Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

บาร์ฟ อาหารจากธรรมชาติที่คุณควรให้แมวได้รองรับประทาน

สิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้ก่อนที่มนุษย์จะมีวิทยาการเหมือนกับในปัจจุบันต่างก็ใช้ชีวิตตามธรรมชาติของตนเอง ดังนั้นหากย้อนกลับไปในยุคโบราณสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักอย่างแมวของเรานั้นก็เป็นสัตว์ป่าที่อาศัยการล่าสัตว์และกินเนื้อดิบเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้คนเลี้ยงแมวหลายคนจึงนิยมให้แมวกินบาร์ฟหรือ BIOLOGICAL APPROPRIATE RAW FOOD มันเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติโดยที่ไม่ผ่านการปรุงหรือความร้อน เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของแมวเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามหากเราซื้อแบบสำเร็จรูปราคานั้นค่อนข้างสูง เราจึงจะพาทุกคนมาดูสูตรการทำอาหารให้กับพวกเขากันว่าส่วนผสมและขั้นตอนการทำจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง 

เปิดสูตรอาหารสดจากธรรมชาติสำหรับแมวของคุณ 

  1. สูตรเนื้อไก่ บาร์ฟสูตรนี้ต้องใช้เนื้อไก่จะเลือกเป็นเนื้ออกหรือเนื้อน่องก็ได้เช่นเดียวกันจำนวน 2 กิโลกรัม ตับไก่จำนวน 200 กรัม หัวใจไก่จำนวน 400 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง และอาหารเสริมตามความต้องการอย่างเช่นผงแคลเซียมหรือน้ำมันปลาเป็นต้น ให้เรานำเอาเนื้อไก่ ตับไก่ และหัวใจไก่มาบดให้ละเอียด หลังจากนั้นตอกไข่ลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำเอาอาหารเสริมลงไปคลุกเคล้าก็จะได้เป็นอาหารแมวที่สามารถกินได้ยาวนานประมาณ 15 วันเลยทีเดียว หรือหากต้องการทำทีละน้อยจะลดปริมาณวัตถุดิบก็ได้เช่นเดียวกัน 
  2. สูตรเนื้อไก่และปลาแซลมอน สำหรับแมวของใครที่ชื่นชอบปลาแซลมอนเราขอแนะนำสูตรนี้เลย สิ่งที่ต้องใช้จะประกอบไปด้วยเนื้ออกไก่จำนวน 500 กรัม ปลาแซลมอน 300 กรัม หรือสำหรับใครที่ไม่อยากจะใช้ปลาแซลมอนจะเปลี่ยนไปเป็นกุ้ง ปลาทู หรือปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ก็ได้เช่นเดียวกัน หัวใจไก่ 200 กรัม ตับไก่ 100 กรัม ไข่ไก่ 2 ใบ และอาหารเสริมแมวแล้วแต่ความต้องการ วิธีการคือนำเอาเนื้ออกไก่ ปลา ตับไก่ หัวใจไก่มาบดให้ละเอียดผสมให้เข้ากัน จากนั้นตอกไข่แล้วนำเอาไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผสมอาหารเสริมเป็นอันเรียบร้อย สูตรนี้สามารถรับประทานได้ประมาณ 15 วัน 

สูตรเนื้อไก่และเนื้อวัว สูตรนี้จะใช้เนื้อวัวจำนวน 1 กิโลกรัม โครงไก่ 400 กรัม หัวใจไก่ 400 กรัม ตับไก่ 400 กรัม และทูน่ากระป๋องในน้ำแร่หรือแบบจืด 400 กรัม ไข่ไก่อีก 3 ฟอง หากมีอาหารเสริมก็สามารถใส่เข้าไปได้ตามความต้องการ เราขอแนะนำให้เลือกซื้อโครงไก่บดละเอียดมาแล้วจะช่วยเบาแรงได้มากแต่ต้องเป็นแบบที่ยังไม่ผ่านการปรุงหรือทำให้สุกมาก่อน หลังจากนั้นนำเอาเนื้อวัว ตับไก่ หัวใจไก่ และทูน่ากระป๋องมาบดให้ละเอียด นำเอาไปผสมกับโครงไก่และไข่ไก่ ใส่อาหารเสริมก็เป็นอันเรียบร้อย สูตรนี้สามารถรับประทานได้ประมาณ 15 วัน 

อาหารสด สิ่งที่จะทำให้แมวของคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง 

บาร์ฟเป็นอาหารแมวแบบสดที่ฟังดูค่อนข้างน่ากลัวหากเราจะให้แมวของเรากินอาหารแบบที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกมาก่อน หลายคนอาจกังวลว่ามันจะไม่ดีต่อสุขภาพพวกเขาหรือไม่ ความจริงแล้วมันเป็นอาหารที่ช่วยพวกเขามีร่างกายที่แข็งแรง ช่วยให้ไม่มีกลิ่นปาก สุขภาพในช่องปากดี มีขนที่เงางาม เพียงแต่เราต้องเลือกวัตถุดิบที่มั่นใจได้ว่าสะอาดอย่างแน่นอน 

guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ไม่อยากซื้ออาหารแมวเอาอาหารหมาให้แมวกินได้หรือไม่ไปดูกัน

บางครั้งในบ้านของเราก็อาจจะมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 1 สายพันธุ์ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะบรรดาสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถสร้างความสุขให้กับเราได้เป็นอย่างดี การมีสัตว์เลี้ยงอยู่รายล้อมตัวจึงเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่การมีสัตว์เลี้ยงหลายสายพันธุ์ก็ตามมาพร้อมกับอาหารหลากหลายชนิดเช่นเดียวกัน อย่างเช่นคนที่เลี้ยงสุนัขและแมวก็ต้องซื้ออาหารทั้งของสุนัขและแมว ด้วยความที่ภายนอกอาหารเม็ดต่างก็ดูเหมือนกันหมด เราจึงเกิดความสงสัยว่าเราสามารถนำเอาอาหารหมามาแทนอาหารแมวได้หรือไม่ เราจะพบคนไปหาคำตอบกัน 

ตอบคำถามเอาอาหารหมาให้แมวกินได้หรือไม่ 

สำหรับคนที่อยากจะเอาอาหารหมามาแทนอาหารแมวแล้วสงสัยว่าสามารถทำได้หรือไม่เราสามารถตอบได้ว่าความจริงแล้วพวกเขานั้นสามารถกินอาหารหมาได้แบบปลอดภัย แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็กินได้ในปริมาณเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ดังนั้นหากคุณเลี้ยงแมวและหมาด้วยกันแล้วบางครั้งแมวมาออดอ้อนอยากจะชิมอาหารหมาดูสักครั้ง คุณสามารถให้พวกเขาลองชิมได้ แต่หากคุณต้องการที่จะเอาอาหารหมาให้พวกเขากินเป็นหลักเราขอแนะนำว่าไม่ควรทำโดยเด็ดขาด

เนื่องจากในอาหารของสุนัขนั้นมีไขมันและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ต่ำกว่าความต้องการในแมว นอกจากนี้ยังไม่มีสารอาหารบางชนิดที่จำเป็นต่อพวกเขาอีกด้วย เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าแมวนั้นเป็นสัตว์กินเนื้อในขณะที่สุนัขนั้นเป็นสัตว์ที่กินทั้งเนื้อทั้งพืช อาหารของแมวตามธรรมชาติจึงเป็นเนื้อสัตว์เสียส่วนใหญ่ อาหารที่ทำมาสำหรับแมวนั้นจึงเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่สูงกว่าในอาหารหมา นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่ร่างกายของแมวต้องการ มีกรดอะมิโนอย่างทอรีนที่ได้มาจากเนื้อสัตว์รวมไปถึงกรดไขมันบางชนิดที่ไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ในอาหารหมา

เนื่องจากในร่างกายของสุนัขนั้นสามารถผลิตกรดอะมิโนพวกนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเองแต่แมวไม่สามารถทำเช่นนั้นได้แต่อย่างใด และหากแมวกินอาหารหมาเป็นประจำก็จะทำให้พวกเขามีปัญหาสุขภาพร่างกายตามมาไม่ว่าจะเป็นสูญเสียการมองเห็น จอประสาทตาเสื่อม มีปัญหาในด้านหัวใจ หากเป็นลูกแมวก็จะเติบโตช้า และยังมีปัญหาในการย่อยอาหารอีกด้วย

รู้หรือไม่ แมวบางตัวไม่สามารถกินอาหารหมาได้

ถึงแม้ว่าเราจะบอกว่าแมวบางตัวนั้นสามารถกินอาหารหมาได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแมวทุกตัวจะสามารถกินอาหารหมาได้แต่อย่างใด เพราะอาหารแมวคืออาหารที่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับร่างกายของพวกเขาแล้ว แมวบางตัวที่มีอาการแพ้อาหารหรือมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้วคนเลี้ยงแมวไม่ควรนำเอาอาหารหมาให้พวกเขากินเพราะอาจจะเป็นพวกเขาแพ้ส่วนประกอบที่อยู่ในอาหารหมาก็เป็นได้ guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

รู้หรือไม่ อาหารคนแมวกินได้แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

สำหรับใครที่อ่านหัวข้อแล้วรู้สึกกำหมัดเราขอแนะนำให้ใจเย็นลงก่อนเพราะเชื่อว่าหลายคนมีความเชื่อว่าแมวไม่สามารถกินอาหารคนได้แถมมันยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารคนแมวกินได้เช่นเดียวกันแต่ต้องเป็นอาหารบางประเภทจึงจะดีต่อสุขภาพของพวกเขา มีอาหารคนอะไรบ้างที่แมวสามารถกินได้และดีต่อสุขภาพไปดูกันเลย 

เปิดรายชื่ออาหารคนที่แมวกินได้ ไม่ทำลายสุขภาพ

  1. เนื้อไก่ ไก่นั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอย่างมากโดยเฉพาะแมว ดังนั้นมันจึงกลายเป็นอาหารคนแมวกินได้ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพแมวอีกด้วย เนื่องจากบางส่วนของเนื้อไก่นั้นมีปริมาณโปรตีนสูงและไขมันต่ำ แต่กรรมวิธีการปรุงนั้นควรใช้วิธีการต้มหรือนึ่งและไม่ใส่เครื่องปรุงจึงจะดีต่อสุขภาพของพวกเขาที่สุด 
  2. เนื้อปลา เชื่อว่าหลายคนมีภาพจำว่าแมวกินปลา นั่นก็เป็นเพราะว่าในปลานั้นอุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพของพวกเขาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชอบในรสชาติปลาอีกด้วย แต่ก่อนที่จะให้พวกเขากินเราควรปรุงสุกด้วยการนึ่งหรือต้มโดยไม่ใส่เครื่องปรุงลงไป
  3. ไข่ไก่ เป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอดสำหรับบรรดาแมวเหมียวทั้งหลายแถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกด้วย แต่ต้องไม่รับประทานดิบโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะมีแบคทีเรียและเชื้อโรคบางชนิดที่ทำให้พวกเขาท้องเสียหรือมีอาการป่วยตามมา ให้เรานำเอาไข่ไปต้มก่อนแล้วค่อยนำเอามาให้พวกเขากินจึงจะปลอดภัย 
  4. กล้วย เป็นผลไม้อุดมไปด้วยประโยชน์มากมายแถมยังมีรสชาติที่หวานถูกใจบรรดาแมวเหมียวอีกต่างหาก เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยโพแทสเซียมและกากใยมากมาย เราจึงสามารถนำเอาผลไม้ชนิดนี้มาให้เป็นของว่างพวกเขาได้ แต่ก็ต้องจำกัดปริมาณเพราะหากให้มากจนเกินไปพวกเขาก็จะได้รับน้ำตาลในปริมาณที่เกินจำเป็นเช่นเดียวกัน 
  5. ฟักทอง เป็นผักที่เต็มไปด้วยกากใยอาหารแถมยังมีแคลอรี่ต่ำจึงส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของน้องแมวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกต่างหาก มันจึงเป็นของว่างที่เหมาะไม่น้อยสำหรับแมวเหมียวที่กำลังประสบปัญหาขับถ่ายไม่ออก แต่เราต้องนำไปนึ่งหรือต้มจนสุกก่อนและไม่ผ่านการปรุงรสจึงจะปลอดภัย 

ให้แมวกินอาหารคนได้เท่าไหร่จึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพ 

อาหารคนแมวกินได้ก็จริงแต่ก็เป็นเพียงแค่อาหารบางอย่างเท่านั้นจึงจะดีต่อสุขภาพแมว นอกจากนี้เรายังต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย อาหารเหล่านี้เป็นเพียงแค่ของว่างหรือของกินเล่นที่ไม่ควรเกินปริมาณ 15% ของจำนวนพลังงานทั้งหมดที่แมวต้องได้รับต่อวัน ยิ่งเป็นผักผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงยิ่งต้องกำหนดปริมาณให้ดี ไม่เช่นนั้นก็อาจจะทำให้พวกเขามีน้ำหนักเกินตามมาได้ guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : hilo-88.net

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

แมวอัมพาต ต้องดูแลอย่างไรไปดูกัน

สัตว์เลี้ยงก็มีร่างกายเฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ที่สามารถพบเจอกับอาการเจ็บป่วยได้ไม่ว่าจะเป็นจากอุบัติเหตุ จากโรคภัย หรือแม้แต่ความแก่ชราเองก็ตาม ดังนั้นสำหรับคนเลี้ยงแมวแล้วเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมดูแลเขาไปจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายให้พวกเขามีความสุขที่สุด หนึ่งในปัญหาที่คนเลี้ยงสัตว์หลายคนเจอก็คือแมวอัมพาต เกิดจากการได้รับอุบัติเหตุหรือป่วยทางระบบประสาทเมื่อแก่ตัวลง แมวบางตัวมีข้อจำกัดในการรักษาทำให้ต้องใช้วิธีการประคับประคองอาการ วิธีการดูแลพวกเขาจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ มีอะไรบ้างที่เราต้องทำไปดูกัน

เปิดวิธีการดูแลอย่างไรให้แมวที่เป็นอัมพาตอย่างไรให้สุขภาพดี

  1. อยู่ในบริเวณที่สะอาด เมื่อแมวอัมพาตพวกเขาจะไม่สามารถขยับตัวได้ตามเดิมอีกต่อไปดังนั้นมันจึงง่ายในการดูแลในส่วนของที่อยู่เพียงแต่ว่าเรานั้นต้องดูแลความสะอาดให้ดี เพราะแมวที่ป่วยอยู่แล้วมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคอื่นมากขึ้นเนื่องจากภูมิคุ้มกันตก ให้งดการวิ่งเล่นหรือการขึ้นลงบันไดไปก่อน
  2. จัดที่นอนให้นุ่ม การดูแลแมวที่ป่วยอยู่นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการดูแลมนุษย์ที่ป่วย ดังนั้นในช่วงที่พวกเขาขยับร่างกายไม่ได้เราควรจัดที่นอนนุ่มๆ ให้กับพวกเขาเพื่อให้พวกเขารู้สึกสบายตัวมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อต้องนอนติดเตียงติดต่อกันเป็นเวลานาน 
  3. พลิกตัวเป็นประจำ สิ่งสำคัญมากที่สุดในการดูแลสัตว์ที่ป่วยเป็นอัมพาตก็คือการหมันพลิกตัวพวกเขาอยู่เป็นประจำทุก 3 หรือ 4 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแผลกดทับตามมา เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถขยับพลิกตัวเองได้แต่อย่างใด หากมีแผลกดทับเราจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ใช้ผ้าก๊อซม้วนเป็นวงโดนัทหรือจะใช้แผ่นฟองน้ำรองแผลพวกเขาอีกชั้นเพื่อไม่ให้แผลอาการหนักมากขึ้นกว่าเดิม
  4. ช่วยออกกำลังกาย แม้พวกเขาจะขยับตัวไม่ได้แต่เราก็ต้องช่วยพวกเขาออกกำลังกายเพื่อไม่ให้พวกเขากล้ามเนื้อฝ่อ เช่นเดียวกัน วิธีการก็คือจับขายื่นเข้าออกข้างละอย่างน้อย 30 ครั้งวันละ 3 รอบ บีบนวดขาเป็นประจำ กระตุ้นฝ่าเท้าด้วยกันเกราหรือฝึกงอขาอย่างน้อย 5 ครั้งวันละ 3 รอบ จับขาทำท่าเหมือนกับปั่นจักรยานอีกข้างละ 5 ครั้งวันละ 3 รอบ 

รวมปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแมวเป็นอัมพาต

การที่แมวอัมพาตนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายหากเราดูแลแมวได้ไม่ดีพอ อย่างเช่นการเกิดแผลกดทับเนื่องจากไม่มีการพลิกตัวอยู่เป็นประจำ ทำให้ทั้งกล้ามเนื้อและไขมันลดลง กระดูกเด่นชัดและกดทับจนกลายเป็นแผล กระเพาะปัสสาวะอักเสบ พวกเขาไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้ ดังนั้นจึงอาจเกิดอาการปัสสาวะออกไม่สุดจนติดเชื้อ และสุดท้ายคือปอดอักเสบซึ่งจะเกิดจากการที่คนเลี้ยงไม่พลิกตัวพวกเขาอยู่เป็นประจำ ทำให้ในทางเดินหายใจและปอดมีเสมหะสะสม เข้าไปขัดขวางการทำงานของปอดจนกลายเป็นการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมา guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : sa-game.bet

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

โรคหัดแมว อีกหนึ่งร้ายแรงของน้องแมว ที่เหล่าทาสควรให้ความสนใจ

คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก หากเราพบว่าสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักอย่าง แมว ที่เลี้ยงเอาไว้ เกิดมีอาการเจ็บป่วยขึ้นมา แน่นอนว่าเมื่อ แมวป่วย นอกจากที่จะต้องใส่ใจเรื่องของการดูแลรักษาน้องแมวให้หายดีแล้ว ในเรื่องของค่าใช้จ่ายเองก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากไม่น้อยเลย 

ยิ่งการที่แมวเป็น โรคติดต่อแมว หรือโรคที่รักษาหายยากด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เสียทั้งเวลา และเงินจำนวนมากแน่นอน ดังนั้น จึงควรป้องกันเอาไว้ โรคหัดแมว เองก็เช่นกัน เป็นโรคของแมวที่เหล่าทาสจำเป็นต้องรู้จัก และหาวิธีป้องกันเอาไว้

โรคหัดแมว โรคของแมว ที่ทาสทั้งหลายควรให้ความใส่ใจ 

โรคหัดแมว หรือ โรคพาร์โวไวรัส เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสที่อยู่ในกลุ่ม FELINE PARVOVIRUS โดยเมื่อเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายของแมวแล้ว ก็จะทำให้เกิดความเสียหายในระบบทางเดินทางอาหารของแมว อาการของโรคนี้จะมีความรุนแรงมาก ๆ 

โดยเฉพาะในแมวที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี หรือแมวที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนของโรคนี้ ซึ่งแมวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีโอกาสที่เมื่อเป็นแล้วอาการจะรุนแรง และมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมาก ถือว่าเป็นโรคในแมวที่ร้ายแรง ที่เหล่าทาสแมวต้องให้ความใส่ใจมาก ๆ 

โรคหัดแมว ทำให้แมวมีอาการอย่างไรบ้าง

ในส่วนของ อาการหัดแมว นั้น หากว่าเป็นแมวโตเมื่อเป็นโรคหัดแมว สำหรับ หัดแมว อาการเริ่มต้น จะไม่มีอาการใดแสดงออกมา แต่หากว่าเป็นแมวเด็ก หรือลูกแมวหากว่าเป็นก็จะแสดงอาการออกมาทันที โดยเฉพาะแมวที่มีอายุอยู่ระหว่าง 3-5 เดือน เป็นช่วงวัยที่มีโอกาสเสียชีวิตเฉียบพลันสูงมาก ส่วนแมวที่มีอายุ 4 สัปดาห์ไปจนถึง 1 ปี ก็มักจะพบอาการป่วยแบบฉับพลัน

สำหรับ หัดแมวอาการ ที่พบได้บ่อยในแมวที่เป็นโรคนี้ จะพบว่าแมวมีอาการคล้ายกับการเป็นหวัด และจะมีอาการท้องเสียเกิดขึ้นพร้อมกัน เนื่องจากว่าไวรัสกลุ่มพาร์โวไวรัส เข้าไปทำให้ระบบทางเดินอาหารของน้องแมวเสียสมดุล นอกจากนั้นแล้วอาการของแมวที่เป็นโรคนี้ที่ทาสสามารถสังเกตได้ คือ แมวจะไม่ยอมกินอาหาร หรือกินได้น้อยลง โดยอาการนี้จะเกิดขึ้นช่วง 34 วันแรกที่แมวเป็นโรคนี้

นอกจากนั้นแล้วอาการของแมวที่เป็นโรค หัดแมว จะพบว่าแมวมีไข้ขึ้นสูง, เซื่องซึม ไม่ร่าเริงเหมือนปกติ, ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นเลือด และมีกลิ่นเหม็น อีกทั้งยังมีอาการอาเจียนจากอาหารที่กินเข้าไป หรืออาเจียนออกมาเป็นน้ำเหลือง, มีอาการปวดเกร็งที่บริเวณช่องท้อง, ต่อมน้ำเหลืองที่ท้องขยายตัว รวมถึงยังพบว่าแมวจะมีปริมาณของเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติ ซึ่งหากว่าแมวมีอาการรุนแรงมากขึ้น ก็จะทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวที่มีไม่สามารถนับจำนวนได้เลย

แมวที่ป่วยเป็น หัดแมว โอกาสรอด มีไหม และหากเป็นสามารถแพร่เชื้อให้แมวตัวอื่นได้ไหม

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า โรคหัดแมว เป็นโรคในแมวที่ถือว่ามีความรุนแรงมาก ๆ โดยเฉพาะในแมวที่มีอายุน้อย หรือแมวเด็ก และแมวที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะพบว่า แมวที่มีอายุมากกว่า 1 ปี หรือแมวที่ได้รับวัคซีนป้องกันแล้ว 

มักจะมีความรุนแรงของโรคน้อยกว่า และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตน้อยกว่านั่นเอง ทั้งนี้โอกาสที่แมวจะรอดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาจจะต้องปรึกษากับสัตวแพทย์ที่รักษาว่าจะต้องทำการรักษาอย่างไรบ้างเพื่อช่วยชีวิตน้องแมว

สำหรับ ไข้หัดแมว ก็เป็นโรคในแมวที่สามารถติดต่อกันสู่แมวได้ หากพบว่ามีแมวตัวใดตัวหนึ่งในบ้านป่วยเป็นโรคนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่แมวตัวอื่นจะติดโรคไปด้วย โดยเฉพาะการที่แมวใช้สิ่งของต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ชามอาหาร หรือว่าเสื้อผ้า 

รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ในการขับถ่ายของน้องแมวด้วย ถือว่าเป็นที่ที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อโรคนี้ได้ง่ายมากที่สุด ซึ่งจะติดต่อกันได้ผ่านทางอุจจาระของแมวนั่นเอง 

วิธีรักษาหัดแมว สามารถทำได้อย่างไรบ้าง แล้วรักษากี่วันถึงจะหาย

ในการรักษาแมวที่เป็น โรคหัดแมว ทางสัตวแพทย์จะทำการรักษาตามอาการ และเป็นการพยุงอาการของน้องแมวที่เป็นโรคนี้เอาไว้ เพื่อเป็นการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับแมว ให้สามารถป้องกันโรคนี้ได้เอง โดยวิธีการรักษาสัตวแพทย์จะต้องให้อาหาร และน้ำผ่านทางหลอดเลือด และทำการให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเข้าไปด้วย 

นอกจากนี้แล้ว ในก็จะต้องใช้ ยารักษาหัดแมว ร่วมด้วย โดยจะเป็นยาที่อยู่ในกลุ่ม INTERFERON ตัวยาชนิดนี้จะเข้าไปช่วยในเรื่องของการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตให้กับน้องแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้ ซึ่งสามารถช่วยได้มากถึง 10-20% เลย อย่างไรก็ตามหากว่าเป็นแมวที่ยังไม่ได้มีการแสดงอาการของโรคออกมา หากใช้ยาตัวนี้ ก็จะสามารถทำให้มีโอกาสรอดได้มากถึง 80-90% เลยนั่นเอง แม้ว่ายาตัวนี้จะดี และมีประสิทธิภาพมาก ๆ แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงมากด้วย

ทั้งนี้หากพบว่าแมวที่บ้านของคุณ มีอาการป่วยที่รุนแรงมาก ๆ และเสี่ยงที่จะเสียชีวิต ก็ให้รีบพาไปรักษาทันที อย่าปล่อยให้อาการรุนแรงมากกว่าเดิมเด็ดขาด เพราะหากแมวได้รับการรักษาช้าไป ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถยื้อชีวิตของแมวไว้ได้ทัน โดยเฉพาะในแมวเด็กที่จะต้องระวังมาก ๆ 

อย่างไรก็ตาม หากจะถามว่า โรคหัดแมว กี่วันหาย หรือโรคหัดแมวรักษาเองได้ไหม ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่สามารถทำได้ และบอกวันที่น้องแมวจะหายไม่ได้ด้วย เนื่องจากแพทย์จะทำการรักษาไปตามอาการ และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสัตวแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย แต่จะเป็นการรักษาที่จะช่วยเหลือชีวิตน้องแมวให้มีโอกาสรอดได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

วิธีป้องกันโรคหัดแมว ให้น้องแมวห่างไกลจากโรคนี้ ต้องทำอย่างไร

ตามที่ได้บอกไปแล้วว่า การรักษาอาการของน้องแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้ ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการ และพยุงอาการของน้องแมวไปได้เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ทาสแมวต้องหนักใจมากแน่นอน จะดีกว่าไหมหากว่าสามารถหาวิธีป้องกันให้ได้น้องแมวเป็นโรคนี้ได้ ซึ่งวิธีการป้องกันให้แมวห่างไกลจากโรคนี้ได้ ก็มีดังต่อไปนี้

  • วิธีการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การพาน้องแมวไป ฉีดวัคซีนแมว ที่ช่วยป้องกันโรคนี้ โดยจะต้องเริ่มฉีดให้น้องแมวตั้งแต่แมวมีอายุได้ 2 เดือน เป็นเข็มที่ 1 เข็มต่อไป จะต้องฉีดให้น้องแมวตอนช่วงอายุ 2-12 เดือน และหลังจากนั้นก็จะต้องทำการพาแมวไปฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มอีกทุก ๆ ปี ซึ่งจะฉีดกระตุ้นปีละ 1 เข็ม
  • เมื่อพบว่าแมวที่บ้านเป็นโรคหัด ให้ทำการเลี่ยงการสัมผัสกับแมวที่เป็น และจะต้องแยกแมวที่เป็นออกจากแมวที่ไม่เป็น เนื่องจากว่าอาจจะทำให้แมวตัวอื่นติดเชื้อด้วยได้
  • ไม่ควรปล่อยให้แมวออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน เพราะอาจจะทำให้ติดเชื้อไวรัสจากนอกบ้านเข้ามา
  • เมื่อมีการรับเลี้ยงแมวตัวใหม่เข้าบ้าน ถ้ามีแมวที่เลี้ยงอยู่แล้วด้วย ให้ทำการแยกน้องแมวตัวใหม่ออกมาจากแมวตัวอื่น ๆ ก่อน เพื่อเป็นการสังเกตอาการของแมวที่เพิ่งมาใหม่ว่าเป็นโรคอะไรหรือไม่

หัดแมวติดคนไหม สิ่งที่ทาสแมวจำเป็นต้องรู้

เมื่อ โรคหัดแมว สามารถติดเชื้อจากแมวตัวหนึ่งสู่แมวอีกตัวหนึ่งได้ ทำให้ทาสแมวเองก็กังวลเช่นกันว่า โรคนี้จะสามารถแพร่เชื้อมาสู่คนได้หรือไม่ ความจริงแล้วโรคนี้เป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นกับแมว จะสามารถติดต่อจากแมวสู่คนได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากการสัมผัสแมวป่วย หรือว่าการสัมผัสอุจจาระของแมว รวมถึงหากว่ามีการสัมผัสของใช้ต่าง ๆ ของน้องแมว ก็ไม่ทำให้ติดเชื้อโรคนี้สู่ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลย

บทสรุป

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คงจะช่วยทำให้ทาสแมวสามารถเข้าใจได้มากขึ้นแล้วว่า ไข้หัดแมว คืออะไร โรคหัดแมวเกิดจากอะไร และหากว่า แมวเป็นหัด จะต้องทำการรักษาอย่างไรบ้าง รวมถึงการป้องกันแมวให้ห่างไกลจากการเป็นโรคนี้จะต้องทำอย่างไร ซึ่งแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้แม้จะมีโอกาสรอดน้อย แต่ก็ยังถือว่ามี ทางที่ดีหากไม่อยากให้แมวเป็นก็ควรใส่ใจกับการป้องกันให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องสุขภาพของแมวแล้ว ยังช่วยให้ทาสแมวเองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาน้องเพิ่มขึ้นด้วย guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet