Categories
สายพันธ์แมว

“แมวมงคล” ของไทย เลี้ยงไว้รับรองดีแน่นอน !

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยรองลงมาจากสุนัข เพราะด้วยมีนิสัยน่ารัก ขี้อ้อน แม้จะเข้าใจยากไปซักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนรักแมวแต่อย่างใด โดยแมวนั้นมีประวัติศาสตร์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ แมวไทยนั้นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีแมวไทยที่มีลักษณะเป็นมงคลตามความเชื่อของคนไทยแต่โบราณมาอีกด้วย หากเลี้ยงไว้รับรองว่าดีแน่นอน

แมววิเชียรมาศ

แมววิเชียรมาศ หรือแมวสยาม ชาวต่างชาติมักจะเรียกขานว่า “Siamese Cat” โดยจะมีสีน้ำตาลเข้มเก้าแห่งในร่างกาย คือ บริเวณหน้า เท้าทั้งสี่ หูทั้งสองข้าง หาง และอวัยวะเพศ ตัวเป็นสีครีม หัวไม่กลมและไม่แหลมจนเกินไป ที่เด่นชัดคือ ดวงตามักจะมีสีฟ้า มีนิสัยขี้อ้อน ช่างพูดช่างคุย ถือเป็นแมวมงคลตามความเชื่อของคนไทย ว่ากันว่าหากเลี้ยงวิเชียรมาศไว้ผู้เลี้ยงมักจะได้มีโชคแบบไม่รู้ตัว และมักสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้อีกด้วย

แมวโคราช

แมวโคราช หรือ แมวสีสวาด เป็นแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครอย่างสีตัวออกสีเทา หรือสีน้ำเงินเข้มหรือมีประกายเงินแซมเล็กน้อย ขนสั้น หรือมักจะถูกเรียกว่าสีบลู (Blue) แมวโคราชมีดวงตาสีเขียวสุกใสเป็นประกาย นิสัยของแมวโคราชนั้นเป็นแมวฉลาด รักเจ้าของและกลัวคนแปลกหน้า สามารถเข้ากันได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ตามความเชื่อแมวโคราชเป็นแมวมงคลที่จะให้ทำเงินทองไหลมาเทมา บ้านมีกินมีใช้ไม่มีหมด อีกทั้งยังทำให้การค้าเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย

แมวขาวมณี

เป็นแมวมงคลของไทยที่สามารถพบเห็นได้ง่ายที่สุดในปัจจุบัน มักถูกเรียกอีกชื่อว่า “แมวขาวปลอด” เพราะมีลักษณะขนสั้นสีขาวทั้งตัว จุดเด่นนอกจากสีขาวปลอดทั้งตัวแล้ว ตาทั้งสองข้างจะมีสีไม่เหมือนกัน โดยมีตาสีฟ้าข้าง สีเหลืองอำพันข้าง ซึ่งทำให้หลายคนชื่นชอบแต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นจุดบกพร่องของแมวขาวมณีเช่นกัน เพราะอาจทำให้แมวตาบอด หรือเสียประสาทสัมผัสการได้ยินได้เมื่อมีอายุมากขึ้น ตามความเชื่อกันว่า หากเลี้ยงแมวขาวมณีไว้ จะทำให้เจ้าของพ้นภัย และทำให้มีโชคลาภนำมาสู่ผู้เลี้ยง

แมวศุภลักษณ์

หรือ “แมวทองแดง” ชาวต่างชาติมักจะเรียกว่าแมวเบอร์มีส เพราะมีการนำไปพัฒนาสายพันธุ์ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นที่นิยมอย่างมาก มีลักษณะขนสั้นสีน้ำตาลเข้มทั้งตัว หรือออกสีทองแดง มีลักษณะสีเข้มในบริเวณหน้า เท้าทั้งสี ใบหู หางและอวัยวะเพศ (คล้ายกับวิเชียรมาศ) ตาสีออกเหลืองอำพัน หัวกลมเล็กน้อย มีนิสัยซุกซนอยากรู้อยากเห็น รักอิสระ หากเลี้ยงไว้จะทำให้มีชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์ รวมไปถึงการเจรจาค้าขายราบรื่น

โดยแมวมงคลที่เป็นแมวไทย 4 ชนิดข้างต้นนั้น ยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศ แต่หากเป็นบางชนิดอย่างเช่น แมวนิลจักร หรือแมววิลาศ บางชนิดที่เป็นแมวมงคลของไทยเช่นกัน แต่สูญพันธุ์ไปแล้ว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นแมวสายพันธุ์ไหนๆ ก็น่ารักทั้งนั้น แค่เจ้าของเลี้ยงด้วยความรัก ความผูกพัน ใส่ใจดูแลเท่านี้ก็จะทำให้มีความสุขทั้งเจ้าของเองและสัตว์เลี้ยงด้วย

Categories
สายพันธ์แมว อเมริกัน ช็อตแฮร์

แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

ถ้าอยากเลี้ยงแมวสำหรับกำจัดหนู แมวอเมริกันช็อตแฮร์ ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก เพราะแข็งแรง คล่องแคล่วและมีสัญชาตญาณนักล่าเต็มเปี่ยม เป็นแมวที่อยู่คู่การสร้างแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ซึ่งการจะเลี้ยงแมวอเมริกันช็อตแฮร์ แม้ลักษณะจะเป็นแมวลุยๆ แต่ก็มีข้อปฏิบัติและข้อควรระวังต่างๆที่ควรรู้

ถิ่นกำเนิดของแมวอเมริกันช็อตแฮร์

          อเมริกันช็อตแฮร์ มีต้นกำเนิดมาจากยุโรปและล่องเรือพร้อมกับผู้อพยพมายังแผ่นดินสหรัฐอเมริกาในช่วงสร้างประเทศ แต่คาดว่าบรรพบุรุษของแมวพันธุ์นี้ อาจจะเป็นแมวสายพันธุ์บริติชช็อตแฮร์หรือแมวสายพันธุ์ยุโรป อเมริกันช็อตแฮร์ถูกพัฒนาสายพันธุ์ในสหรัฐอเมริกา จึงถือเป็นแมวพื้นเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา

ลักษณะของแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์

          ลักษณะของแมวอเมริกันช็อตแฮร์จะมีขนสั้น หนาและเส้นขนแน่น ลำตัวมีขนาดกลางและมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หูกางตั้ง ตาโตรี เหมือนผลอัลมอนด์ หน้าผาโค้งนูน ลำคอหนา โดยตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 2-5 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีน้ำหนักตัวประมาณ 2-6 กิโลกรัม ตามลักษณะกายภาพ ตัวเมียจะตัวเล็กกว่าตัวผู้ แต่อาจจะสามารถอ้วนกว่าได้

          ลวดลายของอเมริกันช็อตแฮร์เป็นสิ่งที่โดดเด่น เพราะมีถึง 80 ลาย  ทั้งลายสีล้วน ลายกระดองเต่า ลายCalico ลายTabby และลายแบบไล่สี (Shaded) จะทำให้ราคาแมวอเมริกันช็อตแฮร์สูงขึ้นตามลวดลายที่ชัดเจนและหายาก ส่วนสีนั้น หลายคนตั้งคำถามว่าอเมริกันช็อตแฮร์มีกี่สี  ซึ่งจริงๆแล้ว อเมริกันช็อตแฮร์จะมีสีได้หลากหลาย ตั้งแต่ขาว ดำ ครีม เงิน ทอง น้ำตาล  สี Camero สี Bluecream และสีควันบุหรี่

สิ่งที่ควรระวังเมื่อเลี้ยงแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์

          แมวสายพันธ์อเมริกันช็อตแฮร์มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูงที่สืบทอดตามพันธุกรรม เพราะแมวพันธุ์นี้สภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา (Hypertrophic Cardiomyopathy : HCM) ซึ่งกล้ามเนื้อที่หนา จะหด-คลายตัวช้า สูบฉีดเลือดได้น้อยกว่าแมวพันธุ์อื่นๆ ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงอเมริกันช็อตแฮร์ จึงควรสืบค้นประวัติของแมวที่จะเลี้ยงว่ามาจากแมวพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีประวัติความเสี่ยงโรคหัวใจหรือไม่ และควรดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ หมั่นตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อป้องกันโรคหัวใจ

          นอกจากโรคหัวใจ ยังมีโรคผิวหนังและเชื้อรา เพราะภูมิคุ้มกันเชื้อราต่ำ จึงควรดูแลความสะอาด  ความอับชื้นในที่นอนแมว กระบะทรายแมวและหมั่นหวีขน จะช่วยป้องกันเชื้อราได้

การผสมพันธุ์และการทำหมัน

          การผสมพันธุ์แมวอเมริกันช็อตแฮร์นิยมผสมในสายพันธุ์เดียวกัน ซึ่งจะได้ลูกแมวอเมริกันช็อตแฮร์พันธุ์แท้ หรือผสมข้ามสายพันธุ์กับแมวบริติช ช็อตแฮร์ และ แมวสกอตติชโฟลด์ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดใกล้เคียงกัน ซึ่งถ้าลูกแมวที่เกิดจากการผสมอเมริกันช็อตแฮร์เข้ากับแมวบริติชช็อตแฮร์ แมวเปอร์เซีย หรือ พันธุ์อื่นๆ จะถือว่าเป็นลูกผสม ไม่มีชื่อเรียกสายพันธุ์ แต่ถ้าผสมกับแมวสกอตติชโฟลด์ ลูกที่เกิดมาจะเป็นสกอตติชโฟลด์ 

          แมวพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ที่เหมาะกับการนำมาผสมพันธุ์คือ อายุ 1 ปีขึ้นไป และสามารถทำหมันได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป แต่หลังจากทำหมัน แมวจะมีรูปร่างอ้วนง่ายขึ้น จึงควรดูแลความคุมน้ำหนักแมวหลังทำหมัน

Categories
สกอตติชโฟลด์ สายพันธ์แมว

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

          อีกหนึ่งสายพันธุ์แมวที่ครองใจคนรักแมว คือ สกอตติชโฟลด์ สุดน่ารัก แต่การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแมวที่กำลังจะเลี้ยง เป็นสิ่งสำคัญมากทีเดียว ถ้าคุณกำลังจะเลี้ยงแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ มีหลายสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแมวพันธุ์นี้ เพื่อการเลี้ยงแมวภายใต้ความเข้าใจและเป็นผลดีกับแมว

ถิ่นกำเนิดของแมวสกอตติช โฟลด์

          แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ มีต้นกำเนิดในประเทศสกอตแลนด์ ตามชื่อของสายพันธุ์ สกอตติช บรรพบุรุษคือแมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ที่มาผสมกับแมวพันธุ์พื้นเมือง จนยีนส์หูพับแสดงออกมา เป็นลูกแมวหูพับชื่อว่า ซูซี่ ต่อมาลูกหลานของซูซี่ ได้พัฒนาสายพันธุ์มาจนเป็นแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์และพันธุ์ไฮแลนด์โฟลด์

ลักษณะกายภาพของแมวสกอตติช โฟลด์

          ลักษณะของสกอตติช โฟลด์ จะเป็นแมวที่มีศีรษะกลม แก้มป่องกลม ดวงตากลมโต มีทั้งขนสั้น (Longhair) และขนยาว (Shorthair) หางและขาจะกลมมนเช่นกัน ส่วนหูจะมีทั้งหูพับและหูตั้ง น้ำหนักของตัวเมียจะอยู่ที่ 2-4 กิโลกรัม และตัวผู้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 4-6 กิโลกรัม

สิ่งที่ควรระวังเมื่อเลี้ยงแมวสกอตติชโฟลด์

          แมวสกอตติชโฟลด์ เป็นแมวที่จะมีปัญหาสุขภาพเรื่องของน้ำหนักตัว ด้วยลักษณะเป็นแมวที่รูปร่างท้วม อ้วนง่าย ทำให้จะส่งผลต่อหลังและกระดูกขาที่ต้องรับน้ำหนักตัวของแมว เพราะแมวสกอตติชโฟลด์จะมีข้อต่อกระดูกอ่อนแออยู่แล้วเนื่องจากยีนส์หูพับนั้น คือยีนส์ข้อต่อกระดูกไม่แข็งแรง ที่มีผลกับข้อต่อทั้งร่างกายด้วย ผู้เลี้ยงจึงต้องใส่ใจเรื่องอาหาร ควรเป็นอาหารที่เสริมสร้างกระดูก มีไขมันในปริมาณที่พอดีและดูแลควบคุมน้ำหนักของแมว

          แมวสกอตติชโฟลด์มีอัตราการผลัดขนที่สูง อาจจะนำมาสู่โรคก้อนขนอุดตัน สำหรับสกอตติชโฟลด์ขนสั้น ควรดูแลเรื่องการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และสกอตติชโฟลด์ขนยาว ควรแปรงขนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

การผสมพันธ์และการทำหมัน

          ในการผสมพันธุ์ของแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์นั้น มีข้อห้ามที่ไม่ควรนำแมวสกอตดิชโฟลด์หูพับผสมกัน เพราะจะยิ่งทำให้ยีนส์หูพับที่ส่งผลต่อกระดูกข้อต่อรุนแรงมากขึ้น ทำให้ลูกแมวที่เกิดมา อาจจะมีความพิการนั่นเอง แต่สามารถผสมกับแมวสกอตติชโฟลด์หูตั้งได้ รวมถึงสามารถผสมพันธุ์กับสายพันธุ์ใกล้เคียงกันอย่างบริติชช็อตแฮร์และอเมริกันช็อตแฮร์ได้ โดยลูกที่เกิดมา จะถือว่าเป็นสกอตติชโฟลด์ทั้งหมด แต่ยังมีการนำแมวสกอตติชโฟลด์ผสมพันธุ์กับแมวเปอร์เซีย ซึ่งลูกแมวสกอตติชโฟลด์ผสมเปอร์เซียไม่เป็นที่ยอมรับและไม่ถือว่าเป็นสกอตติชโฟลด์

          ลูกแมวสกอตติชโฟลด์ จะสามารถสังเกตลักษณะว่าเป็นหูพับหรือหูตั้ง เมื่อมีอายุ 3 สัปดาห์ขึ้นไป ในการทำหมันแมวสกอตติชโฟลด์นั้น สามารถทำได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป แต่หลังจากการทำหมันแล้ว จะทำให้แมวอ้วนขึ้น ซึ่งสกอตติชโฟลด์จะอ้วนง่ายกว่าแมวพันธุ์อื่นๆ

Categories
บริติช ช็อตแฮร์ สายพันธ์แมว

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

แมวบริติชช็อตแฮร์ มีต้นกำเนิดมาจากโรมัน ในสมัยสงครามโรมันและอังกฤษ ซึ่งเดินทางมากับกองทัพโรมันและผสมพันธุ์กับแมวพื้นเมืองอังกฤษ จนพัฒนาสายพันธุ์มาเป็น บริติชช็อตแฮร์  และแมวบริติชช็อตแฮร์นี้ ยังเป็นต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์สกอตติชโฟลด์ และอเมริกันช็อตแฮร์อีกด้วย ทำให้ทั้งสามสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกันที่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ได้

ถิ่นกำเนิดของแมวบริติชช็อตแฮร์

          แมวบริติชช็อตแฮร์ มีต้นกำเนิดมาจากโรมัน ในสมัยสงครามโรมันและอังกฤษ ซึ่งเดินทางมากับกองทัพโรมันและผสมพันธุ์กับแมวพื้นเมืองอังกฤษ จนพัฒนาสายพันธุ์มาเป็น บริติชช็อตแฮร์  และแมวบริติชช็อตแฮร์นี้ ยังเป็นต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์สกอตติชโฟลด์ และอเมริกันช็อตแฮร์อีกด้วย ทำให้ทั้งสามสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกันที่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ได้

บริติชช็อตแฮร์

ลักษณะของแมวบริติชช็อตแฮร์

          ลักษณะร่างกายของแมวบริติชช็อตแฮร์ จะเป็นแมวที่มีรูปร่างกะทัดรัด หัวกลมใหญ่ หน้าผากนูน ลำตัวหนา ใบหูเล็กแต่ฐานกว้าง ปลายมน คอสั้น ตากลมโต ลักษณะโดยรวมคล้ายกับสกอตติชโฟลด์

          ลักษณะขนของแมวพันธุ์นี้ จะขนสั้นและหนา นุ่ม แน่น ส่วนสีขนของบริติชช็อตแฮร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ บริติชช็อตแฮร์สีบลูและบริติชช็อตแฮร์สีทอง ซึ่งจะมีราคาสูงมาก แต่มีสีอื่นๆที่สวยงามและพบได้ในปัจจุบันคือ สีควันบุหรี่ สีครีมเข้ม สีเงิน สีดำเงา

          แมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ เป็นแมวที่มีความสวยงามเป็นจุดเด่น นิยมนำมาประกวดมากพอๆกับแมวสวยงามพันธุ์อื่นๆ อย่าง เมนคูน  เปอร์เซีย  อเมริกันเคิร์ล  เบงกอล  จึงมีการแบ่งเกรดแมว เป็นเกรด Show สำหรับประกวด, เกรด Breed สำหรับการผสมพันธุ์ต่อ สวยงามเท่าเกรด Show และเกรด House Pet เป็นเกรดสัตว์เลี้ยงหรือที่เรียกว่า บริติชช็อตแฮร์เกรดเลี้ยงเล่น ที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป

สิ่งที่ควรระวังเมื่อเลี้ยงแมวบริติชช็อตแฮร์

          แมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ จะมีโรคประจำตัวตามพันธุกรรมหลักๆ คือ โรคหัวใจ เช่นเดียวกับอเมริกันช็อตแฮร์ ซึ่งอาจจะถ่ายทอดถึงกันได้ เนื่องจากมีการผสมข้ามสายพันธุ์กัน และโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) สาเหตุจากการมีโปรตีนที่จำเป็นในร่างกายน้อยและโปรตีนบางชนิด ร่างกายแมวผลิตเองไม่ได้ ผู้เลี้ยงต้องดูแลเรื่องอาหาร ให้แมวทานอาหารที่มีโปรตีนจำเป็นครบถ้วนและดูแลไม่ให้แมวประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ควรเลี้ยงในระบบปิด เมื่อพาออกจากบ้านควรมีสายจูง

british-shorthair
cat

การผสมพันธุ์และการทำหมัน

          การผสมพันธุ์ นิยมผสมกับพันธุ์เดียวกันหรือผสมกับอเมริกันช็อตแฮร์และสกอตติชโฟลด์ แต่ในช่วงศตวรรษที่ 19 เคยมีการนำแมวบริติชช็อตแฮร์ผสมกับแมวพันธุ์เปอร์เซียอย่างแพร่หลาย ก่อนที่จะลดความนิยมลงเพราะมีการศึกษาเรื่องผลเสียของการผสมข้ามสายพันธุ์มากขึ้น จนกระทั่งปัจจุบัน การผสมพันธุ์แมวบริติชช็อตแฮร์กับแมวเปอร์เซียยังไม่ถูกยอมรับ รวมถึงไม่ยอมรับการนำแมวที่สืบเชื้อสายมาจากบริติชช็อตแฮร์ อย่าง อเมริกันช็อตแฮร์และสกอตติชโฟลด์ ไปผสมกับแมวเปอร์เซียเช่นกัน

          อายุของแมวบริติชช็อตแฮร์ที่เหมาะกับการนำมาผสมพันธุ์คืออายุ 1 ปีขึ้นไป ทั้งตัวผู้และตัวเมีย และสามารถทำหมันได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป และควรควบคุมน้ำหนักของแมวหลังทำหมันเพราะแมวจะมีสภาวะอ้วนง่ายขึ้น