูงยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยเสน่ห์และความสวยงามแต่เชื่อว่าหลายคนนั้นจะต้องสงสัยอย่างแน่นอนว่า แมวตาสองสี นั้นเกิดขึ้นจากอะไร วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแมวที่มีตาสองสีกันมากยิ่งขึ้น 

สาเหตุอะไรที่ทำให้แมวมีตาสองสี 

      การที่แมวมีตาสองสีนั้นแม้ว่าจะดูมีเสน่ห์และสวยงามแต่ความจริงแล้วพวกมันกำลังป่วยอยู่ อาการดังกล่าวเป็นอาการของโรค HETEROCHROMIA เป็นความผิดปกติของยีนที่ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินที่อยู่ในตาของเจ้าแมวเราด้านซ้ายและด้านขวาไม่เท่ากัน ทำให้ตาด้านหนึ่งเป็นสีเหลืองและตาด้านหนึ่งเป็นสีฟ้า แต่ช่วงที่แมวกำลังเกิดใหม่นั้นจะมีดวงตาสีฟ้าเหมือนกันทุกตัวทำให้เราจะไม่ทราบว่าตัวไหนมีตาสองสี ดังนั้นเราจึงต้องรอจนกระทั่งพวกมันเติบโตขึ้นมาจนมีอายุประมาณ 7 ถึง 12 สัปดาห์ เราก็จะเริ่มเห็นเม็ดสีตาของแมวได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าข้างหนึ่งจะเป็นสีเหลืองส่วนอีกข้างหนึ่งยังคงเป็นสีฟ้าเหมือนเดิม ด้วยความที่ตาสองสีนี้เกิดมาจากการที่เม็ดสีเมลานินไม่เท่ากันทำให้เกิดภาวะที่ไม่สมบูรณ์ขึ้นได้ทำให้ดวงตาข้างเดียวมีถึง 2 สี โดยจะแบ่ง 2 ฝั่งเป็นสีฟ้าและสีเหลืองเห็นได้ชัด สายพันธุ์ แมวตาสองสี แบบสมบูรณ์นั้นจะพบได้มากในสายพันธุ์เทอคิช แวน เทอร์คิช แองโกรา และเจแปนนิส บ็อบเทล หากสังเกตดูให้ดีเราจะพบว่าแมวส่วนใหญ่ที่มี ภาวะตาสองสี นั้นมักจะเป็นแมวสีขาว มีน้อยครั้งที่เราจะเห็นแมวสีอื่นมีภาวะดังกล่าวซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับยีนส์สีขาวของพวกมัน 

จริงหรือไม่ที่แมวมีตาสองสีมักหูหนวก

      แมวตาสองสีนั้ นเป็นแมวที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากจนถึงขั้นที่มีการค้นหาว่าสายพันธุ์แมวที่มีตาสองสีมีสายพันธุ์อะไรบ้างเพื่อที่จะได้เลือกมาเลี้ยงได้อย่างถูกต้อง แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่าการที่พวกมันมี ภาวะตาสองสี นั้นเกิดจากความผิดปกติของยีนส์ เป็นอาการป่วยที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามเพราะหลายครั้งแรกมากับอาการหูหนวกของพวกมัน แมวส่วนใหญ่ที่มีตาสีฟ้าข้างเดียวนั้นมักจะหูหนวกเป็นจำนวนถึง 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ส่วนแมวสีขาวที่มีตาสีฟ้าจะมีโอกาสหูหนวกมากกว่าแมวสีอื่นหรือแมวสีขาวที่มีดวงตาสีอื่น

 

 

 

บา คา ร่า วอ เลท

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวจำชื่อตัวเอง ได้ไหม คำถามที่ทาสหลายคนอยากได้คำตอบ

