Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ดูแลแมวอย่างไร อายุเยอะก็ต้องสุขภาพดีด้วย

ดูแลแมวอย่างไร อายุเยอะก็ต้องสุขภาพดีด้วย

แมวแต่ละช่วงวัย จะต้องการการดูแลแตกต่างกัน หากแมวคู่ใจของคุณไม่ใช่แมวหนุ่มสาวอีกต่อไปแต่กำลังเข้าสู่วัยชรา เป็นแมวสูงวัยที่พละกำลังถดถอย แต่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องดูแลกันและกันให้ถึงที่สุด ดังนั้น มาเรียนรู้วิธีการดูแลแมวสูงวัยให้มีความสุขกันเถอะ

“แมวสูงวัย” อยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่

การจะทราบอายุที่แท้จริงของแมว ต้องทราบก่อนว่าแมวมีอายุเฉลี่ยกี่ปี ? คำตอบคือ 12 ปี โดยแรกเกิด- 1 ปี เป็นช่วงวัยเด็ก อายุ 1-7 ปี จะเป็นช่วงโตเต็มวัย อายุ 7-12 ปีขึ้นไป จะเป็นวัยสูงอายุ ที่ร่างกายเริ่มเสื่อมสมรรถภาพในหลายๆด้าน  

การดูอายุแมวสูงวัยสามารถประเมินคร่าวๆได้จากลักษณะภายนอก แววตาที่ขุ่นมัว ผิวหนังเหี่ยวย่น  สีขนเริ่มไม่สม่ำเสมอกัน ซึ่งจะเห็นได้ชัดในแมวบริติชช็อตแฮร์สีล้วน ก็บอกถึงความโรยราแห่งวัยได้ 

แมวสูงวัยมีสภาวะอารมณ์เปลี่ยนไปอย่างไร

แมววัยเด็กจะอยากรู้อยากเห็น แมวโตเต็มวัยจะบ้าพลัง โลดโผน ส่วนแมวแก่ชราจะสงบ ใช้พลังงานน้อย เท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่เวลาจะหมดไปกับการนอนหลับ ในด้านสภาพจิตใจ แมวแก่จะมีระบบต่อมไร้ท่อที่เสื่อมลงด้วย ทำให้ฮอร์โมนต่างๆไม่ปกติ จะมีอาการหวาดผวา ตกใจง่าย ขี้กลัว บางครั้งจะต้องให้ยากล่อมประสาทเพื่อลดความวิตกกังวลและมีอาการหลงลืม เช่น ลืมว่ากินอาหารไปแล้ว  เผลอเดินออกจากบ้านแล้วหลงทาง  ลืมชื่อของตัวเอง ลืมจุดวางกระบะทราย เป็นต้น ดังนั้น แมวสูงวัยจึงต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

โรคตามวัยที่ต้องระวังเอาไว้

โรคที่รุมเร้าแมวสูงวัยมักจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภายในร่างกาย เช่น หลอดเลือดและหัวใจ  โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคไต ซึ่งต้องคอยหมั่นตรวจสุขภาพกับคุณหมอเพื่อเสาะหาความเสี่ยงต่อโรคและยืนยันโรคได้ทันที ซึ่งแมวชราพันธุ์บริติชช็อตแฮร์และอเมริกันช็อตแฮร์ จะเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจมากที่สุด  ส่วนแมวแก่พันธุ์สกอตติชโฟลด์ จะเสี่ยงต่อโรคกระดูกและข้อต่อ ทำให้เคลื่อนที่ช้าลง แต่ทั้งสามพันธุ์มีความเสี่ยงต่อโรคเหงือกและฟันเท่าๆกัน

วิธีการดูแลแมวสูงวัยให้สุขภาพดี

  1. ดูแลด้านโภชนาการ ให้แมวสูงวัยได้รับสารอายุที่เหมาะสมกับอายุ ในปริมาณสอดคล้องกับความต้องการของร่างกายของช่วงวัย พร้อมกับมีชามน้ำรอบๆบ้านเพื่อให้สะดวกในการกินน้ำ เพราะน้ำจำเป็นมากสำหรับแมวชรา
  2. พาออกกำลังกายเบาๆ แมวแก่เอาแต่นอนจะยิ่งทำให้ร่างการอ่อนแอ จึงควรพาเดินออกกำลังในบริเวณบ้าน หรือ ชวนเล่นๆรอบบ้านให้พอได้สนุก กระฉับกระเฉงขึ้น
  3. วางกระบะทรายไว้หลายจุด ภายในบ้าน เพราะอาการหลงลืม บางครั้งแมวสูงวัย ลืมจุดที่วางกระบะทรายหรือถ่ายไม่เป็นที่ก่อนจะสามารถเดินถึงกระบะทราย เพราะไม่มีแรงเดินหรือปีนกระบะทรายนั่นเอง
  4. ดูแลสุขอนามัยอยู่เสมอๆ เช่น แปรงขน ตัดเล็บ ทำความสะอาดหู ขอบตา เพื่อป้องกันเชื้อโรคเนื่องจากแมวแก่ ถูมิต้านทานโรคจะลดลง
Categories
สายพันธ์แมว อเมริกัน ช็อตแฮร์

แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

ถ้าอยากเลี้ยงแมวสำหรับกำจัดหนู แมวอเมริกันช็อตแฮร์ ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก เพราะแข็งแรง คล่องแคล่วและมีสัญชาตญาณนักล่าเต็มเปี่ยม เป็นแมวที่อยู่คู่การสร้างแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ซึ่งการจะเลี้ยงแมวอเมริกันช็อตแฮร์ แม้ลักษณะจะเป็นแมวลุยๆ แต่ก็มีข้อปฏิบัติและข้อควรระวังต่างๆที่ควรรู้

ถิ่นกำเนิดของแมวอเมริกันช็อตแฮร์

          อเมริกันช็อตแฮร์ มีต้นกำเนิดมาจากยุโรปและล่องเรือพร้อมกับผู้อพยพมายังแผ่นดินสหรัฐอเมริกาในช่วงสร้างประเทศ แต่คาดว่าบรรพบุรุษของแมวพันธุ์นี้ อาจจะเป็นแมวสายพันธุ์บริติชช็อตแฮร์หรือแมวสายพันธุ์ยุโรป อเมริกันช็อตแฮร์ถูกพัฒนาสายพันธุ์ในสหรัฐอเมริกา จึงถือเป็นแมวพื้นเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา

ลักษณะของแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์

          ลักษณะของแมวอเมริกันช็อตแฮร์จะมีขนสั้น หนาและเส้นขนแน่น ลำตัวมีขนาดกลางและมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หูกางตั้ง ตาโตรี เหมือนผลอัลมอนด์ หน้าผาโค้งนูน ลำคอหนา โดยตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 2-5 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีน้ำหนักตัวประมาณ 2-6 กิโลกรัม ตามลักษณะกายภาพ ตัวเมียจะตัวเล็กกว่าตัวผู้ แต่อาจจะสามารถอ้วนกว่าได้

          ลวดลายของอเมริกันช็อตแฮร์เป็นสิ่งที่โดดเด่น เพราะมีถึง 80 ลาย  ทั้งลายสีล้วน ลายกระดองเต่า ลายCalico ลายTabby และลายแบบไล่สี (Shaded) จะทำให้ราคาแมวอเมริกันช็อตแฮร์สูงขึ้นตามลวดลายที่ชัดเจนและหายาก ส่วนสีนั้น หลายคนตั้งคำถามว่าอเมริกันช็อตแฮร์มีกี่สี  ซึ่งจริงๆแล้ว อเมริกันช็อตแฮร์จะมีสีได้หลากหลาย ตั้งแต่ขาว ดำ ครีม เงิน ทอง น้ำตาล  สี Camero สี Bluecream และสีควันบุหรี่

สิ่งที่ควรระวังเมื่อเลี้ยงแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์

          แมวสายพันธ์อเมริกันช็อตแฮร์มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูงที่สืบทอดตามพันธุกรรม เพราะแมวพันธุ์นี้สภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา (Hypertrophic Cardiomyopathy : HCM) ซึ่งกล้ามเนื้อที่หนา จะหด-คลายตัวช้า สูบฉีดเลือดได้น้อยกว่าแมวพันธุ์อื่นๆ ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงอเมริกันช็อตแฮร์ จึงควรสืบค้นประวัติของแมวที่จะเลี้ยงว่ามาจากแมวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีประวัติความเสี่ยงโรคหัวใจหรือไม่ และควรดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อป้องกันโรคหัวใจ

          นอกจากโรคหัวใจ ยังมีโรคผิวหนังและเชื้อรา เพราะภูมิคุ้มกันเชื้อราต่ำ จึงควรดูแลความสะอาด  ความอับชื้นในที่นอนแมว กระบะทรายแมวและหมั่นหวีขน จะช่วยป้องกันเชื้อราได้

การผสมพันธุ์และการทำหมัน

          การผสมพันธุ์แมวอเมริกันช็อตแฮร์นิยมผสมในสายพันธุ์เดียวกัน ซึ่งจะได้ลูกแมวอเมริกันช็อตแฮร์พันธุ์แท้ หรือผสมข้ามสายพันธุ์กับแมวบริติช ช็อตแฮร์ และ แมวสกอตติชโฟลด์ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดใกล้เคียงกัน ซึ่งถ้าลูกแมวที่เกิดจากการผสมอเมริกันช็อตแฮร์เข้ากับแมวบริติชช็อตแฮร์ แมวเปอร์เซีย หรือ พันธุ์อื่นๆ จะถือว่าเป็นลูกผสม ไม่มีชื่อเรียกสายพันธุ์ แต่ถ้าผสมกับแมวสกอตติชโฟลด์ ลูกที่เกิดมาจะเป็นสกอตติชโฟลด์ 

          แมวพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ที่เหมาะกับการนำมาผสมพันธุ์คือ อายุ 1 ปีขึ้นไป และสามารถทำหมันได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป แต่หลังจากทำหมัน แมวจะมีรูปร่างอ้วนง่ายขึ้น จึงควรดูแลความคุมน้ำหนักแมวหลังทำหมัน

Categories
สุขภาพ

น้องแมวต้องขับถ่ายเป็นก้อน

น้องแมวต้องขับถ่ายเป็นก้อน

การขับถ่ายเป็นสุขลักษณะหนึ่งที่บ่งบอกว่าแมวของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงดีหรือไม่ น้องแมวควรที่จะขับถ่ายเป็นก้อน แต่ถ้าอยู่ๆ น้องแมวถ่ายเหลว หรือถ่ายแล้วมีสิ่งปนเปื้อนไม่พึงประสงค์ ผู้เลี้ยงควรจะใส่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างและมีวิธีการรับมือกับปัญหานี้อย่างไร

อุจจาระแบบไหน ที่แสดงว่าแมวสุขภาพดี

            อุจจาระของแมวที่มีสุขภาพดีคือ อุจจาระจับตัวเป็นก้อน มีสีน้ำตาลเข้มแบบสีช็อกโกแลต  ไม่แห้งและไม่เหลวจนเกินไป ซึ่งจะเรียกว่า “Pickable”  เพราะอุจจาระแมวจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบ 75% ของทั้งหมด แต่ถ้ามีลักษณะของอุจจาระแตกต่างไปจากนี้ ไม่มากนัก ก็ยังไม่ถือว่าผิดปกติ เว้นเสียแต่ว่ามีลักษณะไม่พึงประสงค์ที่บ่งบอกว่าผิดปกติชัดเจน เช่น แมวถ่ายเป็นเมือกใสๆ หรือ แมวถ่ายเป็นเลือด

แมวท้องผูก/ท้องเสีย  อันตรายมาก !

            โดยปกติ แมวควรถ่ายวันละ 1-3 ครั้ง แต่ถ้าไม่ถ่ายนานถึง 2-3 วัน เป็นไปได้ว่า เหมียวของคุณอาจจะกำลังลำบากกับอาการท้องผูกที่จะทำให้แมวอึดอัด เจ็บปวดเมื่อพยายามขับถ่ายแต่ไม่ออก ตามมาด้วยอาการป่วยและเซื่องซึม หากปล่อยเอาไว้จนอุจจาระค้างในลำไส้เป็นเวลานานๆ จนลำไส้ใหญ่มีขนาดใหญ่มาก เรียกว่า สภาวะ Megacolon ซึ่งจะเห็นท้องแมวมีลักษณะนูนๆบวมๆ ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลำไส้ใหญ่ สาเหตุมักจะมาจากการกินน้ำน้อย ได้รับสารอาหารที่เป็นไฟเบอร์น้อยหรือมีก้อนขนอุดตันทางเดินอาหารอยู่

            ส่วนอาการท้องเสีย คืออาการที่แมวถ่ายเหลวหรือถ่ายเหลวปนเลือด ซึ่งจะทำให้น้องแมวอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เซื่องซึมจากการไม่สบายตัวและปวดบิดในท้อง ในการถ่ายแต่ละครั้ง แมวจะสูญเสียน้ำมาก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ต่อให้น้ำหรือน้ำเกลือแร่เข้าทดแทนอย่างเร่งด่วนและนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ โดยสาเหตุของการท้องเสียจะเกิดจากความเครียด สารพิษ การเปลี่ยนอาหาร มีแผลในระบบทางเดินอาหาร

โรคเกี่ยวกับการขับถ่ายของแมว

            นอกจากอาการท้องผูก ท้องเสียทั่วๆไป แมวสามารถเกิดโรคที่ส่งผลกับระบบขับถ่ายได้อีกหลายโรค เช่น    

  • โรคพยาธิ –  แมวถ่ายเป็นเมือกใสๆ
  • โรคอ้วน โรคไทรอยด์เป็นพิษ  - แมวถ่ายเป็นอุจจาระสีซีดและมีก้อนไขมันปน
  • โรคตับ – แมวถ่ายเป็นอุจจาระสีเหลืองสด มีกลิ่นเหม็นรุนแรง

วิธีที่ทำให้แมวขับถ่ายเป็นก้อน

            น้ำดื่มของแมวต้องสะอาดเสมอ – ควรเปลี่ยนน้ำสะอาด วางไว้ข้างชามอาหารให้แมวทุกวัน เพราะน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าเหมียวไม่ท้องผูกและช่วยให้ไม่เกิดอาการช็อคจากการสูญเสียน้ำมากเกินไป หากท้องเสีย

            ไม่เปลี่ยนอาหารทันที – การเปลี่ยนอาหารก็มีผลต่อการขับถ่ายที่ผิดปกติของแมว จึงไม่ควรเปลี่ยนอาหารทันทีแต่ใช้วิธีค่อยๆผสมกับอาหารเดิม

            ให้อาหารไขมันต่ำ และไฟเบอร์สูง – อาหารไขมันต่ำจะช่วยให้ถ่ายเป็นก้อน ไม่มีไขมันเจือปนในอุจจาระ ป้องกันการท้องเสียและอาหารไฟเบอร์สูงจะช่วยให้ไม่ท้องผูก

            ออกกำลังกายเป็นประจำ – การพาน้องแมวออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้กล้ามเนื้อลำไส้ของแมวเกิดการบีบตัวที่ดี สม่ำเสมอ

Categories
สุขภาพ

5 ยี่ห้อ อาหารแมว

5 ยี่ห้อ อาหารแมว

ในปัจจุบัน อาหารแมว แต่ละยี่ห้อต่างก็คิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาเพื่อแมวโดยเฉพาะ ตั้งแต่การแก้ปัญหาแมวเหมียวเบื่ออาหารด้วยการแต่งกลิ่น ปรุงรสให้น่ากินสุดๆ ไปจนถึงรักษาโรคต่างๆในแมวด้วย แต่ถ้าคุณกำลังลังเลว่าเลือกอาหารแมวยี่ห้อไหนดี ที่เชื่อมั่นได้ว่าจะดีกับน้องเหมียวสุดรัก เรามีรีวิวอาหารแมว มาฝากและรู้จักการจัดเกรดอาหารแมวเพื่อที่จะเลือกได้แบบไม่งง

อาหารแมว 5 ยี่ห้อที่คนรักแมวแนะนำ

1. อาหารแมวยี่ห้อ Royal Canin อาหารแมวยี่ห้อยอดนิยมของกลุ่มชาวทาสแมว เพราะเป็นยี่ห้อเพื่อสุขภาพของแมว จุดเด่นคือรสชาติกำลังดี ไม่เค็มจนเกินไป และการคิดค้นสูตรของยี่ห้อนี้ครอบคลุมทุกความต้องการของคนเลี้ยงแมว ไม่ว่าแมวของคุณจะเป็นแมววัยไหน เลี้ยงในบ้านหรือเลี้ยงนอกบ้าน อาหารยี่ห้อนี่จะมีสูตรอาหารต่างๆที่เหมาะกับแมวแต่ละลักษณะ จัดเป็นอาหารแมวเกรดพรีเมี่ยม

2. อาหารแมวยี่ห้อ Maxima อาหารแมวจากผู้ผลิตไทย ในราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า ถึงแม้จะเป็นแบรนด์ไทยแต่ได้รับการยอมรับระดับโลกจาก องค์กร AAFCO ยี่ห้อจะใช้เนื้อแกะอย่างดีเป็นส่วนประกอบหลัก ตามด้วยสารอาหารอื่นๆที่แมวต้องการตามแต่ละสูตรอย่างครบถ้วน จุดเด่นคือ มีสูตรรักษาโรคนิ่วในแมวได้ จัดเป็นอาหารแมวเกรดพรีเมี่ยม

3. อาหารแมวยี่ห้อ Purina One อาหารแมวเกรดเทียบเท่า Royal Canin ในราคาที่ย่อมเยากว่า ซึ่งแบรนด์นี้ถูกคิดค้นโดยสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารสัตว์จึงมั่นใจว่าเป็นสูตรที่ดีกับน้องแมวแน่นอน จัดเป็นอาหารแมวเกรดพรีเมี่ยม

4. อาหารแมวยี่ห้อ Hill’s อาหารแมวที่ผลิตมาจากการสังเกตพฤติกรรมการกินแมวอย่างเข้าใจถ่องแท้ เพื่อให้การผลิตออกมาตอบโจทย์ความต้องการของแมวแบบสำเร็จรูป จัดเป็นอาหารแมวเกรดพรีเมี่ยม

5. อาหารแมวยี่ห้อ Friskies ยี่ห้อที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นอาหารแมวที่ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน เพราะอุดมด้วยแคลเซียม โอเมก้า โปรตีน จากเนื้อปลาแท้ๆที่ใช้ในการผลิต แต่มีรสชาติเค็มพอสมควร จัดเป็นอาหารแมวเกรดทั่วไป

จัดเกรดอาหารแมว ดูยังไง

            การจัดเกรดอาหารแมว จะแบ่งเกรดตามวัตถุดิบที่นำมาผลิตอาหาร ซึ่งจะมี 3 เกรดหลักๆ ได้แก่

อาหารแมวเกรดโฮลิสติก (Holistic Grade) เป็นอาหารแมวแบบชีวจิตที่คุณภาพวัตถุดิบดีกว่าเกรดพรีเมี่ยมเพราะเน้นความออแกร์นิค เป็นสูตรที่ดีต่อสุขภาพของแมว และที่สำคัญ Grain Free ปราศจากธัญพืชทุกชนิด เพราะเป็นอันตรายต่อแมวเหมียว

อาหารแมวเกรดพรีเมี่ยม (Premium Grade) ผลิตจากวัตถุดิบชั้นดี เป็นเนื้อสัตว์มีคุณภาพ และในขบวนการผลิตจะมีการทำวิจัยค้นคว้าส่วนผสม คุณค่าทางโภชนาการต่างๆมาแล้วทำให้มีราคาที่สูงตามไปด้วย แต่จะแน่ใจได้ว่า น้องแมวที่เรารักจะได้กินอาหารคุณภาพดี

อาหารแมวเกรดทั่วไป (Standard Grade)เป็นอาหารเกรดทั่วไปที่ใช้วัตถุดิบที่เหลือจากการผลิตอาหารของคนหรือเศษอาหารจากการเกษตร มาผลิตต่อเป็นอาหารสัตว์ จึงมีราคาถูก หาซื้อง่าย แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องส่วนผสมบางอย่างที่ไม่ดีกับน้องแมว สัดส่วนไม่คงที่ หรือมีรสชาติไม่พอดี เค็มเกินไปสำหรับแมว

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ของเล่นแมว

ของเล่นแมว

สิ่งหนึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการพัฒนาสมองและร่างกายของแมวทุกวัยได้ดีก็คือ​ ของเล่นแมว เพราะถึงอย่างไร แมวก็ต้องการที่จะสนองสัญชาตญาณการเล่นหรืออยากใช้การเล่นให้เป็นช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับเจ้าของ จึง ควรมาดูกันว่า หากทาสแมวควรซื้อของเล่นให้แมว ควรเป็นของเล่นแบบไหน​

ของเล่นแแมว

เลือกของเล่นแมวให้ถูกใจเจ้าเหมียว

          ของเล่นที่เหมียวๆชอบส่วนใหญ่จะเป็นของเล่นที่เคลื่อนไหวได้ มีเสียง​ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของแมวได้ดีกว่าของเล่นไม่มีเสียง​ รวมถึง​ของเล่นที่มีการใช้แคทนิปเป็นส่วนประกอบที่ช่วยให้แมวเคลิบเคลิ้ม​ สนุกสนานระหว่างเล่น​ ก็ถูกใจเจ้าเหมือนไม่น้อย แต่ทั้งนี้ ควรดูลักษณะนิสัยของแมวเป็นหลักเพราะบางทีถึงซื้อของเล่นน่าสนุกให้ แต่เจ้าเหมียวกลับอยากเล่นกล่องกระดาษเสียอย่างนั้น

เล่นให้เป็นการออกกำลังกาย

          การเล่นของเล่นของแมว นอกจากจะเล่นด้วยความเพลิดเพลิน ยังเป็นการฝึกความคล่องแคล่ว  การเคลื่อนไหวของแมวได้ดีเหมือนเป็นการออกกำลังกาย ดังนั้น เจ้าของสามารถใช้ของเล่นในการชักชวนให้เจ้าหนูมาออกกำลังกายได้ด้วย ทั้งสนุกและดีต่อสุขภาพ

ของเล่นแมว DIY เหมียวก็เลิฟ

          ของเล่นแมวไม่จำเป็นต้องแพง​ อาจจะเป็นของเล่นแมว​ DIY​ จากวัสดุภายในบ้าน​ ​ แมวก็ชอบเล่นเช่นกัน​ เช่น ของเล่นแมวจากไหมพรมม้วนที่เหลืออยู่​ ของเล่นแมวกัดจากเศษไม้มาทาทามิ ซึ่งวิธีทำของเล่น DIY ให้แมว มีให้ศึกษาวิธีทำง่ายๆในปัจจุบัน

ของเล่นแมวที่เหมาะกับแมวสกอตติชโฟลด์

          แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ เป็นแมวตัวกลมที่อยากรู้อยากเห็น ชอบเรียนรู้ แต่ไม่ได้ชอบที่จะเคลื่อนไหวร่างกายมากนัก ของเล่นที่เหมาะกับแมวสกอตติชโฟลด์จึงเป็น เกมฝึกสมองประลองปัญญาต่างๆ เช่น การทายว่าลูกบอลอยู่ในแก้วใบไหน หลังจากสลับที่แก้ว เกมตบหัวตัวตุ่นที่จะโผล่มาจากหลุม

ของเล่นแมวที่เหมาะกับแมวบริติชช็อตแฮร์

          ถ้าแมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ อยากจะเล่น แมวบริติชจะเป็นฝ่ายชวนเล่นเอง โดยจะคาบของเล่นมาให้เป็นชวนว่า มาเล่นกันเถอะ ของเล่นที่เหมาะกับแมวบริติชช็อตแฮร์คือ ตุ๊กตาปลาสอดไส้แคทนิป ลูกบอลไหมพรม หนูปลอม ซึ่งจะเน้นเป็นของเล่นที่ไม่ต้องออกแรงมาก และเป็นของเล่นที่ถึงเจ้าของจะไม่เล่นด้วย แมวก็สามารถเล่นเองได้

ของเล่นแมวที่เหมาะกับอเมริกันช็อตแฮร์

          อเมริกันช็อตแฮร์ เป็นแมวที่มีพลังงานล้นเหลือ ชอบการเคลื่อนไหว ชอบการล่า ของเล่นที่เหมาะสมกับอเมริกันช็อตแอร์ก็คือ ของเล่นที่จะทำให้แมวได้แสดงออกเกี่ยวกับสัญชาตญาณนักล่า เช่น ไม้ล่อแมว หนูปลอมแบบเคลื่อนที่เองได้ ให้แมววิ่งไล่จับ เลเซอร์ล่อแมว คอนโดแมวสูงๆที่จะให้ปีนได้อย่างอิสระ

Categories
สุขภาพ

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพของแมว

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพของแมว

          เมื่อเลี้ยงแมวและแมวที่รักก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไปแล้ว ทุกคนล้วนจึงอยากจะดูแลให้เหมียวจอมป่วนประจำบ้าน อยู่กับเราไปนานๆ แต่การที่เหมียวจะอายุยืน จะต้องเริ่มมาจากการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีพร้อม ตามเกณฑ์การประเมินในทางการแพทย์ ที่จะเป็นตัววัดผลยืนยันว่าเจ้าแมวน้อยๆของเราปลอดภัยจากโรคภัยทุกประการ 

ดูแลสุขภาพของแมว

วัคซีน เกาะป้องกันชั้นยอด

          การดูแลแมวตามหน้าที่ของผู้เลี้ยงอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก็ช่วยให้แมวมีสุขภาพที่ดีในเบื้องต้น แต่เท่านั้นไม่พอ ต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แมวด้วยการเสริมวัคซีนตามเกณฑ์ทุกปี ซึ่งจะมีวัคซีนแมวป้องกันโรคต่างๆเช่น โรคไข้หัด โรคหวัดแมว ตาอักเสบ โรคพิษสุนัขบ้า  โรคลิวคีเมียในแมว โรคเอดส์แมว เยื่อบุช่องท้องอักเสบ เหล่านี้จะเป็นวัคซีนหลัก โดยวัคซีนเข็มแรกจะเริ่มฉีดเมื่อแมวมีอายุ 8 สัปดาห์ ขึ้นไปและฉีดต่อไปตามโปรแกรม ควบคู่กับการถ่ายพยาธิทุก 3 เดือน

แมวอ้วน ดีจริงหรือ

          แมวอ้วน เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนเพราะน้องแมวจะดูน่ารักปุ๊กลุก แต่ในความจริงแล้ว การที่แมวอ้วนและมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องแมวมากๆ  นำไปสู่โรคต่างๆมากมาย เช่น โรคทางเดินปัสสาวะ โรคข้อต่อและกระดุก โรคเบาหวาน ที่อาจส่งผลให้แมวอายุสั้นเพราะบางโรค ร้ายแรวถึงแก่ชีวิตเลยทีเดียว แมวที่สุขภาพดีจึงเป็นแมวที่มีรูปร่างสมส่วน น้ำหนักตามเกณฑ์

แมวอ้วน

สุขภาพมาคู่กับความงาม

          สุขภาพขน เล็บ หนวด ที่ดีสำคัญต่อร่างกายและสุขภาพจิตของแมวเพราะแมวเป็นสัตว์รักสะอาดและดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีเสมอ  ควรหมั่นแปรงขนบ่อยเพื่อให้ระบบเลือดใต้ผิวหนังไหลเวียนดีขึ้น ขนของแมวจะเงางามขึ้น อาบน้ำและเป่าขนให้แห้งสนิท ตัดเล็บ ทำความสะอาดหูให้เรียบร้อย เพราะนอกจากความสวยความงามแล้ว ในเล็บ หู ก็จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่อาจจะบั่นทอนสุขภาพแมวของคุณด้วย

เลี้ยงระบบปิด กักตัวไกลโรค

          แม้จะไร้อิสระ ซึ่งผิดกับธรรมชาติการเป็นนักล่าและนักท่องราตรีของแมว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลี้ยงระบบปิดในบ้านหรือห้องที่มิดชิดนั้นปลอดภัยที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อจากแมวจรจัดภายนอกบ้านหรือการบาดเจ็บที่เกิดจากการวิวาท หวงห้ามอาณาเขตกันของแมว ซึ่งบาดแผลเหล่านั้นก็อาจจะทำให้เกิดการแผลติดเชื้อหรือบาดทะยักตามมา

แมว

ตรวจสุขภาพแมวทุกปีนะ

          สุดท้าย การจะมั่นใจว่าแมวมีสุขภาพแข็งแรงเต็มป่วยก็ต้องพาแมวของเราไปตรวจสุขภาพแมวประจำปี ว่าปีที่ผ่านมา กินเยอะไปไหม ข้อต่อยังดีหรือเปล่า สุขภาพฟันและอื่นๆ และโอกาสที่จะทำวัคซีนแมวโปรแกรมเสริมประจำปีให้แมว นอกจากวัคซีนหลักด้วย

ตรวจสุขภาพแมว
Categories
สกอตติชโฟลด์ สายพันธ์แมว

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

          อีกหนึ่งสายพันธุ์แมวที่ครองใจคนรักแมว คือ สกอตติชโฟลด์ สุดน่ารัก แต่การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแมวที่กำลังจะเลี้ยง เป็นสิ่งสำคัญมากทีเดียว ถ้าคุณกำลังจะเลี้ยงแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ มีหลายสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแมวพันธุ์นี้ เพื่อการเลี้ยงแมวภายใต้ความเข้าใจและเป็นผลดีกับแมว

ถิ่นกำเนิดของแมวสกอตติช โฟลด์

          แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ มีต้นกำเนิดในประเทศสกอตแลนด์ ตามชื่อของสายพันธุ์ สกอตติช บรรพบุรุษคือแมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ที่มาผสมกับแมวพันธุ์พื้นเมือง จนยีนส์หูพับแสดงออกมา เป็นลูกแมวหูพับชื่อว่า ซูซี่ ต่อมาลูกหลานของซูซี่ ได้พัฒนาสายพันธุ์มาจนเป็นแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์และพันธุ์ไฮแลนด์โฟลด์

ลักษณะกายภาพของแมวสกอตติช โฟลด์

          ลักษณะของสกอตติช โฟลด์ จะเป็นแมวที่มีศีรษะกลม แก้มป่องกลม ดวงตากลมโต มีทั้งขนสั้น (Longhair) และขนยาว (Shorthair) หางและขาจะกลมมนเช่นกัน ส่วนหูจะมีทั้งหูพับและหูตั้ง น้ำหนักของตัวเมียจะอยู่ที่ 2-4 กิโลกรัม และตัวผู้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 4-6 กิโลกรัม

สิ่งที่ควรระวังเมื่อเลี้ยงแมวสกอตติชโฟลด์

          แมวสกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่จะมีปัญหาสุขภาพเรื่องของน้ำหนักตัว ด้วยลักษณะเป็นแมวที่รูปร่างท้วม อ้วนง่าย ทำให้จะส่งผลต่อหลังและกระดูกขาที่ต้องรับน้ำหนักตัวของแมว เพราะแมวสกอตติชโฟลด์จะมีข้อต่อกระดูกอ่อนแออยู่แล้วเนื่องจากยีนส์หูพับนั้น คือยีนส์ข้อต่อกระดูกไม่แข็งแรง ที่มีผลกับข้อต่อทั้งร่างกายด้วย ผู้เลี้ยงจึงต้องใส่ใจเรื่องอาหาร ควรเป็นอาหารที่เสริมสร้างกระดูก มีไขมันในปริมาณที่พอดีและดูแลควบคุมน้ำหนักของแมว

          แมวสกอตติชโฟลด์มีอัตราการผลัดขนที่สูง อาจจะนำมาสู่โรคก้อนขนอุดตัน สำหรับสกอตติชโฟลด์ขนสั้น ควรดูแลเรื่องการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และสกอตติชโฟลด์ขนยาว ควรแปรงขนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

การผสมพันธ์และการทำหมัน

          ในการผสมพันธุ์ของแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์นั้น มีข้อห้ามที่ไม่ควรนำแมวสกอตดิชโฟลด์หูพับผสมกัน เพราะจะยิ่งทำให้ยีนส์หูพับที่ส่งผลต่อกระดูกข้อต่อรุนแรงมากขึ้น ทำให้ลูกแมวที่เกิดมา อาจจะมีความพิการนั่นเอง แต่สามารถผสมกับแมวสกอตติชโฟลด์หูตั้งได้ รวมถึงสามารถผสมพันธุ์กับสายพันธุ์ใกล้เคียงกันอย่างบริติชช็อตแฮร์และอเมริกันช็อตแฮร์ได้ โดยลูกที่เกิดมา จะถือว่าเป็นสกอตติชโฟลด์ทั้งหมด แต่ยังมีการนำแมวสกอตติชโฟลด์ผสมพันธุ์กับแมวเปอร์เซีย ซึ่งลูกแมวสกอตติชโฟลด์ผสมเปอร์เซียไม่เป็นที่ยอมรับและไม่ถือว่าเป็นสกอตติชโฟลด์

          ลูกแมวสกอตติชโฟลด์ จะสามารถสังเกตลักษณะว่าเป็นหูพับหรือหูตั้ง เมื่อมีอายุ 3 สัปดาห์ขึ้นไป ในการทำหมันแมวสกอตติชโฟลด์นั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป แต่หลังจากการทำหมันแล้ว จะทำให้แมวอ้วนขึ้น ซึ่งสกอตติชโฟลด์จะอ้วนง่ายกว่าแมวพันธุ์อื่นๆ

Categories
บริติช ช็อตแฮร์ สายพันธ์แมว

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

แมวบริติชช็อตแฮร์ มีต้นกำเนิดมาจากโรมัน ในสมัยสงครามโรมันและอังกฤษ ซึ่งเดินทางมากับกองทัพโรมันและผสมพันธุ์กับแมวพื้นเมืองอังกฤษ จนพัฒนาสายพันธุ์มาเป็น บริติชช็อตแฮร์  และแมวบริติชช็อตแฮร์นี้ ยังเป็นต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์สกอตติชโฟลด์ และอเมริกันช็อตแฮร์อีกด้วย ทำให้ทั้งสามสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกันที่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ได้

ถิ่นกำเนิดของแมวบริติชช็อตแฮร์

          แมวบริติชช็อตแฮร์ มีต้นกำเนิดมาจากโรมัน ในสมัยสงครามโรมันและอังกฤษ ซึ่งเดินทางมากับกองทัพโรมันและผสมพันธุ์กับแมวพื้นเมืองอังกฤษ จนพัฒนาสายพันธุ์มาเป็น บริติชช็อตแฮร์  และแมวบริติชช็อตแฮร์นี้ ยังเป็นต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์สกอตติชโฟลด์ และอเมริกันช็อตแฮร์อีกด้วย ทำให้ทั้งสามสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกันที่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ได้

บริติชช็อตแฮร์

ลักษณะของแมวบริติชช็อตแฮร์

          ลักษณะร่างกายของแมวบริติชช็อตแฮร์ จะเป็นแมวที่มีรูปร่างกะทัดรัด หัวกลมใหญ่ หน้าผากนูน ลำตัวหนา ใบหูเล็กแต่ฐานกว้าง ปลายมน คอสั้น ตากลมโต ลักษณะโดยรวมคล้ายกับสกอตติชโฟลด์

          ลักษณะขนของแมวพันธุ์นี้ จะขนสั้นและหนา นุ่ม แน่น ส่วนสีขนของบริติชช็อตแฮร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ บริติชช็อตแฮร์สีบลูและบริติชช็อตแฮร์สีทอง ซึ่งจะมีราคาสูงมาก แต่มีสีอื่นๆที่สวยงามและพบได้ในปัจจุบันคือ สีควันบุหรี่ สีครีมเข้ม สีเงิน สีดำเงา

          แมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ เป็นแมวที่มีความสวยงามเป็นจุดเด่น นิยมนำมาประกวดมากพอๆกับแมวสวยงามพันธุ์อื่นๆ อย่าง เมนคูน  เปอร์เซีย  อเมริกันเคิร์ล  เบงกอล  จึงมีการแบ่งเกรดแมว เป็นเกรด Show สำหรับประกวด, เกรด Breed สำหรับการผสมพันธุ์ต่อ สวยงามเท่าเกรด Show และเกรด House Pet เป็นเกรดสัตว์เลี้ยงหรือที่เรียกว่า บริติชช็อตแฮร์เกรดเลี้ยงเล่น ที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป

สิ่งที่ควรระวังเมื่อเลี้ยงแมวบริติชช็อตแฮร์

          แมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ จะมีโรคประจำตัวตามพันธุกรรมหลักๆ คือ โรคหัวใจ เช่นเดียวกับอเมริกันช็อตแฮร์ ซึ่งอาจจะถ่ายทอดถึงกันได้ เนื่องจากมีการผสมข้ามสายพันธุ์กัน และโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) สาเหตุจากการมีโปรตีนที่จำเป็นในร่างกายน้อยและโปรตีนบางชนิด ร่างกายแมวผลิตเองไม่ได้ ผู้เลี้ยงต้องดูแลเรื่องอาหาร ให้แมวทานอาหารที่มีโปรตีนจำเป็นครบถ้วนและดูแลไม่ให้แมวประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ควรเลี้ยงในระบบปิด เมื่อพาออกจากบ้านควรมีสายจูง

british-shorthair
cat

การผสมพันธุ์และการทำหมัน

          การผสมพันธุ์ นิยมผสมกับพันธุ์เดียวกันหรือผสมกับอเมริกันช็อตแฮร์และสกอตติชโฟลด์ แต่ในช่วงศตวรรษที่ 19 เคยมีการนำแมวบริติชช็อตแฮร์ผสมกับแมวพันธุ์เปอร์เซียอย่างแพร่หลาย ก่อนที่จะลดความนิยมลงเพราะมีการศึกษาเรื่องผลเสียของการผสมข้ามสายพันธุ์มากขึ้น จนกระทั่งปัจจุบัน การผสมพันธุ์แมวบริติชช็อตแฮร์กับแมวเปอร์เซียยังไม่ถูกยอมรับ รวมถึงไม่ยอมรับการนำแมวที่สืบเชื้อสายมาจากบริติชช็อตแฮร์ อย่าง อเมริกันช็อตแฮร์และสกอตติชโฟลด์ ไปผสมกับแมวเปอร์เซียเช่นกัน

          อายุของแมวบริติชช็อตแฮร์ที่เหมาะกับการนำมาผสมพันธุ์คืออายุ 1 ปีขึ้นไป ทั้งตัวผู้และตัวเมีย และสามารถทำหมันได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป และควรควบคุมน้ำหนักของแมวหลังทำหมันเพราะแมวจะมีสภาวะอ้วนง่ายขึ้น