Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

จากลูกแมวสู่แมวโต ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของสัตว์เลี้ยงเรา

นึกถึงเราตอนสมัยที่ยังเป็นเด็กกับตอนที่โตแล้วความต้องการในแต่ละช่วงวัยก็แตกต่างกันออกไป สัตว์เลี้ยงของเราก็เช่นกันโดยเฉพาะแมวที่เมื่อยังเป็นเด็กก็มีความต้องการที่แตกต่างจากตอนที่พวกเขาโตเต็มวัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากคุณเลี้ยงแมวตั้งแต่สมัยที่พวกมันยังเป็นเด็กจนมีอายุครบ 1 ปี คุณอาจพบว่ามันยังคงทำตัวเหมือนกับลูกแมวที่เล่นสนุกและซุกซนไปวันๆ แต่ในความเป็นจริงความต้องการของพวกมันได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าเมื่อแมวโตขึ้นเราต้องปรับพฤติกรรมและการดูแลให้เข้ากับแมวในช่วงวัยนั้นอย่างไรบ้าง 

adult cat

รวมความต้องการของแมวที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเติบโตจากแมวเด็กเป็นแมวโต

  1. อาหาร แมวเด็กเป็นแมวที่มีพลังงานสูงและสนุกสนานกับการเล่นตลอดทั้งวัน แต่เมื่อโตขึ้นแมวของเราก็จะมีความสุขขุมมากขึ้นไปด้วย ยิ่งเรานำเอาพวกมันไปทำหมันพวกมันจะยิ่งมากกว่าเดิมจนเรียกได้ว่าแทบไม่ขยับตัวก็ว่าได้ ดังนั้นพลังงานที่ใช้ในสมัยที่ยังเป็นลูกแมวและตอนที่เป็นแมวโตเต็มวัยจึงไม่เท่ากัน เราจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนอาหารจากสูตรแมวเด็กให้กลายเป็นสูตรของแมวโตที่ไม่เน้นโปรตีนเหมือนเดิม แต่จะเน้นใยอาหารเพื่อให้สามารถขับก้อนขนได้ดีและช่วยดูแลเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เพิ่มสารอาหารสำหรับการดูแลขนและผิวหนัง วิตามินและแร่ธาตุที่จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้คุณไม่ต้องเผชิญกับปัญหาแมวน้ำหนักเกิน 
  2. การฉีดวัคซีน อายุ 14 เดือนสัตวแพทย์จะแนะนำให้ผู้เลี้ยงฉีดวัคซีนให้แมวเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มความมั่นใจว่าแมวของเรานั้นจะปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมไปถึงบรรดาพยาธิและปรสิต ดังนั้นเมื่อมีอายุครบ14 เดือนเราจึงควรพาแมวของเราไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนให้เรียบร้อย 
  3. การออกกำลังกาย อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่าเมื่อแมวโตขึ้นพวกมันก็จะใช้พลังงานน้อยลงและไม่ขี้เล่นเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ถ้าหากพวกมันชื่นชอบการกินเป็นอย่างมากก็อาจจะทำให้มีปัญหาน้ำหนักเกินได้ สิ่งสำคัญคือเราจำเป็นจะต้องช่วยให้พวกเขาได้ออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการเล่นไม้ตกแมวกับพวกเขา การซื้อลู่วิ่งแมวให้ หรือแม้แต่การพาออกไปเดินในสวนหน้าบ้านก็ช่วยให้พวกเขาได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเส้นเดียวกัน 
adult cat1

เปลี่ยนวิธีการดูแลแมวเด็กเป็นดูแลแมวโตทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด

หลายคนรู้สึกกังวลไม่น้อยที่ลูกแมวที่เคยดูแลมาแต่อ้อนแต่ออกกลายเป็นแมวโตเต็มวัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วการดูแลแมวโตที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไปถือว่าสามารถทำได้ง่ายกว่าการดูแลแมวเด็กเป็นอย่างมาก ขอเพียงแค่คุณเลือกอาหารได้อย่างถูกต้อง พาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ ให้เขาได้ออกกำลังกายตามเหมาะสม เพียงเท่านี้แมวของเราก็จะมีสุขภาพแข็งแรงและอยู่กับเราไปอีกนานๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรมากมายเลยแม้แต่น้อย guscats.com

 

บทความเพิ่มเติม

Categories
สุขภาพ

โรคผิวหนังแมว ปัญหากวนใจของคนเลี้ยงลูกแมวที่อาจติดสู่มนุษย์ได้

sick cat

ปัญหาเรื่องโรคผิวหนังแมวนั้นเป็นปัญหาเรื้อรังและกวนใจของคนเลี้ยงลูกแมวไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากโรคดังกล่าวทางโลกนั้นสามารถติดสู่มนุษย์ได้เช่นเดียวกัน แถมโรคที่เกิดขึ้นบนผิวหนังยังเป็นโรคที่ต้องรักษากันอย่างยาวนานกว่าที่พวกมันจะกลับมาหายดีดังเดิม โดยเฉพาะในลูกแมวที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบหรือภูมิคุ้มกันยังไม่ดีพอ เราต้องดูแลอย่างหนักและใกล้ชิดมากกว่าแมวโตเพื่อให้พวกเขาหายเร็วๆ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอื่นตามมา วันนี้เราจึงจะพามาดูกันว่ามีโรคบนผิวหนังแมวอะไรที่เกิดบ่อยกับลูกแมวให้ทุกคนได้ระมัดระวังกัน ดูแลลูกแมว อย่างไรให้ห่างไกลจากโรคผิวหนัง