      เชื่อว่าคนเลี้ยงแมวทุกคนต้องเคยประสบปัญหาอย่างแน่นอนกับการเรียกหาแมวแล้วแมวไม่หัน เราเห็นแล้วว่ามันกระดิกหูแต่มันก็ยังทำเหมือนกับไม่ได้ยิน จนบางครั้งเราก็สงสัยว่าหรือพวกมันจะจำชื่อตัวเองไม่ได้กันแน่ ปัญหาที่ว่า แมวจำชื่อตัวเอง ได้หรือไม่จึงกลายมาเป็นคำถามที่ทำให้ผู้เลี้ยงแมวหลายคนต้องการคำตอบให้หายสงสัยเสียทีว่าสุดท้ายแล้วที่เรียกไม่หันหรือเรียกไม่มาเป็นเพราะว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้หรือหยิ่งกันแน่ ด้วยเหตุนี้วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปไขความลับกันว่าสรุปแล้วแมวสามารถจดจำชื่อของตัวเองได้หรือไม่ 

เปิดบททดสอบที่จะพิสูจน์ว่าแมวสามารถจำชื่อตัวเองได้หรือไม่ 

      ปัญหาที่ว่า แมวจำชื่อตัวเอง ได้หรือไม่นั้นกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติของคนเลี้ยงแมว เพราะไม่ว่าจะ เรียกแมว แค่ไหนแมวก็ไม่มาหาเรา บางตัวไม่แม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุนี้ดร.ฮัตสึโกะ ไซตะ นักวิจัยสังกัดคณะจิตวิทยาในมหาวิทยาลัยโซเฟีย จึงได้มีการจัดการทดสอบขึ้นมา พวกเขาได้คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นแมวจากทั้งในครัวเรือนรวมไปถึงจากคาเฟ่แมวมาเป็นจำนวนกว่า 78 ตัวเพื่อทำการทดสอบว่าพวกมันสามารถจำชื่อตัวเองได้หรือไม่ โดยวิธีการทดลองของพวกเขาก็คือจะให้มนุษย์คนหนึ่งอ่านคำเป็นจำนวนหนึ่งให้เหล่าแมวฟัง โดยคำเหล่านั้นจะเป็นคำที่มีการออกเสียงคล้ายคลึงกันแล้วพูดชื่อของพวกมันต่อ อย่างเช่นเจ้าแมวที่ชื่อว่าบราวนี่ก็จะได้รับชุดคำว่าโทนี่ ทอฟฟี่ มินนี่ การทดสอบดังกล่าวเพราะว่าเจ้าแมวที่ชื่อบราวนี่นั้นตอบสนองเพียงแค่คำที่เป็นชื่อของมันเองเท่านั้นนั่นก็คือคำว่าบราวนี่ เวลาที่มันได้ยินคำว่าบราวนี่มันจะตอบสนองเล็กๆ ด้วยกันเริ่มกระดิกหูและสายหาง แม้ว่ามันจะไม่หันมามองหรือเข้าหาก็ตามแต่ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกมันสามารถแยกแยะคำที่คล้ายคลึงกับชื่อของพวกมันได้ แถมพวกมันยังสามารถจำชื่อของตัวเองได้อีกด้วย สำหรับแมวบางตัวนั้นถึงขั้นที่เดินเข้ามาหาคนเรียกในการทดสอบครั้งนี้เลยทีเดียว 

แมวสามารถจำชื่อตัวเองได้หรือแค่จำได้เพราะลักษณะการพูด 

      แม้ว่าการทดสอบในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะแสดงให้เห็นได้ชัดว่าแมวมีปฏิกิริยาต่อชื่อของตัวเองอย่างชัดเจนจนทำให้เราสามารถสรุปได้ว่า แมวจำชื่อตัวเอง ได้ แต่ทุกคนก็คงจะยังสงสัยอยู่ว่าแล้วทำไม เรียกแมว แล้วถึงไม่มาหา มันก็เป็นเพราะความจริงแล้วแมวไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อคืออะไร พวกมันไม่รู้ด้วยว่านั่นคือชื่อของพวกมัน นั่นก็เป็นเพราะว่าวิธีการสื่อสารของมนุษย์และแมววแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พวกมันจำได้เพียงแค่โทนเสียงและน้ำเสียงเท่านั้น เวลาที่เราเรียกชื่อมันมันจึงเดินมาหาเนื่องจากจำได้ว่าจะได้เล่นหรือได้กินอาหารนั่นเอง 

 

 

 

 

สล็อตวอเลทไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สายพันธ์แมว สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

วิเชียรมาศ SIAMESE CAT แมวไทยที่มีชื่อเสียงไกลระดับโลก

      คนไทยส่วนใหญ่เวลาอยากจะเลี้ยงแมวสุดน่ารักก็มักจะนึกถึงแมวสายพันธุ์ต่างประเทศเนื่องจากพวกมันเต็มไปด้วยขนที่ฟูฟ่อง ด้วยเหตุนี้ทำให้แมวสายพันธุ์ในประเทศไทยกลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่ความจริงและมีแมวสายพันธุ์ไทยสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงไกลระดับโลกถึงขั้นเคยไปโผล่ในภาพยนตร์หรืออนิเมชั่นหลายต่อหลายเรื่องจากฮอลลีวูดมาแล้ว นั่นก็คือแมว วิเชียรมาศ นั่นเอง พวกมันเป็นแมวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นแมวพื้นบ้านไทยที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนลองหันมาเลี้ยงกันมากยิ่งขึ้นเพื่ออนุรักษ์เอาไว้ 

ลักษณะนิสัยของแมวสายพันธ์ SIAMESE CAT

      SIAMESE CAT เป็นชื่อเรียกที่รู้จักกันทั่วโลกของแมว วิเชียรมาศ เป็น แมวไทย ที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยรูปร่างผอมเพรียว สีขนของพวกมันจะเป็นสีครีมอ่อน มีแต้มสีน้ำตาลเข้มทั้งหมด 9 จุดด้วยการประกอบไปด้วยปลายเท้าทั้ง 4 ข้าง ปลายหูทั้งสองข้าง ปลายหาง อวัยวะเพศ และบนหน้าบริเวณจมูก ตอนที่เกิดมาใหม่ๆ แต้มสีน้ำตาลเหล่านี้จะยังไม่ชัดแถมยังมีขนาดไม่ใหญ่ แต่พอโตขึ้นแต้มสีน้ำตาลก็จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความโดดเด่นอีกหนึ่งอย่างของแมวสายพันธุ์นี้ก็คือจะมีดวงตาสีฟ้าสวยสดใส ว่าพวกมันจะไปผสมกับแมวสายพันธุ์ไหนสีที่ออกมาก็จะแต้มตามลักษณะแมวสายพันธุ์ของพวกมันทั้งหมด เพียงแต่อาจจะมีความสง่างามไม่เท่าเท่านั้น ยิ่งพวกมันแก่ขึ้นมากเท่าไหร่สีแต้มน้ำตาลของพวกมันก็จะยิ่งเข้มมากยิ่งขึ้นเท่านั้น นิสัยของแมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่แล้วก็เหมือนกับแมวสายพันธุ์ไทยธรรมดาทั่วไปคือมีความคล่องแคล่วว่องไว มีความฉลาดหลักแหลม มีพลังงานสูง ชอบออกกำลังกาย ดังนั้นเราจึงขอแนะนำว่าคนที่เลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ควรจะมีพื้นที่ให้พวกมันได้ปลดปล่อยพลังงานเพราะพวกมันค่อนข้างซนและชอบวิ่งเล่น เป็นแมวที่ร้องเสียงดัง แต่ก็ชอบขี้อ้อนและชอบเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ แต่พวกมันกลับเข้ากับแมวหรือคนอื่นที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนได้ยากเนื่องจากมีนิสัยสันโดษ 

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนนำแมวสายพันธุ์ SIAMESE CAT มาดูแล

      แมว วิเชียรมาศ นั้นเป็น แมวไทย ที่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแมวสายพันธุ์ไทยด้วยกัน โดยราคาเริ่มต้นในประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ถึง 7,000 บาท แต่หากเป็นการซื้อขายในต่างประเทศนั้นราคาจะอยู่ที่ประมาณ 14,000 บาทถึง 35,000 บาทเลยทีเดียว วิธีการดูแลก็เหมือนกับแมวทั่วไปแต่ถ้าคุณเลี้ยงแมวด้วยการให้อาหารสดขอแนะนำให้ใช้ปลาน้ำจืดแบบไม่ปรุงรสหรือใช้เป็นอาหารสำเร็จรูปไปเลยจะดีที่สุด

 

 

 

เว็บสล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
สายพันธ์แมว สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

รัสเซียนบลู แมวจากประเทศรัสเซียที่เป็นมิตรกับคนเป็นภูมิแพ้

รัสเซียนบลู แมวจากประเทศรัสเซียที่เป็นมิตรกับคนเป็นภูมิแพ้ 

     เชื่อว่ามีคนที่ชื่นชอบแมวหลายคนประสบปัญหาไม่สามารถเลี้ยงแมวได้เนื่องจากตนเองนั้นป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ จะซื้อแมวสฟิงซ์มาเลี้ยงก็ไม่ใช่แมวในฝันเสียทีเดียวเพราะชื่นชอบความนุ่มนิ่มของขนพวกมัน ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะพาทุกคนมารู้จักกับแมว รัสเซียนบลู  แมวจากประเทศรัสเซียที่เป็นมิตรต่อคนเป็นภูมิแพ้ ด้วยความที่ขนของพวกมันมีความเล็กละเอียดเป็นพิเศษทำให้มันไม่ค่อยก่อภูมิแพ้ให้กับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เท่าไหร่นัก แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นแมวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแมวสายพันธุ์นี้กันมากยิ่งขึ้น 

ลักษณะและนิสัยของแมวสายพันธุ์ RUSSIAN BLUE

     RUSSIAN BLUE เป็นแมวที่มีขนาดกลางหรือบางตัวก็มีขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับคนเลี้ยงที่มีพื้นที่ให้กับเจ้าแมวเหล่านี้ ตอนแรกเกิดนั้นดวงตาของพวกมันจะเป็นสีเหลืองอร่าม แต่หลังจากที่ระยะเวลาผ่านไปประมาณ 4 เดือนก็จะมีสีเขียวขึ้นตรงขอบรูม่านตาที่ช่วยให้ดวงตาของพวกมันมีความสวยสดใสมากยิ่งขึ้น แมว รัสเซียนบลู นั้นเป็นแมวหัวแหลมที่มีลักษณะคล้ายกับงู สีขนจะมีสีเดียวเท่านั้นคือสีเทาเงินเหลือบฟ้า เนื่องจากเป็น แมวจากรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ค่อนข้างหนาวทำให้ขนของพวกมันแม้จะสั้นแต่ก็หนา มีความนุ่มลื่นเหมือนกับผ้าไหม แวววาวสะท้อนแสงทำให้ดูสวยงามเป็นอย่างมาก เป็นแมวที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อทำให้พวกมันมีความแข็งแรงทนทาน เป็นแนวเชื่อมที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่น รักความสงบและไม่ชอบเสียงดัง ขี้เล่น มีความฉลาดหลักแหลม สามารถฝึกได้ด้วยคำสั่งพื้นฐานอย่างเช่นการนั่ง การยืน หรือการวิ่งไปเก็บของ สามารถปล่อยให้อยู่ตัวเดียวได้โดยที่ไม่มีปัญหา แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากอยู่คนเดียวนานเกินไปเวลาเรากลับมาถึงบ้านก็จะสัมผัสได้ทันทีว่าพวกมันกำลังรอคอยเราอยู่ พวกมันเป็นแมวที่ขี้อายทำให้ไม่ชอบอยู่ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นชินหรืออยู่กับคนแปลกหน้า ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจึงไม่ควรย้ายบ้านเป็นประจำหรือเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตบ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้พวกมันเครียดได้

วิธีการดูแลและราคาของแมวสายพันธุ์ RUSSIAN BLUE

     แมว รัสเซียนบลู นั้นเป็นแมวที่ดูแลง่าย เนื่องจากพวกมันขนสั้นทำให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องแปรงขนพวกมันตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามควรหมั่นแปรงฟันอยู่เสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง สิ่งที่ต้องระวังสำหรับ แมวจากรัสเซีย สายพันธุ์นี้คือน้ำหนัก เนื่องจากพวกมันเป็นแมวที่กินเก่งมากทำให้อาจมีภาวะน้ำหนักเกินได้ เวลาให้อาหารจึงควรตวงให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และที่สำคัญคือไม่ควรให้รับประทานอาหารสำหรับคน พวกมันเป็นแมวหายากแถมยังต้องนำเข้าทำให้ราคาของพวกมันสูงถึง 105,000 บาทถึง 140,000 บาทเลยทีเดียว 

 

 

 

เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา