Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

เปิดเคล็ดลับ ดูแลแมว อย่างไรให้สุขภาพดีอยู่เสมอ

เปิดเคล็ดลับ ดูแลแมว  อย่างไรให้สุขภาพดีอยู่เสมอ

แมวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบด้วยความน่ารักและนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกมัน ข้อความที่มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมเลี้ยงกันมาอย่างยาวนานดังนั้นหลายคนจึงรู้วิธีการดูแลเอาใจใส่แมวอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามความรู้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับองค์ความรู้ทั่วไปที่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีการอัพเดทใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นสำหรับทาสแมววันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาแนะนำเคล็ดลับการ ดูแลแมว อย่างไรให้สุขภาพดีอยู่เสมอให้ทุกคนได้ลองทำตามเพื่อสุขภาพที่ดีของแมวที่เรารักกัน 

รวมเคล็ดลับการดูแลอย่างไรให้แมวของเราสุขภาพดีอยู่เสมอ 

  1. การหาหมอและการฉีดวัคซีน สิ่งแรกที่เราต้องทำหลังจากที่รับน้องแมวมาเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ใช่การพาเข้าบ้านแต่อย่างใดแต่เป็นการพาแมวไปพบกับหมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีแมวที่เลี้ยงอยู่แล้วมันจำเป็นมากที่คุณจะต้องพาแมวตัวใหม่ไปหาหมอก่อนเพื่อดูว่าน้องแมวตัวใหม่นั้นมีโรคติดต่อติดมาด้วยหรือไม่ สุขภาพเป็นอย่างไรเพื่อที่เราจะได้ดูแลอย่างถูกต้อง และที่สำคัญคือเมื่อผู้มันมีอายุครบ 6 สัปดาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเจ้าของอย่างเราจะต้องพามันไปฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค นับเป็นการ ดูแลแมว ขั้นพื้นฐานที่หลายคนอาจหลงลืมไป 
  2. การทำหมัน หากอยากให้ แมวสุขภาพดี สิ่งที่เราจะต้องทำทั้งกับแมวตัวผู้และแมวตัวเมียนั้นก็คือการทำหมันนั่นเอง หากเราไม่ได้ต้องการให้พวกเขาเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มีลูกให้กับเราในอนาคตเราสามารถนำเอาแมวไปทำหมันได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป การทำหมันจะช่วยลดการต่อสู้ในฤดูผสมพันธุ์และยังลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์อีกด้วย นอกจากนี้ในตัวเมียยังช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งเต้านมได้อีกต่างหาก เหมาะสำหรับคนที่อยากจะให้แมวอยู่ติดบ้านเพราะช่วยลดการออกไปเที่ยวได้เป็นอย่างดี 
  3. เลือกอาหาร อาหารอาจจะเป็นสิ่งที่เจ้าของแมวหลายคนรู้สึกว่าค่อนข้างๆเนื่องจากในปัจจุบันมีทั้งอาหารเม็ดอาหารเปียกให้เราได้เลือกมากมาย แต่เคล็ดลับคือเราควรให้อาหารเม็ดสลับกับอาหารเปียกเพื่อให้แมวรู้สึกไม่เบื่อจนเกินไป ควรเลือกอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสุขภาพรวมไปถึงการบำรุงขน ที่สำคัญคือต้องเลือกให้ถูกต้องตามลักษณะและวัยของแมว 
  4. จำนวน หลายคนมองว่าการเลี้ยงแมวหลายๆ ตัวในบ้านนั้นคงจะสร้างความสุขให้กับเราได้ไม่น้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ควรเลี้ยงแมวเอาไว้ในบ้านเกิน 3 ตัวเพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมาไม่ว่าจะเป็นการดูแลไม่ทั่วถึง การติดโรค และอื่นๆ อีกมากมาย 

เลี้ยงแมวระบบปิด เคล็ดลับการดูแลให้แมวของเราปลอดภัย 

การ ดูแลแมว ไม่ได้หมายถึงอาหารหรือสุขภาพเพียงแค่อย่างเดียว แต่การอยู่อาศัยเองก็สำคัญ หากเราอยากให้ แมวสุขภาพดี เราขอแนะนำให้เลี้ยงแมวระบบปิดโดยฝึกให้พวกเขาอยู่ในบ้านตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อลดการติดโรคร้ายแรงรวมไปถึงบาดแผลจากการต่อสู้กัน 

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

อาบน้ำแมว จำเป็นหรือไม่ มีอะไรที่ควรระวังบ้าง

อาบน้ำแมว จำเป็นหรือไม่ มีอะไรที่ควรระวังบ้าง

เรามักจะเคยได้ยินว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ที่สะอาดมากจนเรานั้นไม่จำเป็นต้องอาบน้ำพวกมันก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้นแมวส่วนใหญ่ยังเป็นสัตว์ที่กลัวน้ำอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามแมวนั้นก็ยังเป็นสัตว์ที่เราจะต้องทำความสะอาดพวกมันอยู่ดีและวิธีการทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นก็คือการอาบน้ำ แต่เพราะแมวก็ไม่ได้ชอบการอาบน้ำสักเท่าไหร่ทำให้เจ้าของหลายคนสงสัยว่าสรุปแล้วแมวที่เราเลี้ยงนั้นจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบกันว่าการอาบน้ำแนวนั้นจำเป็นหรือไม่และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง 

วิธีการอาบน้ำให้แมวและสิ่งที่ควรประเมินก่อนจับอาบน้ำ 

หากคุณอยาก อาบน้ำแมว แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี สิ่งที่ควรทำหน้าที่สุดก็คือการเริ่มต้นฝึกอาบน้ำให้พวกมันตั้งแต่ยังเด็ก หาก แมวอาบน้ำ ตั้งแต่ยังเด็กพวกมันก็จะเกิดความคุ้นชิน โดยเราจะต้องเริ่มในช่วงที่พวกมันกำลังทำวัคซีนและถ่ายพยาธิเรียบร้อยแล้วซึ่งจะมีอายุประมาณ 2 เดือน เริ่มต้นจากการจับเท้าของแมวจุ่มลงไปในน้ำอุ่นเพื่อให้พวกมันรู้สึกกลัวน้อยลง จากนั้นก็เพิ่มระดับน้ำขึ้นมาจนเราสามารถอาบน้ำได้ หากคุณไม่มั่นใจว่าแมวของเราจะสามารถอาบน้ำได้หรือไม่ข้อแรกที่ต้องพิจารณาก็คือสภาพร่างกาย หากเราพบว่าแมวของเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นการไม่กินอาหาร ขับถ่ายไม่ปกติ ไม่ร่าเริง ควรงดการอาบน้ำออกไปก่อน ก่อนการอาบน้ำเราจะต้องแปรงขนที่พันกันและเอาขนที่หลุดร่วงออกให้หมดก่อน ทำการเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำให้พร้อมทั้งกะละมังหรืออ่าง แชมพู ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าขน ค่อยๆ เปิดฝักบัวในระดับน้ำที่ไม่แรงแล้วฉีดไปตามตัวของแมวแบบเบาๆ นำเอาแชมพูลงไปฟอกโดยระวังไม่ให้ฟ้องเข้าตา ถ้าไม่มั่นใจให้นำเอาผ้าเปียกเช็ดหน้าแมวแทนการล้างหน้าให้พวกมัน จากนั้นก็ล้างแชมพูออกให้หมดแล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด เป่าขนให้แห้งสนิทโดยเฉพาะบริเวณข้อพับเป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

แมวต้องอาบน้ำบ่อยหรือไม่ แล้วมีอะไรต้องระวังบ้าง 

หากคุณอยาก อาบน้ำแมว แต่ไม่รู้ว่าต้องอาบบ่อยแค่ไหน ความถี่ที่เราจะให้ แมวอาบน้ำ นั้นจะอยู่ที่ประมาณทุก 1-3 เดือน ไม่จำเป็นต้องอาบทีเหมือนสุนัขเนื่องจากพวกมันรักสะอาดและมักจะเลียขนตัวเองอยู่เสมอ หาแมวตัวไหนกลัวการอาบน้ำมากให้ทำความสะอาดด้วยวิธีอื่นเช่นการใช้ทิชชู่เปียกหรือโฟมอาบน้ำแห้ง ส่วนข้อควรระวังในการอาบน้ำนั้นก็คือความปลอดภัยของตัวเราเองโดยเรานั้นจะต้องตัดเล็บพวกเขาให้เรียบร้อยและเตรียมพื้นที่ให้พร้อมมากที่สุด และที่สำคัญไปไม่แพ้กันก็คือความปลอดภัยของแมว เราต้องระมัดระวังพวกมันจะตะเกียดตะกายออกมาจากอ่างหรือกะละมังจนได้รับบาดเจ็บ ระมัดระวังไม่ให้แชมพูเข้าตา ควรเป่าผลด้วยการใดเบาโดยใช้ลมเย็น เป่าให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราในภายหลัง 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

สร้าง ภูมิคุ้มกันแมว อย่างไรให้ปลอดภัยห่างไกลโรค

สร้าง ภูมิคุ้มกันแมว อย่างไรให้ปลอดภัยห่างไกลโรค 

เป็นเรื่องปกติของคนเลี้ยงแมวที่อยากจะให้แมวของตนเองนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่การที่แมวจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของพวกเขาว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งภูมิคุ้มกันนั้นในความเป็นจริงแล้วเราสามารถเสริมให้กับสัตว์เลี้ยงของเราได้ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารที่ถูกต้อง การพาไปรับวัคซีน การให้แมวรับประทานนมแม่ในสมัยที่พวกมันยังเป็นเด็ก สำหรับใครที่อยากจะให้แมวของตนเองและมีสุขภาพที่แข็งแรงและอยู่กับเราไปอีกนานๆ วันนี้เราก็มีวิธีการเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันแมว ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน

รวมวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้แมว เพื่อสุขภาพของแมวที่แข็งแรง

A cat with blue eyes

Description automatically generated with medium confidence

การสร้าง ภูมิคุ้มกันแมว นั้นจะช่วยให้ แมวสุขภาพดี  หากภูมิต้านทานมากก็จะทำให้พวกเขานั้นเจริญเติบโตได้อย่างสมวัยและไม่เจ็บป่วย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ภูมิต้านทานอ่อนลงก็จะมีอาการเจ็บป่วยให้เราได้เห็นมากขึ้น โดยวิธีการเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แมวเรานั้นจะประกอบไปด้วย 

  1. ให้แมวดื่มนมแม่ แมวตั้งแต่แรกเกิดมาจนถึงวัยเด็กนั้นระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาจะยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่โดยเฉพาะแมวแรกเกิดที่จำเป็นจะต้องรับภูมิคุ้มกันมาจากแมวตัวแม่ ซึ่งวิธีการถ่ายทอดภูมิคุ้มกันจากแม่สู่ลูกแมวนั้นจะมี 2 วิธีนั่นก็คือในระหว่างการตั้งท้องและการให้นมน้ำเหลืองจะช่วยให้ลูกแมวที่เกิดใหม่สามารถต้านทานเชื้อต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังจะช่วยให้พวกมันมีร่างกายที่แข็งแรงและมีพัฒนาการที่รวดเร็วอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรให้แมวดื่มนมแม่เป็นระยะเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ 
  2. ทำวัคซีน ในปัจจุบันนี้มีเชื้อโรคมากมายที่สามารถติดต่อกันในเหล่ากลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายนั้นสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อที่มีความอันตรายและอาจจะส่งผลต่อชีวิตของผู้มันได้ วัคซีนจะเข้าไปลดความรุนแรงของโรคแต่จะไม่ได้รับประกันว่าแมวที่รับวัคซีนแล้วจะไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด โดยเราควรพาลูกแมวอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปไปรับวัคซีนตามกำหนด 
  3. อาหาร ภูมิต้านทานนั้นสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยการให้แมวรับประทานอาหารที่ดีโดยจะต้องมีสารอาหารที่สำคัญประกอบไปด้วยกรดอะมิโนและโปรตีนซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์โดยเฉพาะในระบบภูมิคุ้มกัน กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จะช่วยให้สุขภาพดีและลดอาการอักเสบ รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ร่างกายไม่ถูกอนุมูลอิสระทำร้ายจนเจ็บป่วย 

รวมด่านป้องกันโรคก่อนที่มันจะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายแมว 

A cat yawning with its mouth open

Description automatically generated with medium confidence

ภูมิคุ้มกันแมว นั้นเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการของด่านป้องกันโรคก่อนจะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของพวกมัน  แมวสุขภาพดี นั้นจะต้องมีด่านทั้ง 3 อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นระบบห่อหุ้มร่างกายเช่นผิวหนัง เยื่อบุ กระจกตาเป็นต้น ต่อมาคือภูมิคุ้มกันตั้งแต่กำเนิดซึ่งลูกแมวนั้นจะมีตั้งแต่เกิดติดตัวมาด้วย และสุดท้ายคือภูมิคุ้มกันที่เกิดหลังจากที่ได้รับสิ่งแปลกปลอมอย่างเช่นการได้รับวัคซีนหรือการติดเชื้อโรคแล้วหาย 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

โรคพิษสุนัขบ้า  โรคร้ายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แมวก็สามารถเป็นได้ 

โรคพิษสุนัขบ้า  โรคร้ายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แมวก็สามารถเป็นได้ 

       หมดจากช่วงฤดูหนาวไปเราก็จะเข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้ว เป็นช่วงที่มีโรคอันตรายมักจะระบาดในช่วงนี้นั่นก็คือ โรคพิษสุนัขบ้า นั่นเอง โรคดังกล่าวนั้นอย่างที่เราทราบกันดีว่ามันเป็นโรคที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบในสุนัขและสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ทำให้คนที่ถูกสุนัขที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวกาดก็จะมีโอกาสติดเชื้อหากไม่ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน ความที่ชื่อของม้าในภาษาไทยมีคำว่าสุนัขทำให้คนหลายคนเข้าใจผิดว่ามันเป็นโรคที่พบเฉพาะในสุนัขและมนุษย์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วโลกดังกล่าวนั้นสามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไปไม่เว้นแม้กระทั่งแมวเช่นเดียวกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูว่าโรคดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไรและมีวิธีการป้องกันอย่างไรได้บ้าง

RABIES โรคร้ายที่อาจคร่าชีวิตแมวของคุณ 

       RABIES เป็นชื่อ โรคพิษสุนัขบ้า ในภาษาอังกฤษหรือในภาษาไทยที่เรารู้จักกันในอีกชื่อว่า โรคกลัวน้ำ  โรคดังกล่าวนั้นเป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อได้ผ่านทางน้ำลายอย่างเช่นการข่วน การกัด หรือการเลียบริเวณที่เป็นบาดแผล เชื้อไวรัสที่ปะปนอยู่ในน้ำลายนั้นก็จะสามารถเข้าสู่บริเวณบาดแผลได้ โรคดังกล่าวนั้นจะติดต่อเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ แมว สุนัข ไม่เพียงเท่านั้นยังติดในสัตว์ป่าอีกด้วยอย่างเช่นลิง สุนัขจิ้งจอก หรือค้างคาวเช่นเดียวกัน มันเป็นโรคร้ายที่เราจะต้องรีบสังเกตเนื่องจากหากแมวของเราติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมันก็จะเข้าไปทำลายระบบประสาท แมวที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวนั้นจะมีอาการแสดงออกมาและจะเสียชีวิตภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น โดยอาการของโรคนั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะด้วยกันประกอบไปด้วยอาการเริ่มต้นนั่นก็คือจะมีไข้ ซึม รับประทานอาหารได้ไม่มาก ระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 2-3 วัน จากนั้นจะเข้าสู่ระยะที่ 2 เป็นระยะตื่นเต้นที่จะมีอาการหงุดหงิด กระวนกระวาย มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป และสุดท้ายจะเป็นระยะอัมพาตที่สัตว์เลี้ยงของเรานั้นจะอยู่นิ่งขยับตัวไม่ได้อีกต่อไป ส่วนใหญ่จะพบอาการทรงตัวผิดปกติ กลืนลำบาก น้ำลายไหลมาก และกลัวน้ำ 

ป้องกันแมวอย่างไรให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส RABIES

       หากคุณกังวลว่าแมวของเรานั้นจะป่วยเป็น โรคพิษสุนัขบ้า หรือ โรคกลัวน้ำ ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการพาลูกแมวไปทำวัคซีนเข็มแรกตอนอายุประมาณ 3 เดือน และทำวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อมีอายุครบ 6 เดือน จากนั้นก็ให้ทำการกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำทุกปี ถึงแม้ว่าจะเลี้ยงในบ้านแต่ก็ควรที่จะกระตุ้นวัคซีนเป็นประจำเพราะไม่แน่ว่าแมวของเราอาจจะไปกัดหนูที่ติดโรคดังกล่าวได้ และหากสงสัยว่าแมวกำลังป่วยเป็นโรคดังกล่าวให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีและแจ้งข้อมูลด้านสุขภาพให้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นประวัติสุขภาพหรือการทำวัคซีน 

 

 

เว็บบอล

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ตรวจเลือดแมว สำคัญอย่างไร แล้วทำไมเราจึงต้องตรวจ 

ตรวจเลือดแมว สำคัญอย่างไร แล้วทำไมเราจึงต้องตรวจ 

แมวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หากเปรียบเทียบไปแล้วมันก็เหมือนกับมนุษย์เราที่ต้องมีการตรวจเช็คสภาพร่างกายอยู่เป็นประจำ โดยความถี่ในการตรวจสุขภาพของแมวนั้นคือเป็นประจำทุก 1 ปีเหมือนกับเวลาที่เราไปตรวจสุขภาพประจำปีนั่นเอง การตรวจสุขภาพนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการให้แมวมีสุขภาพที่ดีตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงสามารถบอกได้ว่าการ ตรวจเลือดแมว นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมากอีกหนึ่งอย่างในกระบวนการเลี้ยงแมวทั้งหมด วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าเพราะเหตุใดเราจึงควรตรวจเลือดของแมวและมันมีความสำคัญอย่างไร

ตอบคําถาม ตรวจเลือดให้แมวมีความสำคัญอย่างไร 

  1. พฤติกรรมของแมว การ ตรวจเลือดแมว นั้นสาเหตุใหญ่ก็มาจากพฤติกรรมของแมวเอง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพแมวของเราเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์อย่างเช่นแมลงหรือจิ้งจก การออกไปเที่ยวข้างนอก พวกมันมีสัญชาตญาณเป็นนักล่าและเป็นผู้ถูกล่าในห่วงโซ่อาหาร ดังนั้นมันจึงมักจะเก็บอาการป่วยไว้ไม่ให้เรารู้ กว่าจะแสดงอาการก็อาการหนักเกินกว่าจะทันแก้ไขแล้ว เราจึงควรตรวจสุขภาพของพวกมันเป็นประจำเพื่อดูว่าสุขภาพของพวกมันยังคงดีอยู่หรือไม่ 
  2. โรคในแต่ละวัย แมวก็เหมือนกับมนุษย์ที่มีโรคประจำไว้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นแมวอายุน้อยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะพบโรคจากแบคทีเรียหรือไวรัสเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่ดีพอ แมวอายุมากมักจะพบปัญหาการเสื่อมของอวัยวะภายใน อย่างเช่นสุขภาพหัวใจ ไต ตับเป็นต้น
  3. จำนวนแมวในบ้าน การเลี้ยงแมวรวมกันหลายตัวมีความเสี่ยงที่จะทำให้มีการแพร่เชื้อโรคกันเองหรืออาจเกิดจากความเครียดในการเลี้ยงรวมกันหลายตัวก็ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นยิ่งเลี้ยงแมวหลายตัวก็ยิ่งต้อง ตรวจสุขภาพแมว ทุกตัวอยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือโรคที่เกิดจากความเครียด

รู้หรือไม่ตรวจสุขภาพของแมวมีมากกว่าการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียว

อย่างที่เราทราบกันดีว่าสัตวแพทย์นั้นมักจะแนะนำให้เจ้าของนำแมวของตนเองมาตรวจสุขภาพอย่างน้อยเป็นประจำ 1 ครั้งต่อปีโดยเฉพาะแมวที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีจนถึง 6 ปีขึ้นไป ส่วนแมวที่มีอายุเกิน 7 ปีนั้นควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน โดยการ ตรวจสุขภาพแมว นั้นมีมากกว่าการ ตรวจเลือดแมว เพียงอย่างเดียวแต่ยังรวมไปถึงการตรวจอย่างอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นการตรวจร่างกาย วัดอุณหภูมิ ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ตรวจสุขภาพปอดและหัวใจ ตรวจหู ตรวจตา วัดความดัน ประเมินความสมบูรณ์ และตรวจเลือดหาค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ดูค่าเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด รวมไปถึงตรวจค่าเคมีอย่างเช่นค่าไตและค่าเอนไซม์ตับ 

 

 

sa gaming

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

แมวมีพยาธิ  ปัญหาสุขภาพสำคัญที่ผู้เลี้ยงมักละเลย 

แมวมีพยาธิ  ปัญหาสุขภาพสำคัญที่ผู้เลี้ยงมักละเลย 

แมวนั้นเป็นสัตว์ที่รักอิสระเป็นอย่างมากและคนรักแมวต่างก็รู้เรื่องนี้ดี ด้วยเหตุนี้จึงมีคนเลี้ยงแมวหลายคนที่ยอมปล่อยแมวของตนเองให้ออกไปเที่ยวแบบอิสระ บางคนก็ยอมให้แมวออกมาเที่ยวเล่นแถวสวนหน้าบ้านเพื่อรับลมชมวิว บางคนอาจจะไม่ได้ปล่อยให้แมวออกมาข้างนอกและเลี้ยงระบบปิดก็จริงแต่ถ้าภายในบ้านมีแมลงสาบหรือจิ้งจก แมวเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่ที่จะมีความเสี่ยงในการเป็นพยาธิได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ที่รักษาเป็นอย่างมาก ทำให้หลังจากที่พวกมันจับสัตว์เล็กๆ หรือออกไปเล่นข้างนอกแล้วพวกมันก็จะทำความสะอาดด้วยการเลียขนตัวเองอยู่เสมอ มันจะมีโอกาสสูงที่พวกมันจะเป็นพยาธิและได้รับเชื้อโรคอื่นเข้าสู่ร่างกาย บางคนอาจดูแลดีมากแต่ก็มีไข่พยาธิบางชนิดที่ทนความร้อนสูงและสามารถติดมาพร้อมกับปลาในกระป๋องก็มี วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าควรรับมืออย่างไรเมื่อ แมวมีพยาธิ  

แมวเป็นพยาธิเกิดจากอะไรและมีอาการอย่างไรบ้าง 

แมวมีพยาธิ นั้นมักจะมีอาการป่วยให้เราสามารถสังเกตเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน แต่อย่างไรก็ยังคงอาศัยความใส่ใจและการสังเกตของเจ้าของอยู่ดี โดยอาการของแมวที่มีพยาธิมักจะมีขนหยาบกระด้างหรือขนร่วงเยอะผิดปกติ ท้องเสียเป็นประจำและบางครั้งอาจมีมูกเลือดปนออกมาด้วย มีขี้ตาเยอะผิดปกติ ตาแฉะ ขอบตาและเหงือกเป็นสีซีดขาว ตัวผอมบางแต่ท้องโตผิดปกติ รับประทานอาหารเป็นประจำและหิวบ่อยมาก บางตัวอาจมีอาการไอแบบถี่ๆ เหมือนกับมีอะไรติดคอ บางตัวจะมีอาการคันแถวทวารหนัก พฤติกรรมมักจะนั่งขัดไปกับพื้นเพื่อเป็นการเกา บางครั้งก็อาจจะมีพยาธิออกมาให้เราเห็น พยาธิที่มักพบอยู่เป็นประจำนั้นมีหลายชนิดด้วยกันประกอบไปด้วยพยาธิตัวกลม อย่างเช่นพยาธิเส้นด้ายหรือพยาธิไส้เดือน พยาธิตัวแบน อย่างเช่นพยาธิปากขอหรือพยาธิตัวตืด พยาธิเหล่านี้จะสามารถเจาะผ่านเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณอุ้งเท้าของแมวเพื่อเข้าไปในระบบร่างกายของแมวเราได้ ไม่เพียงเท่านั้นแมวยังมีโอกาสเป็นพยาธิหัวใจซึ่งมียุงเป็นพาหะนำโรคเหมือนกับสุนัขได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากเราต้องการที่จะปกป้องแมวให้ปลอดภัยจากพยาธิก็ควรที่จะตรวจสุขภาพและ ถ่ายพยาธิแมว เป็นประจำ 

ต้องการและดูแลอย่างไรไม่ให้แมวเป็นพยาธิ 

สาเหตุที่ แมวมีพยาธิ นั้นเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกไม่เว้นแม้กระทั่งการอยู่ในสวนหน้าบ้านก็ตาม การจัดสัตว์เล็กอย่างเช่นจิ้งจกหรือแมลงสาบ ดังนั้นเราจึงควรพาแมวไป ถ่ายพยาธิแมว กับสัตวแพทย์เป็นประจำตั้งแต่อายุประมาณ 3-4 สัปดาห์ เนื่องจากลูกแมวสามารถรับไข่พยาธิมาจากนมแม่ได้ จากนั้นก็ถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก 1 เดือนจนกว่าจะมีอายุประมาณ 3-4 เดือนแล้วค่อยเลื่อนความถี่เป็นครั้งละ 2 เดือน ดูแลอาหารให้ดีเนื่องจากอาหารที่ชื้นมากก็จะยิ่งมีความเสี่ยงของไข่พยาธิมาก ปลาที่มาจากตลาดควรทำให้สุกก่อนอย่างน้อย 5-10 นาทีขึ้นไป 

 

 

สมัครบาคาร่า

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

เชื้อราแมว โรคร้ายของแมวที่สามารถติดมาสู่คนได้ 

เชื้อราแมว โรคร้ายของแมวที่สามารถติดมาสู่คนได้ 

ปกติแล้วเวลาสัตว์เลี้ยงป่วยเป็นโรคต่างๆ เรามักไม่ค่อยกังวลหรือไม่ค่อยได้ระมัดระวังเนื่องจากเรามองว่ามันไม่สามารถติดต่อมาถึงตัวเราได้ แต่ความเป็นจริงแล้วมีหลายโรคในสัตว์เลี้ยงเลยทีเดียวที่สามารถติดต่อมายังมนุษย์ได้โดยเฉพาะพวกโรคผิวหนัง ดังนั้นหากแมวของใครเป็นโรคผิวหนังโดยเฉพาะโรค เชื้อราแมว ต้องระมัดระวังให้ดีเพราะมันเป็นโรคผิวหนังแมวที่สามารถติดต่อมาสู่คนได้ แถมใครที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วจะรักษายากมากยิ่งขึ้น ทิ้งรอยแผลเป็นและความคันเอาไว้ให้เราเป็นอนุสรณ์อีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากและรีบรักษาทันทีเมื่อพบว่าแมวป่วยเป็นโรคดังกล่าว 

ทำความรู้จักกับเชื้อราในแมว โรคผิวหนังที่ทำให้คุณติดไปด้วยได้

 เชื้อราแมว นั้นมีหลากหลายชนิดด้วยกัน เป็น โรคผิวหนังแมว ที่สามารถพบได้บ่อยเป็นอย่างมากไม่ว่าเราจะระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตาม แม้แต่แมวที่เลี้ยงในระบบปิดก็สามารถป่วยเป็นโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน สาเหตุส่วนใหญ่นั้นมักเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า Microsporum Canis เชื้อราประเภทดังกล่าวจะเกิดจากความชื้นสะสมตามร่างกาย ดังนั้นแมวที่มีขนยาวจึงมีความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าวมากกว่าแมวขนสั้นนั่นเองเนื่องจากมีโอกาสในการสะสมความชื้นมากกว่า ลักษณะอาการของโรคนั้นสังเกตได้ไม่ยากเลยแม้แต่น้อย โดยบริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อนั้นลักษณะของมันจะมีความแดง แห้ง บางตัวอาจมีผิวหนังลอก มีขนร่วงเป็นหย่อม หากเจออาการเหล่านี้เราก็สามารถสันนิษฐานได้เลยว่าแมวของเราน่าจะป่วยเป็นโรคผิวหนังอย่างแน่นอน หากไม่รีบรักษามันจะติดมายังมนุษย์ได้ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถติดจากแมวสู่แมวด้วยกันเองได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อพบแมวตัวใดตัวหนึ่งป่วยเป็นโรคดังกล่าวให้ทำการกักกันแมวตัวดังกล่าวออกจากแมวตัวอื่นทันที จากนั้นพาแมวทุกตัวไปตรวจเพาะเชื้อ ยกเลิกการผสมพันธุ์และการพาออกไปนอกสถานที่ อาบน้ำด้วยแชมพูรักษาเชื้อราโดยเฉพาะ ระมัดระวังกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้สูงอายุ และเด็กเล็กเนื่องจากจะมีความเสี่ยงในการรับเชื้อราจากแมวได้มากกว่าปกติ

แมวเป็นเชื้อราต้องรักษาอย่างไรบ้าง 

เมื่อเราพบว่าแมวของเราป่วยเป็น เชื้อราแมว  ไม่ต้องกังวลไปเพราะ โรคผิวหนังแมว ดังกล่าวเป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้แม้ว่าจะใช้เวลาค่อนข้างนั้นก็ตาม วิธีการรักษานั้นจะประกอบไปด้วยการรับประทานยาตามคำสั่งของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด การอาบน้ำด้วยแชมพูฆ่า เชื้อราแมว โดยเฉพาะ ทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสกับสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ ฆ่าเชื้อของทุกอย่างที่แมวสัมผัส พาแมวไปรับวัคซีนป้องกันโรค เพียงเท่านี้แมวของเราก็จะกลับมาสุขภาพดีเหมือนเดิม

 

 

ไฮโลไทย

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

รวมสัญญาณที่บอกว่า สุขภาพแมว ยังคงดีอยู่ 

รวมสัญญาณที่บอกว่า สุขภาพแมว ยังคงดีอยู่ 

ด้วยความที่แมวนั้นเป็นสัตว์ที่รักสันโดษทำให้บางครั้งผู้เลี้ยงอย่างเราเองก็ค่อนข้างที่จะหลงลืมมันไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน เชื่อว่ามีคนเลี้ยงแมวหลายคนที่หลงลืมวันที่จะต้องพาพวกมันไปตรวจสุขภาพในแต่ละช่วงเวลา ความจริงแล้วแมวนั้นก็มีช่วงเวลาที่สามารถเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกับมนุษย์เรา ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจดูแลและสังเกตสัญญาณสุขภาพของพวกมันให้ดีเพื่อตรวจสอบว่า สุขภาพแมว ของเรานั้นยังคงดีอยู่หรือไม่ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาวันนี้เราก็มีสัญญาณสุขภาพดีของแมวมาแนะนำกันว่าสัญญาณแบบไหนบ้างที่ชี้ว่าแมวของเรายังมีสุขภาพดีอยู่

สัญญาณสุขภาพดีที่คนเลี้ยงแมวต้องรู้

  1. พฤติกรรม ถ้า สุขภาพแมว ดีพวกมันจะมีความร่าเริงแจ่มใส ไม่มีอาการซึม สามารถเล่น กินอาหาร ดื่มน้ำ และขับถ่ายได้อย่างปกติ ดังนั้นเราจึงสามารถสังเกต พฤติกรรมของแมว เหล่านี้ได้ว่าพวกมันยังคงกินอาหารได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ มีอาการดื่มน้ำน้อยลงไปหรือไม่ ขับถ่ายตามเวลาในแต่ละวันตามปกติหรือไม่ หากทุกอย่างปกติดีก็หมายความว่าแมวของเรายังคงสุขภาพดีอยู่นั่นเอง
  2. ผิวหนัง ขน และดวงตา เป็นลักษณะภายนอกของแมวที่เราสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกมันมีอาการป่วยหรือไม่ โดยแมวที่สุขภาพดีนั้นจะต้องมีดวงตาที่สดใส ไม่มีขี้ตา ไม่มีความขุ่นมัว ขนสวยสุขภาพดี มีความนุ่มลื่นไม่หยาบกระด้าง ผิวหนังดูสุขภาพดีไม่มีสะเก็ดให้เห็น แมวไม่มีพฤติกรรมเกาไปตามลำตัว 
  3. การขับถ่าย สิ่งที่เราจะต้องสังเกตก็คือความถี่ในการขับถ่ายว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่ ซึ่งแมวแต่ละตัวนั้นจะมีเวลาในการขับถ่ายแตกต่างกันออกไป อีกหนึ่งสิ่งก็คือลักษณะของที่ถ่ายออกมาจะต้องเป็นก้อนไม่เหลว 
  4. หัวใจและกล้ามเนื้อ วิธีการสังเกตก็คือดูว่าแมวของเรามีร่างกายที่สมส่วนหรือไม่ มีรูปร่างลักษณะที่อ้วนหรือผอมเกินไปหรือเปล่า เวลาที่เล่นหรือวิ่งออกกำลังกายมีอาการเหนื่อยง่ายให้เห็นหรือไม่
  5. กระดูกและข้อต่อ ลองสังเกตเวลาที่แมววิ่งหรือปีนว่าพวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกคล่องแคล่วหรือไม่ การทรงตัวยังสามารถทำได้ดีหรือเปล่า 
  6. สุขภาพฟัน สังเกตว่าฟันของแมวมีสีขาว ไม่มีคราบหินปูน มีความแข็งแรงดีหรือไม่ อาจต้องลองสังเกตเวลาที่แมวหายว่าภายในปากนั้นสะอาดพอหรือเปล่า เนื่องจากหากแมวมีคราบหินปูนจะเป็นเรื่องใหญ่มากเพราะต้องวางยาสลบในการขูดออก

ทำอย่างไรให้แมวมีสุขภาพดีครบทุกสัญญาณ

หากเราต้องการให้ สุขภาพแมว ดีครบทุกสัญญาณที่กล่าวมานอกจากการสังเกต พฤติกรรมของแมว แล้วเรายังจะต้องดูแลพวกมันให้ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใส่ใจเรื่องพฤติกรรมของพวกมัน การดูแลเรื่องอาหารการกิน สุขลักษณะไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ทั่วไป กระบะทราย หรือแม้แต่ความสะอาดของตัวพวกมัน หมั่นหวีขนเป็นประจำ ดูแลสุขภาพใจให้พวกมันมีความร่าเริงสดใส ก็จะช่วยให้พวกมันกลายเป็นแมวสุขภาพดีครบทุกสัญญาณตามที่เราบอกมา 

 

 

แทงบอลออนไลน์

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

รวมเคล็ดไม่ลับที่จะทำให้ แมวสุขภาพดี และอายุยืนยาว 

รวมเคล็ดไม่ลับที่จะทำให้ แมวสุขภาพดี

เมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงแล้วแน่นอนว่าเราย่อมต้องการให้พวกมันอยู่กับเราไปอย่างยาวนาน ด้วยเหตุนี้เราจึงพยายามกันทุกวิถีทางที่จะดูแลพวกมันให้ดีที่สุด โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่างแมวนั้นแม้ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างดูแลง่ายแต่ความจริงแล้วหากเราไม่ได้ดูแลสุขอนามัยพวกมันอย่างดีพอก็อาจจะทำให้พวกมันป่วยเป็นโรคได้ง่าย ไม่เพียงเท่านั้นบางโรคในแมวยังสามารถติดต่อมาสู่คนได้อีกต่างหาก หากเราดูแลพวกมันเป็นอย่างดีก็จะมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 16 ปีกันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาแนะนำเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้ แมวสุขภาพดี มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน 

รวมเคล็ดลับที่ช่วยให้แมวของเรามีสุขภาพดีและอายุยืนยาว 

    1. การฉีดวัคซีน หลังจากรับลูกแมวมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสิ่งแรกที่เราควรทำเพื่อให้ แมวสุขภาพดี นั่นก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพวกมันด้วยการฉีดวัคซีนนั่นเอง เมื่อลูกแมวมีอายุประมาณ 3-4 สัปดาห์ให้ทำการพาไปตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิก่อน หลังจากนั้นประมาณ 8-9 สัปดาห์ค่อยเริ่มวัคซีนครั้งที่ 1 จากนั้นก็พาไปรับวัคซีนตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์กำหนด 
    2. เลือกอาหาร แมวอาจจะชื่นชอบรับประทานอาหารสดอย่างเช่นปลาทู แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าอาหารทุกอย่างที่แมวชอบจะเป็นอาหารที่ดีสำหรับแมวแต่อย่างใด หากเราต้องการให้ แมวอายุยืน เราก็จำเป็นที่จะต้องเลือกอาหารให้เหมาะสมกับพวกเขามากที่สุดในแต่ละช่วงวัย อาหารที่ดีที่สุดสำหรับแมวก็คืออาหารที่ผลิตมาเพื่อแมวโดยเฉพาะอย่างอาหารแมวนั่นเอง อย่างไรก็ตามอาหารเม็ดจะดีกว่าอาหารเปียกตรงที่ส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากมากกว่า
    3. น้ำหนัก แมวบางตัวมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อพวกมันแก่ตัวลง นอกจากการดูแลเรื่องอาหารแล้วเรายังจะต้องทำการควบคุมน้ำหนักและดูแลเรื่องรูปร่างของพวกมันด้วย เมื่อแมวมีอายุมากยิ่งขึ้นพวกมันก็จะขยับตัวน้อยลง เราอาจจะต้องกระตุ้นให้พวกมันมีการออกกำลังกายอย่างเช่นชวนพวกมันเล่นเบ็ดตกแมว
    4. ความสวยความงาม แมวน้ำเป็นสัตว์ที่รักสวยรักงามและรับความสะอาดเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงต้องคอยดูแลความสะอาดและความสวยความงามของพวกมันอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการเช็ดขี้หูขี้ตา การแปรงขนเป็นประจำ การอาบน้ำสามารถทำได้แต่ไม่เกินอาทิตย์ละ 1 ครั้งและต้องเป่าขนให้แห้งสนิทเสมอเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

    ตรวจสุขภาพประจำปี สิ่งสำคัญที่คนเลี้ยงแมวต้องทำ 

    หากคุณต้องการให้ แมวสุขภาพดี และเป็น แมวอายุยืน สิ่งที่ควรต้องทำเป็นประจำทุกปีนั่นก็คือพาไปตรวจสุขภาพ เพื่อที่เราจะได้ทราบว่าร่างกายของแมวเรานั้นยังคงเป็นปกติตามที่ควรจะเป็นอยู่หรือไม่ สัตวแพทย์จะได้มีการช่วยเหลือดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับดูแลสภาพร่างกายและรูปร่างน้ำหนัก รวมไปถึงสุขภาพปากและฟัน การทำวัคซีนประจำปี 

     

     

    คาสิโนออนไลน์ฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

โรคของลูกแมว ที่คนเลี้ยงแมวต้องเฝ้าระวังให้ดี

โรคของลูกแมว ที่คนเลี้ยงแมวต้องเฝ้าระวังให้ดี

สัตว์เลี้ยงในวัยเด็กนั้นเป็นวัยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำทำให้เราต้องระมัดระวังเกี่ยวกับสุขภาพของพวกมันอยู่เสมอ โดยเฉพาะแมวซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในปัจจุบัน แม้ว่าพวกมันจะดูแข็งแรงและมีเลี้ยงง่ายแต่ความจริงแล้วพวกมันยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ ทำให้พวกมันกลายเป็นวัยที่มีความเสี่ยงจะป่วยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ลูกแมวจึงมีโรคที่ควรเฝ้าระวังไว้มากมาย หากใครที่ต้องการจะรับลูกแมวมาเลี้ยงวันนี้เราก็มี โรคของลูกแมว ที่ควรเฝ้าระวังมาแนะนำให้ทุกคนได้สังเกตอาการลูกแมวของตัวเองกัน 

รวมโรคที่ควรเฝ้าระวังของลูกแมวเพื่อความปลอดภัย 

  1. โรคไข้หัดแมว เป็นโรคที่กลุ่มเสี่ยงอยู่ในลูกแมวอายุ 2 ถึง 6 เดือน แมวที่กำลังตั้งครรภ์ แมวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หากเกิดในรูปแมวจะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงเป็นอย่างมาก อาการที่พบบ่อยคือเบื่ออาหาร ซึม มีไข้สูง อาเจียน ปวดเกร็ง และท้องเสีย เป็นโรคติดต่อที่ควรเฝ้าระวังให้ดีเพราะ โรคของลูกแมว โรคนี้สามารถทำให้ลูกแมวของเรากลับดาวได้อย่างง่ายดาย
  2. โรคหวัด เป็นเชื้อไวรัสจำเพาะที่เกิดในแมว กลุ่มเสี่ยงคือแมวที่มีอายุตั้งแต่ 5 ถึง 6 สัปดาห์ แมวภูมิคุ้มกันต่ำ แมวท้อง อาการจะคล้ายคลึงกับเวลาที่เราเป็นหวัดนั่นก็คือมีน้ำมูก เบื่ออาหาร มีอาการซึม มีขี้ตา จาม 
  3. โรคเอดส์ เป็นเชื้อไวรัสเดียวกับเอดส์คนแต่ไม่ติดต่อระหว่างคนกับแมวและมีอาการที่ต่างกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ไม่มีเรี่ยวแรง ผอม ขาดน้ำ หากอาการรุนแรงกว่าจะทำให้เสียชีวิตได้ สามารถติดต่อกับแมวตัวอื่นได้จึงควรแยกแมวที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวออกจากแมวที่สุขภาพดี 
  4. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นโรคที่สามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ มักติดต่อผ่านสารคัดหลั่งและน้ำลาย ดังนั้นจึงควรแยกแมวป่วยออกจากแมวที่สุขภาพดี ส่วนใหญ่มักมีอาการซึม ไม่ดื่มน้ำหรือทานอาหาร ขนแห้ง ต่อมน้ำเหลืองโต เป็น โรคลูกแมว ที่อันตรายมาก 
  5. โรคช่องท้องอักเสบ มักมีอาการตามระบบในร่างกายไม่ว่าจะเป็นไม่ดื่มน้ำและทานอาหาร มีไข้ น้ำหนักลด ซึม จาน น้ำมูกและน้ำตาไหล ท้องเสีย บางตัวอาจมีของเหลวในช่องอก กลุ่มเสี่ยงคือแมวอายุ 3 เดือนถึง 3 ปี สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งได้ 

ทำอย่างไรให้แมวปลอดภัยจากโรคที่เกิดกับลูกแมว 

วิธีการที่จะทำให้แมวปลอดภัยจาก โรคของลูกแมว ก็คือการพาพวกมันไปตรวจสุขภาพหลังจากที่รักให้มันมาจากฟาร์มทันที เราจะได้ทราบว่าพวกมันมีอาการป่วยอะไรหรือไม่และจะได้รักษาได้ทัน หากพวกมันไม่ได้ป่วยเป็น โรคลูกแมว ที่อันตรายก็จะได้ทำการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้มากยิ่งขึ้นโอกาสที่จะเกิดโรคอันตรายในอนาคต 

 

 

บาคาร่า888