Categories
สุขภาพ

รู้หรือไม่ ให้ อาหาร แมว ไม่ตรงเวลาส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิด 

สิ่งสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ก็คือการให้อาหาร การให้อาหารไม่เพียงแต่เราจะต้องเลือกสารอาหารที่เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะเป็นคุณภาพและโภชนาการเท่านั้น แต่เรายังต้องใส่ใจในเวลาให้อาหารอีกด้วย ระบบภายในร่างกายสัตว์นั้นความจริงแล้วก็มีความใกล้เคียงกับมนุษย์นั่นก็คือหากรับประทานอาหารตรงเวลาก็จะมีสุขภาพที่ดี หากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันก็ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นสำหรับทาสแมวทั้งหลายจึงควรให้ อาหาร แมว ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน เพราะหากคุณทำไม่ได้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าผลเสียของการให้อาหารไม่ตรงเวลาจะมีอะไรกันบ้าง 

รวมผลกระทบที่แมวจะได้รับหากคุณให้ อาหาร แมว ไม่ตรงเวลา 

อาหารแมว
  • ระบบภายในร่างกาย การให้อาหาร แมวไม่ตรงเวลานั้นจะทำให้ระบบภายในร่างกายของพวกเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากคุณลืมให้อาหารพวกเขาจะทำให้พวกเขามีระดับน้ำตาลต่ำ มีปัญหาเรื่องการดูดซึมอาหารและระบบย่อยอาหาร ส่งผลต่อสุขภาพแมวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากพวกเขามีอาการป่วยอยู่แล้วอาจจะส่งผลรุนแรงถึงชีวิตเลยก็เป็นได้
  • น้ำหนักตัว การให้อาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันจะก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญพลังงาน และหากผู้เลี้ยงพบว่าตัวเองให้อาหารช้าไปหรือลืมให้อาหารในบางมื้อกลัวพวกเขาหิวจึงให้อาหารเพิ่ม หรือไม่ก็มีการให้รับประทานขนมระหว่างมื้อมากจนเกินไป รวมไปถึงการให้อาหารดึกเกิน จะส่งผลให้พวกเขามีน้ำหนักตัวมากขึ้นกว่าเดิมและเสี่ยงที่จะเป็นโรคตามมาอีกมากมาย
อาหารแมว
  • ส่งผลเสียต่อพฤติกรรม สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะแมวหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นหากได้รับอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันจะเกิดปัญหาทางอารมณ์ พวกเขาจะมีอารมณ์แปรปรวนไม่ว่าจะเป็นวิตกกังวล เครียด หงุดหงิด เนื่องจากพวกเขารู้สึกหิว ไม่เพียงเท่านั้นอาจยังเกิดปัญหาจิตใจไม่มั่นคง มีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว อาจมีการท้าทายเจ้าของอีกด้วย 
  • ขาดความเชื่อมั่น สัตว์เลี้ยงจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเจ้าของเช่นเดียวกัน หากคุณให้อาหารไม่เป็นเวลาอยู่เป็นประจำพวกเขาจะขาดความเชื่อมั่นต่อตัวเจ้าของเอง พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงไม่ได้กินอาหาร พวกเขาจะรู้สึกกังวล สิ่งเหล่านี้จะส่งผลทำให้พวกเขาไม่เชื่อมั่นและเชื่อใจผู้เลี้ยงอย่างเราอีกต่อไป 

ให้อาหารแมวตรงต่อเวลาทุกวัน ช่วยให้แมวสุขภาพจิตและกายดี 

อาหารแมว

จากผลเสียทั้งหมดที่ว่ามาทำให้เราสามารถสรุปได้ว่าการให้อาหารแมวตรงต่อเวลาเป็นประจำทุกวันนั้นจะช่วยให้สุขภาพแมวดีขึ้นทั้งกายและใจ พวกเขาจะได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน ระบบภายในร่างกายทำงานได้ดี เป็นแมวที่มีอารมณ์ดี พฤติกรรมดี ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ให้อาหารไม่ตรงเวลาอยู่เป็นประจำ ขอแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนดู ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้แมวตัวใหม่ที่นิสัยไม่เหมือนเดิมก็เป็นได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ตอบคําถาม จำเป็นต้องให้ แมวใส่เสื้อ ในช่วงอากาศหนาวหรือไม่ 

ฤดูหนาวเพิ่งผ่านพ้นไปหลายคนก็เริ่มที่จะถอดเสื้อให้กับเจ้าแมวของตัวเองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งคิดไม่ตกอยู่ดีเพราะในตอนกลางคืนในช่วงที่มีอากาศร้อนเราก็เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำไม่ต่างอะไรกับช่วงฤดูหนาวอยู่ดี แม้ว่าเจ้าแมวของเราจะมีขนสั้นหรือขนยาวเราก็มักจะกังวลว่าพวกมันจะรู้สึกหนาวเกินไปหรือไม่ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาหาคำตอบกันว่าสุดท้ายแล้วเราจำเป็นต้องให้ แมวใส่เสื้อ ในช่วงอากาศหนาวหรือไม่ให้ทุกคนได้ดูกัน 

แมวใส่เสื้อ อันตรายที่แมวอาจได้รับจากอากาศหนาว

แมวใส่เสื้อ

แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่มีขนปกคลุมทั่วร่างกายแต่ในความเป็นจริงแล้วมันสามารถทนความหนาวเย็นได้น้อยกว่ามนุษย์เราเสียอีก โดยเฉพาะแมวที่ไม่มีขนหรือแมวที่มีขนสั้น ยกเว้นเสียแต่ว่าพวกมันจะเป็นแมวที่มีสายพันธุ์จากต่างประเทศอย่างเช่นเปอร์เซียหรือแมนคูนที่มีขนยาวและตัวใหญ่ทำให้สามารถทนต่ออุณหภูมิที่หนาวเย็นได้เป็นอย่างดี

แมวใส่เสื้อ

ดังนั้นคำตอบก็คือหากคุณเลี้ยงแมวขนสั้น แมวไร้ขน หรือแมวที่ไม่ได้มาจากประเทศเขตหนาวในช่วงที่มีอากาศหนาวควรให้แมวใส่เสื้อเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับพวกมันได้มากขึ้น และอย่าลืม ดูแลแมว ทำความสะอาดเปลี่ยนเสื้ออยู่เป็นประจำเพื่อลดการเกิดปัญหาทางสุขภาพ เพราะหากคุณไม่สวมเสื้อให้พวกมันเพื่อเพิ่มความอบอุ่นก็จะเกิดปัญหาตามมามากมายไม่ว่าจะเป็นภาวะตัวเย็นเกิน เป็นภาวะที่อุณหภูมิในร่างกายของแมวจะลดลงอย่างรวดเร็วจนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส ทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้แย่ลง หากพบว่ามีภาวะดังกล่าวควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์ในทันทีเนื่องจากหากรักษาไม่ทันอาจทำให้ระบบหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้ 

วิธีการเลือกเสื้อผ้าให้แมวอย่างไรให้เหมาะสมกับแมวแต่ละสายพันธุ์ 

แมวใส่เสื้อ

วิธีการเลือกเสื้อผ้าให้แมวแตกต่างกันออกไปโดยเราต้องพิจารณาก่อนว่าแมวของเราเป็นอย่างไร พวกมันมีขนสั้น ขนยาว หรือไม่มีขนเลย เป็นแมวที่มาจากสภาพอากาศแบบไหน หากเป็นแมวที่มีขนยาวตัวใหญ่ มาจากประเทศเขตหนาวอย่างเช่นแมวเปอร์เซียหรือแมวเมนคูน หากเปิดแอร์ประมาณ 25 องศาก็สามารถให้แมวใส่เสื้อ เป็นผ้าฝ้ายที่ไม่หนาจนเกินไปได้ หากคุณเลี้ยงแมวไม่มีขนเลยแบบสปริงอาจจะต้องเลือกผ้าที่มีความหนาและนุ่มขึ้นมาอย่างเช่นเสื้อไหมพรม ก็จะช่วยดูแลให้แมวไม่เกิดภาวะตัวเย็นได้เป็นอย่างดี แนะนำจากเราจะสวมเสื้อผ้าให้แมวในช่วงเวลาที่อากาศหนาวแล้วเรายังต้อง ดูแลแมว เรื่องอาการเจ็บป่วยด้วยเนื่องจากในช่วงฤดูหนาวจะทำให้แมวป่วยง่าย หากเราสังเกตว่าแมวมีน้ำมูก มีอาการจาม เป็นไข้ หรือเบื่ออาหารให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อที่จะได้รักษาให้ทันเวลา และที่สำคัญคือไม่ควรป้อนยาลดไข้สำหรับคนให้แมวโดยเด็ดขาด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

ทำหมันแมวตัวผู้ คืออะไร เพราะเหตุใดสัตวแพทย์จึงแนะนำ 

เมื่อรับสัตว์มาเลี้ยงแล้วสิ่งที่เราต้องทำก็คือการดูแลให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการดูแลทำความสะอาดหรือให้อาหารอย่างถูกต้องเท่านั้น แต่เรายังต้องใส่ใจถึงสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย แมวเป็นสัตว์ที่มักจะมีปัญหาเมื่อพวกเขาโตขึ้นมาจนถึงวัยผสมพันธุ์ โดยเฉพาะแมวตัวผู้ พวกเขามักจะฉี่ไปเรื่อยเพื่อสร้างกลิ่น มีพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้สัตวแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้คนเลี้ยงแมว ทำหมันแมวตัวผู้ หากไม่ต้องการให้แมวไปผสมพันธุ์กับแมวตัวเมีย เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าการทำหมันให้กับแมวนั่นคืออะไรและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ทำความรู้จักกับการ ทำหมันแมวตัวผู้ และเพราะเหตุใดเราจึงควรทำ 

ทำหมันแมวตัวผู้

การทำหมันแมวตัวผู้นั้นนับเป็นการดูแลสุขภาพแมวอีกวิธีหนึ่งหากคุณไม่ได้ต้องการให้แมวของคุณไปผสมพันธุ์กับแมวตัวเมีย โดยสัตวแพทย์จะนำเอาท่อน้ำเชื้อรวมไปถึงอัณฑะของพวกเขาออก ดังนั้นตามสภาพของคนเลี้ยงแมวแล้วการทำหมันจึงหมายถึงการตัดไข่สำหรับแมวตัวผู้นั้นเอง หลังจากนั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถผสมพันธุ์ให้แมวตัวเมียสามารถมีลูกออกมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสามารถผสมพันธุ์ได้อยู่ดีเพราะไม่ได้นำเอาอวัยวะเพศและถุงอัณฑะออกแต่อย่างใด ความจริงแล้วการคุมกำเนิดแมวนั้นมี 2 วิธีนั่นก็คือแบบชั่วคราวและแบบถาวร

ทำหมันแมวตัวผู้

ซึ่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาและพบว่าแบบชั่วคราวนั้นส่งผลกระทบที่อันตรายต่อสุขภาพของแมวจึงยกเลิกวิธีการดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากต้องการคุมกำเนิดแมวก็มีอยู่วิธีการเดียวก็คือการทำหมันนั่นเอง สาเหตุที่สัตวแพทย์มักจะแนะนำให้คนเลี้ยงแมวที่ไม่ต้องการลูกแมวเพิ่มทำหมันเมื่อมีอายุตั้งแต่ประมาณ 5-6 เดือนก็เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นการลดพฤติกรรมปัสสาวะไม่เป็นที่ซึ่งเป็นการแสดงอาณาเขต การหนีออกจากบ้านเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ พฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าวอย่างเช่นการทะเลาะกับแมวตัวอื่นภายในบ้านซึ่งอาจเกิดจากการแย่งคู่ผสมพันธุ์ อาจทำให้แมวติดเชื้อหรือได้รับบาดเจ็บได้ ช่วยลดพฤติกรรมส่งเสียงดังรบกวนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรงเกี่ยวกับฮอร์โมนและเพศอย่างเช่นมะเร็งอัณฑะได้อีกด้วย 

เปิดข้อดีข้อเสียในการทำหมันให้แมวที่คนเลี้ยงแมวควรพิจารณา 

ทำหมันแมวตัวผู้

การทำหมันแมวตัวผู้เป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลสุขภาพแมวที่ผู้เลี้ยงจะต้องพิจารณาให้ดี ประโยชน์ของการทำหมันนะมีมากมายไม่ว่าจะเป็นช่วยลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของแมวอย่างเช่นการปัสสาวะไม่เป็นที่ พฤติกรรมก้าวร้าว การหนีออกจากบ้าน นอกจากนี้ยังช่วยให้แมวมีสุขภาพดีในระยะยาว สามารถประหยัดเงินได้ในอนาคต และยังช่วยควบคุมประชากรแมวได้อีกด้วย สำหรับแมวตัวผู้นั้นการทำหมันไม่มีผลเสียร้ายแรงแต่อย่างใด ส่วนใหญ่ผลกระทบที่พบก็คือขนที่ถูกลงบริเวณแผลผ่าตัดจะมีสีที่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่านั้น นอกจากนี้พบว่าแมวบางตัวจะมีอัตราการเผาผลาญลดลงทำให้พวกเขาอาจน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

การ ทำหมันแมว มีขั้นตอนอย่างไร คลายความกังวลและความสงสัยของคนเลี้ยงแมว 

เมื่อคุณรับลูกแมวมาเลี้ยงสิ่งที่ต้องเตรียมไม่ใช่แค่สถานที่เลี้ยง การดูแลความสะอาด หรือแม้แต่อาหารการกินเท่านั้น การดูแลสุขภาพก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่ เมื่อลูกแมวอายุประมาณสัก 5-6 เดือนพวกเขาจะเริ่มมีอาการหง่าวหรือติดสัตว์ ซึ่งหากเป็นแมวตัวผู้พฤติกรรมของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น เริ่มฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง อยากหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำ หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าววิธีการที่ดีที่สุดก็คือการ ทำหมันแมว นั่นเอง แต่เชื่อว่าคนเลี้ยงแมวหลายคนคงรู้สึกสงสารและเป็นกังวลไม่น้อย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าการทำหมันให้แมวนั้นมีขั้นตอนอย่างไรและการดูแลหลังจากนั้นต้องทำอะไรบ้างกัน 

เปิดขั้นตอนการ ทำหมันแมว อย่างละเอียด 

ทำหมันแมว
  • ก่อนทำหมันแมวสัตวแพทย์จะมีการตรวจความพร้อมสุขภาพร่างกายของแมวว่าสุขภาพแมวดีพอที่จะเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่ อาจมีการตรวจเลือดเพื่อให้แน่ใจ ดังนั้นการทำหมันจึงอาจจะต้องพาแมวไปพบสัตวแพทย์อย่างน้อย 2-3 ครั้ง
  • หักผลทุกอย่างออกมาว่าแมวมีสุขภาพที่ดีสัตวแพทย์ก็จะตัดสินใจทำการผ่าตัดโดยเริ่มต้นจากการให้ยาสลบซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธีประกอบไปด้วยการฉีดหรือการดมยา 
ทำหมันแมว
  • ในกรณีที่อัณฑะของแมวอยู่ในถุงอัณฑะโดยปกติสัตวแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กบนถุงอัณฑะแล้วนำเอาก้อนอัณฑะทั้ง 2 ลูกออก แต่หากเป็นแมวที่ลูกอัณฑะไม่เคลื่อนลงมาอยู่ในจุดที่ถูกต้องหรือเลื่อนลงมาเพียงแค่ลูกเดียว สัตวแพทย์อาจจะต้องมีการเปิดแผลบริเวณหน้าท้องเพิ่มเติม 
  • สัตวแพทย์จะพิจารณาว่าแผลผ่าตัดมีขนาดใหญ่ไหมหากมีขนาดใหญ่อาจจะต้องใช้ไหมเย็บซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ดังนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วแผลผ่าตัดจึงมักจะมีขนาดเล็กและสัตวแพทย์จะใช้แผ่นปิดแผลธรรมดาทั่วไปปิดเอาไว้เท่านั้น หากมีการเย็บแผลจะมีการนัดตัดไหมภายในเวลา 2 สัปดาห์ 
  • หลังจากการผ่าตัดและการทำแผลเสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วสัตวแพทย์จะเปิดออกซิเจนเพื่อให้แมวฟื้นจากยาสลบในเวลาต่อมา 

ดูแลแมวหลังทําหมันแมวอย่างไรให้ปลอดภัยและสุขภาพดี

ทำหมันแมว

การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวอีกทางหนึ่งแต่ก็เป็นการผ่าตัดที่เราต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน หลังการผ่าตัดควรระมัดระวังไม่ให้แมวนั่งคอตกเนื่องจากอาจทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดได้ซึ่งเป็นผลมาจากฤทธิ์ของยาสลบ ไม่ควรรีบป้อนอาหารหรือน้ำทันทีหลังจากการผ่าตัดเนื่องจากแมวอาจจะยังไม่ฟื้นจากยาสลบอย่างเต็มที่และเป็นอันตรายได้ ควรสวมปลอกคอกันเลียอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ในระหว่างช่วงพักฟื้นให้ติดตามสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมหรือแม้แต่บริเวณแผลผ่าตัดก็ตาม ไม่ควรให้แมวทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายมากจนเกินไป ให้ยาแมวตามที่สัตวแพทย์แนะนำและไม่ควรหยุดยาเองโดยเด็ดขาด รักษาความสะอาดบริเวณที่เลี้ยงแมวเป็นพิเศษ ห้ามให้แพ้สัมผัสกับน้ำ และพาแมวไปพบสัตวแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แอพพลิคชัน MEOWTALK แอพพลิคชันที่จะช่วยให้เราเข้าใจภาษาแมวได้มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับคนเลี้ยงสัตว์แล้วสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดไม่ใช่อะไรไปมากกว่าการที่เราสามารถสื่อสารกับพวกเขารู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสื่อสารกับเราเป็นภาษาคนได้และเราก็ฟังเสียงร้องของพวกเขาไม่ออกเช่นเดียวกันในบางครั้ง หลายต่อหลายครั้งแล้วจึงมักประสบปัญหาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีกับสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของเราพยายามจะสื่อสารเพราะเราไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร สำหรับคนเลี้ยงแมวแล้วปัญหานี้จะหมดไปหากคุณใช้แอพพลิคชัน MEOWTALK

ทำความรู้จักกับแอพพลิเคชั่น MEOWTALK แอพพลิคชันที่จะช่วยให้คุณเข้าใจภาษาแมวได้อย่างลึกซึ้ง 

MEOWTALK

เคยประสบปัญหาหรือไม่กับการที่แมวของคุณมักส่งเสียงร้องแปลกประหลาดออกมาอยู่เสมอ หรือบางทีก็มักจะส่งเสียงล้อมาโดยที่ไม่มีสาเหตุ ทำให้คุณไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการจะสื่อสารหรือต้องการอะไรกันแน่ ปัญหาหลักสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ก็คือเราไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารได้เพราะแมวพูดภาษาคนไม่ได้ในขณะเดียวกันคนก็ฟังภาษาแมวไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน ปัญหานี้จะหมดไปหาคุณเลือกใช้แอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่าMEOWTALK แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาสำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเนื่องจากแอพพลิคชันนี้สามารถแปลภาษาแมวให้คุณสามารถเข้าใจแมวมากขึ้นกว่าเดิม วิธีการใช้งานก็สุดแสนจะง่ายดายเพียงแค่ดาวน์โหลดลงบนโทรศัพท์มือถือ SMARTPHONE โดยมีให้ดาวน์โหลดทั้งบนระบบปฏิบัติการ ANDROID และ IOS จากนั้นให้ทำการลงทะเบียนเข้าใช้งานจะสามารถสมัครผ่าน EMAIL TWITTER หรือ FACEBOOK ก็ได้เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นเราจะสามารถเพิ่มแมวของเราลงในแอพพลิคชันได้

MEOWTALK

หากคุณมีแมวหลายตัวคุณก็สามารถเพิ่มทั้งชื่อและรูปภาพของพวกเขาลงไปได้มากตามความต้องการ หลังจากนั้นเพียงแค่กดบันทึกเสียงเวลาที่แมวร้องแอพพลิคชันก็จะทำการประมวลผลว่าเพราะเขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับพวกเรา โดยแอพพลิคชันดังกล่าวจะมีการแบ่งประเภทเสียงร้องของแมวออกทั้งหมด 9 รูปแบบประกอบไปด้วยดีใจ โกรธ ป้องกัน ผสมพันธุ์ ต่อสู้ ล่าเหยื่อ พักผ่อน เจ็บปวด หรือแม้แต่ร้องเรียกเจ้าของ ไม่เพียงเท่านั้นให้พี่เคชั่นดังกล่าวยังสามารถจดจำเสียงร้องของแมวในสถานการณ์ต่างๆ ได้อีกด้วยอย่างเช่นการร้องขออาหารเป็นต้น หากเรารู้สึกว่าคำแปลผิดเราก็สามารถแก้ไขได้เช่นเดียวกันแอพพลิคชันก็จะจำว่าเสียงแบบนี้แมวหมายความว่ายังไง 

เหมียวทอล์ก แอพพลิคชันที่ยังเป็นที่ถกเถียงว่าสามารถบอกความต้องการของแมวได้อย่างแม่นยำหรือไม่

MEOWTALK

สำหรับคนที่เคยใช้งานแอพพลิคชันMEOWTALKมาก่อนย่อมเกิดความสงสัยว่าแอพพลิคชันดังกล่าวสามารถแปลภาษาแมวออกมาได้อย่างแม่นยำ ถูกต้อง และตรงไปตรงมาหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจภาษาของสัตว์ได้อย่างลึกซึ้งถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่แอพพลิเคชั่นนี้ทำก็คือการฟังเสียงและแบ่งแยกเสียงของแมวตามน้ำเสียงของพวกเขาว่ากำลังแสดงความรู้สึกอย่างไรออกมา จะบอกว่ามันช่วยให้เราสื่อสารกับแมวได้อย่างถูกต้องแม่นยำก็คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็น่าจะช่วยให้เราเข้าใจสัตว์เลี้ยงของตัวเองได้มากขึ้นไม่น้อยเช่นเดียวกัน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

หญ้าแมว อาหารที่ไม่ใช่อาหารแต่แมวชอบรับประทาน 

ในสมัยโบราณเวลาที่แมวกินหญ้าจะเชื่อกันว่าแมวกำลังป่วยและพวกมันกำลังกินสมุนไพรเพื่อรักษาตัวเอง หลังจากที่พวกมันกินหญ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะอาเจียนออกมาซึ่งช่วยให้อาการป่วยดีขึ้น ในปัจจุบันเราได้ทำการเรียนรู้เกี่ยวกับการกินหญ้าของแมวมากขึ้นกว่าเดิมและพบว่าความจริงแล้วพวกมันไม่ได้กินเพราะแค่กำลังป่วยแต่บางครั้งก็กินเพราะว่าชอบแค่นั้นเอง เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ หญ้าแมว รวมไปถึงสิ่งสำคัญที่ควรรู้กันว่ามีอะไรบ้างที่คนเลี้ยงแมวต้องรู้ 

ทำความรู้จักกับ หญ้าแมว อาหารที่แมวเหมียวโปรดปราน 

หญ้าแมว

ความจริงแล้วหญ้าแมวนั้นนับเป็น 1 อาหารแมวที่จะเรียกว่าอาหารก็ไม่ใช่ของกินเล่นก็ไม่เชิง เนื่องจากแมวไม่ได้รับประทานหญ้าอยู่เป็นประจำ แต่หากมีโอกาสหรือพบกับหญ้าที่สามารถกินได้พวกเขาก็จะกินแล้วแต่ตัวไป ในประเทศไทยก็มีหญ้าที่แมวสามารถกินได้อยู่จำนวนไม่น้อย แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนเลี้ยงแมวในช่วงเวลานี้ก็คือหญ้าญี่ปุ่นซึ่งเป็นหญ้าอ่อนที่มีชื่อว่าเนโกะสุกะ เป็นการเพาะเมล็ดข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี หรือข้าวโอ๊ตที่มีความปลอดภัยแมวสามารถรับประทานได้ เนื่องจากเราเองก็นำเอาผลผลิตจากหญ้าเหล่านี้มารับประทานเป็นอาหารเช่นเดียวกัน เป็นหญ้าอ่อนที่สามารถรับประทานได้ง่าย มีความใกล้เคียงกับผักที่เรารับประทานกันตามปกติ จึงไม่มีปัญหาทำให้กระเพาะอาหารของแมวระคายเคือง ความจริงแล้วแมวนั้นเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเป็นหลัก

หญ้าแมว

ดังนั้นข้อมูลการศึกษาที่ผ่านมาจึงยังไม่สามารถสนับสนุนให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนว่าเพราะอะไรพวกเขาจึงกินหญ้า แต่ประโยชน์จากการกินหญ้าของแมวนั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้อาเจียนเพื่อกำจัดก้อนขนในกระเพาะอาหาร ช่วยให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากแมวมีลิ้นที่สากและเวลาเลียขน คนที่หลุดร่วงออกมาก็จะเข้าไปในท้องและสะสมอยู่ในกระเพาะอาหารเป็นก้อน ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติแมวจึงต้องทำให้ตัวเองอาเจียนออกมานั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถป้องกันท้องผูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินสำคัญมากมาย หญ้าบางชนิดสามารถสร้างความฟินให้กับแมวได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างเช่นตำแยแมว 

สิ่งที่ควรระวังหากให้แมวกินหญ้าเป็นประจำ 

หญ้าแมว

ความจริงหญ้าแมวน้ำเป็นอาหารแมวที่ไม่เหมาะสำหรับแมวเด็กเท่าไหร่เนื่องจากย่อยได้ยาก จึงไม่เหมาะสำหรับแมวที่ยังเด็กอยู่เนื่องจากระบบย่อยอาหารของพวกเขายังไม่แข็งแรงมากพอ ไม่เพียงเท่านั้นผู้ดูแลยังต้องคอยดูแลตัดแต่งหญ้าโดยการเอาใบแก่ออกให้หมดแล้วค่อยให้ใบอ่อนแต่ขึ้นมาใหม่ สำหรับแมวที่ชอบกินหญ้าเป็นอย่างมากจะทำให้พวกเขาอาเจียนอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แมวรับประทานยาอยู่เป็นประจำตลอดเวลา แต่ให้กินเนื่องในโอกาสพิเศษอย่างเช่นการให้รางวัลหรือการเฉลิมฉลองเป็นต้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

รู้หรือไม่ ร่างกายแมว มีอะไรที่พิเศษมากกว่าที่เราคิด 

สำหรับมนุษย์แล้ว แมวนั้นเป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ประหลาดที่เราไม่เข้าใจมันเลยแม้แต่น้อย พวกเขามักมีท่าทางหรือพฤติกรรมแปลกๆ ออกมาให้เราชวนสงสัยอยู่เสมอ ความจริงแล้วมนุษย์และแนวนั้นเป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกันมายาวนานนับตั้งแต่เมื่อ 9.5 พันปีที่แล้วเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับพวกเขานั้นกลับมีเพียงแค่น้อยนิด ยังมีเรื่องราวอีกมากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับร่างกายของพวกเขาที่เราคนธรรมดาทั่วไปอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า ร่างกายแมว มีอะไรพิเศษที่เราไม่เคยรู้กันมาก่อนบ้าง

รวมความพิเศษของ ร่างกายแมว ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ร่างกายแมว
  1. หน้าท้องช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ร่างกายแมวนั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างมากเพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีพุงแมวย้อยจนเกือบจะติดพื้น ไม่ว่าจะเป็นผลจากการอ้วนหรือการผ่าตัดก็ตาม ความจริงมันไม่ได้ทำให้แมวเคลื่อนไหวลำบากขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงเท่านั้นมันยังช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและอิสระมากกว่าเดิมอีกด้วย เนื่องจากถุงใต้ท้องที่ห้อยลงมานั้นมีชื่อเรียกว่าถุงหน้าท้อง เป็นไขมันเพื่อปกป้องอวัยวะภายใน ช่วยให้ขาหลังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและยืดหยุ่น ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นแหล่งพลังงานสำรองของพวกเขาอีกด้วย 
  2. กระดูกไหปลาร้า ทราบหรือไม่ว่าแมวนั้นไม่มีกระดูกไหปลาร้า กระดูกที่เชื่อมต่อระหว่างกระดูกหน้าอกไปยังกระดูกหัวไหล่ ทำให้ร่างกายบริเวณหน้าอกผายออกมา นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกเขาจึงกลายเป็นของเหลวที่สามารถลอดผ่านช่องว่างขนาดเล็กหรือซุกตัวเข้าไปอยู่ในกล่องกระดาษที่มีขนาดเล็กกว่าตัวของพวกเขาได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถลดแรงต้านได้ดีทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาสามารถกลับตัวกลางอากาศเวลาตกลงมาจากที่สูงได้อีกด้วย
  3. นิ้วเท้าไม่เท่ากัน เชื่อว่าหลายคนคิดว่าแมวมีนิ้วเท้าทั้ง 4 ข้างรวมกัน 20 นิ้วเหมือนกับมนุษย์นั่นก็คือ 1 อุ้งเท้ามี 5 นิ้ว แต่ความเป็นจริงแล้วนิ้วเท้าของพวกเขาในส่วนของขาหน้านั้นจะมีทั้งหมด 10 นิ้ว แต่ขาหลังจะมีเพียงแค่ 8 นิ้วเท่านั้น แต่ละนิ้วของพวกเขานั้นจะมีเล็บที่สร้างมาจากโปรตีนเคราตินแบบเดียวกับของมนุษย์ ใช้ในการดักจับเหยื่อหรือการยึดเกาะ พวกเขาจะกางเล็บออกมา ซึ่งสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะกางเฉพาะเท้าหน้าหรือเท้าหลัง 

รู้หรือไม่ ร่างกายแมวสามารถผลิตสารความเป็นเด็กให้พวกเขาน่ารักอยู่ตลอดเวลาได้ 

ร่างกายแมว

เชื่อว่าหลายคนเคยสงสัยว่าเพราะเหตุใดแมวจึงดูน่ารักตลอดเวลาถึงแม้ว่าพวกเขาจะแก่ขึ้นแล้วก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะว่าร่างกายแมวสามารถผลิตสารความเป็นเด็กที่ทำให้เราอยากจะเข้าไปจกพุงแมวพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ต่อให้พวกเขาโตแล้วพวกเขาก็ยังคงมีดวงตากลมโต ลำตัวสั้น ขนนุ่มฟูอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาดูน่ารักและทาสแมวอย่างเราก็รู้สึกอยากจะดูแล 

อ่านบทความอื่นๆ: