Categories
สุขภาพ

วัคซีน แมว สิ่งสำคัญที่คนเลี้ยงแมวควรใส่ใจดูแล 

การรับแมวมาเลี้ยง 1 ตัวนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายและภารกิจที่ตามมาอีกมากมาย เพราะเมื่อเรารับพวกเขามาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วย่อมต้องการให้พวกเขาอยู่กับเราไปอีกนานๆ แต่พวกเขาจะอยู่กับเราได้ไม่นานหากมีอาการป่วยโดยเฉพาะโรคร้ายแรงของแมวทั้งหลาย

สิ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือการฉีดวัคซีนเช่นกับมนุษย์นั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าหลังรับแมวมาแล้วตัวนึงเราจะต้องพาพวกเขาไปฉีด วัคซีน แมว อะไรบ้าง 

รวม วัคซีน แมว ที่คนเลี้ยงแมวต้องทำให้ครบ 

วัคซีนแมว
  • โรคพิษสุนัขบ้า เป็นวัคซีนแมวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อที่พบได้ทั่วไปในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และยังสามารถติดต่อมาสู่มนุษย์ได้อีกด้วย สัตว์ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีพฤติกรรมดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด 
  • โรคหัดแมว เป็นวัคซีนที่ป้องกันการเกิดปัญหาแมวป่วยได้เป็นอย่างดี เพราะลูกแมวส่วนใหญ่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมากกว่าปกติ ส่งผลให้แมวมีอาการขาดน้ำ เบื่ออาหาร มีไข้ ซึม และอาเจียน หากลูกแมวมีอาการป่วยเป็นโรคนี้โอกาสที่จะรักษาหายค่อนข้างต่ำ
วัคซีนแมว
  • โรคเอดส์แมว เป็นโรคที่คล้ายคลึงกับเชื้อไวรัส HIV ที่พบได้ในมนุษย์ ทำให้ภูมิคุ้มกันภายในร่างกายบกพร่อง สามารถแบ่งออกได้เป็นถึง 5 ระยะเลยทีเดียว แต่หากสามารถพบได้เร็วและรักษาอย่างถูกวิธีก็จะช่วยยืดอายุแมวได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่การฉีดวัคซีนป้องกันไม่ให้แมวมีอาการป่วยเป็นโรคนี้อย่างแน่นอน
  • โรคไข้หวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิดที่มีอาการป่วยแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการเบื่ออาหาร ไอ จาม มีไข้ เจ็บปวดเนื้อตัว หากติดเชื้อไวรัสรุนแรงอาจส่งผลถึงชีวิตเลยทีเดียว
วัคซีนแมว
  • โรคลูคีเมีย เป็นมะเร็งที่สามารถพบได้บ่อยแถมยังสามารถติดต่อผ่านน้ำลาย ของเสีย หรือเส้นขนได้อีกด้วย ส่วนใหญ่มักพบว่ามีไข้สูง ท้องเสีย น้ำหนักลง หายใจไม่สะดวก 

แมวควรฉีดวัคซีนเมื่อมีอายุครบกี่เดือน 

วัคซีนแมว

หากรับลูกแมวมาดูแลตั้งแต่เป็นแมวแรกเกิดนั้นควรพามารับวัคซีนแมวเมื่อมีอายุครบ 8 สัปดาห์ ไม่ควรให้ฉีดวัคซีนทันทีหลังคลอดเนื่องจากยังไม่หย่านมแม่ที่มีภูมิคุ้มกันจึงยังไม่จำเป็นต้องฉีดแต่อย่างใด

แต่หากลูกแมวไม่มีประวัติสุขภาพแล้วรับมาเลี้ยงในภายหลัง มีอายุเกิน 8 สัปดาห์ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ทันทีหากไม่มีอาการแมวป่วย หากรับแมวโตมาเลี้ยงและไม่ทราบประวัติสุขภาพควรกักตัวดูอาการประมาณ 2 สัปดาห์แล้วพามาพบแพทย์เพื่อวางแผนในการฉีดวัคซีนต่อไป 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

โภชนาการอย่างไรให้ อาหารแมว เหมาะสมกับแมวของคุณ 

เมื่อเลี้ยงสัตว์สิ่งสำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญและใส่ใจมากที่สุดอีกหนึ่งสิ่งก็คือเรื่องเกี่ยวกับ อาหารแมว อาหารเป็นตัวชี้วัดว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะมีสุขภาพดีมากน้อยแค่ไหน หากพวกมันได้รับอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการพวกมันก็จะมีร่างกายแข็งแรงและอยู่กับเราไปอย่างยาวนาน

อาหารแมว

แต่หากสัตว์เลี้ยงของเราได้รับอาหารอย่างไม่ถูกต้องก็จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตามมา นอกจากจะทำให้สัตว์เลี้ยงอายุสั้นแล้วยังทำให้คุณต้องเผชิญกับปัญหาการรักษาซึ่งการเข้าโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว ศึกษาเกี่ยวกับโภชนาการอาหารของสัตว์เลี้ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับใครที่กำลังเลี้ยงแมววันนี้เราจะพาไปดูกันว่าเลือกโภชนาการอย่างไรให้อาหารแมวที่เราเลือกนั้นเหมาะสมกับแมวของเรามากที่สุดกัน

วิธีการเลือกโภชนาการ อาหารแมว ให้เหมาะกับแมวของเรา 

อาหารแมว

หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ชัดแมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกเหมือนกับมนุษย์ดังนั้นพวกมันจึงต้องการอาหารแมวที่มีโภชนาการเหมาะสำหรับแมวโดยเฉพาะ เพื่อให้มีร่างกายแข็งแรง รูปร่างดี ขนสวยอย่างที่ควรจะเป็น สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงแมววันนี้เราก็มีเทคนิคการเลือกโภชนาการอาหารที่เหมาะสมกับแมวของเรามาแนะนำกัน โดยธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารหลักของแมวจึงต้องเน้นเนื้อสัตว์เป็นหลัก สิ่งสำคัญก็คือโปรตีน รองลงมาคือบรรดาคาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ และวิตามินที่จำเป็น 

อาหารแมว
  1. ลูกแมว ควรเลือกอาหารที่มีความสะอาด มีคุณภาพ สารอาหารครบถ้วนถูกต้องตามโภชนาการเพราะมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรงตามวัย ช่วยพัฒนาภูมิคุ้มกันและสมองรวมไปถึงการมองเห็นอีกด้วย แมวที่มีอายุ 3 สัปดาห์ถึง 1 ปีจึงต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูงเป็นพิเศษ ควรเน้นแคลเซียมและฟอสฟอรัสสำหรับการพัฒนากระดูกและข้อต่อโดยเฉพาะในช่วง 4 เดือนแรก และที่ขาดไม่ได้ก็คือกรด DHA ที่ช่วยเสริมสร้างสมองและการมองเห็น 
  2. แมวโตเต็มวัย หนังอย่านมและกินอาหารเม็ดได้แล้ว แมวมักจะชอบอาหารที่มีรสชาติเข้มข้นเนื่องจากอาหารลูกแมวที่มีโปรตีนสูงจะมีรสชาติที่เข้มข้นจนทำให้แมวชิน แต่อย่างไรก็ตามเราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอาหารโดยเน้นให้มีใยอาหารสูง ปริมาณแคลอรี่ต่ำ เพื่อลดการเกิดก้อนขน ช่วยให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้ดี ทำให้แมวที่อยู่แต่ในบ้านไม่มีน้ำหนักเกิน เน้นแคลเซียมและฟอสฟอรัสเพื่อเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อให้มีความแข็งแรงมากขึ้น โอเมก้า 3 และ 6 จะช่วยบำรุงขนและผิวหนังให้สุขภาพดี และสารต้านอนุมูลอิสระทั้งซีลีเนียมและวิตามินเอ วิตามินอี จะช่วยเสริมภูมิต้านทานได้มากยิ่งขึ้น 

เลือกอาหารให้แมว ขั้นตอนที่ต้องพิถีพิถันเพื่อสุขภาพที่ดี 

อาหารแมว

อาหารแมวเป็นสิ่งที่คนเลี้ยงแมวต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมากเพื่อให้แมวของเรานั้นมีสุขภาพที่ดี โดยเราจะต้องเลือกอาหารให้ถูกต้องตามแต่ละช่วงวัย มีคุณค่าทางโภชนาการที่สมดุลตามความต้องการของแมวในแต่ละวัย สำหรับใครที่ไม่มีเวลาเราขอแนะนำให้เลือกเป็นอาหารเม็ดที่มีการคำนวณโภชนาการและความเหมาะสมของแมวมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลเกี่ยวกับอาหารของแมวมากยิ่งขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวท้อง อีเวนท์ใหญ่ในชีวิตแมวที่ทาสต้องเตรียมตัวรับมือ 

เชื่อว่าคนเลี้ยงแมวหลายคนเวลามีแมวอยู่แล้ว 1 ตัวก็ย่อมรู้สึกว่ากลัวแมวจะเหงาเวลาพาเราไปทำงานเพราะพวกเขาต้องอยู่ตามลำพังตัวเดียว ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงซื้อแมวมาเพิ่ม แต่ปัญหาก็คือหากแมวของคุณไม่ได้ทำหมันและซื้อแมวใหม่ที่เป็นเพศตรงข้ามกันมา มีโอกาสสูงเป็นอย่างมากที่แมวตัวเมียจะท้อง กลายเป็นงานใหญ่สำหรับคนเลี้ยงแมวในทันที เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เป็นสัญญาณเตือนหรือว่า แมวท้อง ให้คุณได้เตรียมตัวรับมือเป็นตายายที่ดีต่อไปในอนาคตกัน 

รวมสัญญาณเตือนที่กำลังจะบอกคุณว่าแมวท้อง 

แมวท้อง
  • หลังโค้ง เมื่อแมวท้องพวกเขาจะรู้สึกหนักท้องและทำให้ตอนที่เดินอยู่นั้นมีหลังที่โก้งโค้งเป็นพิเศษ ยิ่งหากท้องของพวกเขาใหญ่และกลมโตมากขึ้นนั่นเป็นสัญญาณที่บอกได้เป็นอย่างดีว่าแมวของคุณกำลังตั้งท้องอย่างแน่นอน
  • หัวนมขยาย หลังจากที่แมวผสมพันธุ์เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านไปไม่เกิน 18 วันหากพบว่าแมวตัวเมียหัวนมมีการขยายใหญ่ขึ้นและสีเปลี่ยนไปเป็นสีแดงหรือสีชมพู มีของเหลวที่มีลักษณะคล้ายกับน้ำนมไหลออกมา เป็นสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขากำลังตั้งท้องหรือกำลังจะเข้าสู่ภาวะซีดสัตว์
แมวท้อง
  • กินเก่งและนอนเยอะ เวลาพวกแมวตั้งท้องสุขภาพแมวของพวกเขานั้นไม่แตกต่างอะไรจากคน พวกเขาจะนอนหลับพักผ่อนมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ค่อยออกไปวิ่งสักเท่าไหร่ ไม่เพียงเท่านั้นพฤติกรรมการกินยังเปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย พวกเขาจะกินเร็วกินเยอะมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าของต้องระวังให้ดีเพราะหากให้แมวกินอาหารมากเกินไปจะทำให้คลอดลำบากและเป็นอันตรายต่อแม่แมว
  • ทำรัง เมื่อแมวตั้งท้องใกล้จะคลอดลูกเต็มทน พวกเขาจะมีพฤติกรรมแปลกประหลาดนั่นก็คือการสร้างรังนั่นเอง พวกเขาจะเตรียมพร้อมในการคลอดลูกโดยหาบริเวณที่เงียบสงบปราศจากผู้คนอย่างเช่นในตู้เสื้อผ้าหรือซอกตู้เป็นต้น ให้เราหาผ้านุ่มๆอย่างเช่นผ้าห่มหรือผ้าเช็ดตัวมาทำเป็นที่รองให้กับพวกเขา เพื่อที่แมวจะได้สบายใจและคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง 
แมวท้อง
  • หวงตัว แมวบางตัวเมื่อตั้งท้องแล้วพวกเขาจะไม่ให้คนอื่นจับตัวไม่ว่าจะแมวด้วยกันเองหรือแม้แต่มนุษย์ที่เลี้ยงพวกเขามาตั้งแต่เด็กก็ตาม เกิดจากสัญชาตญาณการปกป้องลูก 

เตรียมตัวอย่างไรหากพบว่า แมวท้อง 

แมวท้อง

หากคุณพบว่าแมวท้องสิ่งที่ต้องเตรียมตัวเลยก็คือการพาแมวไปหาหมอตรวจเช็คสุขภาพแมวอยู่เป็นประจำ ในช่วงนี้ต้องดูแลทั้งเรื่องอาหารการกินและสุขลักษณะให้ดีเพื่อที่แมวจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง พยายามอย่าทำให้แมวเครียด และที่สำคัญอย่าลืมอัลตร้าซาวด์เพื่อดูว่ามีลูกแมวกี่ตัว เมื่อพวกเขาคลอดเราจะได้รู้ว่ามีลูกแล้วตกค้างอยู่ในท้องที่คลอดไม่ออกแล้วต้องพาไปหาหมอหรือไม่ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

ทำหมัน แมว หนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพให้กับแมวแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง 

มนุษย์ธรรมดาทั่วไปเมื่อป่วยจนต้องได้รับการผ่าตัดเราต่างทราบกันดีว่าการผ่าตัดนั้นล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบตามมาไม่มากก็น้อย แล้วนับประสาอะไรกับแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ดังนั้นการ ทำหมัน แมว ถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด เพราะขึ้นชื่อว่าการผ่าตัดอย่างไรก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำหมันให้กับแมวจะมีอะไรกันบ้าง 

รวมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการ ทำหมัน แมว

ทำหมัน แมว
  • ผลข้างเคียงจากยาสลบ การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวที่หลายคนเลือกทำเนื่องจากช่วยปรับพฤติกรรมให้กับแมวได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดนั้นจำเป็นต้องใช้ยาสลบซึ่งไปกดการทำงานของทั้งหัวใจและปอดซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นน้อยเพราะจะมีการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเสียทีเดียวแต่อย่างใด 
  • สำลักขณะสลบ เมื่อสรุปแล้วไม่ว่าจะมนุษย์หรือแมวต่างสูญเสียความสามารถในการกลืนทั้งสิ้น ดังนั้นหากคนเลี้ยงแมวไม่ได้ทำการอดน้ำหรืออดอาหารตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด มันจึงมีความเสี่ยงไม่น้อยเลยทีเดียวที่แมวจะสำลักน้ำหรืออาหารที่รับประทานเข้าไปก่อนเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากของเหล่านั้นไหลขึ้นมาจากกระเพาะสู่ปอดนั่นเอง 
ทำหมัน แมว
  • ปัญหาเกี่ยวกับแผลผ่าตัด หากดูแลแผลผ่าตัดไม่ดีหรือมีความผิดพลาดตั้งแต่ขั้นตอนการผ่าตัดแผลผ่าตัดอาจมีปัญหาได้ไม่ว่าจะเป็นมีเลือดออก หากติดเชื้ออาจมีน้ำหนองไหลออกมา รอยเย็บจะมีความบวมและเป็นจ้ำแดงมากขึ้นกว่าเดิม มีพฤติกรรมเดินหลังค่อม แต่โดยปกติแล้วสัตวแพทย์จะป้องกันด้วยการให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้ออยู่แล้ว 
  • ท้องผูก หลังจากผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วแมวต้องเผชิญกับความเครียด ความเจ็บปวด ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะไม่ค่อยรับประทานอาหารสักเท่าไหร่ มันจะเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแมวจึงมักท้องผูกอยู่เสมอเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ให้เราสังเกตให้ดีหลังผ่าตัดตั้งแต่ 48 ถึง 72 ชั่วโมงว่าแมวมีการถ่ายอุจจาระหรือไม่ หากแมวไม่ขับถ่ายเลยให้ปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วนเพราะอาจมีอาการแทรกซ้อนได้

พฤติกรรมแมวคุณอาจเปลี่ยนไปหากพาพวกเขาไปทำหมันให้แมว 

ทำหมัน แมว

การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวแถมยังช่วยปรับเปลี่ยนนิสัยให้พวกเขากลับมาอยู่ในร่องในรอยเหมือนกับสมัยยังเป็นเด็กอีกครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกตัวแต่อย่างใด แมวบางตัวอาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เป็นแมวที่เรียบร้อย กินเยอะ ดูอวบอั๋นมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่แมวบางตัวนั้นก็ยังคงมีระบบเผาผลาญที่ยอดเยี่ยม ยังคงวิ่งไล่ได้ตามปกติ แถมอาจจะยังมีพฤติกรรมก้าวร้าวอีกด้วย ซึ่งเกิดจากนิสัยของพวกเขาไม่ใช่ผลจากการทำหมันแต่อย่างใด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวป่วย เป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน 

เชื่อว่ามนุษย์หลายคนเคยป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบมาแล้วโดยเฉพาะมนุษย์เพศหญิง มันเป็นโรคที่เหมือนกับอยู่คู่กับเรามาตั้งแต่สมัยที่โตเป็นสาวก็ว่าได้ และที่สำคัญโรคดังกล่าวผู้ชายก็สามารถเป็นได้เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าความเสี่ยงจะน้อยกว่า นับประสาอะไรกับสัตว์ตัวเล็กอย่างแมวถึงจะไม่ป่วยเป็นโรคนี้ รู้หรือไม่ว่ามีแมวมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เคยประสบปัญหาป่วยเป็นโรคดังกล่าวมาแล้ว เราจึงจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับ แมวป่วย โรคนี้กันว่าพวกเขามีอาการอย่างไรและเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง 

ทำความรู้จักกับโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ แมวป่วย ที่ต้องได้รับการรักษา 

แมวป่วย

หากคุณเคยป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบมาก่อนคุณจะเข้าใจดีถึงความทรมานและความยากลำบากในการใช้ชีวิต อาการของแมวป่วยโรคดังกล่าวไม่ได้แตกต่างจากเวลาที่มนุษย์ป่วยเป็นโรคนี้สักเท่าไหร่ ปัญหาดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกเขาอย่างเช่นการรับประทานอาหารที่ผิดปกติไปจากเดิม การกินน้ำน้อย อาการที่จะเกิดขึ้นก็คือฉี่นอกกระบะทราย ฉี่กระปิดกระปอย มีอาการส่งเสียงเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ ไม่เพียงเท่านั้นอาการเจ็บป่วยของพวกเขายังส่งผลให้พวกเขารู้สึกเซื่องซึม ไม่สนใจกิจกรรมที่ปกติแล้วชื่นชอบ ไม่วิ่งเล่นสนุกสนานเหมือนที่เคยเป็น ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจขาดความกระตือรือร้นอีกด้วย

แมวป่วย

หากตรวจสุขภาพแมวหรือสังเกตเห็นอาการแมวพบว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวควรพาแมวไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมาอีกมากมาย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่โรคที่เป็นอันตรายถึงตายแต่ก็ทำให้แมวที่เรารักไม่มีความสุขเช่นเดียวกัน เมื่อพาไปพบแพทย์แล้วแพทย์อาจมีการวินิจฉัยและให้ยา คนเลี้ยงจะต้องดูแลหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นการให้ยาพวกเขาอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง พาไปพบแพทย์ตามนัดตรงต่อเวลา ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การกระตุ้นให้พวกเขากินน้ำมากขึ้นกว่าเดิม หากพวกเขาไม่ยอมกินน้ำเองก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องป้อนน้ำพวกเขาเช่นเดียวกัน และอย่าลืมให้อาหารสูตรพิเศษที่จะช่วยลดค่าความเป็นกรดด่างของปัสสาวะพวกเขาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือจะให้แคนเบอรี่ที่ลดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระก็ได้เช่นเดียวกัน

ป้องกันอย่างไรไม่ให้แมวป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ

แมวป่วย

เวลาแมวป่วยคนเลี้ยงก็เหมือนจะป่วยไปด้วย เพราะเมื่อสุขภาพแมวไม่ดีพวกเขาย่อมไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนเดิม ดังนั้นการป้องกันจึงดีกว่าการแก้ไขก่อนที่พวกเขาจะป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ เราต้องกระตุ้นให้พวกเขาดื่มน้ำอยู่เป็นประจำ อาจต้องลองใช้น้ำพุแมวหรือจัดวางน้ำเอาไว้ในบริเวณที่เหมาะสม เนื่องจากแมวจะไม่ดื่มน้ำหรืออาหารที่อยู่ใกล้แหล่งสกปรกอย่างเช่นกระบะทราย กระตุ้นให้พวกเขากินอาหารอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามโภชนาการ ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพียงเท่านี้พวกเขาก็จะมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยแล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวไม่กินน้ำ ปัญหาที่ทำให้ทาสหลายคนต้องปวดหัว 

แมวเป็นสัตว์ที่มีอาการป่วยรุมเร้าเป็นจำนวนมากหากเราไม่ดูแลรักษาสุขภาพพวกเขาให้ดีตั้งแต่เริ่มนั่นก็คือพฤติกรรมการรับประทานนั่นเอง หากพิจารณาดูให้ดีพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคไตอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาชอบอาหารที่มีรสเค็ม เนื่องจากลิ้นของพวกเขาไม่สามารถรับรสหวานได้ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังไม่ค่อยกินน้ำสักเท่าไหร่ตามธรรมชาติอีกด้วย สาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่ยอมกินน้ำนั้นมีมากมายแต่วิธีการที่จะสามารถกระตุ้นให้พวกเขากินน้ำก็มีเช่นเดียวกัน เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีวิธีการรับมืออย่างไรหาก แมวไม่กินน้ำ ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน 

รวมเทคนิคที่จะช่วยแก้ปัญหา แมวไม่กินน้ำ เทคนิคที่จะกระตุ้นแมวให้กินน้ำมากขึ้นกว่าเดิม 

แมวไม่กินน้ำ
  1. ความสะอาด แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาดเป็นอย่างมาก หากแมวไม่กินน้ำก็อาจจะหมายถึงพวกเขารู้สึกว่าน้ำสกปรกหรืออยู่ใกล้แหล่งสกปรกก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงควรดูแลสุขภาพแมวด้วยการเปลี่ยนน้ำพวกเขาเป็นประจำทุกวันให้มั่นใจว่าน้ำนั้นสะอาดบริสุทธิ์อย่างแน่นอน พยายามวางน้ำและชามอาหารให้ไกลจากสิ่งสกปรกอย่างเช่นกระบะทราย ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังไม่ชอบกินน้ำที่นิ่งอีกด้วย ดังนั้นการใช้น้ำพุแมวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถกินน้ำได้มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
  2. ทางเลือก การดูแลสุขภาพแนวนั้นจำเป็นต้องใช้เงิน หากแมวของคุณไม่ยอมกินน้ำอาจเกิดจากการที่พวกเขานั้นมีความชอบที่แตกต่างกันออกไป แมวบางตัวชอบกินน้ำในชามธรรมดา แมวบางตัวชอบกินน้ำแบบน้ำพุ ดังนั้นการมีภาชนะใส่น้ำที่หลากหลายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับพวกเขานั้นก็จะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาอยากกินน้ำมากยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี
  3. ประเภทของน้ำ คนเลี้ยงแมวแต่ละคนมีน้ำให้สัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกันออกไป บางคนเลือกใช้น้ำประปาแต่มันถูกผสมฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ สำหรับแมวแล้วมันอาจจะน่าขยะแขยงจนไม่อยากจะกินก็เป็นได้ เราอาจจะลองใช้น้ำจากเครื่องกรองน้ำหรือใช้น้ำดื่มที่ซื้อเป็นขวดให้พวกเขาดู ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะชื่นชอบน้ำเหล่านั้นก็เป็นได้ และยังต้องไม่ลืมเรื่องอุณหภูมิอีกด้วย บางตัวอาจจะชอบน้ำเย็นในขณะที่บางตัวก็อาจจะชอบน้ำอุ่นเช่นเดียวกัน 

เหลือครึ่งเดียว = หมดแล้ว สาเหตุที่ทำให้แมวไม่กินน้ำ 

แมวไม่กินน้ำ

ปัญหาการเหลืออาหารแค่ครึ่งเดียว = หมดแล้วหลังจากนั้นแมวก็มาร้องให้เราเติมอาหารนั้นได้เกิดขึ้นกับอาหารเพียงแค่อย่างเดียวแต่เกิดขึ้นกับน้ำด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงควรเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอเพื่อแก้ปัญหาแมวไม่กินน้ำ สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่น้ำที่เหลืออยู่เพียงแค่น้อยนิดในชามทำให้พวกเขากินลำบาก การเติมให้เต็มจะช่วยพวกเขากินง่ายมากขึ้นกว่าเดิมและมันก็กระตุ้นความอยากกินน้ำของพวกเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายจากการได้เล่นน้ำอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการดูแลสุขภาพแมวให้ดีก็อย่าลืมหมั่นเติมน้ำแมวอยู่เป็นประจำ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

วัคซีนแมว สิ่งสำคัญที่มีหลายเรื่องที่คนเลี้ยงแมวอาจไม่เคยรู้มาก่อน 

สำหรับคนเลี้ยงแมวเราต่างรู้ดีว่าการฉีดวัคซีนให้แมวนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดูแล เนื่องจากมันเป็นการช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แมวปลอดภัยจากโรคอันตรายทั้งหลายที่จะพรากชีวิตพวกเขาไปจากเรา แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนนั้นก็ยังมีอะไรมากมายที่คนเลี้ยงแมวธรรมดาทั่วไปอาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำต้องเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุกี่เดือน แมวแบบไหนบ้างที่ไม่ควรได้รับการฉีดวัคซีน เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการฉีด วัคซีนแมว มากขึ้นกัน 

รวมสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับการฉีด วัคซีนแมว

วัคซีนแมว

วัคซีนแมวเป็นสิ่งสำคัญที่ควรเลี้ยงแมวทุกคนต้องทำแต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายสิ่งที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับแมว หากคุณนั้นได้ดูแลแมวตั้งแต่แรกเกิด เมื่อพวกเขามีอายุครบ 6 สัปดาห์ถึง 8 สัปดาห์เราสามารถพาพวกเขาไปรับวัคซีนเข็มแรกได้ในทันที แต่เราไม่ควรให้ลูกแมวได้รับวัคซีนในทันทีหลังจากคลอดเช่นเดียวกัน เนื่องจากในช่วงที่ลูกแมวกำลังดื่มนมแม่อยู่นั้น นมแม่แมวจะเปรียบเสมือนกับเกราะป้องกันอันตรายจากโรคร้ายรวมไปถึงไวรัสและแบคทีเรียให้ลูกแมวยังคงปลอดภัย

วัคซีนแมว

ดังนั้นมันจึงไม่มีสาเหตุที่เราต้องเร่งนำเอาลูกแมวที่ยังไม่แข็งแรงมากพอไปรับวัคซีนให้เสี่ยงอันตราย แต่หากคุณรับลูกแมวที่ไม่รู้ประวัติสุขภาพตั้งแต่พวกเขาเกิดมาดูแล เราสามารถพาพวกเขามารับวัคซีนได้เมื่อพวกเขามีอายุตั้งแต่ 6 ถึง 8 สัปดาห์เป็นต้นไป แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อเราได้รับเขามาดูแลแล้วให้ทำการกักตัวเพื่อสังเกตอาการความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ หากลูกแมวปกติดีก็ให้นำมาพบสัตวแพทย์ได้เลย แต่ในกรณีที่คุณรับแมวผู้ใหญ่มาเลี้ยงและไม่ทราบประวัติเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขาเลย จำเป็นจะต้องกักตัวเช่นเดียวกับกรณีของลูกแมว จากนั้นให้นำมาหาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ที่สำคัญก็คือถึงแม้ว่าเราจะฉีดวัคซีนทุกเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่แมวควรได้รับการกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุก 1 หรือ 2 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของพวกเขานั้นได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอและมีสุขภาพแมวที่ดี

แมวแบบไหนบ้างที่เราไม่ควรพาไปรับวัคซีน

วัคซีนแมว

การฉีดวัคซีนแมวอาจช่วยให้สุขภาพแมวดีก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้วมีแมวอยู่บางกลุ่มเช่นเดียวกันที่ไม่ควรพาไปรับวัคซีน นั่นก็คือแมวที่มีโรคประจำตัวหรือแมวที่กำลังมีอาการเจ็บป่วย ให้ทำการรักษาและเลื่อนกำหนดการฉีดออกไปจนกว่าพวกเขาจะมีร่างกายที่แข็งแรง หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะวัคซีนอาจไปกระตุ้นให้แมวเกิดอาการเจ็บป่วยหนักกว่าเดิม อีกหนึ่งกลุ่มที่ไม่ควรได้รับวัคซีนก็คือแมวที่กำลังตั้งท้อง เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกแมวที่อยู่ในครรภ์ได้ 

อ่านบทความอื่นๆ: