แมวก็เหมือนกับมนุษย์ ในแต่ละช่วงวัยนั้นก็ต้องเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม ดังนั้นเมื่อคุณตัดสินใจที่จะรับดูแลเจ้าแมวเหมียวแล้ว คุณก็ต้อง เลือกอาหารแมว ให้ถูกต้องตามช่วงวัยของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้มีสุขภาพที่ดีเหมาะสมตามแต่ละช่วงวัยและอยู่ไปกับคุณอีกยาวนาน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำว่าอาหารของแมวในแต่ละช่วงวัยนั้นควรเป็นอย่างไรเพื่อที่เราจะได้เลือกได้อย่างเหมาะสม

สิ่งที่ควรรู้เมื่อต้องเลือกอาหารให้แมวอย่างถูกต้องตามแต่ละช่วงวัย

1. ลูกแมว การ เลือกอาหารแมว ให้กับลูกแมวนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจาก โภชนาการแมว ที่ได้รับในช่วงนี้จะส่งผลต่อพัฒนาการและสุขภาพของพวกเขาในระยะยาว เราจะเริ่มให้อาหารตั้งแต่แมวอายุครบ 2 เดือน ควรแบ่งให้ในปริมาณที่น้อยโดยแบ่งออกเป็นวันละ 3 มื้อ ควรเลือกอาหารสูตรสำหรับลูกแมวหย่านมไม่ถึง 1 ปี ซึ่งจะอุดมไปด้วยแคลเซียม โปรตีน และ DHA
2. แมววัยรุ่น แมวที่มีอายุครบ 1 ปีขึ้นไปจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของพัฒนาการหรือร่างกายเท่ากับลูกแมว แต่จะเป็นช่วงที่แมวของเราคึกคักเป็นพิเศษ เต็มไปด้วยพลังงานและความอยากรู้อยากเห็น ในช่วงวัยนี้เราสามารถลดอาหารของพวกเขาลงเหลือเพียงแค่มื้อเช้าและมื้อเย็นได้ สามารถเลือกใช้อาหารแมวสูตรทั่วไปหรือสูตรที่เหมาะสมกับสุขภาพแมวในขณะนั้น ที่สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม
3. แมวโตเต็มวัย เมื่ออายุมากขึ้นแมวของเราก็จะเริ่มมีความนิ่งและสุขุมมากยิ่งขึ้นไปด้วย ในช่วงเวลานี้หลายคนมักจะให้อาหารแมวเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ คือหมดก็เติม อย่างไรก็ตามช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะต้องบำรุงให้ร่างกายของพวกเขาแข็งแรง อาจมีการเพิ่มอาหารเสริมหรือใช้อาหารแมวสูตรอาหารครบถ้วนให้พวกเขามีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น
4. แมวแก่ แมวที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไปนั้นจะถูกจัดอันดับอยู่ในแมวสูงอายุ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดเนื่องจากพวกเขามีความเสี่ยงที่จะป่วยได้ง่าย ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม การเคลื่อนไหวก็ลดน้อยลงทำให้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นแมวอ้วน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้อาหารแมวสูตรแมวเลี้ยงในบ้านหรือสูตรไดเอทหากเริ่มรู้สึกว่าแมวเริ่มอ้วนมากจนเกินไป ไม่ควรให้ขนมหรืออาหารที่มีรสเค็ม เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตได้ง่าย

เลือกอาหารให้แมวท้องอย่างไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

โจทย์ที่ยากที่สุดในการ เลือกอาหารแมว คือแมวท้อง แมวที่กำลังท้องอยู่นั้นเราต้องใส่ใจ โภชนาการแมว เป็นพิเศษเพื่อให้พวกเขาแข็งแรงทั้งแม่และลูก ในช่วงเวลานี้เจ้าของอย่างเราจะต้องเลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง มีไขมันต่ำ มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงให้แม่แมวมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เขาอ้วนจนเกินไปไม่เช่นนั้นจะทำให้คลอดยาก 

 

การมีลูกแมวตัวน้อยอยู่ในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกมีความสุข แต่อย่างไรก็ตามลูกแมวแรกเกิดเหล่านี้มีความต้องการการดูแลที่พิเศษและเต็มไปด้วยความยากลำบากมากมาย ที่มากไปกว่านั้นคือมีสิ่งที่ไม่ควรทำที่เจ้าของจะต้องเรียนรู้ก่อนจะเผลอทำกับลูกแมวและส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขาในอนาคต มากไปกว่านั้นการ เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดแบบผิดๆ อาจส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาอีกด้วย ดังนั้นหากใครกำลังมีลูกแมวแรกเกิดอยู่ในบ้านวันนี้เราก็มีสิ่งที่ไม่ควรทำมาบอกกัน 

รวมข้อห้ามที่ไม่ควรทำเด็ดขาดเมื่อต้องเลี้ยงแมวแรกเกิดด้วยตนเอง

1. ห้ามแยกแมวและลูกออกจากกันโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก สิ่งที่สามารถ เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดให้เป็น แมวสุขภาพดี ได้มากที่สุดนั้นก็คือแม่ของพวกเขา ในช่วงสัปดาห์แรกเราจึงไม่ควรแยกพวกเขาออกจากกันโดยเด็ดขาด ลูกแมวน้ำต้องการทั้งความอบอุ่น น้ำนม การดูแล และการทำความสะอาดจากแม่แมวมากที่สุด ในช่วงนี้เราจึงไม่ควรไปยุ่งกับพวกเขาโดยเฉพาะกับแม่แมว 
2. ความอบอุ่น ลูกแมวเกิดใหม่นั้นต้องการความอบอุ่นเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อแมวของเราคลอดลูกออกมาแล้วเราควรเตรียมรังให้พวกเขาเป็นกล่องหรือข้อที่ปูด้วยผ้าขนหนูที่มีความนุ่มและหนา ใช้ไฟให้ความร้อนสำหรับสัตว์เลี้ยงกกให้กับลูกแมวในระยะห่าง 1 ฟุต หากสังเกตว่าลูกแมวเริ่มหนีไปที่อื่นแปลว่าร้อนจนเกินไป ต้องยกไฟให้สูงขึ้น
3. ความสะอาด แมวที่เพิ่งเกิดมานั้นก็เหมือนกับเราตอนที่เพิ่งเกิดออกมาคือไม่มีภูมิคุ้มกัน การสัมผัสกับเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกในช่วงเวลานี้อาจส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำความสะอาดบริเวณที่ลูกแมวอาศัยอยู่อย่างสม่ำเสมอ หากมีสัตว์เลี้ยงอื่นอยู่ภายในบ้านต้องแยกให้ลูกแมวและแม่แมวอยู่ในพื้นที่ต่างหาก และไม่ควรใช้ภาชนะร่วมกัน
4. ห้ามให้นมวัวโดยเด็ดขาด หากบ้านไหนแม่แมวไม่ดูแลลูกทำให้คนเลี้ยงอย่างเราต้องให้นมลูกแมวเอง สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดคือการให้นมวัวเพราะแมวไม่สามารถย่อยเอนไซม์ในนมวัวได้ ทำให้ลูกแมวเกิดอาการป่วยไม่ว่าจะเป็นท้องอืดหรือท้องเสีย ตามมาด้วยการเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นหากเราต้องป้อนนมลูกแมวเองควรลูกใช้นมสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะหรือนมแพะที่มีความสดใหม่เท่านั้น

สัตว์แพทย์ คนสำคัญที่ลูกแมวต้องการ

แม้ว่าเราจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดและดูแลให้พวกมันเป็น แมวสุขภาพดี  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนหน้านั้นคือการพาพวกมันไปหาหมอ โดยเฉพาะหากผู้มันอายุครบ 8 สัปดาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราต้องทำการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนตามที่กำหนดไว้ หากมีอาการไม่พึงประสงค์ควรพาไปพบแพทย์ทันที 

 

แมวพันธุ์สฟิงซ์  แมวไร้ขนที่เป็นมิตรสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

               เชื่อว่าบนโลกใบนี้มีหลายคนที่เป็นภูมิแพ้แต่ก็ชื่นชอบแมวเป็นอย่างมาก การจะเลี้ยงแมวขนนุ่มฟูอย่างแมวเปอร์เซียหรือแม้แต่แมวพันธุ์ขนสั้นอย่างอเมริกันช็อตแฮร์เรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่หากคุณต้องการจะเลี้ยงแมวจริงก็มีอยู่ 1 สายพันธุ์ที่เป็นมิตรสำหรับคนเป็นภูมิแพ้เป็นอย่างมากเนื่องจากพวกมันมีขนที่ทั้งละเอียดและบางจนไม่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ นั่นก็คือ แมวพันธุ์สฟิงซ์ นั่นเอง แม้ว่าภายนอกพวกมันจะดูเนื้อย่นและอาจจะไม่น่ารักเท่าแมวขนฟูสำหรับบางคน แต่วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเสน่ห์ของพวกมันมากยิ่งขึ้น

ลักษณะและนิสัยของแมวสฟิงซ์

                แมวพันธุ์สฟิงซ์ นั้นเป็นแมวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีน้ำหนักตัวและกล้ามเนื้อมาก หูกางกว้างเหมือนกับค้างคาว ดวงตากลมโตทรงเลม่อนหลายสี ผิวหนังมากเป็นสีชมพูหรือสีดำ มีทั้งสีล้วนและลายด่าง ส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะผิวที่ย่น ยิ่งผิวย่นมากแค่ไหนราคาก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น มีโหนกแก้มสูง ลักษณะภายนอกทำให้นึกถึงแมวของชาวอียิปต์โบราณ ส่วนใหญ่แล้วมันมักจะไม่ค่อยมีหนวดและขนคิ้ว แต่มักจะมีขนบริเวณอุ้งเท้าและท้องแทน เป็นแมวที่มีพลังงานสูง ชอบเล่นไม่ว่าจะเป็นการผาดโผน ปีนต้นไม้ ทำลายเฟอร์นิเจอร์ แถมยังมีความสามารถในการทรงตัวระดับยอดเยี่ยมอีกด้วย มากไปกว่านั้นพวกมันยังมีความสามารถพิเศษในการเกาะอยู่บนไหล่เราเหมือนกับนก ที่สำคัญคือมันเป็นแมวที่มักจะเรียกร้องความสนใจจากผู้เลี้ยงอยู่เสมอ มันจึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะเลี้ยงแมวเอาไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา และสำหรับใครที่ชอบดูคลิปตลกแมว  แมวไร้ขน สายพันธุ์นี้จะเป็นเหมือนกับเพื่อนที่อารมณ์ขัน มักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ชวนหัวเราะให้เราได้เห็นอยู่เสมอ หลายครั้งที่พวกมันทำเรื่องน่าอายแต่ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับเราได้เป็นอย่างดี มีความฉลาดหลักแหลมทำให้เราสามารถฝึกฝนและควบคุมได้ง่าย และยังเป็นแมวที่ขี้สงสัย ชอบมองไปตามหน้าต่างหรือออกไปเที่ยวเล่น เป็นแมวที่ซื่อสัตย์ไม่ต่างอะไรจากสุนัข และพวกมันรักเจ้าของเป็นอย่างมาก ถ้าคุณปวดใจกับการถูกแมวเชิดใส่ เราขอแนะนำให้คุณเลี้ยงแมวพันธุ์นี้เลย

การดูแลและสุขภาพของแมวสฟิงซ์

                แมวพันธุ์สฟิงซ์ นั้นแม้ว่ามันจะเป็น  แมวไร้ขน  แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องดูแลพวกมันด้วยการแปรงขนอยู่ดี โดยใช้แปรงขนหมูสำหรับแมวขนสั้น เพื่อให้ขนบางๆ ที่มันมีอยู่นั้นสุขภาพดี และด้วยความที่มันไม่มีขนทำให้มันไม่สามารถดูดซับน้ำมันจากร่างกายได้จึงมักจะมีปัญหาผิวแห้งอยู่เสมอเจ้าของต้องอาบน้ำให้มันเป็นประจำทุก 1 สัปดาห์เพื่อขจัดน้ำมันในร่างกายและให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะผิวไม่ได้ง่าย ปกติแล้วแมวสายพันธุ์นี้จะมีความแข็งแรงและไม่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคใดเป็นพิเศษ 

 

แมวพันธุ์เมนคูน  แมวสำหรับคนชอบแมวตัวใหญ่ขนยาว

               ในขณะที่หลายคนพยายามมองหาแมวตัวเล็กขนสั้นอย่างเช่นแมวมัชกิ้นที่มีขาสั้นน่ารักเป็นพิเศษ แต่ก็มีหลายคนเช่นเดียวกันที่ชื่นชอบแมวตัวใหญ่ขนยาว เมื่อพูดถึงแมวที่มีขนาดตัวใหญ่และขนยาวหลายคนก็จะนึกถึงแมวพันธุ์เปอร์เซีย แต่เชื่อว่าเปอร์เซียก็ยังไม่จุใจบางคนเช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ แมวพันธุ์เมนคูน  แมวที่มีตัวใหญ่เป็นพิเศษเกือบจะเท่ากับสุนัขขนาดกลางทั้งยังมีขนยาวและหน้าตาที่น่ารักเป็นอย่างมากอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาแมวที่จะทำให้คุณได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างเต็มที่ เราขอแนะนำแมวสายพันธุ์นี้เลย

ลักษณะและถิ่นกำเนิดของแมวแมนคูน

 แมวพันธุ์เมนคูน นั้นเป็น แมวขนยาว ขนาดใหญ่ จนได้รับการจัดอันดับว่าเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก หากเราเลี้ยงจนไปถึงช่วงโตเต็มวัยพวกมันจะมีน้ำหนักได้สูงถึง 15 กิโลกรัม เรียกได้ว่ามีน้ำหนักเท่ากับสุนัขขนาดกลางหรือสุนัขไทยของเรากันเลยทีเดียว แม้ว่าพวกมันจะเป็นแมวที่มีขนยาวแต่ขนของพวกมันก็มีความโดดเด่นเนื่องจากมีความหนาเป็นพิเศษ มีหลายชั้น หลายคนอาจกังวลว่าพวกมันเป็นแมวที่ต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วมันเป็นแมวที่สามารถทนต่อสภาพอากาศในแต่ละท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยความแปรปรวนได้เป็นอย่างดี มีดวงตากลมโตสดใสหลากหลายสี มีอุ้งเท้าขนาดใหญ่ที่หักใครชอบอุ้งเท้าแมวจะต้องรักมันอย่างแน่นอน ถิ่นกำเนิดของพวกมันนั้นอยู่ในสหรัฐอเมริกา เป็นแมวที่มีสายพันธุ์เก่าแก่มากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่ง ชื่อเมนของมันก็มาจากรัฐเมนซึ่งเป็นรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ในสมัยก่อนคนพื้นบ้านเล่าขานต่อๆ กันมาว่าบรรพบุรุษของแมวบ้านนั้นได้แอบไปผสมพันธุ์กับแรคคูน พอออกลูกมาเป็นแมวแมนคูนจึงมีลักษณะลำตัวที่ใหญ่แถมยังมีหางเป็นพวงเหมือนกับแรคคูนอีกด้วย พวกมันเป็นแมวที่ทั้งฉลาด อยากรู้อยากเห็น ทำให้ง่ายต่อการฝึกและการควบคุม มีความซื่อสัตย์และขี้อ้อน เหมาะสำหรับคนที่อยากจะวอแวแมวตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านั้นพวกมันยังเป็นเด็กดี ไม่ซุกซน ไม่ทำลายเฟอร์นิเจอร์ของคุณ 

การดูแลและสุขภาพของแมวเมนคูน

                แมวพันธุ์เมนคูน นั้นเป็น แมวขนยาว  ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเราต้องแปรงขนให้พวกมันเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-4 ครั้ง ควรให้พวกมันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและป้องกันการเกิดโรคอ้วน การออกกำลังกายจะช่วยให้แมวเมนคูนไม่เครียดอีกด้วย ด้วยความที่มันเป็นแมวที่ติดเจ้าของเจ้าของจึงควรให้เวลาพวกมันอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือพวกมันมีโรคถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว เราจึงต้องดูแลอาหารโดยเน้นอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ทอรีน แอลคาร์นิทีน และสารอาหารที่ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