Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อต้อง เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดด้วยตนเอง

การมีลูกแมวตัวน้อยอยู่ในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกมีความสุข แต่อย่างไรก็ตามลูกแมวแรกเกิดเหล่านี้มีความต้องการการดูแลที่พิเศษและเต็มไปด้วยความยากลำบากมากมาย ที่มากไปกว่านั้นคือมีสิ่งที่ไม่ควรทำที่เจ้าของจะต้องเรียนรู้ก่อนจะเผลอทำกับลูกแมวและส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขาในอนาคต มากไปกว่านั้นการ เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดแบบผิดๆ อาจส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาอีกด้วย ดังนั้นหากใครกำลังมีลูกแมวแรกเกิดอยู่ในบ้านวันนี้เราก็มีสิ่งที่ไม่ควรทำมาบอกกัน 

รวมข้อห้ามที่ไม่ควรทำเด็ดขาดเมื่อต้องเลี้ยงแมวแรกเกิดด้วยตนเอง

  1. ห้ามแยกแมวและลูกออกจากกันโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก สิ่งที่สามารถ เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดให้เป็น แมวสุขภาพดี ได้มากที่สุดนั้นก็คือแม่ของพวกเขา ในช่วงสัปดาห์แรกเราจึงไม่ควรแยกพวกเขาออกจากกันโดยเด็ดขาด ลูกแมวน้ำต้องการทั้งความอบอุ่น น้ำนม การดูแล และการทำความสะอาดจากแม่แมวมากที่สุด ในช่วงนี้เราจึงไม่ควรไปยุ่งกับพวกเขาโดยเฉพาะกับแม่แมว 
  2. ความอบอุ่น ลูกแมวเกิดใหม่นั้นต้องการความอบอุ่นเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อแมวของเราคลอดลูกออกมาแล้วเราควรเตรียมรังให้พวกเขาเป็นกล่องหรือข้อที่ปูด้วยผ้าขนหนูที่มีความนุ่มและหนา ใช้ไฟให้ความร้อนสำหรับสัตว์เลี้ยงกกให้กับลูกแมวในระยะห่าง 1 ฟุต หากสังเกตว่าลูกแมวเริ่มหนีไปที่อื่นแปลว่าร้อนจนเกินไป ต้องยกไฟให้สูงขึ้น
  3. ความสะอาด แมวที่เพิ่งเกิดมานั้นก็เหมือนกับเราตอนที่เพิ่งเกิดออกมาคือไม่มีภูมิคุ้มกัน การสัมผัสกับเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกในช่วงเวลานี้อาจส่งผลต่อชีวิตของพวกเขาได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำความสะอาดบริเวณที่ลูกแมวอาศัยอยู่อย่างสม่ำเสมอ หากมีสัตว์เลี้ยงอื่นอยู่ภายในบ้านต้องแยกให้ลูกแมวและแม่แมวอยู่ในพื้นที่ต่างหาก และไม่ควรใช้ภาชนะร่วมกัน
  4. ห้ามให้นมวัวโดยเด็ดขาด หากบ้านไหนแม่แมวไม่ดูแลลูกทำให้คนเลี้ยงอย่างเราต้องให้นมลูกแมวเอง สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดคือการให้นมวัวเพราะแมวไม่สามารถย่อยเอนไซม์ในนมวัวได้ ทำให้ลูกแมวเกิดอาการป่วยไม่ว่าจะเป็นท้องอืดหรือท้องเสีย ตามมาด้วยการเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นหากเราต้องป้อนนมลูกแมวเองควรลูกใช้นมสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะหรือนมแพะที่มีความสดใหม่เท่านั้น

สัตว์แพทย์ คนสำคัญที่ลูกแมวต้องการ

แม้ว่าเราจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ เลี้ยงลูกแมว แรกเกิดและดูแลให้พวกมันเป็น แมวสุขภาพดี  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนหน้านั้นคือการพาพวกมันไปหาหมอ โดยเฉพาะหากผู้มันอายุครบ 8 สัปดาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราต้องทำการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนตามที่กำหนดไว้ หากมีอาการไม่พึงประสงค์ควรพาไปพบแพทย์ทันที 

 

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

5 หลักสำคัญ  วิธีดูแลลูกแมวอย่างไรให้สุขภาพดี สำหรับมือใหม่

5 หลักสำคัญ  วิธีดูแลลูกแมวอย่างไรให้สุขภาพดี สำหรับมือใหม่

          สำหรับทาสแมวที่อาจจะบังเอิญมีคนให้น้องแมวมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน หรือสำหรับคนที่ไปรับน้องแมวมาเลี้ยงที่บ้านแต่น้องยังเด็กอยู่  ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจจะยังไม่รู้วิธีดูแลลูกแมวที่ถูกต้อง  วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีทำอย่างไรให้น้องแมวสุขภาพดี  เป็นขั้นตอนเบื้องต้นแบบง่ายๆที่เราจะต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรก  ต้องทำยังไงบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ

วิธีดูแลลูกแมวเพื่อให้แมวสุขภาพดี

          ในการรับน้องเหมียวมาเป็นสมาชิกในบ้าน  สิ่งที่เราจะต้องดูแลน้องมีหลักสำคัญและเป็นพื้นฐานที่ควรต้องรู้ ดังนี้

การให้นมน้องเหมียว

         วิธีดูแลลูกแมวแรกเกิด การให้นมสำหรับลูกสัตว์หรือนมแพะ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับน้องแมวแรกเกิดมากที่สุด เนื่องจากเป็นนมที่มีปริมาณความเข้มข้นของไขมันพอดีกับความต้องการของน้องเหมียว  จะช่วยให้น้องรู้สึกสบายท้อง ไม่ทำให้น้องแน่นท้อง หรือเกิดอาการท้องอืด รวมถึงมีส่วนช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีนั่นเอง

 โดยน้องเหมียวที่มีอายุระหว่างช่วง 1-3 สัปดาห์แรก ให้ป้อนนมน้อง ครั้งละ 2-7 ซีซี ในทุกทุก 2-3 ชั่วโมง  โดยมีหลักในการสังเกตว่าน้องเหมียวเริ่มอิ่มแล้วหรือยัง  ให้ดูที่การดูดนมถ้าน้องเริ่มดูดช้าลงแสดงว่าน้องเริ่มอิ่มแล้ว จึงหยุดการให้นมได้  และเมื่อมีอายุครบ 4 สัปดาห์ ให้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นอาหารเปียกแทนค่ะ

การดูแลความสะอาดให้น้องเหมียว

         หากน้องยังเด็กอยู่แนะนำให้นำผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นแล้วค่อยๆเช็ดตัวให้น้อง อาทิตย์ละประมาณ 2-3 ครั้ง เมื่อน้องเหมียวมีอายุครบ 2 เดือน ( ขึ้นไป ) จึงจะสามารถอาบน้ำให้น้องได้ตามปกติค่ะ  นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการทำความสะอาดอื่นๆด้วยนะคะ ควรหัดให้น้องมีความเคยชินตั้งแต่เด็กจะได้ดูแลได้ง่ายขึ้นและน้องจะได้ไม่ตกใจกลัว  เป็นวิธีดูแลลูกแมวเพื่อให้แมวสุขภาพดีอย่างถูกต้องและถูกวิธีค่ะ  หลังจากการอาบน้ำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรใช้ไดร์เป่าผมปรับระดับไปที่ลมอุ่นๆ และควรเปิดในระดับเบาๆในการเป่าขนน้องให้แห้ง จะช่วยให้น้องสบายตัวและลดการอับชื้นได้

 

ฝึกการขับถ่ายให้เป็นที่-เป็นเวลา

          ในช่วงที่ยังเป็นเด็ก  หลังการให้นมควรใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหมาดๆเช็ดก้นให้น้อง  โดยค่อยๆลูบไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้น้องอยากขับถ่าย  สักพักน้องก็จะเริ่มขับถ่ายออกมาเองค่ะ  และเมื่ออายุครบ 4 สัปดาห์  แนะนำให้มีกระบะทรายให้น้องได้ฝึกขับถ่ายเป็นที่ตั้งแต่เด็ก  เราควรทำความสะอาดกระบะทราย เปลี่ยนทราย และล้างกระบะทรายให้น้องอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะช่วยให้น้องสุขภาพดี แข็งแรง และปราศจากโรค

พาน้องไปรับวัคซีน

ก่อนจะเริ่มให้วัคซีนควรจะต้องพาไปพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพเสียก่อน  และเริ่มให้วัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุครบ 2 เดือน จากนั้นจึงฉีดตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องในระยะยาวค่ะ

 การเปลี่ยนอาหารให้น้องเหมียว

        วิธีดูแลลูกแมว ในช่วง 6-8 สัปดาห์แรก คือช่วงที่เริ่มหย่านม  ควรให้อาหารแมวแบบเม็ด-แบบเปียกสลับกันไป และควรลดการให้นม เปลี่ยนมาเป็นการให้อาหาร 3-4 มื้อ / วัน  และให้นำน้ำสะอาดจัดวางไว้เพื่อให้น้องเหมียวได้ดื่ม  กรณีที่น้องอาจจะยังเด็กและดื่มน้ำเองยังไม่เป็นให้ใช้เป็นไซริงค์ป้อนน้ำแทนค่ะ         

          เป็นยังไงกันบ้างคะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ สำหรับวิธีเตรียมตัวที่เราจะต้องรู้ก่อนเลี้ยงน้องแมวแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลน้องเหมียว หรือสัตว์ชนิดใดก็ตามเราจะต้องดูแลอย่างพิถีพิถันใส่ใจเหมือนกับว่าเราเลี้ยงทารกตัวน้อยที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณแม่แล้ว  เราก็ต้องทำตัวให้เหมือนคุณพ่อคุณแม่ของเขาด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการป้อนนม การดูแลรักษาความสะอาด การดูแลการขับถ่าย การเสริมภูมิต้านทานโดยการฉีดวัคซีน  สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆในอนาคต  เป็นวิธีดูแลลูกแมวให้ลูกแมวสุขภาพดีในระยะยาว  น้องจะได้เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่  มีสุขภาพแข็งแรง  และอยู่กับเราไปนานๆยังไงละคะ

 

 

 

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวไม่ค่อยกินอาหารเป็นเพราะอะไร ทำอย่างไรให้แมวทานเหมือนเดิม

สัตว์เลี้ยงที่เดาใจยากที่สุด คงเป็นเจ้าเหมียวตัวร้ายเพราะธรรมชาติของแมวนั้น มักจะไม่แสดงออกทางสีหน้าเท่ากับสุนัข แต่ทั้งนี้หากเป็นคนเลี้ยง เจ้าของที่ใส่ใจดูแล รักแมวอย่างแท้จริง การสังเกตอาการเล็กๆ น้อยๆ ของแมวก็ไม่ใช่เรื่องยาก หนึ่งในปัญหาจุกจิกกวนใจผู้เลี้ยงคือ แมวไม่ค่อยกินอาหาร ซึ่งการทานอาหารได้น้อย หรือไม่ค่อยกินอาหารนั้น อาจเป็นการบ่งบอกอาการต่างๆ ของแมวได้ เช่นรู้สึกเจ็บป่วย อาจจะเบื่ออาหาร หรือแม้แต่กำลังเครียด วิตกกังวลต่อสิ่งแวดล้อม หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนทำให้ไม่ค่อยกินอาหารก็เป็นไปได้ทั้งนั้น โดยสาเหตุที่แมวไม่ค่อยกินอาหาร รวมไปถึงวิธีที่จะทำให้แมวกลับมาทานอาหารเหมือนเดิมได้นั้น มีดังนี้

  1. เบื่ออาหารอยู่เป็นนิสัย

ส่วนใหญ่มักจะเป็นเพราะมีเจ้าของตามใจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แมวไม่ค่อยกินอาหาร หรือทานอาหารได้น้อยลง เพราะหลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าแมวเบื่ออาหารง่าย เลยมักจะเปลี่ยนรสชาติของอาหารไปๆ มาๆ ทำให้แมวนั้นสับสน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว แมวไม่ควรเปลี่ยนอาหารบ่อยเพราะส่งผลต่อระบบภายใน โดยเฉพาะลำไส้ บางตัวอาจท้องเสียได้ด้วยซ้ำไป แต่ทั้งนี้หากให้แต่อาหารซ้ำๆ เดิมๆ ก็จะทำให้แมวเบื่อได้เช่นกัน เจ้าของอาจเปลี่ยนให้เป็นอาหารเม็ดผสมอาหารเปียก หรืออาหารปรุงสุกอย่างเช่น ไก่ฉีกต้ม กุ้งต้มแบบไม่ปรุงรส ก็จะทำให้แมวไม่เบื่ออาหารได้ด้วย

  1. ติดสัตว์

สำหรับแมวที่ยังไม่ได้ทำหมัน หากมีอาการติดสัตว์ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมียก็มักจะไม่ค่อยกินอาหาร แมวตัวผู้บางตัวอาจถึงขั้นหนีออกจากบ้าน เพื่อตามไปเฝ้าตัวเมีย เว้นเสียแต่ว่ากลับบ้านเพราะมีอาการหิวมากจริงๆ เท่านั้น แต่ก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ หากพอหายจากอาการติดสัตว์แล้วแมวก็จะกลับมาทานอาหารเหมือนเดิมปกติ

  1. มีอาการเจ็บป่วย

แมวไม่ค่อยกินอาหารอาจเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บจากภายในร่างกาย เช่น ปวดฟัน มีแผลที่เหงือก รวมไปถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ ภายในร่างกาย ดังนั้นเจ้าของควรหมั่นสำรวจและดูแลควบคู่ว่ามีอาการอื่นด้วยหรือไม่ หากเห็นท่าไม่ดีควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์จะดีกว่า

  1. การเปลี่ยนแปลง

แมวเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างมาก การที่แมวไม่ค่อยกินอาหารอาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันอย่างเช่น เจ้าของหายออกจากบ้านเป็นเวลานาน หรือ แมวที่เลี้ยงด้วยกันมาตายจากไป อาจำให้แมวเกิดความเครียด วิตกกังวลจนไม่อยากทานอาหาร รวมไปถึงการเปลี่ยนตำแหน่งการวางจานอาหารผิดที่ก็จะทำให้แมวไม่ค่อยทานอาหารเช่นกัน การจะทำให้แมวกลับมาทานอาหารเหมือนเดิมอาจต้องใช้เวลาให้แมวได้ทำความเคยชินซักพักเพราะเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า แต่ทั้งนี้เจ้าของก็สามารถช่วยได้โดยการดูแลใส่ใจให้มากเพื่อแมวจะได้ปรับสภาพได้ในที่สุด

การที่แมวไม่ค่อยกินอาหารอาจเป็นจุดเริ่มต้นแสดงอาการผิดปกติหลายๆ อย่างที่เจ้าของต้องหมั่นสังเกตให้ดี หากแก้ไขได้ทันควัน จะทำให้แมวแข็งแรงมีสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี มีอายุยืนอยู่กับเจ้าของไปได้อีกนานแสนนานนั่นเอง

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

เทคนิคเลี้ยงแมวให้มีสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ได้ไม่ยุ่งยาก

               การเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะประเภทไหน เจ้าของต่างก็อยากให้สัตว์เลี้ยงแสนรักมีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง อ้วนท้วนสมบูรณ์ทั้งนั้น การเลี้ยงแมวให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยเปรียบเสมือนความสุขอีกอย่างของเจ้าของ เป็นเหมือนการเลี้ยงแมวเป็น และอย่างถูกต้อง แม้ว่าอาจจะต้องจำกัดพื้นที่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะโดยธรรมชาติของสัตว์นั้น สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด ทั้งนี้เจ้าของเองก็จำเป็นต้องหมั่นดูแล ใส่ใจ ให้ทั้งความรักความอบอุ่นกับเจ้าเหมียวด้วย โดยการเลี้ยงแมวให้มีสุขภาพดี มีอายุยืนยาว อยู่กับเจ้าของไปได้นานๆ ตลอดทั้งอายุขัย มีเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงแน่นอน

            เทคนิคเลี้ยงแมวให้แข็งแรง สุขภาพดี

  1. เลี้ยงแมวระบบปิด – ข้อแรก ข้อสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงแมวเป็น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการเลี้ยงแมวเป็น กับเลี้ยงแมวได้นั้นแตกต่างกัน การเลี้ยงแมวเป็นคือการดูแลใส่ใจสุขภาพของเจ้าเหมียว ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เลี้ยงแมวได้ อาจจะแค่เพียงให้อาหารแต่ปล่อยปะละเลยไม่ใส่ใจดูแลเท่าที่ควร ส่วนใหญ่มักจะเป็นการเลี้ยงแมวในระบบเปิด ซึ่งแม้ว่าแมวจะมีอิสระก็จริง แต่ก็เสี่ยงกับอันตรายมากมายด้วย การเลี้ยงแมวระบบปิด คือการจำกัดพื้นที่ของแมว เช่นให้อยู่ภายในบ้าน หรือบริเวณที่เจ้าของจัดสรรไว้ให้ เพื่อจะได้ป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ด้วย
  2. ดูแลเรื่องอาหารการกิจ – อาหารการกินของเจ้าเหมียวเป็นเหมือนตัวบ่งชี้คุณภาพชีวิตของบแมวได้เช่นกัน หากอยากให้แมวมีสุขภาพดี อาหารของแมวที่ดีควรมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับแมวในแต่ละช่วงวัย ไม่มีสีผสมอาหาร มีกากใยและโปรตีนที่พอเพียงสำหรับแมว และให้ในปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้งน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะแมวเป็นสัตว์ที่มักจะกระหายน้ำบ่อย ควรเป็นน้ำสะอาด หรือมีน้ำพุแมวที่มีน้ำหมุนเวียนจะช่วยให้แมวกินน้ำได้ดีขึ้นด้วย
  3. มีที่นั่งสูงให้สำหรับการชมวิว – ธรรมชาติของแมวนั้นชอบปีนป่ายขึ้นที่สูง เพื่อจะได้มองเห็นบริเวณโดยรอบและมีความรู้สึกปลอดภัย เจ้าของอาจหาเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแข็งแรงสำหรับให้แมวไว้ปีนป่าย หรือเป็นคอนโดแมวก็ได้ เพื่อไว้สำหรับเจ้าเหมียวจะได้นั่งชมนกชมไม้เป็นการคลายเครียดได้อีกทางหนึ่ง
  4. พื้นที่ขับถ่าย – แมวเป็นสัตว์รักสะอาด ดังนั้น ธรรมชาติของแมวทุกตัวมักจะใช้กระบะทรายเป็นห้องน้ำได้โดยแทบไม่ต้องสอนมากนัก ทั้งนี้ควรมีจัดพื้นที่สำหรับไว้กระบะทรายเพื่อให้แมวได้ขับถ่ายโดยกระบะทรายนั้นควรมีจำนวนมากกว่าจำนวนแมวที่เลี้ยงไว้ ยกตัวอย่างเช่น เลี้ยงแมว 2 ตัว ควรมีกระบะทราย 3 กระบะ นั่นเอง
  5. พาไปพบสัตวแพทย์ – การเลี้ยงแมวที่ถูกต้องและสำคัญอย่างยิ่ง คือการหมั่นดูแลสุขภาพของแมว อย่างการฉีดวัคซีนประจำปีให้ครบถ้วน เป็นการป้องกันโรคได้เพื่อความสบายใจของเจ้าของ และเพี่อสุขภาพของเจ้าเหมียวด้วย รวมไปถึงการทำหมันเพื่อลดจำนวนประชากรแมวในอนาคต ป้องกันการเกิดปัญหาแมวถูกทิ้ง หรือแมวจรอีกทางหนึ่ง

            เลี้ยงแมวให้มีความสุข คุณก็ทำได้

               สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ หมั่นมีเวลาให้กับเจ้าเหมียวบ้าง เพื่อไม่ให้แมวรู้สึกเครียด เหงา หรือโดนทอดทิ้ง แม้ว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพกาย แต่สุขภาพใจของแมวก็เป็นสิ่งที่ต้องดูแลใส่ใจเช่นกัน เพื่อให้แมวได้มีสุขภาพดี มีความสุข อายุยืนอยู่กับเราไปได้นานๆ ตลอดอายุขัยของเจ้าเหมียวเองด้วย

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ออกแบบบ้านแมวแบบราคาประหยัด เก๋ได้ไม่ต้องแพง

เทรนด์เลี้ยงสัตว์และต้นไม้ยังคงเป็นที่น่าสนใจในปัจจุบัน ยิ่งจากสถานการณ์ Work From Home ที่ทำให้หลายคนมีเวลาเพิ่มมากขึ้น การเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงายังมีข้อดีอีกมากมาย อย่างเช่น ช่วยบำบัดจิตใจจากผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ข้าวของเครื่องใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงจึงเป็นสินค้าขายดี แมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ หนึ่งในสิ่งของที่บรรดาคนรักแมวต้องมีอย่างบ้านแมวเป็นอีกอย่างที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะเป็นประโยชน์ให้กับเจ้าเหมียวสามารถใช้เป็นที่พักผ่อนแล้ว ยังสามารถใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย การออกแบบบ้านแมวให้สวยถูกใจทั้งเจ้าเหมียวและผู้เลี้ยง ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่ก็สามารถดูดี สะดุดตาได้ ดังนี้

บ้านแมวแบบประหยัด

ออกแบบบ้านแมวให้สวยในราคาประหยัด และคุ้มค่า 

ข้อดีสำหรับเจ้าของในการออกแบบบ้านแมว คือ คุณสามารถออกแบบได้ตามความชื่นชอบของตนเอง เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน และเข้ากับเจ้าเหมียวแสนรัก เพราะแมวแต่ละตัวนั้นต่างก็มีนิสัย พฤติกรรมความชอบแตกต่างกันไป บางตัวอาจชอบปีนป่าย บางตัวชอบนอนเบาะผ้านุ่มๆ เป็นต้น การออกแบบบ้านแมวเอง นอกจากจะทำให้เป็นที่พักผ่อน ที่หลบภัยส่วนตัวของเจ้าเหมียวแล้ว เจ้าของยังสามารถออกแบบเป็นกึ่งของตกแต่งภายในบ้านได้เข่นกัน การออกแบบบ้านแมวให้สวยงาม และราคาประหยัดอาจต้องใช้หลักเกณฑ์ง่ายๆ ดังนี้

  1. เลือกวัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติ – บ้านแมวที่ดี ควรใช้วัสดุจากธรรมชาติ ที่แมวชื่นขอบ อย่างเช่น ไม้ หรือกระดาษลัง นอกจากจะไม่เป็นอันตรายกับแมวแล้ว ยังสามารถสร้างความเพลิดเพลินให้กับเจ้าเหมียวได้ โดยบ้านแมวที่ทำจากกระดาษลัง ยังทำให้แมวใช้ฝนเล็บคลายเครียด แทนที่จะไปฝนเล็บกับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน หรือบ้านแมวที่ทำจากไม้ ก็จะเน้นในเรื่องของความแข็งแรงทนทานด้วย
  2. ปรับลักษณะการใช้งานได้หลายหลาย – การออกแบบบ้านแมวด้วยตัวเอง จะทำให้คุณคำนวณพื้นที่ในการจัดวางตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งให้เป็นของตกแต่งบ้านได้ เรียกได้ว่าเป็นบ้านแมวที่ทำงานได้หลายฟังก์ชั่นด้วยนั่นเอง
  3. หากมีกำลังทรัพย์มากหน่อย คุณสามารถออกแบบบ้านแมวให้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยใช้พื้นที่ภายในบ้าน ตกแต่งเพิ่มเติม เน้นความปลอดภัย และหนาแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้แมวหลุดออกไป เพราะธรรมชาติของแมวนั้น จำเป็นต้องส่อง โดนแดด โดนลมบ้างเล็กน้อย แมวเองก็จะได้ไม่เครียดจากการที่ถูกจำกัดบริเวณด้วย 

บ้านแมวความสุขของเจ้าเหมียวและผู้เลี้ยง

การเลี้ยงแมวในระบบปิดแม้จะต้องจำกัดพื้นที่ให้เจ้าเหมียว แต่ก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่ หากผู้เลี้ยงใส่ใจดูแล หากวิธีลดความเครียดให้กับแมวบ้าง อย่างการมีบ้านแมวซักหลัง ก็เปรียบเสมือนให้แมวได้มีพื้นที่ส่วนตัว และเจ้าของเองก็ไม่ต้องเสียเงินราคาแพง แถมยังได้ของตกแต่งบ้านเพิ่มด้วย เพื่อความสุขของเจ้าเหมียว ทาสอย่างเราย่อมทำได้อยู่แล้ว

 

 

pg slot ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

 

 

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

บ้านแมวความสะดวกสบายของสัตว์เลี้ยงยุค New Normal

สำหรับคนรักแมวนั้น การเลี้ยงแมวให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง กินอิ่มนอนหลับ มักจะก่อให้เกิดความสุขทั้งแมวและตัวเจ้าของเอง การเลี้ยงแมวระบบปิดจึงเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยง และอันตรายในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับแมวได้อย่างมาก บ้านแมวถือเป็นความฝันของคนรักแมวที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ให้กับเจ้าเหมียว ได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ความบันเทิงอย่างครบครัน โดยในปัจจุบันนั้น มีไอเดียการออกแบบสร้างบ้านแมวขึ้นมาหลากหลาย เพื่อให้กับคนรักแมวได้เลือกซื้อ เลือกหากันมาเพื่อปรนเปรอสัตว์เลี้ยงอย่างมาก หนึ่งในไฮไลท์ยอดนิยมอย่างบ้านแมวติดแอร์นั้น เป็นเหมือนสุดยอดความหรูหราน่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างมากด้วย

บ้านแมวแบบต่างๆ ความสุขอีกระดับของเจ้าเหมียว

ส่วนใหญ่บ้านแมวมักจะมีการออกแบบหลากหลายสไตล์ เพื่อให้เจ้าของได้เลือกให้กับเจ้าเหมียว ได้ใช้งานตามความเหมาะสมและกำลังทรัพย์ของเจ้าของ ทั้งนี้ บ้านแมวในปัจจุบันนั้น สามารถเป็นได้ทั้งที่พักผ่อนหย่อนใจของเจ้าเหมียว และยังเป็นเหมือนของตกแต่งบ้านอีกประเภทหนึ่ง เพราะมักจะมีรูปทรงสวยงามแปลกตา ทำให้ทั้งใช้งาน เป็นประโยชน์และยังเป็นการโชว์สไตล์ความเป็นตัวเองของเจ้าของแมวได้ด้วย โดยวัสดุที่นำมาทำบ้านแมวที่ดีนั้น ควรเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ไม่เน้นสารเคมี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับเจ้าเหมียว เจ้าของสามารถแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนได้ อาจแยกไว้เฉพาะสำหรับในห้องแมวเป็นการส่วนตัว หรือจะตั้งบ้านแมวไว้ในบ้าน หรือในห้องนอนของตนก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้บ้านแมวมีทั้งแบบจำหน่ายสำเร็จรูป หรือแม้แต่จ้าของสามารถเลือกที่จะออกแบบ บ้านแมวได้เองเช่นกัน ยิ่งถ้าหากมีบริเวณพื้นที่อีกหน่อย สามารถทำบ้านแมวให้อยู่ในสไตล์เอาท์ดอร์ เพื่อให้เจ้าเหมียวได้ออกมาเจอกับแสงแดด สายลม สัมผัสพื้นดิน พื้นหญ้าตามธรรมชาติ แต่ยังคงอยู่ในการเลี้ยงแบบระบบปิด เพื่อความปลอดภัยของตัวแมวเอง หรือเจ้าของสามารถประยุกต์กรงแมวให้กลายเป็น บ้านแมว อาจเพิ่มเติมความสนุกให้ภายในบ้านแมว พร้อมกับการติดตั้งของใช้จำเป็นต่างๆ ทำให้แมวรู้สึกมีความสุขได้อีกด้วย จึงไม่แปลกที่ บ้านแมวจะเป็นที่นิยมของบรรดาคนรักแมวอยู่แล้วนั่นเอง

ราคาของ บ้านแมวที่มีในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม บ้านแมวหลายๆ แบบที่เราพบเห็นจำหน่ายในท้องตลาดนั้น ยังถือว่ามีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งเจ้าของแมวหากต้องการซื้อให้กับแมวใช้งาน อาจจะจำเป็นต้องมีพื้นที่อยู่บ้าง แม้บ้านแมวจะมีขนาดแตกต่างกัน มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ แต่ต้องมีพื้นที่อยู่พอสมควร จะได้ไม่ทำให้เจ้าเหมียวต้องรู้สึกอึดอัดจนเกินไป สำหรับคนรักแมวการได้ปรนเปรอความสุขให้เจ้าเหมียวก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งอยู่แล้วด้วย

 

 

pg slot ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

 

 

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับแมวดำ ที่ควรทำความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับแมวดำ ที่ควรทำความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง

สำหรับคนรักแมวนั้น ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใด ก็มักจะมีความน่ารักแฝงอยู่ในตัวทั้งนั้น แต่ก็มักจะมีความเชื่อเกี่ยวกับแมว ที่ติดตัวมาตั้งแต่โบราณ อีกทั้งยังเป็นความเชื่อผิดๆ ที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับแมวดำ ที่หลายคนมักจะคิดว่าแมวดำเป็นสัตว์ที่นำความโชคร้ายมาให้ หรือแม้แต่เป็นสิ่งอัปมงคลหากต้องพบเจอ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว แมวดำไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ อีกทั้งยังมีลักษณะพิเศษอย่างมีนิสัยขี้อ้อน น่ารัก ติดเจ้าของและยังมีความหมายที่ดีได้ แมวดำจึงมีความเชื่อที่ทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นลองทำความเข้าใจกันใหม่ดีกว่า 

 

 

ความเชื่อคร่ำครึโบราณที่มักจะกล่าวว่า “หากแมวดำกระโดดข้ามโลงศพ จะทำให้ศพฟื้นขึ้นมา” หรือแม้แต่มักจะกล่าวหาว่า แมวดำเป็นแมวภูตผีที่มักจะนำความโชคร้ายมาเพราะมีสีดำ ไม่สวยงามเหมือนแมวสีอื่น เป็นความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นกุศโลบายในสมัยก่อนที่ไม่ต้องการให้ลูกหลานเข้าไปยุ่งกับแมวดำมากนัก เพราะไม่ต้องการให้มีภาระเพิ่มอีก หรือหากถูกแมวดำตัดหน้าจะทำให้โชคร้าย ความจริงมนุษย์เรานั้น ไม่ควรยึดติดกับสีขน เหมือนการแบ่งแยกชนชั้นกันเช่น คนผิวขาว ผิวเหลือง ผิวดำ เพราะแมวต่างก็มีความน่ารักในแบบของตัวเองทุกตัวอีกด้วย

 

 

แมวดำเป็นสัตว์ที่หาบ้านยาก

เป็นเรื่องจริงในปัจจุบันที่ยังแก้ไขได้ยาก จากสถิติของมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ยังพบว่าแมวดำเป็นสัตว์ที่หาบ้านรับเลี้ยงยากที่สุด เป็นเพราะสีไม่สวยเหมือนแมวสีอื่น อาจทำให้ถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยไม่ดีนัก แต่ความจริงนิสัยแมวดำน่ารักมาก ทั้งขี้อ้อน ชอบคลอเคลียเจ้าของ และยังฉลาดแสนรู้ สามารถฝึกให้เชื่องได้ง่ายด้วยซ้ำไป ทั้งนี้หากต้องการเลี้ยงแมวแล้วควรมองข้ามเรื่องสีขนไป จะทำให้คุณค้นพบความจริงที่เป็นสัจธรรมได้ เพราะไม่ว่าแมวสีไหนก็สามารถจับหนูได้ทุกตัว

 

 

แมวดำบางประเทศถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี

หลายประเทศไม่ได้มองแมวดำเป็นตัวแทนของความโชคร้ายเสมอไป ในบางประเทศยังมีการบูชาเทพเจ้าแมวอย่างเช่นในอียิปต์ หรือแม้แต่ในอังกฤษที่เชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความรัก และยังเป็นตัวช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปอีกด้วย ไม่แม้แต่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศในแถบโซนเอเชีย ยังเชื่อว่าแมวดำเป็นสัตว์ที่สื่อถึงความรัก เพราะหากสาวโสดเลี้ยงแมวดำ จะทำให้มีคู่ครองได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับคนรักแมวแล้ว การที่แมวจะสีขาว สีดำนั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับการให้ความรัก ความใส่ใจ เลี้ยงดูเป็นอย่างดี เท่านี้จะเป็นแมวสีไหนๆ ก็น่ารักด้วยกันทั้งนั้น มองข้ามความเชื่องมงายและหาข้อพิสูจน์ที่ได้ผลจริงจะดีกว่านั่นเอง

 

 

pg slot ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

 

 

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวร้องไม่หยุด มีสาเหตุมาจากอะไร เจ้าของควรทำยังไง

ในการเลี้ยงแมวนั้น นอกเหนือจากการดูแล ใส่ใจ ให้ความรักความอบอุ่นกับเจ้าเหมียวแล้ว เจ้าของยังต้องหมั่นคอยสังเกตพฤติกรรมต่างๆ ของแมวด้วย เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มักจะไม่แสดงอาการเจ็บป่วยออกมาโดยตรง แต่มักจะมีสัญญาณเตือนในแบบต่างๆ โดยเจ้าของจะต้องสังเกตเอง แม้จะไม่ถึงขนาดมองตาก็รู้ใจ แต่ก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจไว้ ยิ่งถ้าหากเจอในกรณีอย่างแมวร้องไม่หยุด ทั้งๆ ที่ตามปกติแล้วแมวมักจะไม่ส่งเสียงร้องออกมาง่ายๆ นั่นหมายถึงการแสดงถึงอาการผิดปกติของเจ้าเหมียวที่ต้องการจะสื่อสารให้เจ้าของเข้าใจ โดยเหตุผลที่ทำให้แมวร้องไม่หยุดนั้น มีดังนี้

แมวร้องไม่หยุด สัญญาณเตือนเจ้าของให้รู้ถึงความผิดปกติ

  1. บาดเจ็บหรือป่วย – หากแมวที่เลี้ยงนั้น ไม่ได้มีลักษณะช่างพูด ช่างคุย (ส่วนใหญ่แมวที่มักจะชอบชวนคุย มักเป็นแมวไทย) แต่จู่ๆ กลับมีพฤติกรรมแบบที่ร้องไม่หยุดให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่า แมวอาจมีอาการบาดเจ็บ หรือรู้สึกไม่สบายตัว ทั้งนี้เจ้าของสามารถสังเกตพฤติกรรมอื่น ควบคู่กับการที่แมวร้องไม่หยุด ไปด้วย แต่ถ้ายังไม่สามารถตรวจหาสิ่งผิดปกติทางร่างกายเจอ ควรพาไปหาสัตวแพทย์ดีกว่า
  2. ความเครียด ต้องการเรียกร้องความสนใจ – สำหรับแมวเลี้ยงระบบปิดที่ถูกจำกัดพื้นที่ หากยังไม่สามารถปรับสภาพได้ หรือเลี้ยงเพียงตัวเดียว แมวอาจเกิดความเครียดหรือรู้สึกเหงา บวกกับเจ้าของอาจจะมีไม่ค่อยมีเวลาให้เท่าที่ควร สามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการที่แมวร้องไม่หยุด ได้เช่นกัน เพราะธรรมชาติแมวนั้นมักจะชอบให้เจ้าของสนใจและเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ การร้องจึงเป็นเหมือนการแสดงออกอย่างหนึ่งที่กำลังเตือนว่าให้สนใจฉันได้แล้วนั่นเอง โดยเจ้าของต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมเจ้าเหมียวด้วย
  3. อาการติดสัด – สำหรับแมวที่มีอาการติดสัดนั้น เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของแมวตัวเมียที่มักจะร้องเรียกหาแมวตัวผู้ ทั้งนี้อาจไม่ยอมทานข้าว ทานน้ำ หรือแม้แต่อาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป อย่างเช่น ฉี่นอกกระบะทราย หรืออาจหนีออกจากบ้านด้วย
  4. ตกอยู่ในอันตราย – หากเมื่อแมวร้องไม่หยุด อาจหมายถึงอยู่ในภาวะที่เป็นอันตราย ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เล็บติดกับผ้าต่างๆ โดนจับตัวโดยที่ไม่ยินยอม หรือแม้แต่กำลังตื่นกลัว ตกใจเสียงดังอย่างเสียงประทัด เสียงพลุ เสียงปืน หรือเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าด้วย จนทำให้แมวร้องไม่หยุดเลยทีเดียว

แมวร้องไม่หยุด แก้ไขได้ไม่ยาก

หากพบว่าแมวที่เลี้ยงไว้มีอาการดังกล่าว เจ้าของควรรีบหาสาเหตุให้ได้โดยเร็ว เพราะปกติแล้วแมวร้องไม่หยุด เป็นเพียงอาการเริ่มต้น ไม่ว่าจะเจ็บป่วยทางร่างกาย มีปัญหาสุขภาพ หรือแม้แต่กำลังตกใจ เครียด กังวลที่เป็นปัญหาทางใจ เพราะยิ่งถ้าหากรู้สาเหตุได้เร็ว ก็จะทำให้เจ้าของแก้ปัญหาได้เร็วด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรงไปมากกว่านี้ด้วย จึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมอยู่เป็นประจำนั่นเอง

สนับสนุนโดย

PAPERINDUSTRYMAG.COM

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

เลือกทรายแมวแบบไหน ถูกใจทั้งคนเลี้ยงและเจ้าเหมียวตัวโปรด

ทรายแมวที่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีทั้งหมดแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

  1. ทรายแมววแบบไม่จับตัวเป็นก้อน
  2. ไม่เป็นที่นิยมใช้ มีลักษณะเหมือนทรายสำหรับก่อสร้างทั่วไป ที่สำคัญไม่เก็บกลิ่น มีข้อดีเดียวคือราคาถูกเท่านั้น

  3. ทรายแมวแบบจับตัวเป็นก้อน
  4. เป็นทรายแมวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยเพราะราคาไม่สูง ง่ายต่อการใช้งาน เก็บกลิ่นของเสียจากเจ้าเหมียวได้ดีในระดับหนึ่ง มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กและมีแร่เบนโทไนท์เป็นหลัก ซับน้ำได้ดี จับตัวเป็นก้อนตักทิ้งทำความสะอาดกระบะทรายได้ง่าย ทั้งนี้ทรายแมวแบบจัดตัวเป็นก้อนแบ่งแยกย่อยได้อีก 2 แบบคือ ทรายแมวภูเขาไฟ ซึ่งมีการนำหินภูเขาไฟมาบดเป็นเกร็ดผสมกับแร่เบนโทไนท์อีกที กำจัดกลิ่นได้ดี และทรายแมวเบนโทไนท์อัดก้อน เกรดจะต่ำว่าทรายแมวภูเขาไฟ อาจมีส่วนผสมของผงซีเมนต์ในบางยี่ห้อเพื่อลดต้นทุนการผลิต ข้อดีคือ ราคาถูกและจับตัวเป็นก้อน แต่ข้อเสียสำคัญที่จะส่งผลต่อสุขภาพของแมวในระยะยาวคือ มักจะมีฝุ่นและสารเคมีอันตรายบางชนิดนั่นเอง

  5. ทรายแมวแบบย่อยสลายตามธรรมชาติ
  6. เป็นทรายแมวที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ มีหลายเกรด ราคาแตกต่างกัน โดยแยกจากวัสดุตามธรรมชาติที่ผลิตออกมาให้เห็นกันบ่อยในบ้านเรา ดังนี้

    • ทรายเต้าหู้ ได้รับความนิยมอย่างมาก เก็บกลิ่นได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงแมวในคอนโด หรืออพาร์ทเมนต์ เพราะเมื่อทำความสะอาดกระบะทรายแมวสามารถทิ้งลงชักโครกย่อยสลายได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ราคาสูงไม่มาก แต่ถือว่าคุ้มค่าใช้ได้
    • ทรายไม้สน เป็นทรายที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดาทรายแบบย่อยสลาย จุดเด่นคือเก็บกลิ่นได้ดี แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพดีกว่า เพราะหากเจอทรายไม้สนแบบลดต้นทุน อาจมีสารเคมีตกค้างติดมาได้เช่นกัน
    • ทรายข้าวโพด/ข้าวสาลี จุดขายของทรายข้าวโพดนั้น การันตีว่าแมวสามารถทานได้ ไม่เป็นอันตราย เหมาะสำหรับลูกแมวที่กำลังหัดใช้กระบะทรายแมว แต่ทั้งนี้ในบ้านเรายังค่อนข้างมีราคาสูงและหาซื้อได้ยากด้วย
    • ทรายจากเปลือกวอลนัท เป็นสุดยอดพรีเมี่ยมของทรายแมวที่ย่อยสลายตามธรรมชาติ จับตัวได้ดี แทบไม่มีฝุ่น ย่อยสลายเร็ว แต่ข้อเสียคือ ยังคงมีราคาสูง และหาซื้อได้ยาก
  7. ทรายแมวแบบคริสตัลหรือซิลิก้าเจล
  8. ไม่มีฝุ่น 100% เก็บกลิ่นได้ดี ที่สำคัญสามารถล้าง ตากแดดแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ทั่วไปทรายแมวแบบคริสตัล จะมีอายุราวๆ 6-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน มีลักษณะเป็นก้อนกรวดใส หรือมีสีอื่นปะปน เม็ดพรุน ทั้งนี้เจ้าของต้องดูแลรักษาความสะอาดก่อนที่ทรายจะออกสีเหลืองด้วย

หมั่นดูแลทรายแมวในกระบะสะอาดอยู่เสมอ

การเลือกทรายแมวให้กับเจ้าเหมียวควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน สภาพแวดล้อมในแต่ละบ้าน อีกทั้งการทำความสะอาดกระบะทรายก็เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของต้องหมั่นดูแล เพราะกระบะทรายที่สะอาดย่อมส่งผลถึงสุขภาพของแมวด้วยเช่นกัน

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ทำอย่างไรหากแมวร้องไม่หยุด และเพราะอะไรทำไมถึงร้อง?

ทาสแมวทั้งหลายเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหม อยู่ ๆ แมวก็ร้องไม่หยุด ไม่รู้ว่าเป็นอะไรและร้องนานมาก ส่งผลเสียต่อหลาย ๆ อย่าง เช่น เพื่อนบ้านรำคาญ หรือ รบกวนคนอื่นแล้วเราจะมีวิธีการจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี ในบทความนี้มีคำตอบ

สาเหตุที่ทำให้แมวร้องไม่หยุดมีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ก็ละเลยไม่ได้เชียว

มาดูกันเลยว่าทำไมเจ้านายที่แสนน่ารักของเราจึงกลายเป็นแมวร้องไม่หยุด ซึ่งสาเหตุก็สามารถมาจากไม่กี่ปัจจัย ได้แก่

  • น้องเหมียวตัวน้อยแสนน่ารักเรียกร้องความสนใจ อยากให้อยู่ใกล้ ๆ อยากอ้อน แน่นอนว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับแมวทุกเพศ และทุกวัยเลยสำหรับปัจจัยนี้ ยิ่งหากเป็นแมวสก็อตทิช โฟลด์ที่มีนิสัยขี้อ้อนอยู่แล้ว และไม่ชอบการอยู่ลำพัง ยิ่งต้องให้ความสนใจ ใส่ใจเป็นพิเศษ
  • น้องเหมียวน้อยกำลังคิดถึงเพื่อน ๆ สถานที่ที่คุ้นเคย หรือแม่ของมันเอง เพราะบางทีแมวที่ร้องอยู่อาจเป็นแมวที่พึ่งนำมาเลี้ยงใหม่ ๆ ซึ่งน้องอาจจะยังไม่คุ้นชินกับสถานที่ ทำให้รู้สึกกลัวไม่ปลอดภัย และร้องหาเพื่อน ๆ , แม่ หรือทาสคนเก่าของมันนั่นเอง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะน้องเหมียวจะร้องแค่ 3 – 4 วันแรกที่มาอยู่บ้านใหม่เท่านั้นแหละ เดี๋ยวพอชินมีลุ้นห้องพังแน่ เพราะเจ้าตัวเล็กเนี่ยซนมาก
  • ร้องเพราะอยู่ในช่วงติดสัด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้มาก เพราะแมวอาจรู้สึกกระวนกระวายอยากหาคู่ตลอดเวลา จึงร้องออกมาเพื่อหาเพศตรงข้าม
  • แมวของคุณมีอาการหิว แน่นอนว่าการร้องของงมันอาจเป็นการส่งสัญญาณถึงคุณก็ได้ว่ามันรู้สึกหิวมาก “เจ้าทาสเอาอาหารมาให้ฉันได้แล้ว”
  • แมวของคุณอาจจะป่วยก็ได้ เช่นเดียวกับมนุษย์หากรู้สึกเจ็บป่วยก็มีบ้างที่จะต้องร้องโอดโอย แมวเองก็เช่นกัน และที่ร้องอีกอย่างก็เพราะอยากให้คุณสังเกตถึงพฟติกรรมที่เปลี่ยนไปของมัน เพื่อที่จะรู้ว่าป่วยและนำส่งไปรักษา

เสียงร้องของแมวก็มีหลายลักษณะแตกต่างกันไป

ทาสแมวต้องสังเกตด้วยว่าแมวร้องไม่หยุดในลักษณะแบบไหน อาจจะร้องเบา ๆ, คราง ๆ เสียง, ร้องแบบโดหยหวนชวนคิดถึง, ร้องแบบขู่ หรือร้องแบบเจ็บปวดทุรนทุรายหรือเปล่า เพราะงั้นต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับการร้องของน้องเหมียวเป็นอย่างมาก และหากคุณรู้สึกว่าแมวของคุณกำลังเหงาอยากมีเพื่อนเล่น GUSCAT ของเราก็มีน้องแมวน่ารัก ๆ มากมายให้เลือกรับไปอุปการะเป็นเพื่อนเล่นได้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook page : GUS CAT FARM british shorthair and scotishfold