Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

ลูกแมวท้องเสียเกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดอย่างมาก โดยมักจะมีวิธีทำความสะอาดตัวเองโดยการเลียขนอยู่เสมอๆ สำหรับแม่แมวที่มีลูกแมวนั้น การประคบประหงมเลี้ยงลูกแมวจึงมักจะต้องเลียขนทำความสะอาดให้กับตัวลูกแมวเป็นประจำตั้งแต่ยังตายังไม่แตก (ยังไม่ลืมตา) จนไปถึงโตแล้วก็ตาม เมื่อลูกแมวเริ่มโตมาอีกหน่อยพอจะหัดเดินและวิ่งเล่น เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้บ้าง อาจมักจะซุกซนชนิดที่ว่าเจ้าของอาจจะเผลอพลาดและทำให้ลูกแมวมีอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกแมวท้องเสียเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากที่สุด หากไม่รีบหาสาเหตุมีโอกาสเสี่ยงชีวิตได้มาก ดังนั้น ลองมาดูว่าลูกแมวท้องเสียเกิดจากสาเหตุอะไร และหากเจอแล้วมีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร ก่อนนำไปพบสัตวแพทย์ ดังนี้

  1. หากพบว่าลูกแมวท้องเสียนั้น อย่างแรกคือ ให้จับแยกลูกแมวตัวที่ท้องเสียออกมาก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอื่นได้รับเชื้อเข้าไป เมื่อแยกกรงแล้วให้สังเกตที่อุจจาระของลูกแมว ว่าถ่ายเหลวเป็นน้ำหรือถ่ายแบบเป็นยาสีฟัน (ไม่เหลวแต่ไม่เป็นก้อน) ถ้าทำได้เจ้าของควรเก็บอุจจาระของลูกแมวที่ท้องเสียไว้ เพื่อส่งให้สัตวแพทย์ได้ตรวจ ทั้งนี้วิธีแก้ไขเบื้องต้นต้องสังเกตอาการของลูกแมวอย่างละเอียดด้วย
  2. หากลูกแมวมีอาการอื่นควบคู่กันอย่างเช่น มีไข้ อาเจียน ซึม ไม่เล่นเหมือนแต่ก่อน หรือแม้แต่เหงือกมีสีซีดลง ควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะวิธีแก้ไขเบื้องต้นอาจไม่สามารถช่วยได้ เมื่อลูกแมวท้องเสียเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง และมักจะมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เจ้าของจำเป็นต้องสังเกตอาการอย่างสม่ำเสมอ เพราะลูกแมวนั้นแทบไม่ต่างกับเด็กทารกเลยด้วยซ้ำไป
  3. อาการท้องเสียในลูกแมวส่วนใหญ่ที่มักจะพบได้ว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากแมวตัวอื่นที่เป็นพาหะ หรือไม่ก็เล่นซนตามประสา และกินไปเรื่อยแบบจนทำให้ท้องเสีย หรือแม้แต่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าของเองที่อาจจะเผลอให้นมวัวกับลูกแมว ซึ่งแมวทุกตัวไม่สามารถทานนมวัวได้ เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยแลคโตสในนมวัวได้ วิธีแก้ไขเบื้องต้นอีกทางคือ เมื่อแยกลูกแมวท้องเสียแล้ว ให้งดอาหารก่อน 24 ชั่วโมง สามารถให้น้ำได้แต่น้อย แล้วดูอาการอีกที

อย่างไรก็ตามวิธีแก้ไขเบื้องต้น หากลูกแมวท้องเสียนั้น อาจไม่ได้ผลเสมอไปอย่าลืมสิ่งสำคัญว่าลูกแมวนั้น ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ ทำให้ร่างกายของลูกแมวนั้นยังไม่มีภูมิต้านทานมากนัก หากท้องเสียและมีอาการร่วมอื่นๆ หากร้ายแรงจะทำให้ลูกแมวเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทางที่ดีที่สุด คือรีบพาไปหาสัตวแพทย์จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของเจ้าเหมียวเองด้วย

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

ดูแลลูกแมวแรกเกิด ฉบับเร่งด่วนคุณทำได้ง่ายนิดเดียว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันปัญหาแมวจรในประเทศเรา ยังคงไม่สามารถแก้ไขได้ดีเท่าที่ควร หลายครั้งเราจึงต้องมักพบกับแมวจรได้ทั่วไป หนึ่งปัญหาที่หลายคนมักต้องเจออย่างเช่น มีแม่แมวท้องและตกลูกไว้ โดยที่ไม่ได้ดูแลลูกแมวแรกเกิด และทำให้ผู้ที่ไปเจอต้องรับบทคุณแม่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งลูกแมวแรกเกิดนั้น ไม่ต่างกับการเลี้ยงเด็กทารกดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็มีวิธีในการดูแลลูกแมวแรกเกิด ได้ แบบเร่งด่วนที่นำไปปฏิบัติได้จริงแน่นอน ดังนี้

ลูกแมวแรกเกิด แบบเร่งด่วน ทำได้ง่ายๆ

  1. ดูว่าลูกแมวแรกเกิด นั้นมีอายุประมาณไหน โดยปกติทั่วไปลูกแมวแรกเกิดหากมีอายุไม่ถึง 1 สัปดาห์สายรกอาจจะยังหลุดไม่หมด อาจต้องให้ความอบอุ่นมีไฟสำหรับให้ความอบอุ่น หากแม่แมวไม่ดูแล โดยคุณจำเป็นต้องรับบทคุณแม่จำเป็นเพราะลูกแมวแรกเกิดนั้นเป็นช่วงที่เปราะบางที่สุด โดย 90% จะเป็นเวลานอนและ 10% สำหรับการกินเท่านั้น
  2. เตรียมตัวตั้งรับให้พร้อม ลูกแมวแรกเกิด คือเด็กทารกดีๆ เพราะจะต้องตื่นมากินทุกๆ 2 ชั่วโมง ดังนั้นจำเป็นต้องตื่นมาให้นมกับเด็กๆ ทุก 2 ชั่วโมง โดยจะทานตามช่วงอายุตั้งแต่ 2 ซีซี ไปจนถึง 7-10 ซีซี คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกายใจ อีกทั้งยังในเรื่องของเวลาที่ต้องมีมากพอในการดูแลลูกแมวแรกเกิดเหล่านี้
  3. เลือกนมที่เหมาะกับลูกแมว และป้อนนมอย่างถูกต้อง นมที่เหมาะกับลูกแมวแรกเกิดนั้นควรเป็นนมจากแม่แมว แต่ในกรณีที่ต้องรับบทคุณแม่จำเป็น หรือช่วยลูกแมวแรกเกิดถูกทิ้งนำมาดูแล การเลือกใช้นมควรเป็นสูตรเฉพาะสำหรับลูกแมวจะดีกว่า หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ อาจใช้นมแพะได้เช่นกัน แต่ห้ามให้ลูกแมวกินนมวัวเด็ดขาด เพราะในร่างกายของแมวไม่มีจุลินทรีย์สำหรับการย่อยแลคโตสในนมวัว จะทำให้ท้องเสีย หากเป็นหนักอาจเสียชีวิตได้เลย ส่วนการป้อนนมลูกแมวนั้น แนะนำให้ใช้เป็นขวดนมสำหรับลูกแมวดีกว่า เมื่อเริ่มโตขึ้นค่อยๆ ขยับเปลี่ยนเป็นไซริงค์ หลอดฉีดยาได้ และนมที่ให้ลูกแมวกินนั้น ควรอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วย
  4. ลูกแมวแรกเกิด ยังคงต้องการความอบอุ่นจากแม่แมว แต่ถ้าหากเป็นลูกแมวที่รับอุปถัมภ์ไว้ ไม่มีแม่แมวดูแล คุณต้องรับบทแม่แมว ควรเตรียมพื้นที่อบอุ่นให้กับลูกแมว มีไฟกก (คล้ายไฟในเล้าไก่) สำหรับให้ความอบอุ่น จนกว่าลูกแมวจะลืมตา และแข็งแรงพอที่จะเดินได้ จึงค่อยๆ ปรับให้ลูกแมวอยู่ได้ในสภาพอากาศปกติ

ลูกแมวแรกเกิด ต้องอดทน

ลูกแมวแรกเกิด ไม่นาน ถือเป็นช่วงที่เปราะบางมากที่สุด ร่างกายอ่อนแอมากที่สุด จำเป็นต้องอดทนเพื่อที่จะผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เพราะถ้าหากลูกแมวเริ่มโตขึ้น ร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาทีละเล็ก หากมีปัญหาให้รีบติดต่อสัตวแพทย์ โดยทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาเป็นการดูแลลูกแมวแรกเกิดแบบฉบับเร่งด่วน ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ในสถานการณ์จริง เป็นคุณแม่จำเป็นชนิดที่คุณจะหลงรักเจ้าเหมียวจนถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

จับตาดูพัฒนาการลูกแมวกี่วันลืมตา ความน่ารักที่คุณจะได้เห็นก่อนใคร

การได้เลี้ยงสัตว์เป็นเหมือนความสุขอีกอย่างของคนรักสัตว์ อย่างเช่นเจ้าเหมียวน่ารัก ยิ่งถ้าหากแมวที่เราเลี้ยงไว้เกิดตั้งท้อง มีลูกแมวยิ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี หลายคนจึงมักจะตั้งหน้าตั้งรอดูสมาชิกใหม่ที่จะเกิดมา เพราะลูกแมวในช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 6 เดือน เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่น่ารักที่สุดของชีวิต จนเจ้าของจะหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น การสังเกตพัฒนาการต่างๆ ของลูกแมวเพื่อจะได้เป็นการบันทึกถึงสุขภาพของแมวเป็นอีกสิ่งที่เจ้าของควรใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่แรกเกิด และลูกแมวกี่วันลืมตา เริ่มเดิน หย่านม และพฤติกรรมของเจ้าเหมียวน้อย เพื่อจะได้เป็นการทำประวัติของแมวด้วย สำหรับมือใหม่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าลูกแมวแรกเกิดจะใช้เวลากี่วันลืมตา จะได้เป็นความรู้หากต้องเลี้ยงลูกแมวตั้งแต่เกิด ดังนี้

วิธีดูพัฒนาการของลูกแมวแรกเกิด ลูกแมวกี่วันลืมตา

  1. ตามธรรมชาติของแมวนั้น เมื่อตกลูกจะมีอาการดุร้าย หรือหวงลูกอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าหากเป็นแมวที่เราเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหวงลูกกับเจ้าของมากเท่าไหร่นัก แต่ในกรณีที่คุณอาจต้องรับบทคุณแม่จำเป็นคอยดูแลลูกแมว หรืออาจเป็นผู้ช่วยสำหรับคุณแม่แมวมือใหม่ ท้องแรกแล้วล่ะก็ จำเป็นต้องใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด อดหลับอดนอนเพื่อดูแลเจ้าเหมียวตัวน้อยด้วย ซึ่งในช่วงแรกนั้นลูกแมวยังไม่ลืมตา มักจะมีสายสะดือหรือรกแมวติดอยู่ โดยรกนี้จะหลุดออกไปเมื่อมีอายุตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป
  2. อีกสิ่งที่หลายคนสงสัยคือ ลูกแมวกี่วันลืมตานั้น สามารถนับจากวันแรกที่ลูกแมวเกิดถัดไปราวๆ 10-14 วัน ทั้งนี้ในลูกแมวบางตัวอาจลืมตาได้ตั้งแต่ 7-10 วันแรกหลังจากตกลูก แต่ยังไม่เห็นชัดนัก และลูกแมวทุกตัวเมื่อลืมตาแล้ว ดวงตาจะเป็นสีฟ้า แต่เมื่อเริ่มโตขึ้นดวงตาถึงจะค่อยๆ เปลี่ยนสีไปอย่างถาวร ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และยีนส์ที่ผสมพันธุ์กันอีกด้วย
  3. หากลูกแมวที่ยังลืมตาไม่สุด มักจะมีอายุราวๆ 2-3 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ในกรณีที่ลูกแมวไม่ยอมลืมตาเมื่อผ่านไปนานกว่า 2 สัปดาห์ ให้ลองเอาสำลีแบบนุ่มๆ ชุบกับน้ำอุ่นพอหมาด คอยเช็ดเบาๆ บริเวณรอบดวงตาเพื่อเป็นการกระตุ้น อาจเพราะแม่แมวไม่ได้เลียคอยทำความสะอาดให้ จนมีขี้ตาติดทำให้ลูกแมวไม่สามารถลืมตาได้ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นควรรีบพาลูกแมวไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

ลูกแมวกี่วันลืมตา ไม่ใช่ตัวชี้วัดพัฒนาการของแมว

หลายคนอาจเป็นกังวลหากลูกแมวแรกเกิดลืมตาช้า กลัวว่าลูกแมวจะตาบอด ทั้งนี้บางกรณีลูกแมวนั้นยังไม่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ หรือยังปรับสภาพแวดล้อมได้ไม่ดี การดูแลลูกแมวในเรื่องความสะอาด อุณหภูมที่อยู่ย่อมมีผลในการเจริญเติบโตของแมวทั้งนั้น ยิ่งถ้าหากคุณเป็นมือใหม่หัดเลี้ยงแมวด้วยอาจยิ่งคิดมาก แต่ทั้งนี้หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ แทรกซ้อนควรปรึกษาสัตวแพทย์โดยเร็ว เพื่อแก้ไขได้ทันท่วงทีอีกด้วย

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าลูกแมวของคุณกำลังป่วย

สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าลูกแมวของคุณกำลังป่วย

คงไม่มีแม่แมวคนไหนที่ต้องการให้ลูกแมวที่ตัวเองเลี้ยงไว้ป่วย ดังนั้นวิธีการป้องกันอันดับแรกก็คือ คุณจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบทุกเข็มตามที่สัตวแพทย์แนะนำ คุณจะต้องนำลูกแมวของคุณไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ ไปจนถึงคุณจะต้องพยายามลดความเสี่ยงทุกอย่างที่อาจทำให้ลูกแมวของคุณป่าวย หรือไม่สบาย ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่หนาวเย็นเกินไป หรือหลังจากอาบน้ำลูกแมวทุกครั้งจะต้องมั่นใจว่าคุณได้เช็ดตัว หรือเป่าขนลูกแมวจนแห่งสนิททุกครั้ง แต่แน่นอนว่าคุณก็ไม่สามารถป้องกันลูกแมวไว้ได้ทุกครั้ง แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกแมวของคุณกำลังป่วย หรือ มีอาการที่น่าเป็นห่วง ลองสังเกตุดูว่าลูกแมวของคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ ถ้าใช่ ก็เตรียมตัวพาลูกแมวของคุณไปหาหมอได้เลย

อาการของลูกแมวป่วย ที่คุณจะต้องใส่ใจ

สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าลูกแมวของคุณกำลังป่วย

ลูกแมวแต่ละสายพันธุ์อาจจะมีความเสี่ยงในการป่วยที่ไม่เหมือนกันอย่างเช่น ลูกแมวสายพันธุ์บริชติช ช็อตแฮร์ ที่อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจได้ง่าย คุณก็ควรจะต้องระวังเรื่องอาหารการกินของมันให้ดี ควบคุมน้ำหนัก และให้มันออกกำลังกายอยู่เสมอ หรือ อย่างลูกแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์ ที่มักจะมีปัญหาโรคผิวหนัง คุณก็ต้องหมั่นรักษาความสะอาด หรือมั่นหวีขนให้มันอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการของลูกแมวป่วย เป็นต้น ซึ่งโดยปกติของลูกแมว มักจะมีความซุกซน ร่าเริงถึงแม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างเรียบร้อย ลูกแมวควรกินอาหารและน้ำได้เป็นปกติ

สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าลูกแมวของคุณกำลังป่วย

แต่! หากลูกแมวของคุณ เซื่องซึมผิดปกติ กินอาหารหรือน้ำได้น้อยลง แม้ว่าคุณจะเสริฟอาหารจานโปรดให้พวกมันแล้วก็ตาม ลูกแมวของคุณมีการขับถ่ายผิดปกติ อาจมีการขับถ่ายเหลวเกินไป หรือแข็งเกินไป หรือแม่แต่ไม่ยอมขับถ่าย อุจาระ หรือปัสสาวะมีเลือดปน ขนของลูกแมวร่วงผิดปกติ หรือแข็งตั้งผิดปกติ สุดท้ายหากลูกแมวของคุณมีสีเหงือกที่เปลี่ยนไป มีอาการตัวร้อน หนาวสั่น และเซื่องซึม คุณควรพาลูกแมวของคุณไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้เป็นอาการของลูกแมวป่วย หรือ บ่งบอกว่าพวกมันมีอาการที่ผิดปกติ

การดูแลสุขภาพของลูกแมวไม่ใช่เรื่องยาก นั่นก็เหมือนกับการที่คุณได้ตัดสินใจแล้ว่าคุณต้องการที่จะรับลูกแมวเข้ามาเลี้ยงในบ้าน คุณก็จะต้องยอมรับว่าคุณพร้อมที่จะให้ความใส่ใจ ให้เวลา และแน่นอนคุณจะต้องให้สุขภาพที่ดีกับลูกแมวของคุณด้วย เราเชื่อว่าแม่แมวทุกคนก็ย่อมอยากให้ลูกแมวของตัวเองเป็นแมวที่แสนน่ารัก ร่าเริง และมีสุขภาพที่ดี เพื่อจะได้อยู่กับคุณไปนานๆ

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

เลือกอาหารลูกแมวอย่างไร ให้เจ้าเหมียวน้อยของคุณเติบโตสมวัย

การเลี้ยงลูกแมวอาจดูไม่ยาก แต่รับรองว่าก็ไม่ง่ายเช่นกัน กับการที่คุณจะต้องทำตัวเป็นแม่ให้กับเจ้าเหมียวตัวน้อยๆ สักตัว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องศึกษาให้ดีก็คือ การเลือกอาหารที่เหมาะสมและมีคุณภาพ แต่การเลือกอาหารให้ลูกแมวน้อยของคุณจะวิธีการเลือกอย่างไร ให้ลูกแมวก็ชอบ และคุณก็รู้สึกว่าใช่ เดี๋ยวเราจะได้รู้กัน

อาหารที่ใช่สำหรับลูกแมวตัวน้อย

เลือกอาหารลูกแมวอย่างไร ให้เจ้าเหมียวน้อยของคุณเติบโตสมวัย

การเลือกอาหารให้ลูกแมวอาจจะไม่ใช่เลือกง่าย และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในตอนแรกคุณอาจจะต้องซื้อมาหลายๆ แบบ เพราะลูกแมวแต่ละตัวจะชอบอาหารในแบบที่ไม่เหมือนกัน ลูกแมวบางตัวอาจจะชอบอาหารรสปลา บางตัวอาจชอบรสตับ ไปจนถึงบางตัวอาจจะชอบกินอาหารแบบเปียก มากกว่าแบบเป็นเม็ด รับรองว่ากว่าที่คุณจะเลือกอาหารให้ลูกแมวได้ลงตัวก็อาจจะเหงื่อตกได้เลยทีเดียว

แต่เรากำลังจะบอกคุณว่าไม่ว่าเจ้าลูกแมวของคุณจะชอบอาหารรสชาติแบบไหน ทั้งอาหารแบบเม็ดและแบบเปียก มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากอาหารแบบเป็นเม็ดที่นอกจากคุณจะเก็บรักษาได้ง่าย และค่อนข้างสะดวกแล้ว อาหารลูกแมวแบบแห้งยังช่วยให้ลูกแมวได้รู้จักการกัดแทะ การเล็ม ช่วยในการขัดฟันในลูกแมว ในขณะที่อาหารแบบเปียก ที่ถึงแม้จะมีความสะดวกน้อยกว่า แต่อาหารแบบเปียกจะช่วยชดเชยน้ำให้ลูกแมวได้ เพราะมีส่วนผสมของน้ำค่อนข้างเยอะ ดังนั้นหากลูกแมวของคุณไม่ชอบกินน้ำแล้วหล่ะก็ ลองพยายามให้ลูกแมวของคุณกินอาหารแบบเปียกด้วย ก็จะช่วยชดเชยน้ำให้กับเจ้าเหมียวของคุณได้เช่นกัน

อาหารลูกแมว และสูตรอาหารที่เหมาะสม

เลือกอาหารลูกแมวอย่างไร ให้เจ้าเหมียวน้อยของคุณเติบโตสมวัย

สูตรอาหารลูกแมวที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ลักษณะของลูกแมว และสภาพร่างกายลูกแมวของแต่ละบ้าน อย่างเช่นหากบ้านของคุณเลี้ยงลูกแมวขนยาว หรือขนฟูๆ อย่างเจ้าสกอตติช โฟลด์ อาจจะต้องเลือกสูตรสำหรับบำรุงขนลูกแมวเป็นพิเศษ แต่เจ้าสกอตติช โฟลด์ ก็เป็นแมวสายพันธุ์ที่อ้วนง่ายด้วยเช่นกัน ดังนั้นนอกจากสูตรอาหารบำรุงขนแล้วคุณอาจต้องระวังเรื่องการเลือกอาหารแบบที่มีปริมาณไขมันไม่มากเกินไปด้วย เป็นต้น

อย่างไรก็ตามอาหารลูกแมวแรกเกิดควรจะเป็นเพียงนมของแม่แมวเพียงอย่างเดียว ลูกแมวควรเริ่มกินอาหารประเภทอื่นๆ เสริมในตอนที่พวกมันอายุเกิน 2 เดือนไปแล้ว โดยเริ่มจากการเสริมเข้าไปในปริมาณที่น้อยๆ ก่อน และที่สำคัญทั้งอาหารหลักและอาหารเสริมของลูกแมวควรต้องเน้นไปที่อาหารที่มีปริมาณแคลเซียมและโปรตีนสูง เพื่อช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้ลูกแมวของคุณ

ไม่ว่าลูกแมวของคุณจะชอบอาหารแบบเปียก แบบเม็ด หรือ อาหารรสชาติที่แตกต่างกันในแต่ละบ้าน ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ลูกแมวของคุณจะต้องได้รับสารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน ที่จะช่วยทั้งการสร้างภูมิต้านทาน พัฒนาการทางด้านอารมณ์ และร่างกาย เพื่อให้เจ้าเหมียวน้อยได้อยู่เป็นเจ้านาย ของทาสแมวอย่างคุณไปได้นานๆ

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

ฝึกลูกแมวให้ขับถ่ายเป็นที่ ไม่ใช่บ้านไหนก็ทำได้

คุณอาจเคยเห็นตามคลิปวีดีโอในสื่อต่างๆ ที่แสดงความแสนรู้ น่ารักของลูกแมว ไม่ว่าจะเป็นลูกแมวแสนรู้ที่กินอาหารแบบเป็นที่เป็นทาง ลูกแมวที่รู้จักคาบของเล่นมาให้คุณในตอนที่พวกมันอยากจะเล่นกับคุณ หรือคำสั่งอื่นๆ ที่เจ้าลูกแมวแสนรู้สามารำทำตามคำสั่งเจ้าของมันได้ แต่เราเชื่อว่ามีนิสัยอย่างหนึ่งที่ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็อยากให้ลูกแมวทำได้ เพราะนั่นจะเป็นการลดภาระของคุณไปในตัว นั่นก็คือ นิสัยของลูกแมวในการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง แต่คุณจะทำอย่างไรให้ลูกแมวขับถ่ายให้เป็นที่ เราบอกได้เลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คุณคิด

เตรียมตัวฝึกลูกแมวให้รู้จักขับถ่ายเป็นที่

การฝึกลูกแมวให้ขับถ่ายเป็นที่ คุณจะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อน คุณจะต้องเตรียมสถานที่ที่คุณต้องการให้ลูกแมวขับถ่าย ซึ่งสถานที่นั้นควรจะมีการระบายอากาศที่ดี คุณจะต้องเตรียมกระบะทรายที่มีขนาดที่เหมาะสมกับลูกแมว ทรายที่ใช้ในกระบะทรายจะต้องมั่นใจว่าจะสามารถดูดซับของเสียที่ลูกแมวถ่ายไว้ได้เป็นอย่างดี ทรายจะต้องมีคุณภาพและที่สำคัญ ทรายยี่ห้อที่คุณเลือกจะต้องไม่มีสารเคมีจนทำให้ลูกแมวของคุณเกิดอาการแพ้ หรือรู้สึกระคายเคืองกับผิวของลูกแมวได้

วิธีฝึกลูกแมวให้ขับถ่ายเป็นที่

ไม่ว่าลูกแมวของคุณจะเป็นลูกแมวที่แสนรู้ อย่างสายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ อเมริกันช็อตแฮร์ หรือ บริชติชช็อตแฮร์ ก็ล้วนแล้วแต่ต้องการ การฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่ทั้งนั้น และการฝึกให้ลูกแมวขับถ่ายเป็นที่ตั้งแต่พวกมันตัวเล็กๆ ย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการฝึกในตอนที่พวกมันโตแล้ว ซึ่งขั้นตอนการฝึกลูกแมวให้ขับถ่ายเป็นที่ สามารถทำได้ง่ายๆ ใน 5 ขั้นตอนเท่านั้น ได้แก่

  1. คุณจะต้องวางกระบะทรายไว้ที่เดิม และถูกที่ทุกครั้ง เพื่อให้ลูกแมวได้รู้จัก และจำสถานที่ขับถ่ายของมันได้
  2. กระบะทราย 1 อัน สำหรับลูกแมว 1 ตัว นั่นหมายถึงหากคุณเลี้ยงลูกแมวหลายตัวคุณก็จะต้องมีกระบะทรายตามจำนวนลูกแมว เพราะพวกมันจะใช้การจดจำกลิ่นในการแสดงความเป็นเจ้าของ
  3. ทำให้ลูกแมวของคุณคุ้นเคยกับกระบะทรายของมัน ในครั้งแรกๆ คุณอาจต้องพาลูกแมวไปยังกระบะขับถ่ายด้วยตัวคุณเองก่อน เพื่อให้ลูกแมวคุ้นชินกับการใช้กระบะทราย
  4. รางวัลสำหรับเด็กดี เช่นเดียวกับการฝึกคำสั่งอื่นๆ คือ เมื่อลูกแมวของคุณสามารถไปขับถ่ายเป็นที่ในกระบะทรายของมันเองแล้ว คุณควรให้รางวัล หรือ มอบคำชมเชยให้กับลูกแมวด้วย
  5. รักษาความสะอาดของกระบะทรายอยู่เสมอ เพราะ คุณจะต้องไม่ลืมว่า แมว เป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก นั่นรวมถึงลูกแมวของคุณด้วย

การฝึกลูกแมวให้ขับถ่ายเป็นที่อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกแมวสามารถทำได้แล้ว นั่นหมายถึง คุณที่จะไม่ต้องทนเก็บกวาดของเสียจากลูกแมวแสนน่ารักของคุณที่ทิ้งไว้ทั่วบ้านอีกต่อไป

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

ภัยร้ายในบ้านที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อลูกแมว

สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจรับลูกแมวเข้าบ้าน และคิดว่าตัวเองได้เตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นทั้งการศึกษานิสัยของลูกแมว ไปจนถึงการเตรียมพร้อมเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นอน สถานที่ขับถ่าย อาหาร นั่นอาจจะยังไม่พอ เพราะอีกหนึ่งอย่างที่คุณควรจะเตรียมให้พร้อมคือ การป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ภายในบ้านของคุณเอง แต่อันตรายเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง หรือคุณควรจะระมัดระวังอย่างไร คุณต้องอ่านบทความนี้ เนื่องจากเราได้รวบรวมอันตรายที่อาจเกิดในบ้านสำหรับลูกแมว รวมถึงวิธีป้องกันไว้ให้คุณที่นี่แล้ว

อันตรายสำหรับลูกแมว ที่อาจเกิดขึ้นได้ในบ้านของคุณ

ภัยร้ายในบ้านที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อลูกแมว

คุณอาจจะคิดว่าการที่คุณกักบริเวณลูกแมวของคุณไว้แต่ในบ้านนั้น จะเป็นการช่วยป้องกันอันตรายสำหรับลูกแมวอย่างดีที่สุดแล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าภายในบ้านของคุณ หากไม่ระมัดระวังให้ดีก็อาจทำให้เกิดอันตรายไปแพ้กับการที่ลูกแมวหลุด ออกไปนอกบ้านเลยทีเดียว แต่อันตรายเหล่านั้นจะสามารถป้องกันได้อย่างไร เราจะลองมาดูกัน

  1. ปลั๊กไฟ นี่อาจเป็นอันตรายสำหรับลูกแมวอันดับต้นๆ ที่คุณอาจจะต้องป้องกันเป็นอันดับแรก คุณสามารถหาอุปกรณ์ที่ช่วยปิดปลั๊กไฟ มาปิดไว้ทุกจุดที่ลูกแมวของคุณจะเข้าถึง แต่ต้องไม่ลืมว่าลูกแมวที่ซุกซน ปีนป่ายเก่งจะสามารถเข้าถึงปลั๊กไฟที่อยู่สูง ๆ ได้ด้วยนะ
  2. ปิดประตูห้องน้ำให้ดี ซึ่งห้องน้ำอาจจะเป็นอีกหายนะหนึ่งที่เป็นอันตรายสำหรับลูกแมวได้ โดยเฉพาะบริเวณโถส้วมที่ลูกแมวอาจจะตกลงไปจมน้ำ หรือหากบ้านไหนมีอ่างอาบน้ำ หรือ ถังรองน้ำ ก็ควรจะปิดให้มิดชิด เพราะในห้องน้ำที่ทั้งลื่น และมีถังน้ำเปิดฝาไว้ ล้วนแต่เป็นอันตรายกับลูกแมวทั้งสิ้น นั่นยังรวมไปถึงน้ำยาล้างห้องน้ำที่ลูกแมวอาจจะเข้าไปเล่นและกินลงไปได้
  3. ยา ตู้ยา และสารเคมีในบ้าน ทุกครั้งคุณจะต้องมั่นใจว่าได้เก็บยา หรือ ปิดตู้ยา หรือ สถานที่ที่คุณเก็บสารเคมีต่าง ๆ ไว้อย่างมิดชิดแล้ว เพราะหากลูกแมวกินยาที่คุณทิ้งไว้ หรือปีนขึ้นไปเปิดรื้อตู้ยา แล้วกินยาลงไป นั่นถือว่าเป็นอันตรายสำหรับลูกแมวแน่นอน
  4. ของเล่นที่เป็นอันตราย สำหรับลูกแมวทั้งหลายที่มีของเล่นประจำตัว คุณจะต้องระมัดระวังให้ดีว่าของเล่นของลูกแมวจะไม่ชำรุด หรือไม่มีส่วนเล็กจากของเล่นที่สามารถหลุดเข้าไปในปากเล็ก ๆ ของมัน เพราะชิ้นส่วนเหล่านั้นอาจเข้าไปติดคอลูกแมว เป็นสาเหตุให้มันหายใจไม่ออกได้
ภัยร้ายในบ้านที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อลูกแมว

ก่อนรับลูกแมวเข้าบ้านคุณควรจะต้องระมัดระวังอันตรายเหล่านี้ไว้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่หากคุณต้องออกจากบ้านโดยต้องทิ้งลูกแมวให้อยู่ที่บ้านตามลำพังก็ควรเก็บของ รักษาความสะอาดให้ดี เพื่อให้คุณมั่นใจว่าในตอนที่คุณไม่อยู่บ้าน ลูกแมวแสนรักของคุณจะอยู่ที่บ้านอย่างปลอดภัย

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

เตรียมตัวลูกแมวของคุณให้พร้อม ต้อนรับฤดูหนาวที่จะมาถึง

เตรียมตัวลูกแมวของคุณให้พร้อม ต้อนรับฤดูหนาวที่จะมาถึง

ย่างเข้าเดือนพฤศจิกายนแล้ว ก็ถึงเวลาต้องต้อนรับฤดูหนาวอันสุดแสนจะฟินที่ใครก็เฝ้ารอ และแน่นอนว่าทาสแมวอย่างเราคงจะต้องไม่นึกถึงเฉพาะตัวเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีเจ้านายตัวน้อยเป็นลูกแมวอันแสนน่ารัก ก็คงต้องเตรียมตัวรับมือกับช่วงฤดูหนาวให้เจ้าหนูน้อยของคุณด้วยเช่นกัน

อุปกรณ์จำเป็นของลูกแมว ที่จะช่วยให้คลายหนาว

เตรียมตัวลูกแมวของคุณให้พร้อม ต้อนรับฤดูหนาวที่จะมาถึง
  1. เสื้อน่ารักๆ ที่แสนอบอุ่น ไม่ว่าคุณจะเลือกเลี้ยงลูกแมวสายพันธุ์ไหน ทั้งอเมริกัน ช็อตแฮร์, สก็อตติช โฟลด์ หรือบริติช ช็อตแฮร์ ที่อาจจะดูมีขนฟูนุ่มกันหนาวได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับน้องเหมียวที่ตัวยังเล็ก ๆ ก็คงต้องการเสื้อกันหนาวอุ่นๆ อยู่ดี ลองหาเสื้อกันหนาวน่ารักๆ สำหรับเจ้าตัวเล็กเตรียมไว้ ที่นอกจากจะทำให้เจ้าหนูน้อยดูน่าเอ็นดูขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เจ้าเหมียวตัวน้อยอุ่นขึ้นได้เยอะเลย
  2. ที่นอนนุ่มๆ แสนอบอุ่น นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญสำหรับผู้ที่เลี้ยงเจ้าแมวน้อย ที่นอนอุ่นๆ จะช่วยให้ลูกแมวของคุณได้นอนหลับสบายทั้งคืน แม้ว่าอากาศจะหนาวสักแค่ไหน เช่นเดียวกับคุณเพราะเจ้าเหมียวน้อยก็ชอบที่จะมีความสุขอยู่ในที่นอนแสนอบอุ่นตลอดคืน
  3. อุโมงค์กันหนาว คุณอาจเตรียมอุโมงค์กันหนาวไว้ให้ลูกเหมียวน้อยด้วย เพราะนอกจากอุโมงค์จะช่วยให้ลูกแมวของคุณรู้สึกเป็นส่วนตัวแล้ว อุโมงค์ยังจะช่วยให้กันลมหนาวไม่ว่าจากแอร์ พัดลม หรือลมหนาวจากธรรมชาติที่อาจทำให้ลูกแมวน้อยของคุณไม่สบายได้

การดูแลสุขภาพลูกแมวให้พร้อมรับหน้าหนาว

การดูแลสุขภาพลูกแมวให้พร้อมรับหน้าหนาว

นอกจากการที่คุณจะต้องดูแลการฉีดวัคซีนของลูกแมวให้ครบถ้วน มีการถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ เลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพให้กับลูกแมวแล้ว ในช่วงฤดูหนาว สุขภาพลูกแมวของคุณก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษด้วย เพราะความหนาวอาจทำให้เจ้าหนูน้อยที่ภูมิคุ้มกันยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก ป่วยได้ง่ายมากขึ้น คุณอาจจะต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกแมวให้ใกล้ชิดมากขึ้น มีการรักษาความสะอาดสิ่งของ ของเล่น กรง ที่นอน ที่ขับถ่าย และถาดอาหารของลูกแมวไม่ให้เปียกชื้น จนกลายเป็นตัวก่อเชื้อไวรัสที่จะส่งผลกับสุขภาพของเจ้าเหมียวตัวน้อย

และหากคุณสังเกตเห็นว่าลูกแมวของคุณมีอาการซึม ตาแฉะ มีน้ำมูก ไม่กินอาหารแล้วหล่ะก็ คุณควรจะนำลูกแมวไปพบแพทย์ทันที เพราะนั่นเป็นอาการบ่งชี้ว่าสุขภาพลูกแมวอาจไม่ดีนัก หรือเจ้าเหมียวอาจได้รับเชื้อไข้หวัดแมว ที่มักจะมาพร้อมกับอากาศอันหนาวเย็นของช่วงฤดูหนาวได้

ลูกแมว ก็เหมือนกับเด็กน้อยที่เมื่อกระทบกับความเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรืออากาศที่หนาวเย็นเมื่อไหร่ก็อาจทำให้ป่วยได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นคุณควรดูแลและเตรียมพร้อมให้ดีเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว เพราะคุณคงไม่อยากให้ลูกแมวตัวน้อยของคุณเจ็บป่วยอย่างแน่นอน

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

ฝึกลูกแมวให้เชื่อฟัง ด้วยคำสั่งง่ายๆ

ฝึกลูกแมวให้เชื่อฟัง ด้วยคำสั่งง่ายๆ

ไม้อ่อนดัดง่าย ไม่ได้เป็นเรื่องที่ใช้ได้กับเด็กๆ เท่านั้น สำหรับลูกแมวสำนวนนี้ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน การฝึกลูกแมวที่หลายคนฟังแล้วอาจจะดูเหมือนยาก แต่ในความเป็นจริงคุณอาจไม่รู้คือว่า มีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถฝึกลูกแมวที่คุณเลี้ยงให้เชื่อง และแสนรู้ได้ตั้งแต่ที่พวกมันยังเป็นตัวเล็กๆ ที่เรารับรองว่าใครๆ ก็ทำได้

ลูกแมวเชื่องได้ แสนรู้ได้

ฝึกลูกแมวให้เชื่อฟัง ด้วยคำสั่งง่ายๆ

แมวได้ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่แสนฉลาด เจ้าเล่ห์ ซึ่งคุณต้องไม่ลืมว่าลูกแมวตัวน้อยแสนน่ารักของคุณ อันที่จริงแล้วมีวิวัฒนาการมาจากเสือ ลูกแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ เพียงแค่ต้องการความสม่ำเสมอและการเอาใจใส่จากคุณเท่านั้น และด้วยสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่ในตัวลูกแมวอยู่แล้ว จะสามารถช่วยให้คุณฝึกพวกมันได้ง่ายขึ้น

ก่อนอื่นคุณจะต้องเตรียมอุปกรณ์การฝึกให้พร้อม ซึ่งลูกแมวก็ไม่ได้ต่างจากเด็กๆ ที่เป็นลูกคนมากเท่าไหร่ อุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างแรกสำหรับการฝึกก็คือ “รางวัล” ซึ่งรางวัลสำหรับลูกแมวอาจจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ดที่พวกมันโปรดปราณ ขนมที่ลูกแมวชอบ หรืออาจจะเป็นการลูบหัว การกอด หรือแม้แต่การชมเชย ที่จะสามารถแสดงให้ลูกแมวรู้สึกว่าสิ่งที่พวกมันกำลังทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และอย่าลืมว่าก่อนที่คุณจะเริ่มฝึกลูกแมวทุกครั้ง คุณจะต้องแน่ใจว่าลูกแมวของคุณอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะรับการฝึก และไม่อยู่ในอารมณ์ที่เครียด

คำสั่งฝึกลูกแมว ที่คุณก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

ฝึกลูกแมวให้เชื่อฟัง ด้วยคำสั่งง่ายๆ

คำสั่งในการฝึกลูกแมวที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ก่อนอื่นคุณจะต้องฝึกให้ลูกแมวคุ้นเคยกับคน ด้วยการพาลูกแมวออกไปเดินเล่น และพาไปยังสถานที่ต่างๆ ให้บ่อยครั้งเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ ให้ลูกแมวตัวน้อยของคุณได้เรียนรู้ว่ารอบๆ ตัวพวกมันไม่ได้มีอะไรที่น่ากลัว จากนั้นคุณสามารถเลือกคำสั่งฝึกลูกแมวง่ายๆ เช่น ฝึกคำสั่งให้พวกมันนั่ง โดยเริ่มต้นจากการสั่งให้พวกมันนั่งลงก่อนที่จะขออาหารและเมื่อพวกมันทำตาม คุณก็สามารถให้อาหารเป็นรางวัล หรือคำสั่งง่ายๆ อย่างการเรียกให้มันมาหา โดยการเรียกชื่อลูกแมวในระยะประมาณ 1 เมตรและสบตากับมัน และเมื่อมันทำตามคำสั่งคุณอาจจะลูบหัวมัน พร้อมด้วยคำชมที่จะทำให้พวหมันรู้สึกดี เป็นต้น

คุณสามารถฝึกลูกแมวได้ด้วยการเลือกใช้คำสั่งง่ายๆ หรือท่าทางที่คุณกับลูกแมวของคุณสามารถสื่อสารให้เข้าใจตรงกันได้ แค่ต้องการสิ่งที่สำคัญคือ ความสม่ำเสมอ และความใส่ใจ เพื่อให้เจ้าลูกแมวเข้าใจ และทำจนเป็นนิสัยเท่านั้นเอง

Categories
ลูกแมวในฟาร์ม

ปลอกคอสำหรับลูกแมวนั้น สำคัญอย่างไร? จำเป็นไหม?

ปลอกคอสำหรับลูกแมวนั้น สำคัญอย่างไร? จำเป็นไหม?

ปลอกคอสำหรับลูกแมวนั้น สำคัญไฉน

ข่าวคราวเกี่ยวกับลูกแมวสูญหายที่มีให้ได้บ่อยตามหน้าสื่อโซเชียลต่างๆ ทั้งผู้ที่เจอกับลูกแมวหลงทางแล้วช่วยพวกมันตามหาเจ้าของ ไปจนถึงเจ้าของที่ตามหาลูกแมวแสนรัก คุณคงไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกแมวของคุณ แต่หากคุณยังลังเลว่าการเลือกสวมปลอกคอนั้นจำเป็น หรือจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กับคุณได้หรือไม่ ลองมาอ่านอีกหนึ่งความคิดเห็นจากเราดู ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ลูกแมวกับปลอกคอ

ปลอกคอสำหรับลูกแมวนั้น สำคัญไฉน

หากจะพูดถึงการสวมปลอกคอให้กับลูกแมวนั้น อาจจะมีเสียงความคิดเห็นแตกออกเป็น 2 เสียง ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่บรรดาทาสแมวในต่างประเทศมักเลือกที่จะสวมปลอกคอ รวมถึงการฝังชิพ ไว้ที่หลังของลูกแมวตั้งแต่วันแรกที่รับพวกมันเข้าบ้าน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ หรือ ให้ง่ายกับการตามหาเมื่อลูกแมวหลงทางกลับบ้าน คุณจะต้องไม่ลืมว่าลูกแมว ไม่เหมือนกับลูกสุนัข พวกมันชอบอิสระ ไม่ชอบถูกกักขัง ดังนั้นการที่ลูกแมวของคุณชอบแอบหนีไม่เล่นนอกมากในช่วงที่คุณเผลอ หรือ ออกไปข้างนอก นั้นถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นการใส่ปลอกคอที่มีทั้งชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของคุณอยู่บนนั้นอาจทำให้ผู้ที่พบเจ้าลูกแมวของคุณจะสามารถติดต่อให้คุณไปรับมันได้อย่างสะดวก แต่หากคุณไม่ได้สวมปลอกคอไว้ คนที่พบเห็นอาจจะจนปัญญาที่จะช่วยลูกแมวของคุณตามหาเจ้าของได้

แต่ในเสียงที่กลับกับของคนบางกลุ่มที่เชื่อว่า ลูกแมวที่แสนจะซุกซนนั้น มีนิสัยที่ชอบปีนป่าย ดังนั้นการที่ใส่ปลอกคอให้มันอาจจะส่งผลเสีย ทำให้เกิดอันตรายกับเจ้าลูกแมวแทน โดยหากขณะที่ลูกแมวปีนป่ายปลอกคออาจจะไปเกี่ยวกับอะไรบางอย่างทำให้พวกมันติด โดนปลอกคอรัด และอาจจะถึงแก่ชีวิตได้

การเลือกปลอกคอลูกแมว

ปลอกคอสำหรับลูกแมวนั้น สำคัญไฉน

ทุกๆ อย่างมักจะมี 2 ด้านเสมอ ดังนั้นคำแนะนำของเราคือ ควรจะสวมปลอกคอให้ลูกแมว แต่ต้องเลือกปลอกคอให้ลูกแมวอย่างเหมาะสม โดยปลอกคอลูกแมวที่คุณเลือกจะต้องมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น พอดีกับรอบคอของลูกแมว ไม่ยาวเกินไปจนเกะกะ หรือไม่สั้นเกินไปจนรัดคอลูกแมว ที่สำคัญปลอกคอลูกแมวของคุณจะต้องสามารถขาดได้เมื่อได้รับแรงดึง หรือรับน้ำหนักประมาณหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดกับลูกแมวในขณะที่พวกมันปีนป่าย และที่สำคัญอย่าลืมใส่ชื่อลูกแมว และระบุเบอร์โทรศัพท์ของคุณไว้ด้วย ในกรณีที่ลูกแมวของคุณหลงทางผู้ที่พบเห็นจะได้โทรแจ้งคุณได้

คงไม่มีแม่คนไหนที่อยากให้ลูกแมวแสนรักหาย หรือออกห่างจากอก การสวมปลอกคอลูกแมวเป็นวิธีป้องกันไว้ก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งเราเชื่อว่าสำนวนที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” ยังคงใช้ได้ผลเสมอ