รวมโรคผิวหนังที่มักเกิดขึ้นกับลูกแมว 

  1. เชื้อรา เป็นโรคผิวหนังแมวยอดฮิตประจำตัวแมวไม่ว่าจะเป็นลูกแมวหรือแมวโตก็ตาม เป็นปัญหาสุขภาพแมวที่เรื้อรังและต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานับเดือนเลยทีเดียว ที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือมันสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ อาการที่เกิดขึ้นคือจะมีขนร่วงเป็นวงหรือหลุดออกมา ผิวแดงอักเสบและมีการตกสะเก็ดทำให้แมวรู้สึกคัน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุอีกด้วย 
  2. เห็บหมัด เป็นปรสิตขนาดเล็กที่ส่งผลอันตรายต่อแมว โดยเฉพาะแมวที่แพ้น้ำลายปรสิตเหล่านี้จะก่อให้เกิดอาการคัน แดง ขนร่วง บางตัวอาจอักเสบและติดเชื้อได้ ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจเรื่องการกำจัดปรสิตเหล่านี้ให้หมดไปจากบ้าน 
  3. ไรขี้เรื้อนและไรในหู เป็นปรสิตอีก 1 สายพันธุ์ที่ส่งผลอันตรายและก่อให้เกิดเป็นโรคบนผิวหนังตามมา มีขนาดเล็กจนต้องตรวจด้วยการขูดผิวหนังไปส่องกล้อง ก่อให้เกิดอาการขนร่วง มีตุ่มอักเสบ บางตัวมีอาการคันอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่มักพบบริเวณใบหู ข้อศอก ข้อเท้า และใต้ท้อง 
  4. เชื้อแบคทีเรีย เป็นอีกหนึ่งรอบที่พบได้บ่อยในลูกแมว สังเกตเห็นได้ว่าจะมีอาการคัน แดง บางตัวอาจมีตุ่มหนอง เกิดจากการที่ผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียและอาจติดเชื้ออื่นแทรกซ้อนตามมาจากแผลสด ทำให้ใช้เวลาในการรักษาที่ยาวขึ้นกว่าเดิม นักเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง หรือแมวไปอยู่ในที่เปียกชื้นก่อให้เกิดการระคายเคือง
cat health

ดูแลอย่างไรให้ลูกแมวลดความเสี่ยงในการเป็นโรคผิวหนัง

โรคผิวหนังแมวสาเหตุใหญ่เกิดมาจากปรสิต เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นเราจึงควรดูแลไม่ให้ภายในบ้านของเรามีปรสิตอย่างเห็บหมัด พาลูกแมวของเราไปตรวจสุขภาพอยู่เสมอเพื่อตรวจสอบว่าสุขภาพแมวดีหรือไม่ มีปรสิตขนาดเล็กที่เรามองไม่เห็นอาศัยอยู่หรือเปล่า คอยดูแลความสะอาดแมวอยู่เสมอ ไม่ตัดขนสั้นจนเกินไป หลีกเลี่ยงการให้แมวไปอยู่ในสถานที่อับชื้น หลังอาบน้ำแล้วควรเป่าขนให้แห้งไม่ควรทิ้งให้แมวเปียกเป็นเวลานาน อ่านบทความเพิ่มเติม guscats.com

cat

 

8 อาหารแมว ยี่ห้อไหนดี 2566 น้องเหมียวปลื้ม บำรุงขนสวย น่าฟัด

Categories
สุขภาพ

แมวปากเหม็น ปัญหาที่อาจจะไม่ได้มาจากความสะอาดเพียงแค่อย่างเดียว

หากคุณเป็นคนที่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนเชื่อว่าคุณน่าจะทราบดีว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างมีกลิ่นปากหรือ แมวปากเหม็น ไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อให้เราจะดูแลพวกเขาอย่างไรก็ตามพวกเขาก็มักจะมีกลิ่นปากอยู่เสมอไม่มากก็น้อย แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องปกติแต่อย่างใด

แมวปากเหม็น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแมวปากเหม็น จนทำให้คุณแทบทนไม่ไหว มันอาจจะเกิดจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการดูแลหรือแม้แต่อาการเจ็บป่วยก็ตาม เราจึงจะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีกลิ่นปากกัน 

เปิดสาเหตุที่ทำให้ แมวปากเหม็น

แมวปากเหม็น
  • อาหาร อาหารที่เราให้แมวรับประทานเข้าไปนั้นเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้แมว ปากเหม็น ยิ่งหากแมวของคนกินอาหารเปียกด้วยแล้วมันอาจจะเข้าไปติดอยู่ตามซอกฟันของพวกเขาก็ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงอาจจะต้องตรวจสอบให้ดีหากพบว่าแมวมีกลิ่นปากว่าเรานั้นมีการเปลี่ยนอาหารพวกเขาหรือไม่ หากพบว่าเมื่อเปลี่ยนอาหารแล้วพวกเขามีกลิ่นปากก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ยังไม่ค่อยน่ากังวลสักเท่าไหร่ เพียงแต่เราอาจจะต้องดูแลความสะอาดในช่องปากพวกเขาให้ดีขึ้น 
  • ลูกแมวฟันหลุด ปัญหาสุขภาพแมวที่ทาสต้องใส่ใจก็คือเรื่องฟันของพวกเขานั่นเอง มันจะมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ลูกแมวจะมีกลิ่นปากเป็นพิเศษนั่นก็คืออายุประมาณ 4 เดือนขึ้นไปเพราะฟันน้ำนมของพวกเขากำลังร่วงและฟันแท้กำลังจะขึ้น เป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอะไรน่ากังวล
แมวปากเหม็น
  • มีปัญหาในช่องปาก การที่แมวของเรามีกลิ่นปากผิดปกติอาจจะหมายความว่าพวกเขามีปัญหาในช่องปากก็เป็นได้ ให้เราสังเกตดูว่าพวกเขามีกลิ่นปากแรงผิดปกติหรือไม่ มีเหงือกบวมแดงผิดปกติ เบื่ออาหาร ไม่ร่าเริงสดใส พบว่ามีเลือดออกตามฟันและเหงือก หากพบสิ่งเหล่านี้ให้พาพวกเขาไปรับการรักษาจากสัตวแพทย์ก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้
  • อาการป่วย อาการป่วยที่ทำให้พวกเขามีกลิ่นปากนั้นจะประกอบไปด้วยโรคไตที่มีสารแอมโมเนียและยูเรียผสมอยู่ในเลือด โรคตับที่ทำให้กลิ่นปากของพวกเขาเหมือนกลิ่นอาเจียน โรคเบาหวานที่พวกเขาจะมีกลิ่นปากเหมือนกับผลไม้ หรือโรคอื่นๆ อย่างเช่นมะเร็งหรือการติดเชื้อ 

ดูแลอย่างไรให้แมวมีช่องปากที่สุขภาพดี 

แมวปากเหม็น

ปัญหาแมวปากเหม็นนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยรวมไปถึงสุขภาพแมวเองก็ตาม หน้าที่ของเราก็คือคอยดูแลเรื่องปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้พวกเขามีกลิ่นปาก ทำความสะอาดช่องปากของพวกเขาอยู่เสมอด้วยการใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันสำหรับแมว หรือหากแมวตัวไหนดื้อไม่ค่อยยอมให้แปรงฟันจะลองใช้ขนมขัดฟันก็สามารถช่วยได้เป็นอย่างดี หากพบว่าพวกเขามีอาการเซื่องซึมจะลองพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคก็ได้เช่นเดียวกัน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

ดูแลลูกแมว อย่างไรให้ห่างไกลจากโรคผิวหนัง 

ลูกแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก หากใครมีโอกาสที่ได้เลี้ยงดูพวกเขาก็คงจะตกหลุมรักได้ไม่ยากเย็น สิ่งที่คนเลี้ยงแมวอย่างพวกเราต้องการมากที่สุดไม่มีอะไรไปมากกว่าการ ดูแลลูกแมว ให้พวกเขานั้นจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีความร่าเริงแจ่มใสตามฉบับแมวทั่วไป

ดูแลลูกแมว

แต่อย่างไรก็ตามการดูแลลูกแมวนั้นจำเป็นที่จะต้องใส่ใจอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะพวกเขาเพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นานทำให้ยังมีร่างกายที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการเป็นโรคมากมายโดยเฉพาะโรคผิวหนัง เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีโรคผิวหนังอะไรบ้างที่สามารถเกิดขึ้นได้กับพวกเขาและเราจะมีวิธีการดูแลพวกเขาอย่างไร 

ดูแลลูกแมว รวมโรคผิวหนังที่ลูกแมวมีโอกาสเสี่ยงสูง 

ดูแลลูกแมว
  • โรคเชื้อรา หากคุณดูแลลูกแมวไม่ดีพอสิ่งที่จะตามมาเป็นอันดับแรกเลยก็คือเชื้อรานั่นเอง มันเป็นโรคที่อันตรายแถมยังรักษาให้หายยากเย็นอีกต่างหาก สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกแมวของคุณก็คือผลจะร่วงออกมาเป็นวง มีอาการผิวหนังแดงอักเสบและตกสะเก็ด หากผิวหนังถูกทำลายไปมากก็อาจจะเกิดอาการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมา การดูแลนอกจากจะต้องทายาหรือกินยาตามที่หมอสั่งแล้วเรายังต้องดูแลความสะอาดให้ดีอีกด้วย เพราะมันเป็นโรคที่สามารถติดมาสู่มนุษย์ได้ 
ดูแลลูกแมว
  • ปรสิตภายนอก สุขภาพแมวจะไม่ดีอย่างแน่นอนหากพวกเขามีปรสิตมาเกาะตามตัว โดยปรสิตภายนอกนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบนั่นก็คือเห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ว่าจะเป็นเห็บหรือหมัด เราต้องกำจัดให้หมด ดูแลความสะอาดพวกเขาให้ดี อาจจะต้องมีการหยอดยาป้องกันเห็บหมัดให้กับพวกเขาอยู่เป็นประจำ และแบบที่ต้องส่องกล้องอย่างเช่นพวกไรขี้เรื้อนหรือไรในหู ปรสิตเหล่านี้เราจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัดเพราะมันอาจจะทำให้พวกเขาถึงขั้นพิการได้เลยทีเดียว
ดูแลลูกแมว
  • ติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย สังเกตเห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะมีอาการคัน บนผิวหนังมีสีแดงและเป็นตุ่มหนอง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ สาเหตุที่พบบ่อยมักเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันลดลง และมักจะเกิดขึ้นกับแมวที่ชอบอยู่ในบริเวณที่ชื้นหรือเปียก 

เปิดวิธีการสังเกตและดูแลป้องกันโรคผิวหนังให้แมว

ดูแลลูกแมว

เวลาที่เราดูแลลูกแมวเราก็ไม่อยากให้พวกเขาป่วยเป็นอะไรโดยเฉพาะโรคผิวหนัง ดังนั้นเราจึงต้องดูแลและป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวให้พวกเขามีสุขภาพแมวที่ดี สิ่งที่เราต้องทำเป็นประจำก็คือตรวจสอบสุขภาพผิวหนังของพวกเขาด้วยตาเปล่าอยู่เสมอ โดยจะต้องดูเส้นขน ผิวหนัง เล็บ และใบหู

เมื่อลูกไปตามลำตัวพวกเขาแล้วขนจะต้องนุ่มไม่ร่วงติดมือออกมา แหวกขนไปถึงผิวหนังจะต้องไม่พบปรสิต ตุ่มแดง สะเก็ดรังแค หรือตุ่มหนอง ดูบริเวณใต้ลำคอ ขาหนีบ รักแร้ว่ามีรอยแดงหรือไม่ เปิดหูพวกเขาทั้งสองข้างดูว่าสะอาดดีหรือไม่หรือมีอะไรเปลี่ยนชื้นอยู่ข้างใน รวมไปถึงอุ้งเท้าที่บริเวณโคนเล็บจะต้องสะอาด หากเราเจอสิ่งผิดปกติก็ต้องรีบพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

วัคซีน แมว สิ่งสำคัญที่คนเลี้ยงแมวควรใส่ใจดูแล 

การรับแมวมาเลี้ยง 1 ตัวนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายและภารกิจที่ตามมาอีกมากมาย เพราะเมื่อเรารับพวกเขามาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วย่อมต้องการให้พวกเขาอยู่กับเราไปอีกนานๆ แต่พวกเขาจะอยู่กับเราได้ไม่นานหากมีอาการป่วยโดยเฉพาะโรคร้ายแรงของแมวทั้งหลาย

สิ่งที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัดก็คือการฉีดวัคซีนเช่นกับมนุษย์นั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าหลังรับแมวมาแล้วตัวนึงเราจะต้องพาพวกเขาไปฉีด วัคซีน แมว อะไรบ้าง 

รวม วัคซีน แมว ที่คนเลี้ยงแมวต้องทำให้ครบ 

วัคซีนแมว
  • โรคพิษสุนัขบ้า เป็นวัคซีนแมวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อที่พบได้ทั่วไปในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และยังสามารถติดต่อมาสู่มนุษย์ได้อีกด้วย สัตว์ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีพฤติกรรมดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด 
  • โรคหัดแมว เป็นวัคซีนที่ป้องกันการเกิดปัญหาแมวป่วยได้เป็นอย่างดี เพราะลูกแมวส่วนใหญ่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมากกว่าปกติ ส่งผลให้แมวมีอาการขาดน้ำ เบื่ออาหาร มีไข้ ซึม และอาเจียน หากลูกแมวมีอาการป่วยเป็นโรคนี้โอกาสที่จะรักษาหายค่อนข้างต่ำ
วัคซีนแมว
  • โรคเอดส์แมว เป็นโรคที่คล้ายคลึงกับเชื้อไวรัส HIV ที่พบได้ในมนุษย์ ทำให้ภูมิคุ้มกันภายในร่างกายบกพร่อง สามารถแบ่งออกได้เป็นถึง 5 ระยะเลยทีเดียว แต่หากสามารถพบได้เร็วและรักษาอย่างถูกวิธีก็จะช่วยยืดอายุแมวได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่การฉีดวัคซีนป้องกันไม่ให้แมวมีอาการป่วยเป็นโรคนี้อย่างแน่นอน
  • โรคไข้หวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิดที่มีอาการป่วยแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการเบื่ออาหาร ไอ จาม มีไข้ เจ็บปวดเนื้อตัว หากติดเชื้อไวรัสรุนแรงอาจส่งผลถึงชีวิตเลยทีเดียว
วัคซีนแมว
  • โรคลูคีเมีย เป็นมะเร็งที่สามารถพบได้บ่อยแถมยังสามารถติดต่อผ่านน้ำลาย ของเสีย หรือเส้นขนได้อีกด้วย ส่วนใหญ่มักพบว่ามีไข้สูง ท้องเสีย น้ำหนักลง หายใจไม่สะดวก 

แมวควรฉีดวัคซีนเมื่อมีอายุครบกี่เดือน 

วัคซีนแมว

หากรับลูกแมวมาดูแลตั้งแต่เป็นแมวแรกเกิดนั้นควรพามารับวัคซีนแมวเมื่อมีอายุครบ 8 สัปดาห์ ไม่ควรให้ฉีดวัคซีนทันทีหลังคลอดเนื่องจากยังไม่หย่านมแม่ที่มีภูมิคุ้มกันจึงยังไม่จำเป็นต้องฉีดแต่อย่างใด

แต่หากลูกแมวไม่มีประวัติสุขภาพแล้วรับมาเลี้ยงในภายหลัง มีอายุเกิน 8 สัปดาห์ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ทันทีหากไม่มีอาการแมวป่วย หากรับแมวโตมาเลี้ยงและไม่ทราบประวัติสุขภาพควรกักตัวดูอาการประมาณ 2 สัปดาห์แล้วพามาพบแพทย์เพื่อวางแผนในการฉีดวัคซีนต่อไป 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

ทำหมัน แมว หนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพให้กับแมวแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง 

มนุษย์ธรรมดาทั่วไปเมื่อป่วยจนต้องได้รับการผ่าตัดเราต่างทราบกันดีว่าการผ่าตัดนั้นล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบตามมาไม่มากก็น้อย แล้วนับประสาอะไรกับแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ดังนั้นการ ทำหมัน แมว ถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนและปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด เพราะขึ้นชื่อว่าการผ่าตัดอย่างไรก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำหมันให้กับแมวจะมีอะไรกันบ้าง 

รวมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการ ทำหมัน แมว

ทำหมัน แมว
  • ผลข้างเคียงจากยาสลบ การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวที่หลายคนเลือกทำเนื่องจากช่วยปรับพฤติกรรมให้กับแมวได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามการผ่าตัดนั้นจำเป็นต้องใช้ยาสลบซึ่งไปกดการทำงานของทั้งหัวใจและปอดซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นน้อยเพราะจะมีการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเสียทีเดียวแต่อย่างใด 
  • สำลักขณะสลบ เมื่อสรุปแล้วไม่ว่าจะมนุษย์หรือแมวต่างสูญเสียความสามารถในการกลืนทั้งสิ้น ดังนั้นหากคนเลี้ยงแมวไม่ได้ทำการอดน้ำหรืออดอาหารตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด มันจึงมีความเสี่ยงไม่น้อยเลยทีเดียวที่แมวจะสำลักน้ำหรืออาหารที่รับประทานเข้าไปก่อนเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากของเหล่านั้นไหลขึ้นมาจากกระเพาะสู่ปอดนั่นเอง 
ทำหมัน แมว
  • ปัญหาเกี่ยวกับแผลผ่าตัด หากดูแลแผลผ่าตัดไม่ดีหรือมีความผิดพลาดตั้งแต่ขั้นตอนการผ่าตัดแผลผ่าตัดอาจมีปัญหาได้ไม่ว่าจะเป็นมีเลือดออก หากติดเชื้ออาจมีน้ำหนองไหลออกมา รอยเย็บจะมีความบวมและเป็นจ้ำแดงมากขึ้นกว่าเดิม มีพฤติกรรมเดินหลังค่อม แต่โดยปกติแล้วสัตวแพทย์จะป้องกันด้วยการให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้ออยู่แล้ว 
  • ท้องผูก หลังจากผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วแมวต้องเผชิญกับความเครียด ความเจ็บปวด ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะไม่ค่อยรับประทานอาหารสักเท่าไหร่ มันจะเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแมวจึงมักท้องผูกอยู่เสมอเมื่อมีอาการเจ็บป่วย ให้เราสังเกตให้ดีหลังผ่าตัดตั้งแต่ 48 ถึง 72 ชั่วโมงว่าแมวมีการถ่ายอุจจาระหรือไม่ หากแมวไม่ขับถ่ายเลยให้ปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วนเพราะอาจมีอาการแทรกซ้อนได้

พฤติกรรมแมวคุณอาจเปลี่ยนไปหากพาพวกเขาไปทำหมันให้แมว 

ทำหมัน แมว

การทำหมันแมวเป็นการดูแลสุขภาพแมวแถมยังช่วยปรับเปลี่ยนนิสัยให้พวกเขากลับมาอยู่ในร่องในรอยเหมือนกับสมัยยังเป็นเด็กอีกครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกตัวแต่อย่างใด แมวบางตัวอาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เป็นแมวที่เรียบร้อย กินเยอะ ดูอวบอั๋นมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่แมวบางตัวนั้นก็ยังคงมีระบบเผาผลาญที่ยอดเยี่ยม ยังคงวิ่งไล่ได้ตามปกติ แถมอาจจะยังมีพฤติกรรมก้าวร้าวอีกด้วย ซึ่งเกิดจากนิสัยของพวกเขาไม่ใช่ผลจากการทำหมันแต่อย่างใด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวป่วย เป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน 

เชื่อว่ามนุษย์หลายคนเคยป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบมาแล้วโดยเฉพาะมนุษย์เพศหญิง มันเป็นโรคที่เหมือนกับอยู่คู่กับเรามาตั้งแต่สมัยที่โตเป็นสาวก็ว่าได้ และที่สำคัญโรคดังกล่าวผู้ชายก็สามารถเป็นได้เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าความเสี่ยงจะน้อยกว่า นับประสาอะไรกับสัตว์ตัวเล็กอย่างแมวถึงจะไม่ป่วยเป็นโรคนี้ รู้หรือไม่ว่ามีแมวมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เคยประสบปัญหาป่วยเป็นโรคดังกล่าวมาแล้ว เราจึงจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับ แมวป่วย โรคนี้กันว่าพวกเขามีอาการอย่างไรและเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง 

ทำความรู้จักกับโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ แมวป่วย ที่ต้องได้รับการรักษา 

แมวป่วย

หากคุณเคยป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบมาก่อนคุณจะเข้าใจดีถึงความทรมานและความยากลำบากในการใช้ชีวิต อาการของแมวป่วยโรคดังกล่าวไม่ได้แตกต่างจากเวลาที่มนุษย์ป่วยเป็นโรคนี้สักเท่าไหร่ ปัญหาดังกล่าวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกเขาอย่างเช่นการรับประทานอาหารที่ผิดปกติไปจากเดิม การกินน้ำน้อย อาการที่จะเกิดขึ้นก็คือฉี่นอกกระบะทราย ฉี่กระปิดกระปอย มีอาการส่งเสียงเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ ไม่เพียงเท่านั้นอาการเจ็บป่วยของพวกเขายังส่งผลให้พวกเขารู้สึกเซื่องซึม ไม่สนใจกิจกรรมที่ปกติแล้วชื่นชอบ ไม่วิ่งเล่นสนุกสนานเหมือนที่เคยเป็น ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจขาดความกระตือรือร้นอีกด้วย

แมวป่วย

หากตรวจสุขภาพแมวหรือสังเกตเห็นอาการแมวพบว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าวควรพาแมวไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมาอีกมากมาย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่โรคที่เป็นอันตรายถึงตายแต่ก็ทำให้แมวที่เรารักไม่มีความสุขเช่นเดียวกัน เมื่อพาไปพบแพทย์แล้วแพทย์อาจมีการวินิจฉัยและให้ยา คนเลี้ยงจะต้องดูแลหลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นการให้ยาพวกเขาอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์สั่ง พาไปพบแพทย์ตามนัดตรงต่อเวลา ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การกระตุ้นให้พวกเขากินน้ำมากขึ้นกว่าเดิม หากพวกเขาไม่ยอมกินน้ำเองก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องป้อนน้ำพวกเขาเช่นเดียวกัน และอย่าลืมให้อาหารสูตรพิเศษที่จะช่วยลดค่าความเป็นกรดด่างของปัสสาวะพวกเขาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือจะให้แคนเบอรี่ที่ลดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระก็ได้เช่นเดียวกัน

ป้องกันอย่างไรไม่ให้แมวป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ

แมวป่วย

เวลาแมวป่วยคนเลี้ยงก็เหมือนจะป่วยไปด้วย เพราะเมื่อสุขภาพแมวไม่ดีพวกเขาย่อมไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนเดิม ดังนั้นการป้องกันจึงดีกว่าการแก้ไขก่อนที่พวกเขาจะป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอักเสบ เราต้องกระตุ้นให้พวกเขาดื่มน้ำอยู่เป็นประจำ อาจต้องลองใช้น้ำพุแมวหรือจัดวางน้ำเอาไว้ในบริเวณที่เหมาะสม เนื่องจากแมวจะไม่ดื่มน้ำหรืออาหารที่อยู่ใกล้แหล่งสกปรกอย่างเช่นกระบะทราย กระตุ้นให้พวกเขากินอาหารอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามโภชนาการ ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพียงเท่านี้พวกเขาก็จะมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยแล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

แมวไม่กินน้ำ ปัญหาที่ทำให้ทาสหลายคนต้องปวดหัว 

แมวเป็นสัตว์ที่มีอาการป่วยรุมเร้าเป็นจำนวนมากหากเราไม่ดูแลรักษาสุขภาพพวกเขาให้ดีตั้งแต่เริ่มนั่นก็คือพฤติกรรมการรับประทานนั่นเอง หากพิจารณาดูให้ดีพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคไตอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาชอบอาหารที่มีรสเค็ม เนื่องจากลิ้นของพวกเขาไม่สามารถรับรสหวานได้ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังไม่ค่อยกินน้ำสักเท่าไหร่ตามธรรมชาติอีกด้วย สาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่ยอมกินน้ำนั้นมีมากมายแต่วิธีการที่จะสามารถกระตุ้นให้พวกเขากินน้ำก็มีเช่นเดียวกัน เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีวิธีการรับมืออย่างไรหาก แมวไม่กินน้ำ ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน 

รวมเทคนิคที่จะช่วยแก้ปัญหา แมวไม่กินน้ำ เทคนิคที่จะกระตุ้นแมวให้กินน้ำมากขึ้นกว่าเดิม 

แมวไม่กินน้ำ
  1. ความสะอาด แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาดเป็นอย่างมาก หากแมวไม่กินน้ำก็อาจจะหมายถึงพวกเขารู้สึกว่าน้ำสกปรกหรืออยู่ใกล้แหล่งสกปรกก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงควรดูแลสุขภาพแมวด้วยการเปลี่ยนน้ำพวกเขาเป็นประจำทุกวันให้มั่นใจว่าน้ำนั้นสะอาดบริสุทธิ์อย่างแน่นอน พยายามวางน้ำและชามอาหารให้ไกลจากสิ่งสกปรกอย่างเช่นกระบะทราย ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังไม่ชอบกินน้ำที่นิ่งอีกด้วย ดังนั้นการใช้น้ำพุแมวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถกินน้ำได้มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
  2. ทางเลือก การดูแลสุขภาพแนวนั้นจำเป็นต้องใช้เงิน หากแมวของคุณไม่ยอมกินน้ำอาจเกิดจากการที่พวกเขานั้นมีความชอบที่แตกต่างกันออกไป แมวบางตัวชอบกินน้ำในชามธรรมดา แมวบางตัวชอบกินน้ำแบบน้ำพุ ดังนั้นการมีภาชนะใส่น้ำที่หลากหลายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับพวกเขานั้นก็จะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาอยากกินน้ำมากยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี
  3. ประเภทของน้ำ คนเลี้ยงแมวแต่ละคนมีน้ำให้สัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกันออกไป บางคนเลือกใช้น้ำประปาแต่มันถูกผสมฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ สำหรับแมวแล้วมันอาจจะน่าขยะแขยงจนไม่อยากจะกินก็เป็นได้ เราอาจจะลองใช้น้ำจากเครื่องกรองน้ำหรือใช้น้ำดื่มที่ซื้อเป็นขวดให้พวกเขาดู ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะชื่นชอบน้ำเหล่านั้นก็เป็นได้ และยังต้องไม่ลืมเรื่องอุณหภูมิอีกด้วย บางตัวอาจจะชอบน้ำเย็นในขณะที่บางตัวก็อาจจะชอบน้ำอุ่นเช่นเดียวกัน 

เหลือครึ่งเดียว = หมดแล้ว สาเหตุที่ทำให้แมวไม่กินน้ำ 

แมวไม่กินน้ำ

ปัญหาการเหลืออาหารแค่ครึ่งเดียว = หมดแล้วหลังจากนั้นแมวก็มาร้องให้เราเติมอาหารนั้นได้เกิดขึ้นกับอาหารเพียงแค่อย่างเดียวแต่เกิดขึ้นกับน้ำด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงควรเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอเพื่อแก้ปัญหาแมวไม่กินน้ำ สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่น้ำที่เหลืออยู่เพียงแค่น้อยนิดในชามทำให้พวกเขากินลำบาก การเติมให้เต็มจะช่วยพวกเขากินง่ายมากขึ้นกว่าเดิมและมันก็กระตุ้นความอยากกินน้ำของพวกเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายจากการได้เล่นน้ำอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการดูแลสุขภาพแมวให้ดีก็อย่าลืมหมั่นเติมน้ำแมวอยู่เป็นประจำ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

วัคซีนแมว สิ่งสำคัญที่มีหลายเรื่องที่คนเลี้ยงแมวอาจไม่เคยรู้มาก่อน 

สำหรับคนเลี้ยงแมวเราต่างรู้ดีว่าการฉีดวัคซีนให้แมวนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องดูแล เนื่องจากมันเป็นการช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แมวปลอดภัยจากโรคอันตรายทั้งหลายที่จะพรากชีวิตพวกเขาไปจากเรา แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนนั้นก็ยังมีอะไรมากมายที่คนเลี้ยงแมวธรรมดาทั่วไปอาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำต้องเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุกี่เดือน แมวแบบไหนบ้างที่ไม่ควรได้รับการฉีดวัคซีน เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการฉีด วัคซีนแมว มากขึ้นกัน 

รวมสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับการฉีด วัคซีนแมว

วัคซีนแมว

วัคซีนแมวเป็นสิ่งสำคัญที่ควรเลี้ยงแมวทุกคนต้องทำแต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายสิ่งที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับแมว หากคุณนั้นได้ดูแลแมวตั้งแต่แรกเกิด เมื่อพวกเขามีอายุครบ 6 สัปดาห์ถึง 8 สัปดาห์เราสามารถพาพวกเขาไปรับวัคซีนเข็มแรกได้ในทันที แต่เราไม่ควรให้ลูกแมวได้รับวัคซีนในทันทีหลังจากคลอดเช่นเดียวกัน เนื่องจากในช่วงที่ลูกแมวกำลังดื่มนมแม่อยู่นั้น นมแม่แมวจะเปรียบเสมือนกับเกราะป้องกันอันตรายจากโรคร้ายรวมไปถึงไวรัสและแบคทีเรียให้ลูกแมวยังคงปลอดภัย

วัคซีนแมว

ดังนั้นมันจึงไม่มีสาเหตุที่เราต้องเร่งนำเอาลูกแมวที่ยังไม่แข็งแรงมากพอไปรับวัคซีนให้เสี่ยงอันตราย แต่หากคุณรับลูกแมวที่ไม่รู้ประวัติสุขภาพตั้งแต่พวกเขาเกิดมาดูแล เราสามารถพาพวกเขามารับวัคซีนได้เมื่อพวกเขามีอายุตั้งแต่ 6 ถึง 8 สัปดาห์เป็นต้นไป แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อเราได้รับเขามาดูแลแล้วให้ทำการกักตัวเพื่อสังเกตอาการความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์ หากลูกแมวปกติดีก็ให้นำมาพบสัตวแพทย์ได้เลย แต่ในกรณีที่คุณรับแมวผู้ใหญ่มาเลี้ยงและไม่ทราบประวัติเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขาเลย จำเป็นจะต้องกักตัวเช่นเดียวกับกรณีของลูกแมว จากนั้นให้นำมาหาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ที่สำคัญก็คือถึงแม้ว่าเราจะฉีดวัคซีนทุกเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่แมวควรได้รับการกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุก 1 หรือ 2 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของพวกเขานั้นได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอและมีสุขภาพแมวที่ดี

แมวแบบไหนบ้างที่เราไม่ควรพาไปรับวัคซีน

วัคซีนแมว

การฉีดวัคซีนแมวอาจช่วยให้สุขภาพแมวดีก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้วมีแมวอยู่บางกลุ่มเช่นเดียวกันที่ไม่ควรพาไปรับวัคซีน นั่นก็คือแมวที่มีโรคประจำตัวหรือแมวที่กำลังมีอาการเจ็บป่วย ให้ทำการรักษาและเลื่อนกำหนดการฉีดออกไปจนกว่าพวกเขาจะมีร่างกายที่แข็งแรง หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะวัคซีนอาจไปกระตุ้นให้แมวเกิดอาการเจ็บป่วยหนักกว่าเดิม อีกหนึ่งกลุ่มที่ไม่ควรได้รับวัคซีนก็คือแมวที่กำลังตั้งท้อง เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกแมวที่อยู่ในครรภ์ได้ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สุขภาพ

รู้หรือไม่ ให้ อาหาร แมว ไม่ตรงเวลาส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิด 

สิ่งสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ก็คือการให้อาหาร การให้อาหารไม่เพียงแต่เราจะต้องเลือกสารอาหารที่เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะเป็นคุณภาพและโภชนาการเท่านั้น แต่เรายังต้องใส่ใจในเวลาให้อาหารอีกด้วย ระบบภายในร่างกายสัตว์นั้นความจริงแล้วก็มีความใกล้เคียงกับมนุษย์นั่นก็คือหากรับประทานอาหารตรงเวลาก็จะมีสุขภาพที่ดี หากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันก็ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นสำหรับทาสแมวทั้งหลายจึงควรให้ อาหาร แมว ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน เพราะหากคุณทำไม่ได้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าผลเสียของการให้อาหารไม่ตรงเวลาจะมีอะไรกันบ้าง 

รวมผลกระทบที่แมวจะได้รับหากคุณให้ อาหาร แมว ไม่ตรงเวลา 

อาหารแมว
  • ระบบภายในร่างกาย การให้อาหาร แมวไม่ตรงเวลานั้นจะทำให้ระบบภายในร่างกายของพวกเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากคุณลืมให้อาหารพวกเขาจะทำให้พวกเขามีระดับน้ำตาลต่ำ มีปัญหาเรื่องการดูดซึมอาหารและระบบย่อยอาหาร ส่งผลต่อสุขภาพแมวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากพวกเขามีอาการป่วยอยู่แล้วอาจจะส่งผลรุนแรงถึงชีวิตเลยก็เป็นได้
  • น้ำหนักตัว การให้อาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันจะก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบเผาผลาญพลังงาน และหากผู้เลี้ยงพบว่าตัวเองให้อาหารช้าไปหรือลืมให้อาหารในบางมื้อกลัวพวกเขาหิวจึงให้อาหารเพิ่ม หรือไม่ก็มีการให้รับประทานขนมระหว่างมื้อมากจนเกินไป รวมไปถึงการให้อาหารดึกเกิน จะส่งผลให้พวกเขามีน้ำหนักตัวมากขึ้นกว่าเดิมและเสี่ยงที่จะเป็นโรคตามมาอีกมากมาย
อาหารแมว
  • ส่งผลเสียต่อพฤติกรรม สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะแมวหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นหากได้รับอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันจะเกิดปัญหาทางอารมณ์ พวกเขาจะมีอารมณ์แปรปรวนไม่ว่าจะเป็นวิตกกังวล เครียด หงุดหงิด เนื่องจากพวกเขารู้สึกหิว ไม่เพียงเท่านั้นอาจยังเกิดปัญหาจิตใจไม่มั่นคง มีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว อาจมีการท้าทายเจ้าของอีกด้วย 
  • ขาดความเชื่อมั่น สัตว์เลี้ยงจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเจ้าของเช่นเดียวกัน หากคุณให้อาหารไม่เป็นเวลาอยู่เป็นประจำพวกเขาจะขาดความเชื่อมั่นต่อตัวเจ้าของเอง พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงไม่ได้กินอาหาร พวกเขาจะรู้สึกกังวล สิ่งเหล่านี้จะส่งผลทำให้พวกเขาไม่เชื่อมั่นและเชื่อใจผู้เลี้ยงอย่างเราอีกต่อไป 

ให้อาหารแมวตรงต่อเวลาทุกวัน ช่วยให้แมวสุขภาพจิตและกายดี 

อาหารแมว

จากผลเสียทั้งหมดที่ว่ามาทำให้เราสามารถสรุปได้ว่าการให้อาหารแมวตรงต่อเวลาเป็นประจำทุกวันนั้นจะช่วยให้สุขภาพแมวดีขึ้นทั้งกายและใจ พวกเขาจะได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน ระบบภายในร่างกายทำงานได้ดี เป็นแมวที่มีอารมณ์ดี พฤติกรรมดี ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ให้อาหารไม่ตรงเวลาอยู่เป็นประจำ ขอแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนดู ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้แมวตัวใหม่ที่นิสัยไม่เหมือนเดิมก็เป็นได้ 

อ่านบทความอื่นๆ: