Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

เลี้ยงแมว แล้วตั้งครรภ์ ปัญหาโลกแตกของทาสแมว

เลี้ยงแมว แล้วตั้งครรภ์ ปัญหาโลกแตกของทาสแมว 

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเลยว่าในประเทศไทยมีอัตราการเกิดสัตว์จรจัดสูงจากการที่พวกเขาเคยเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อนแต่พอมีคนในบ้านตั้งครรภ์พวกเขากลับถูกปล่อยปละละเลยหรือบางคนก็ถูกทิ้งไปเลยเนื่องจากความเชื่อว่าคนท้องไม่ควรอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงเนื่องจากจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ มันจึงทำให้ทาสแมวหลายคนเกิดคำถามว่าถ้า เลี้ยงแมว อยู่แล้วเกิดตั้งท้องขึ้นมาจะทำอย่างไรดี ซึ่งเราสามารถตอบได้ตรงนี้เลยว่าคุณยังคงสามารถเลี้ยงเจ้าแมวเอาไว้ได้เหมือนเดิมเพียงแค่ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าหากคุณมีแมวเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วตั้งครรภ์ขึ้นมามีอะไรที่ควรระมัดระวังบ้าง 

รวมสิ่งที่ต้องระวังเมื่อตั้งครรภ์ขณะมีสัตว์เลี้ยง 

  1. อาการแพ้ หากคนที่ เลี้ยงแมว แล้วตั้งครรภ์มีอาการแพ้ขนสัตว์อยู่แล้วอาการแพ้ก็อาจจะหนักมากขึ้นหรือเวลาไออาจจะทำให้รู้สึกเจ็บหน้าอกมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเราจึงอยากจะให้มีการหลีกเลี่ยงการพบกันสักพักระหว่างแมวและคนเลี้ยง ใช้วิธีการ ดูแลแมว โดยการแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่ให้แมวและคนเลี้ยงอยู่คนละบริเวณกัน สำหรับคนที่ไม่ได้แพ้แมวมาก่อนแต่พอท้องแล้วเกิดอาการแพ้เกิดจากฝุ่นผงที่ติดตัวแมว ทั้งฝุ่นจากนอกบ้านหรือฝุ่นจากทรายในห้องน้ำ วิธีการดูแลคือการทำความสะอาดแมวเป็นประจำ เปลี่ยนระบบการเลี้ยงเป็นระบบปิดเพื่อลดการนำฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้ามาในบ้าน
  2. ความสะอาด หลายคนกังวลว่าทั้งอึและฉี่อาจจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคจนไม่เหมาะสำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ความจริงแล้วเรามีวิธีการในการจัดการเรื่องความสะอาด สิ่งสำคัญก็คือไม่ควรให้คนตั้งครรภ์เป็นคนที่ดูแลความสะอาดในส่วนนี้เนื่องจากมันเป็นสิ่งปฏิกูลที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคและปรสิตมากมาย แต่หากคุณต้องดูแลด้วยตัวเองก็สามารถทำได้ด้วยการสวมถุงมือและสวมหน้ากากอนามัยขณะที่กำลังทำความสะอาด ล้างทำความสะอาดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ล้างมือด้วยสบู่ทันที หรือให้คุณพ่อเป็นคนจัดการก่อนในช่วงที่ตั้งครรภ์ก็ได้เช่นเดียวกัน

รวมข้อดีในการเลี้ยงสัตว์ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ 

การตั้งครรภ์อยู่ไม่ได้หมายความว่าการ เลี้ยงแมว จะเต็มไปด้วยข้อเสียแต่อย่างใด เพราะมันจะช่วยให้คนที่ตั้งครรภ์รู้สึกอบอุ่นหัวใจและช่วยให้รู้สึกเพลิดเพลินได้มากขึ้นกว่าเดิม การที่คุณแม่ตั้งครรภ์อารมณ์ดีก็จะช่วยส่งผลให้ลูกในท้องอารมณ์ดีและมีพัฒนาการที่ดีไปด้วย แถมเมื่อคลอดออกมาแล้วแมวก็ยังเป็นผู้ดูแลเด็กเล็กที่ดีเช่นเดียวกัน แถมยังช่วยเพิ่มพัฒนาการให้กับเด็กทารกได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นถึงแม้ว่าจะตั้งครรภ์แล้วก็อย่าลืม ดูแลแมว ของคุณให้ดี 

 

 

 

 

สนับสนุนโดย : 

HTTPS://HILOSPEC.COM เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1 ที่ได้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน โดยทางเราเป็นเว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำที่ยิ่งกว่าเว็บทั่วไป มาพร้อมเกมเดิมพันมากมายแบบไม่อั้นแน่นอน

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวเก่างอนเพราะพาแมวใหม่เข้าบ้าน ปัญหาของทาสที่เป็นโรคแมวงอก

แมวเก่างอนเพราะพาแมวใหม่เข้าบ้าน ปัญหาของทาสที่เป็นโรคแมวงอก 

โรคแมวงอกเป็นโรคสามัญที่พบได้ทั่วไปของบรรดาทาสแมวทั้งหลายที่หลงใหลในความน่ารักน่าชังของพวกมัน เมื่อเลี้ยงไป 1 ตัวสักพักพวกมันจะงอกออกมาอีก 1 ตัว และมีโอกาสที่จะเรื้อรังงอกออกมาเรื่อยๆ แต่ปัญหาสำหรับคนเลี้ยงแมวที่พาแมวใหม่เข้าบ้านแต่แมวเก่าดันงอนหรือไม่ยอมรับน้องแมวตัวใหม่เสียอย่างนั้น บางตัวอาจแค่ขู่แต่บางตัวถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจนเลือดตกยางออก วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าเราสามารถทำให้แมวเข้ากันอย่างไรได้บ้างและเพราะอะไรแมวตัวเก่าจึงมีปัญหา 

รวมเทคนิคการพาแมวตัวใหม่เข้าบ้านไม่ให้แมวเก่ามีปัญหา 

  1. การกักบริเวณ เป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณพาแมวใหม่เข้าบ้านเพราะนอกจากเรื่องการเข้ากันได้กับแมวเก่าแล้วยังมีเรื่องโรคที่ต้องระมัดระวังอีกด้วย แมวที่ยังเด็กและได้รับวัคซีนไม่ครบมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคติดต่อ การกักบริเวณจะมีประโยชน์ในการกักกันโรคและยังช่วยให้แมวทั้ง 2 ตัวได้มีเวลาปรับตัวมากขึ้นด้วย ในช่วงแรกไม่ควรให้พวกเขาเจอกันโดยเด็ดขาดประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้แมวงอนจนมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้
  2. การดมกลิ่น แมวทำความรู้จักกันด้วยการดมกลิ่น หลังจากกลับบริเวณครบ 1 สัปดาห์เราจะต้องทำให้แมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่คุ้นเคยกลิ่นของกันและกัน โดยการใช้แปรงขนอันเดียวกัน ให้กินอาหารใกล้กัน อาจจะยังไม่ต้องเจอหน้าก็ได้หากแมวตัวเก่ายังออกอาการไม่พอใจ หากอาการเริ่มดีขึ้นให้ลองพาแมวตัวเก่าเข้าไปในที่ของแมวตัวใหม่เพื่อสำรวจและทำความคุ้นเคย
  3. การพบกันครั้งแรก หากแมวตัวเก่าสำรวจและทำความคุ้นเคยกับแมวตัวใหม่ในพื้นที่ของแนวตัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ลองให้พวกเขาได้เจอกันเป็นครั้งแรก ด้วยการนำเอาแมวตัวใหม่ใส่ไว้ในกรงหรือคอก จากนั้นก็ให้แมวตัวเก่าเข้ามาเจอ โดยในขั้นตอนนี้เจ้าของต้องสังเกตปฏิกิริยาอยู่ตลอดเวลา 
  4. ปรับการกิน แม้ว่าแมวทั้ง 2 ตัวจะดูเข้ากันได้ดีแต่ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันได้แต่อย่างใด โดยเฉพาะเวลาสำคัญอย่างการกินอาหาร แมวตัวเก่าที่กินอาหารตัวเดียวมาโดยตลอดอาจจะมีอาการก้าวร้าวหากมีแมวตัวใหม่มากินอาหารอยู่ใกล้กัน ให้ฝึกโดยใช้ชามอาหารวางห่างกันในระดับหนึ่ง ทำทุกครั้งเมื่อให้อาหารจนกว่าทั้ง 2 ตัวจะไม่ออกอาการหวาดระแวง

เพราะเหตุใดการพาแมวตัวใหม่เข้าบ้านจึงทำให้แมวเก่ามีปัญหา

สาเหตุที่ทำให้แมวงอนเวลาเราพาแมวใหม่เข้าบ้าน เกิดจากการที่พวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขตรวมไปถึงความส่วนตัวเป็นอย่างมาก การพาแมวแปลกหน้าเข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาเพื่อทำความคุ้นเคยและสนิทสนมกัน ดังนั้นหากแมวตัวเก่าของคุณออกอาการงอนหรือก้าวร้าวเมื่อคืนพาแมวตัวใหม่เข้ามาอยู่ด้วย ขอให้เข้าใจพวกเขาและให้เวลาพวกเขาในการปรับตัว 

 

 

 

 

สนับสนุนโดย : 

HTTPS://HILOSPEC.COM เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1 ที่ได้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน โดยทางเราเป็นเว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำที่ยิ่งกว่าเว็บทั่วไป มาพร้อมเกมเดิมพันมากมายแบบไม่อั้นแน่นอน

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

สังเกตอย่างไร หากอยากรู้ว่าแมวชราแล้วหรือไม่

สังเกตอย่างไร หากอยากรู้ว่าแมวชราแล้วหรือไม่

คนส่วนใหญ่ที่เลี้ยงเจ้าแมวก็มักจะเลี้ยงพวกมันมาตั้งแต่สมัยที่พวกมันยังเป็นลูกแมวตัวเล็กตัวน้อยสุดน่ารัก เมื่อพวกมันเติบโตขึ้นคนที่เลี้ยงดูพวกมันมาอย่างพวกเราก็รู้สึกดีใจไม่น้อย แต่เมื่อเวลาแห่งความสุขผ่านพ้นไปสิ่งที่ตามมาก็คือวัยชราของเหล่าแมวเหมียวที่บางครั้งก็มาโดยที่เจ้าของอย่างเราไม่ทันรู้ตัวเลยแม้แต่น้อย การดูแลเอาใจใส่แมวจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อให้เรารู้ว่าตอนนี้พวกมันกำลังอยู่ในช่วงเวลาไหนของชีวิต มันจะช่วยให้เราสามารถดูแลพวกเขาได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและช่วยพวกเขาอยู่กับเราได้นานมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการสังเกตสัญญาณแมวชราว่าแมวของเรามีสัญญาณเหล่านี้แล้วหรือไม่ 

รวมสัญญาณที่จะบอกว่าแมวของเราชราแล้วหรือไม่ 

แมวส่วนใหญ่มักจะแสดงออกว่าตัวเองเป็นแมวชราแล้วทางกายภาพเมื่ออายุประมาณ 7 ปี แต่ในขณะเดียวกันแมวที่อายุ 8-10 ปีบางตัวก็ยังคงเต็มไปด้วยความแข็งแรงสนุกสนานเหมือนกับลูกแมว ดังนั้นแมวที่จัดอยู่ในกลุ่มสูงอายุจึงจะนับตั้งแต่อายุ 11 ปีขึ้นไป เมื่อแมวอายุมากคนเลี้ยงแมวต้องสังเกตว่าพวกเขามีสัญญาณอะไรที่บอกเราหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น 

  1. การนอนหลับ แม้ว่าแมวจะนอนหลับเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตของพวกมันอยู่แล้ว แต่เมื่อแมวอายุเพิ่มมากยิ่งขึ้นพวกมันก็จะช้าลง เราจะสังเกตเห็นได้ว่าพวกเขาจะหลับมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหรือหลักลึกมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีแมวอีกส่วนที่มักจะคึกคักจนไม่หลับไม่นอนเลยก็มีเช่นเดียวกัน นอกจากจะบ่งบอกถึงความชราแล้วยังเป็นอาการของโรคบางโรคอีกด้วย 
  2. การกระโดดหรือขึ้นบันได เมื่ออายุมากขึ้นแมวจะเผชิญกับปัญหาโรคข้ออักเสบทำให้พวกมันปวดข้อจนไม่สามารถกระโดดหรือเดินขึ้นบันไดได้ตามปกติ แม้ว่ามันจะไม่ถึงกับขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับหรือเดินเป๋ แต่หากคุณสังเกตเห็นอาการดังกล่าวขอแนะนำให้พาไปพบแพทย์โดยด่วน
  3. อาการสับสน แมวก็เหมือนมนุษย์ที่มีวัยทอง เมื่ออายุมากขึ้นพวกมันก็มักจะสับสนหรืองงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่หรือแม้แต่สิ่งที่ทำเป็นประจำอย่างเช่นการเดินเข้าที่นอนของตัวเอง หากมีอาการรุนแรงอาจหมายถึงพวกมันป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมได้
  4. น้ำหนัก เมื่ออายุมากขึ้นในบางตัวมักจะมีน้ำหนักลงซึ่งอาจจะหมายถึงปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ในขณะที่บางตัวก็มักจะน้ำหนักขึ้นเพราะอัตราการเผาผลาญลดลงรวมไปถึงการขยับตัวน้อยลงด้วย

ดูแลอย่างไรเมื่อแมวของเราก้าวเข้าสู่วัยชรา 

เมื่อแมวชราสิ่งที่คนเลี้ยงแมวอย่างเราต้องทำก็คือการดูแลแมวอายุมากให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาหารคุณภาพสูงสำหรับแมวอายุเยอะโดยเฉพาะ การจัดที่พักผ่อนที่อบอุ่นและสบาย การอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวอย่างเช่นการจัดให้มีข้าวน้ำหรือกระบะทรายทุกชั้นของบ้าน ช่วยพวกมันดูแลความสะอาด แปรงขนและเช็ดก้นเป็นประจำ พยายามให้พวกมันได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง คอยสังเกตอาการผิดปกติและพาไปพบแพทย์เมื่อเห็นว่าแมวมีบางอย่างที่เปลี่ยนไป 

 

 

 

 

สนับสนุนโดย : 

https://hilospec.com เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1 ที่ได้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน โดยทางเราเป็นเว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำที่ยิ่งกว่าเว็บทั่วไป มาพร้อมเกมเดิมพันมากมายแบบไม่อั้นแน่นอน

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวจับหนู ปัญหาที่ทาสไม่เข้าใจว่าทำไมแมวถึงชอบวิ่งไล่หนูนัก

แมวจับหนู ปัญหาที่ทาสไม่เข้าใจว่าทำไมแมวถึงชอบวิ่งไล่หนูนัก 

สำหรับคนที่เลี้ยงแมวแล้วต้องมีบ้างสักครั้งในชีวิตที่ตื่นขึ้นมาก่อนจะพบกับบรรดาซากสัตว์เล็กสัตว์น้อยไม่ว่าจะเป็นแมลงสาบ จิ้งจก หรือบางครั้งก็เป็นหนูตัวเบิ้มวางอยู่บนเตียงท้องกับเจ้าแมวเหมียวที่กำลังจ้องหน้าขอคำชมจากเราด้วยท่าทีภูมิใจเสียเหลือเกิน ปัญหานี้ทำให้คนเลี้ยงหลายคนรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมากเพราะถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าพฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่แมวรักเราแต่การที่พวกเขาไปทำร้ายสัตว์อื่นหรือแม้แต่เอาสัตว์น่ากลัวมาไว้ใกล้ตัวเรามันก็น่ากลัวไม่น้อยเช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปไขความลับว่าเพราะเหตุใดแมวจับหนูจึงกลายเป็นสิ่งที่คนเลี้ยงแมวที่บ้านต้องเจอ

เปิดสาเหตุ ทำไมแมวจึงชอบวิ่งไล่จับหนู 

แมวจับหนูนั้นเป็นพฤติกรรมปกติตามสัญชาตญาณนักล่าโดยธรรมชาติของแมว พฤติกรรมแมวแบบนี้อาจหมายถึงแมวของคุณกำลังหิวอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นหากอยากจะแก้พฤติกรรมดังกล่าวเบื้องต้นคุณต้องดูแลแมวของคุณให้อิ่มท้องอยู่เสมอ แต่สำหรับบางคนที่เลี้ยงน้องแมวจนอวบอ้วนไม่มีวันหิวอย่างแน่นอนแต่พวกมันก็ยังคงไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอยู่เหมือนเดิมก็อาจจะเกิดจากการที่พวกมันอยากจะเล่นสนุกหรือทำตามสัญชาตญาณธรรมชาติของพวกมันเท่านั้น ปัญหาแมวไล่จับหนูหรือสัตว์ตัวเล็กเป็นปัญหาที่เหล่าคนเลี้ยงแมวต้องระมัดระวังเพราะว่าบางครั้งสัตว์เหล่านั้นอาจสกปรกหรือมีพยาธิแฝงอยู่ซึ่งอาจจะส่งผลอันตรายต่อแมวของเราได้ อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถกันแมวออกจากการไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กได้ก็คือการติดกระดิ่งไว้ที่ปลอกคอของแมวเพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนให้บรรดาสัตว์เล็กสัตว์น้อยทั้งหลายได้รู้ว่าผู้ล่าของพวกมันใกล้เข้าหาแล้ว พวกมันจะสามารถหนีออกไปก่อนที่แมวจะเข้าใกล้พวกมันเกินไป ส่วนปัญหาที่แมวมักจะนำเอาสัตว์ที่ล่าได้มาให้เราในโอกาสพิเศษเป็นของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากพวกมันได้มีนักวิจัยออกมาตอบคำถามโดยคาดว่าเกิดจากเหตุผล 2 ประการนั่นก็คือความรักที่พวกมันมีต่อเจ้าของทำให้พวกนั้นยินดีที่จะไปไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กและเอามาให้คุณเล่นเพื่อสนุกสนานไปกับพวกมัน และเป็นสัญชาตญาณของความเป็นพ่อแม่โดยพวกมันคิดว่าเราเป็นสัตว์ที่อ่อนแอต้องคอยดูแลเลยหาอาหารมาให้ 

ป้องกันอย่างไรให้แมวไม่สามารถวิ่งไล่จับหนูได้อีก 

อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าการไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอย่างแมวจับหนูเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตรายต่อแมวของเราไม่น้อยเลยทีเดียว การจัดหยุดยั้งพฤติกรรมแมวแบบนี้ได้มีอยู่ 2 ทางนั่นก็คือการป้องกัน คุณควรเลี้ยงแมวระบบปิดเพื่อให้พวกมันไม่สามารถเข้าถึงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่ภายนอกบ้านได้ การใส่ปลอกคอที่มีกระดิ่ง หรือการดูแลให้แมวอิ่มท้องอยู่เสมอ เล่นกับพวกเขาเป็นประจำเพื่อให้พวกเขารู้สึกสนุกสนานโดยที่ไม่จำเป็นต้องออกล่าแต่อย่างใด และอย่างที่ 2 ก็คือการทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านเพื่อไม่ให้มีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเข้ามาอาศัยอยู่ได้ไม่ว่าจะเป็นแมลงสาบ จิ้งจก หรือหนูก็ตาม 

 

 

 

 

สนับสนุนโดย : 

GCLUB จีคลับ เว็บไซต์พนันออนไลน์ บริการคาสิโนออนไลน์ 24 ชั่วโมง ด้วยระบบที่เป็นมาตรฐานระดับสากลออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไว้คอยให้บริการท่าน

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

อยากพาแมวเที่ยว ต้องเตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมรับทุกสถานการณ์

อยากพาแมวเที่ยว ต้องเตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมรับทุกสถานการณ์

สำหรับทาสแมวหลายคนชื่อว่าเวลาออกเดินทางไปท่องเที่ยวย่อมมีความต้องการที่จะพาเจ้านายไปเที่ยวด้วยอย่างแน่นอนเพราะการทิ้งให้พวกเขาอยู่แต่บ้านโดยที่เราไม่อยู่คงทำให้พวกเขารู้สึกเหงาไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นการพาแมวออกไปเที่ยวยังช่วยให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตาสนุกสนานไปกับการเล่นในสถานที่ใหม่ๆ ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและทาสแมวดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากพาแมวเที่ยววันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 

สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อต้องพาแมวไปเที่ยวนอกบ้าน 

  1. เตรียมความพร้อมของแมว หากเราต้องการพาแมวเที่ยวแน่นอนว่าแมวเป็นสัตว์ที่ควบคุมไม่ค่อยได้ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมพวกเขาให้พร้อมให้ได้มากที่สุดในว่าจะเป็นปลอกคอที่มีทั้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของ สายรัดแมวเอาไว้สำหรับกันคล้องกับสายจูงเพื่อป้องกันพวกเขาเตลิดหายไป ให้พวกเขาทานอาหารให้เรียบร้อย รอให้แมวขับถ่ายให้เสร็จ หลังจากนั้นอย่าลืมให้แมวสำรวจกระเป๋าสัตว์เลี้ยงด้วยเพื่อเพิ่มความคุ้นเคยให้กับพวกเขา
  2. การสร้างความคุ้นเคย การพาแมวไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปแม้กระทั่งในรถยนต์ก็สามารถสร้างความเครียดให้กับพวกเขาได้ ดังนั้นเราจึงควรปล่อยให้พวกเขาสำรวจภายในรถหรือเอาของที่มีกลิ่นแมวมาไว้ในรถไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นอน ผ้าเช็ดตัว หรือห้องน้ำ หรือจะเลือกใช้สเปรย์ผ่อนคลายสำหรับแมวก็ได้เช่นเดียวกัน
  3. ของจำเป็น ของจำเป็นที่เราจะต้องเตรียมพร้อมให้แมวจะประกอบไปด้วยกระบะทรายสำหรับขับถ่าย ชามอาหาร ชามน้ำแบบพกพา ชุดปฐมพยาบาล ของเล่นสำหรับการคลายเครียด และที่สำคัญเลยที่ลับเล็บแมวจะช่วยให้แมวไม่ไปขีดข่วนเบาะรถแทน
  4. คาร์ซีทแมว แมวเป็นยอดนักสำรวจและชื่นชอบการปีนป่าย ดังนั้นหากเราปล่อยให้พวกเขาโดยอิสระอยู่ในรถอาจไม่ปลอดภัยทั้งกับแมวเองและคนขับรถ ดังนั้นเราจึงควรใช้คาร์ซีทสำหรับแมว กระเป๋าสัตว์เลี้ยง หรือจะเป็นเบาะนั่งสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ออกแบบมาใช้เฉพาะกับในรถเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้แมวปีนป่ายรบกวนขณะขับรถ ช่วยให้รถของคุณไม่เป็นขนแมวอีกด้วย

เพราะเหตุใดเราจึงควรจำกัดพื้นที่ภายในรถเมื่อพาแมวไปเที่ยว 

หากเราพาแมวเที่ยวด้วยการขับรถด้วยตนเองมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เราจะต้องจำกัดพื้นที่ภายในรถสำหรับแมว เพราะนอกจากเหตุผลเรื่องความสะอาดและความสะดวกในการจัดการแล้วมันยังช่วยให้เราปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วย คาร์ซีทแมวจะช่วยป้องกันไม่ให้พวกเขาสามารถออกมาก่อกวนขณะที่เรากำลังขับรถได้ แถมยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพวกเขาเองเวลามีการเบรกกะทันหันอีกด้วย 

 

 

 

 

GCLUB จีคลับ เว็บไซต์พนันออนไลน์ บริการคาสิโนออนไลน์ 24 ชั่วโมง ด้วยระบบที่เป็นมาตรฐานระดับสากลออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไว้คอยให้บริการท่าน

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ภาษากาย พฤติกรรมแมวที่ช่วยบอกคุณให้รู้ว่าพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไร

ภาษากาย พฤติกรรมแมวที่ช่วยบอกคุณให้รู้ว่าพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไร 

สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ปัญหาที่เรามักจะต้องพบเจอและไม่มีวิธีการแก้ไขเลยนั่นก็คือเราไม่รู้ว่าตอนนี้สัตว์เลี้ยงของเราต้องการอะไรหรือรู้สึกอย่างไรอยู่กันแน่เพราะพวกนั้นไม่สามารถสื่อสารกับเราได้เหมือนกับที่มนุษย์สื่อสารกันด้วยคำพูด มันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากไม่น้อยเลยทีเดียวที่เราจะรู้ว่าพวกแมวกำลังรู้สึกอย่างไรอยู่กันแน่ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาสังเกตภาษากายของแมวกันว่ามีพฤติกรรมแมวแบบไหนบ้างที่สามารถบ่งบอกได้ว่าพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ เพื่อที่คุณจะได้สามารถตอบโต้กับแมวของคุณได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ทำความเข้าใจกับภาษากายของแมวที่คุณรักกันเถอะ 

แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูดได้แต่พฤติกรรมแมวก็สามารถบ่งบอกได้ว่าพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไรหรือต้องการอะไรอยู่ หากคุณสังเกตให้ดีก็จะทำให้คุณเข้าใจแมวของคุณได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

  1. เสียงร้องเหมียว แมวเป็นสัตว์ที่ร้องดังเหมียวอยู่แล้วแต่ถ้ามันเป็นเสียงเหมียวที่ต่ำกว่าปกติหมายความว่าตอนนี้แมวของเรากำลังรู้สึกไม่มีความสุขหรือรู้สึกอึดอัด หากเป็นเสียงเหมียวที่อยู่ในโทนสูงแปลว่าพวกเขากำลังรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก แต่ถ้าร้องเหมียวซ้ำไปซ้ำมาหมายความว่าพวกเขากำลังเรียกร้องความสนใจให้คุณเล่นกับพวกเขานั่นเอง 
  2. การขู่คำรามหรือทำเสียงเหมือนงู หลายคนมักจะพูดเล่นว่าแมวมักทำเสียงขู่เหมือนงูดังฟ่อ เสียงนี้เกิดจากการที่พวกเขารู้สึกกลัว มักจะมาพร้อมกับการพองขนเพื่อทำให้ตัวเองดูตัวใหญ่มากขึ้น เป็นกลไกการป้องกันตัวเอง เรามักจะพบพฤติกรรมนี้เวลาที่พวกเขาพบกับสัตว์ตัวอื่น
  3. เสียงครางฟี้ เป็นเสียงเหมือนคนครางขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าแมวของเรากำลังรู้สึกพึงพอใจ แต่มันไม่ได้หมายถึงทุกครั้งไปแต่อย่างใดเพราะบางครั้งเวลาที่พวกเราวิตกกังวลหรือมีอาการเจ็บป่วยก็มักจะทำเสียงแบบนี้เช่นเดียวกัน เราจึงต้องสังเกตพฤติกรรมว่าพวกเขาซึมหรือพยายามเอาตัวมาถูกับเราเพื่อที่จะได้แยกออกว่าสรุปแล้วป่วยหรือมีความสุขอยู่กันแน่
  4. การกลิ้ง บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นแมวกลิ้งไปมาหรือไม่ก็เหยียดขาออก หมายความว่าพวกเขากำลังรู้สึกสบายใจอย่างถึงขีดสุดเพราะเชื่อใจมนุษย์อย่างเราและยอมเราแต่โดยดี แถมยังเป็นพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจให้เราไปเล่นกับเขาอีกต่างหาก 

เข้าใจภาษากายของแมว ลดการทำโทษได้มากขึ้น 

แมวเป็นสัตว์ที่หลายคนมองว่าอินดี้เพราะพฤติกรรมแมวหลายอย่างทำให้เราไม่เข้าใจพวกมันเอาเสียเลย ดังนั้นหากคุณเข้าใจภาษากายของแมวมากยิ่งขึ้นก็จะทำให้คุณเข้าใจแมวของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปด้วย มันช่วยให้การทำโทษแมวลดน้อยลงโดยเฉพาะการทำโทษด้วยการดุด่าอย่างรุนแรงหรือการทำร้ายร่างกายซึ่งอาจจะกลายเป็นจุดแตกหักระหว่างความสำคัญของคุณและแมวที่จะทำให้แมวของคุณก้าวร้าวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

 

 

 

สนับสนุนโดย :

สมัครบาคาร่า ที่เว็บคาสิโน888 เราเป็นเว็บคาสิโนที่สมัครง่ายที่สุด เกมคาสิโน สล็อต บาคาร่าเล่นง่าย ได้เงินจริง และยังสามารถดาวน์โหลดเอาไว้เล่นบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนได้

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ทรายแมว ตัวช่วยของทาสแมวเพิ่มความง่ายในการเก็บของเสีย

ทรายแมว ตัวช่วยของทาสแมวเพิ่มความง่ายในการเก็บของเสีย 

แมวเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พวกมันนั้นสามารถขับถ่ายเป็นที่เป็นทางได้ตั้งแต่ยังเด็ก แมวจะขับถ่ายในทรายแมวหรือวัสดุที่มีความคล้ายคลึงกับทรายเท่านั้น พวกมันจึงไม่ค่อยมีปัญหาในการขับถ่ายเรี่ยราดเหมือนกับการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วทรายสำหรับขับถ่ายไม่ได้ทำมาจากทรายเพียงแค่อย่างเดียว แต่มีมากมายหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ และวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูความแตกต่างของทรายแต่ละประเภทกันว่าพวกมันมีคุณสมบัติต่างกันอย่างไรบ้าง 

เปิดความแตกต่างของทรายสำหรับแมวแต่ละประเภท 

  1. SODIUM BENTONITE เป็นส่วนผสมสำคัญในทรายแมวที่ช่วยให้สามารถดูดซับน้ำได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม สามารถขยายตัวได้เมื่อสัมผัสกับน้ำ และยังมีคุณสมบัติในการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย มีการพัฒนาให้มีกลิ่นมากมายหลากหลายรูปแบบ เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถตักของเสียแมวได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม เนื้อทรายจะเป็นเม็ดขนาดเล็กที่สามารถดูดซับน้ำได้ดีและจับตัวกันเป็นก้อน ราคาไม่แพงและหาซื้อง่าย 
  2. ซิลิก้าหรือคริสตัล เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยม ลักษณะเป็นของแข็ง แต่โครงสร้างภายในกลวง เมื่อแมวขับถ่ายทรายจะเหมือนกับฟองน้ำในการดูดซับทั้งน้ำและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผิวด้านนอกยังคงแห้ง หลังจากนั้นความชื้นจะระเหยออกไปเหลือแต่กลิ่น สามารถใช้งานด้นาน 1 เดือนสำหรับแมว 1 ตัว ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่น สามารถล้างนำเอามาใช้ซ้ำได้ แต่ปัญหาคืออันตรายต่อสัตว์เลี้ยงอื่น 
  3. วัสดุธรรมชาติ อย่างเช่นข้าวสาลี ขี้เลื่อย ข้าวโพด ต้นสน หรือแม้แต่หนังสือพิมพ์ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้เอง ย่อยสลายง่าย และเหมาะสำหรับแมวแพ้ง่าย แต่มักมีราคาที่สูง 
  4. แบบดั้งเดิม เป็นทรายเชิงพาณิชย์ที่ขายมาอย่างยาวนานมากที่สุด มีคุณสมบัติในการดูดซับของเหลว ช่วยให้เราแยกของเสียออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามธรรมชาติได้ แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

เลือกทรายสำหรับแมวอย่างไรให้เหมาะกับความต้องการของทั้งแมวและเจ้าของ

แมวแต่ละตัวนั้นมีความต้องการแตกต่างกันออกไป หากเป็นแมวแพ้ง่ายเราควรเลือกใช้ทรายแมวที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นอย่างเช่นซิลิกาหรือวัสดุธรรมชาติ แต่หากเป็นแมวที่แข็งแรงดีก็สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม อยู่ที่เจ้าของว่ามีงบประมาณเท่าไหร่ มีรูปแบบการดูแลเวลาแมวขับถ่ายอย่างไร และมีเวลาในการทำความสะอาดมากแค่ไหน หากเราสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมก็จะช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้นกว่าเดิม 

 

 

 

สนับสนุนโดย :

สมัครบาคาร่า ที่เว็บคาสิโน888 เราเป็นเว็บคาสิโนที่สมัครง่ายที่สุด เกมคาสิโน สล็อต บาคาร่าเล่นง่าย ได้เงินจริง และยังสามารถดาวน์โหลดเอาไว้เล่นบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนได้

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

เทศกาลสำคัญอยากซื้อ ของเล่นแมว ให้เป็นของขวัญทำอย่างไรดี

เทศกาลสำคัญอยากซื้อ ของเล่นแมว ให้เป็นของขวัญทำอย่างไรดี 

เข้าสู่ช่วงเทศกาลสำคัญแน่นอนว่าสำหรับทาสแมวที่รักแมวเหมือนกับลูกอย่างเรานั้นก็ย่อมอยากจะเฉลิมฉลองกับสัตว์เลี้ยงที่เรารักด้วยการซื้อของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับพวกมันสักชิ้นเพื่อให้มันรู้สึกดีใจและมีความสุขในช่วงเทศกาลที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง แต่พอถึงเวลาทาสแมวก็นั่งคิดไม่ตกว่าควรจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้แมวของเราดี ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำไอเดียการซื้อ ของเล่นแมว เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลสำคัญกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 

รวมไอเดียของขวัญให้แมวในช่วงเทศกาลสำคัญ 

  1. คอนโดแมว เป็นของที่ต้องใช้งบประมาณสักหน่อยแต่เชื่อเลยว่ามันเป็น ของเล่นแมว ที่จะต้องทำให้แมวของเราดีใจที่ได้มาอย่างแน่นอน เพราะนอกจากมันจะได้ปีนป่ายยังเต็มที่แล้วมันยังมีที่สำหรับนอนอย่างเป็นส่วนตัวอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น ของขวัญแมว ที่พิเศษเป็นอย่างมากในช่วงเทศกาลที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น 
  2. ขนม เป็นของขวัญที่ถึงแม้ว่าให้มากไปจะไม่ดีต่อสุขภาพแต่เชื่อเลยว่าแมวของคุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน เข้าสู่เทศกาลแล้วการให้รางวัลแนวเล็กๆ น้อยๆ ก็คงจะไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของควรเลือกอาหารที่ปลอดภัย สะอาด และให้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อแมวของเราจะได้สุขภาพดีต่อไป
  3. ที่นอน แมวเป็นสัตว์ที่นอนแทบตลอดเวลาและเวลาที่มันนอนสบายมันจะมีความสุขเป็นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงเวลาเทศกาลแบบนี้ของขวัญที่เหมาะสำหรับแมวก็คงจะหนีไม่พ้นที่นอนอย่างแน่นอน แต่เราต้องสังเกตให้ดีว่าแมวของเรานั้นชอบนอนแบบไหน เพราะบางตัวชอบนอนในที่นอนแบบนุ่มๆ ในขณะที่บางตัวก็ขอเพียงแค่กล่องกระดาษก็เพียงพอแล้ว
  4. กรูมมิ่ง เข้าสู่ช่วงเทศกาลทั้งทีก็ต้องดูแลความสะอาดและความสวยความงามกันสักหน่อย การพาแมวไปร้านอาบน้ำและกรูมมิ่งจะช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลายสบายใจมากกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามเราขอแนะนำให้พาเฉพาะแนวที่เคยไปมาก่อนและไม่มีอาการตกใจกลัวเท่านั้นเนื่องจากไม่ใช่แมวทุกตัวที่จะชื่นชอบการไปสปา 

ให้ของขวัญสำหรับแมวด้วยการตีตั๋วพาไปเที่ยว

ในปัจจุบันมีโรงแรมหลายแห่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้เจ้าของจึงไม่ต้องซื้อ ของเล่นแมว เป็น  ของขวัญแมว อีกต่อไปแต่สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปพักด้วยได้ ดังนั้นในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดลองตีตั๋วพาแมวไปเที่ยวภายนอกดู รับรองเลยว่าแมวของเราจะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามอย่าลืมใส่สายจูงทุกครั้งเวลาออกไปข้างนอกและระมัดระวังสิ่งที่จะทำให้เราตกใจจนวิ่งเตลิดหนีไป 

 

 

 

สนับสนุนโดย :

เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุดทำเงินด้วยมือถือ รองรับทุกระบบ ฝาก-ถอนออโต้ เว็บคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดในปี2022