Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ไข้หัดแมว โรคร้ายรักษายากสำหรับลูกแมว 

      แมวนั้นก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิตธรรมดาทั่วไปที่มีทั้งแมวสุขภาพดีและแมวที่ป่วยเป็นโรค ดังนั้นเวลาที่เรารับแมวมาจากฟาร์มหรือคนขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เราควรทำมากที่สุดก็คือการพาลูกแมวไปตรวจสุขภาพ เพราะลูกแมวนั้นเป็นแมวที่เพิ่งเกิดใหม่ทำให้มันยังไม่ได้มีภูมิคุ้มกันมากมายเท่าที่ควร ไม่เพียงเท่านั้นพวกมันยังเป็นแมวที่ไม่ได้รับวัคซีนทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่ไม่ควรเกิดอีกด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ ไข้หัดแมว  โรคร้ายรักษายากที่พลาดชีวิตลูกแมวไปนักต่อนักแล้ว หากลูกแมวของคุณป่วยเป็นโรคนี้โอกาสที่จะรักษาหายนั้นน้อยมาก หากยิ่งตรวจเจอรวดเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสรอดสูงมากขึ้นเท่านั้น 

มาทำความรู้จักกับหัดแมวให้มากขึ้นกันเถอะ 

      ไข้หัดแมว เป็นโรคที่มักจะพบในแมวที่มีอายุน้อยอย่างลูกแมว และเมื่อแมวป่วยเป็น โรคหัดแมว ก็จะทำให้พวกมันมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความรุนแรงและเสียชีวิตได้ง่าย เนื่องจากอาการของโรคดังกล่าวจะเข้าไปส่งผลต่อการมองเห็นที่อาจทำให้แมวตาบอดรวมไปถึงความสามารถในการทรงตัวด้วย แต่อย่างไรก็ตามมีการพบเห็นโลกนี้ในแมวโตเช่นเดียวกันในกรณีที่ไม่ได้มีการรับวัคซีนอย่างถูกต้อง อาการส่วนใหญ่ที่พบก็คือมีอาการเบื่ออาหาร ซึม ไม่เล่นเหมือนปกติ ท้องเสีย อาเจียน มีไข้สูง ถ่ายเป็นเลือดมีกลิ่นคาว ขาดน้ำ มักมีอาการปวดเกร็งช่องท้อง เกิดจากการที่ลำไส้หนาตัวเพราะภายในมีทั้งของเหลวและแก๊ส แม้ว่าจะรักษาโรคนี้หายแล้วในระยะแรกก็ยังคงสามารถตรวจพบเชื้อในอุจจาระได้เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ ดังนั้นแม้ว่าจะหายแล้วก็ยังควรกักตัวแมวที่ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังแมวตัวอื่นก่อน หากแมวที่กำลังท้องแล้วป่วยเป็นโรคนี้ก็จะทำให้ลูกตายหลังคลอดหรือแท้งลูกได้ โรคดังกล่าวจะติดกับแมวด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสอุจจาระหรือสารคัดหลั่ง การใช้พาหนะหรือห้องน้ำร่วมกัน ไม่เพียงเท่านั้นมนุษย์อย่างเรายังสามารถเป็นพาหะนำโรคได้หากไปสัมผัสแมวที่ป่วยแล้วไม่ได้ล้างมือให้สะอาดก่อนมาจับแมวของตัวเอง นอกจากมือแล้วเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ที่สัมผัสกับแมวที่ป่วยก็ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับแมวที่บ้านของเราได้ด้วย 

วิธีการรักษาและป้องกันหัดแมว 

      หากเราพบว่าแมวของเรามีความผิดปกติตามอาการที่คาดว่าน่าจะเป็น ไข้หัดแมว ให้รีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์โดยทันทีเนื่องจากมันเป็นโรคติดต่อร้ายแรง วิธีการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นการพยุงอาการและการรักษาตามอาการเพื่อให้แมวมีภูมิต้านทานโรค มักให้น้ำและสารอาหารผ่านทางหลอดเลือดและให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการเกิดอาการแทรกซ้อน ส่วนวิธีป้องกันคือการแยกแมวป่วยออกจากแมวตัวอื่นทันที ทำการฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ทั้งหมดที่แมวป่วยใช้ เมื่อรับแมวมาแล้วให้พาไปฉีดวัคซีน โรคหัดแมว เป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้แมวของเราปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น 

 

 

slot wallet ไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

อาหารต้องห้าม แมวจะขอแค่ไหนเจ้าของห้ามให้กินโดยเด็ดขาด

      มีหลายคนที่เลี้ยงแมวเหมือนกับลูก ทำให้เวลาที่พวกมันมาทำหน้าตาน่าสงสาร อ้อนใส่เราเวลาที่เรารับประทานอาหารอยู่ หลายคนก็มักจะใจอ่อนและหยิบยื่นอาหารคนให้กับพวกมัน ความจริงแล้วอาหารคนที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาตินั้นไม่ควรให้แมวรับประทานอยู่แล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลต่อสุขภาพและอาจจะทำให้แมวกลายเป็นโรคไตได้ ไม่เพียงเท่านั้นหากคุณไม่ทราบว่าอาหารที่คุณกำลังจะหยิบยื่นให้แมวเป็น อาหารต้องห้าม ที่แมวไม่สามารถรับประทานได้ ยิ่งจะส่งผลร้ายมากยิ่งขึ้นไปอีก วันนี้เราจึงจะมาแนะนำว่าอาหารไหนที่แมวไม่สามารถรับประทานได้ให้คนเลี้ยงทุกคนได้ระมัดระวังกัน 

รวมอาหารที่แมวกินไม่สามารถกินได้ ห้ามให้แมวกินเด็ดขาด

  1. หัวหอมและกระเทียม เป็น อาหารต้องห้าม ที่ แมวกินไม่ได้ โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแบบสุกแล้วหรือแบบดิบอยู่เพราะมันจะเป็นอันตรายสำหรับแมวต่อสุขภาพโดยตรง เข้าไปทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงบวมและแตกออกมา ก่อให้เกิดภาวะโลหิตจาง และยังก่อปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารของแมวอีกด้วย
  2. ยาพาราเซตามอล หลายคนเข้าใจว่าหากแมวไม่สบายก็สามารถรับประทานยาเหมือนกับเราได้แต่ความจริงแล้วไม่เหมือนกัน แม้ว่ายาบางอย่างของคนนั้นจะสามารถให้แมวรับประทานได้แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรให้ยาแมวโดยที่ไม่มีความรู้ อย่างเช่นยาพาราเซตามอลซึ่งเป็นยาสามัญของมนุษย์นั้นเป็นอันตรายกับแมวเป็นอย่างมาก หากแมวป่วยควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อจัดยาสำหรับแมวโดยเฉพาะจะปลอดภัยมากที่สุด
  3. ช็อคโกแลต เช่นเดียวกับสุนัข แมวไม่สามารถรับประทานช็อกโกแลตได้แม้ว่ามันจะเป็นของโปรดที่เราชื่นชอบก็ตาม หากคุณรู้สึกสงสารที่เจ้าแมวไม่สามารถรับประทานช็อกโกแลตได้ขอให้คิดเอาไว้ว่าแมวไม่สามารถรับรสหวานได้ รับประทานไปมันก็ไม่อร่อยอยู่ดี
  4. ก้างปลาและกระดูก แม้ว่าแมวบางตัวอาจจะเคยรับประทานสิ่งของเหล่านี้มาแล้วแต่เราก็ยังไม่แนะนำให้รับประทานอยู่ดีเพราะมันอาจจะมีเศษไปติดคอ ทิ่มหลอดอาหารหรือหลอดลมจนทำให้เกิดแผลบริเวณทางเดินอาหารได้ หากอาการรุนแรงมากอาจจะต้องผ่าตัดเพื่อทำการรักษากันเลยทีเดียว 

นมวัว กับดักที่หลายคนถือให้ลูกแมวรับประทาน 

      หลายคนที่รับลูกแมวมาเลี้ยงโดยที่ไม่ทันได้ศึกษาหาความรู้มาก่อน รู้เพียงแค่ว่าต้องเอานมให้พวกมันรับประทานเลยนำเอานมวัวให้พวกมัน แต่ความจริงแล้วนมวัวนั้นถือเป็นอีกหนึ่ง อาหารต้องห้าม ที่ แมวกินไม่ได้  เพราะแมวนั้นไม่มีเอนไซม์สำหรับการย่อยน้ำตาลแลคโตสเช่นเดียวกับมนุษย์ที่แพ้นมวัว เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วอาจเกิดอาการอาเจียนหรือท้องเสีย หากอาการหนักอาจจะส่งผลต่อชีวิตได้ หากรับลูกแมวที่ยังไม่หย่านมมาเลี้ยงเราขอแนะนำให้ใช้นมแพะหรือนมสำหรับแมวโดยเฉพาะจะดีกว่า 

 

 

 

สล็อตผ่านวอเลท ไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

โรคไข้หัดแมว โรคร้ายที่พรากชีวิตลูกแมวได้อย่างรวดเร็ว 

      ลูกสัตว์ทุกชนิดบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่อ่อนแอเนื่องจากยังไม่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายเพียงพอ ดังนั้นเวลาที่คุณรับลูกสัตว์เลี้ยงมาดูแล สิ่งที่ควรทำเป็นสิ่งแรกคือการพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว การพบกับสัตวแพทย์ก่อนจะช่วยให้คุณสามารถเจอโรคที่อาจจะแฝงมากับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ได้ ช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเดิมของเราติดโรคไปด้วย โดยเฉพาะแมวซึ่งในวัยเด็กนั้นมักป่วยเป็น โรคไข้หัดแมว เป็นจำนวนมาก โรคดังกล่าวเป็นโรคร้ายที่สามารถคร่าชีวิตลูกแมวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งตรวจพบเจอเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น

หัดแมวคืออะไร เหตุใดจึงอันตรายต่อชีวิตแมว 

      โรคไข้หัดแมว นั้นมีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า โรคพาร์โวไวรัส เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ระหว่างแมวในกรณีที่มีการคลุกคลีใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน รับประทานอาหาร ดื่มน้ำจากภาชนะเดียวกัน ใช้กระบะทรายแมวเดียวกัน หรือแม้กระทั่งอยู่บนพื้นดินที่มีการปนเปื้อนเชื้อ โรคดังกล่าวสามารถเป็นได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่เพียงแต่อาการจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นหากเป็นลูกแมวอายุยังน้อย อาการของโรคส่วนใหญ่แล้วจะมีไข้ ซึม ไม่เล่นหรือร่าเริงเหมือนแต่ก่อน อาเจียน ท้องเสียและมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ กินน้ำน้อยและมีภาวะขาดน้ำ สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้แมวสามารถเสียชีวิตได้ทันทีหลังจากที่ติดโรค แมวบางตัวอาจรอดมาได้ในช่วง 2-3 วันแรกแต่ภูมิคุ้มกันก็จะตกลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้อวัยวะภายในไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ไวรัสดังกล่าวจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้พวกมันสามารถติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย หากแมวป่วยเป็นโรคดังกล่าวขณะตั้งท้องอยู่ก็อาจจะทำให้แท้งหรือทำให้ลูกแมวเสียชีวิต หากแมวที่เกิดมาจากแม่แมวที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวจะมีปัญหาด้านพัฒนาการและสมองที่ไม่ปกติ ปัจจุบันนี้เราไม่ค่อยเห็นโลกดังกล่าวในแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงระบบปิดเนื่องจากมีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน แต่สำหรับแมวจรจัด แมวในสถานที่พักพิง รวมไปถึงแมวจากฟาร์มที่ไม่มีการดูแลอย่างเป็นมาตรฐานก็อาจจะก่อให้เกิดโรคดังกล่าวได้ หากพบว่าแมวมีอาการควรพาไปหาสัตวแพทย์ในทันที 

ทำอย่างไรจึงจะป้องกันไม่ให้แมวของเราติดเชื้อหัดแมว 

      แม้ว่าแมวของเราจะถูกเลี้ยงระบบปิดแต่หากไม่มีการฉีดวัคซีน โรคไข้หัดแมว มาก่อนก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นการที่เราเข้าไปอยู่ในสถานที่พักพิงที่เต็มไปด้วยแมวจรจัดที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวก็อาจจะทำให้เชื้อโรคติดมากับเนื้อตัว เสื้อผ้า และรองเท้าของเราได้ เชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถอยู่ได้นานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน ดังนั้นหากเราไม่ต้องการให้แมวของเราติด โรคพาร์โวไวรัส สิ่งแรกที่ควรทำคือพาแมวไปฉีดวัคซีนตาม

 

 

 

ฝากไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ดูแลแมวแก่  อย่างไรให้อยู่กับเราไปอีกยาวนาน 

แมวก็เหมือนกับสัตว์ทั่วไปบนโลกใบนี้ที่มีช่วงเวลาสุดแสนจะน่ารักในช่วงที่ยังเป็นลูกแมว ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความแสบสันในช่วงที่เป็นวัยรุ่น และช่วงเวลาที่ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเมื่อพวกเขาแก่ขึ้น การ ดูแลแมวแก่ นั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการดูแลคนแก่ทั่วไป เราจะต้องใส่ใจสุขภาพของพวกเขาเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินหรือแม้แต่พฤติกรรม การระมัดระวังโรค เพื่อให้พวกเขาอยู่กับเราไปอีกยาวนาน

รวมวิธีการดูแลแมวสูงอายุให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

แมวที่เริ่มเข้าสู่ช่วงอายุเยอะนั้นจะเริ่มตั้งแต่แมวอายุ 7 ปี เรียกได้ว่าเริ่มค่อนข้างเร็วสำหรับอายุแมวโดยเฉลี่ยที่จะอยู่ที่ประมาณ 20 ปี พฤติกรรมของพวกเขานั้นจะเปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นการเล่น การนอน การทานอาหาร หรือแม้แต่ลักษณะภายนอกทั้งเสียงและขน การ ดูแลแมวแก่ ให้เป็น แมวสุขภาพดี มีหลายอย่างที่เราต้องทำไม่ว่าจะเป็น

  1. อาหาร พฤติกรรมของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเราจึงเลือกอาหารสูตรที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา มีสารอาหารที่เหมาะสำหรับแมวสูงวัยไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน โอเมก้า 
  2. กระบะทราย หากบ้านของผู้เลี้ยงมีหลายชั้นควรมีกระบะทรายในทุกชั้นให้แมวสามารถเข้าห้องน้ำได้ง่าย ควรเลือกใช้กระบะทรายที่ไม่สูงจนเกินไป และต้องสังเกตการขับถ่ายของแมวอยู่เป็นประจำ
  3. ขนและผิวหนัง สิ่งที่เกิดขึ้นกับแมวแก่คือขนของพวกเขาจะมีการหลุดร่วงมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลานี้เราควรตัดขนให้สั้น หมั่นแปรงขนเพื่อไม่ให้เกิดสังกะตัง ให้อาหารบำรุงที่ช่วยให้ขนของพวกเขาสวยมากขึ้น
  4.  ความสะอาด ในช่วงเวลาที่แมวแก่ลงนั้นเราต้องดูแลความสะอาดให้พวกเขามากยิ่งขึ้น เนื่องจากพวกเขานั้นจะเลียขนให้ตัวเองน้อยลง นอกจากจะอาบน้ำในความถี่ที่เหมาะสมแล้ว ควรใช้สำลีชุบน้ำอุ่นทำความสะอาดรอบจมูกและดวงตาอยู่เป็นประจำ ตัดเล็บอย่างสม่ำเสมอ และใช้คัตตอนบัตเช็คเข้าไปในหูเพื่อกำจัดขี้หูออก
  5. ตรวจสุขภาพ ยิ่งความเสี่ยงสูงความถี่ในการตรวจสุขภาพก็ยิ่งต้องมากยิ่งขึ้นไปด้วย สำหรับแมวที่มีอายุมากแล้วควรทำการตรวจสุขภาพรวมไปถึงตรวจสอบค่าเลือดอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี 

เหตุใดเราจึงควรดูแลแมวสูงอายุเป็นพิเศษ

อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าแมวนั้นก็เหมือนกับคนเรา เมื่อแก่ลงก็ต้องดูแลมากยิ่งขึ้น การ ดูแลแมวแก่ ให้เป็น แมวสุขภาพดี นั้นจะช่วยยืดอายุแมวให้อยู่กับเราได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ทั้งความเสี่ยงในการเกิดโรค ปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน ความสามารถในการได้ยินและการมองเห็น สุขภาพของขนและผิวหนัง หากไม่ดูแลให้ดีก็อาจจะทำให้แมวของเราป่วยได้ง่ายขึ้น 

 

 

 

บาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สุขภาพ

แมวอ้วนเกินไป ความน่ารักที่แฝงไปด้วยอันตรายที่หลายคนมองข้าม

แมวอ้วนเกินไป ความน่ารักที่แฝงไปด้วยอันตรายที่หลายคนมองข้าม

            สัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่างแมวที่มีกันแทบทุกบ้าน ถือเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ที่หลายคนต่างก็ชื่นชอบในความน่ารักนุ่มนิ่มของเจ้าเหมียว บวกกับนิสัยขี้อ้อนไม่เหมือนใคร ยิ่งทำให้หลายคนหลงรักได้ไม่ยาก ยิ่งแมวอ้วนท้วนสมบูรณ์ยิ่งดูน่ารัก เพราะดูจ้ำม่ำน่าขย้ำไปซะหมด แต่การที่แมวอ้วนเกินไป อาจไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก เป็นความน่ารักที่แฝงไปด้วยอันตราย เพราะสุขภาพของแมวก็ไม่ต่างจากมนุษย์เรา หากอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะเป็นการส่งผลในเรื่องสุขภาพแบบระยะยาว อันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเจ้าเหมียวนั้นมีน้ำหนักหรือกลายเป็นแมวอ้วนเกินไป มีดังนี้

 ส่งผลในเรื่องของระบบการทำงานภายในร่างกาย

            แมวอ้วนที่มีน้ำหนักมากเกินไป อาจส่งผลต่อระบบการทำงานภายในเช่นเดียวกันกับมนุษย์ โดยจะพบได้ในแมวที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป มักจะมีกิจกรรมระหว่างวัน หรือขยับตัวน้อยลง ดังนั้น เมื่อมีการใช้พลังงานลดลง ร่างกายของแมวจะเก็บสะสมพลังงานที่ได้จากสารอาหารมากขึ้นจนเกิดเป็นไขมันส่วนเกินได้ง่ายๆ จนอาจทำให้มีไขมันเกาะตามตับ หลอดเลือดที่เป็นอวัยวะภายใน ส่งผลให้เกิดโรคได้ ยกตัวอย่างเช่น

            โรคเบาหวาน – แมวอ้วนที่มีน้ำหนักมากเกินไป มักจะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานอย่างมาก โดยโรคเบาหวานมักจะพบในแมวที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากถึง 80-90% ทีเดียว หากเป็นแล้วการรักษาก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้นควรจัดการควบคุมดูแลในเรื่องอาหารของแมวตั้งแต่ยังเด็ก และเลือกอาหารให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยจะดีกว่า

            โรคกระดูกและข้ออักเสบ – แมวที่มีน้ำหนักเยอะนั้น ไม่ต่างกับคนอ้วน เพราะจะยิ่งทำให้ข้อกระดูกบริเวณช่วงขาจำเป็นต้องรับน้ำหนักที่มากขึ้น อีกทั้งไขมันที่เป็นตัวอันตรายในร่างกายของแมวเองอาจทำให้กระดูกเสื่อมลง เพราะการได้รับแคลเซียมมีน้อยไปนั่นเอง

โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ และภูมิคุ้มกันบกพร่อง – ปัญหาใหญ่ของแมวอ้วนที่มีน้ำหนักตัวมาก มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้มากกว่าแมวน้ำหนักปกติทั่วไป ส่งผลในการขับถ่ายและปัญหาอาจเรื้อรังไปยังระบบตับ และไตได้อีกด้วย

สุขภาพจิต การใช้ชีวิตประจำวัน

            ความน่ารักที่แฝงไปด้วยอันตรายอีกอย่างคือการใช้ชีวิตประจำวันของแมว แม้จะเป็นเรื่องเล็กแต่ไม่ควรมองข้าม การที่แมวอ้วนเกินไป หรือมีน้ำหนักเยอะ มักจะทำให้การเลียทำความสะอาดตัวเองเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ทำให้บางครั้งแมวอาจรู้สึกหงุดหงิด รู้สึกไม่คล่องตัว ปราดเปรียวเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งยังสามารถนำไปสู่ปัญหาผิวหนังได้เช่นกัน และยังทำให้มวเกิดความเครียดได้อีกด้วย

            สุขภาพของแมวเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าการที่แมวอ้วนกลมน่ารักดุ๊กดิ๊กขนาดไหนก็ตาม แต่หากมีน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ การใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงควรวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นได้ เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของแมวในระยะยาวนั่นเอง

 

 

Categories
สุขภาพ

อันตรายแฝงในทรายแมว หากเลือกใช้ทรายที่ไม่มีคุณภาพ

ทรายแมวในท้องตลาดนั้น มีหลายแบบ หลายประเภทให้บรรดาคนรักแมวได้เลือกซื้อ เลือกหามาใช้ให้กับเจ้าเหมียว โดยหลายคนต่างก็ย่อมมองหาสินค้าที่ราคาถูกเพื่อเป็นการประหยัดงบ แต่ทั้งนี้ทรายแมวบางยี่ห้อ แม้จะมีการโฆษณาชวนเชื่อว่าปลอดภัย ไร้สารเคมี ไม่มีฝุ่นตกค้าง แต่ทั้งนี้ควรเลือกทรายแมวที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ เพราะจะทำให้ปลอดภัยทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราได้ ซึ่งหากเผลอเลือกใช้ทรายแมวที่ไม่มีคุณภาพ แม้ว่าราคาจะถูก แต่อันตรายแฝงที่ปะปนมานั้น อาจน่ากลัวกว่าที่หลายคนจะคาดคิดได้ 

อันตรายแฝงในทรายแมวที่ต้องระวัง มีดังนี้

  1. ฝุ่นและสารเคมี

ทรายแมวราคาถูก หรือแบบที่เกรดต่ำ มักจะมีฝุ่นหรือสารเคมีปะปนมา ส่วนใหญ่ที่มีฝุ่นมากมักจะเป็นทรายแมวที่ทำมาจากแร่เบนโทไนท์ หรือฝุ่นจากผงซีเมนท์ที่ปะปนมา เพราะผู้ผลิตบางรายนั้น อาจใช้กลโกงในรูปแบบลดต้นทุนการผลิตลง และนำมาขายในราคาถูก อาจต่ำกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป ล่อให้คนสนใจซื้อแต่ทรายแบบนี้มักจะไม่มีคุณภาพเท่าที่เป็น ผงฝุ่นหรือสารเคมีที่มีปะปนในทรายแมวนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งเจ้าของและแมวได้ในระยะยาว เพราะมีการสูดดม จนไปตกค้างในร่างกายได้ด้วย แม้จะไม่เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพในทันที แต่เป็นอันตรายแฝงที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไปแน่นอน

  1. ทรายแมวทานไม่ได้

ในกรณีนี้มักจะเกิดขึ้นกับลูกแมวที่กำลังหัดให้ใช้กระบะทราย แมวเด็กมักจะเล่นซน และมักทานอะไรสะเปะสะปะไปหมด การให้ลูกแมวหัดใช้กระบะทราย จึงควรเลือกทรายชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแมว หากเผลอทานเข้าไปแบบไม่ตั้งใจ อย่างทรายซังข้าวโพด ทรายข้าวสาลี ที่สามารถทานได้แต่ทั้งนี้เจ้าของจำเป็นต้องหมั่นใส่ใจดูแลเจ้าเหมียวด้วยเช่นกัน เพราะทรายแมวแบบข้าวโพด หรือข้าวสาลีสามารถทานได้ก็จริง แต่หากทานมากเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก เพราะอาจทำให้ลูกแมวท้องเสีย ร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน

  1. รักษาความสะอาด สิ่งสำคัญที่สุด

บางครั้งทรายแมวนั้นอาจไม่ส่งผลเสียเท่ากับการไม่ดูแลรักษาความสะอาดของกระบะทรายที่ใช้ การปล่อยปะละเลยไม่เก็บฉี่ อึของเจ้าเหมียว อาจทำให้ในกระบะทรายกลายเป็นแหล่งหมักหมมเชื้อโรค ที่อาจทำให้เกิดโรคได้ทั้งในมนุษย์และแมวเอง ควรหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายทั้งเช้าและเย็น และล้างกระบะทรายผึ่งแดดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อจะได้ลดความเสี่ยงในเรื่องของเชื้อโรคด้วย

เลือกทรายแมวที่มีคุณภาพ

การเลือกทรายแมวที่ดี มีคุณภาพนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องราคาแพงมากเสมอไป เจ้าของสามารถเลือกได้ตามสภาพความเหมาะสมในการใช้งาน และควรเลือกจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ทรายแมวที่มีคุณภาพ ไม่มีอันตรายแฝงมาให้หวั่นใจ และมีปลอดภัยทั้งแมวและเจ้าของดีที่สุด

 

 

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

5 หลักสำคัญ  วิธีดูแลลูกแมวอย่างไรให้สุขภาพดี สำหรับมือใหม่

5 หลักสำคัญ  วิธีดูแลลูกแมวอย่างไรให้สุขภาพดี สำหรับมือใหม่

          สำหรับทาสแมวที่อาจจะบังเอิญมีคนให้น้องแมวมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน หรือสำหรับคนที่ไปรับน้องแมวมาเลี้ยงที่บ้านแต่น้องยังเด็กอยู่  ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจจะยังไม่รู้วิธีดูแลลูกแมวที่ถูกต้อง  วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีทำอย่างไรให้น้องแมวสุขภาพดี  เป็นขั้นตอนเบื้องต้นแบบง่ายๆที่เราจะต้องรู้ก่อนเป็นอันดับแรก  ต้องทำยังไงบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ

วิธีดูแลลูกแมวเพื่อให้แมวสุขภาพดี

          ในการรับน้องเหมียวมาเป็นสมาชิกในบ้าน  สิ่งที่เราจะต้องดูแลน้องมีหลักสำคัญและเป็นพื้นฐานที่ควรต้องรู้ ดังนี้

การให้นมน้องเหมียว

         วิธีดูแลลูกแมวแรกเกิด การให้นมสำหรับลูกสัตว์หรือนมแพะ เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับน้องแมวแรกเกิดมากที่สุด เนื่องจากเป็นนมที่มีปริมาณความเข้มข้นของไขมันพอดีกับความต้องการของน้องเหมียว  จะช่วยให้น้องรู้สึกสบายท้อง ไม่ทำให้น้องแน่นท้อง หรือเกิดอาการท้องอืด รวมถึงมีส่วนช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีนั่นเอง

 โดยน้องเหมียวที่มีอายุระหว่างช่วง 1-3 สัปดาห์แรก ให้ป้อนนมน้อง ครั้งละ 2-7 ซีซี ในทุกทุก 2-3 ชั่วโมง  โดยมีหลักในการสังเกตว่าน้องเหมียวเริ่มอิ่มแล้วหรือยัง  ให้ดูที่การดูดนมถ้าน้องเริ่มดูดช้าลงแสดงว่าน้องเริ่มอิ่มแล้ว จึงหยุดการให้นมได้  และเมื่อมีอายุครบ 4 สัปดาห์ ให้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นอาหารเปียกแทนค่ะ

การดูแลความสะอาดให้น้องเหมียว

         หากน้องยังเด็กอยู่แนะนำให้นำผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นแล้วค่อยๆเช็ดตัวให้น้อง อาทิตย์ละประมาณ 2-3 ครั้ง เมื่อน้องเหมียวมีอายุครบ 2 เดือน ( ขึ้นไป ) จึงจะสามารถอาบน้ำให้น้องได้ตามปกติค่ะ  นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการทำความสะอาดอื่นๆด้วยนะคะ ควรหัดให้น้องมีความเคยชินตั้งแต่เด็กจะได้ดูแลได้ง่ายขึ้นและน้องจะได้ไม่ตกใจกลัว  เป็นวิธีดูแลลูกแมวเพื่อให้แมวสุขภาพดีอย่างถูกต้องและถูกวิธีค่ะ  หลังจากการอาบน้ำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรใช้ไดร์เป่าผมปรับระดับไปที่ลมอุ่นๆ และควรเปิดในระดับเบาๆในการเป่าขนน้องให้แห้ง จะช่วยให้น้องสบายตัวและลดการอับชื้นได้

 

ฝึกการขับถ่ายให้เป็นที่-เป็นเวลา

          ในช่วงที่ยังเป็นเด็ก  หลังการให้นมควรใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหมาดๆเช็ดก้นให้น้อง  โดยค่อยๆลูบไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้น้องอยากขับถ่าย  สักพักน้องก็จะเริ่มขับถ่ายออกมาเองค่ะ  และเมื่ออายุครบ 4 สัปดาห์  แนะนำให้มีกระบะทรายให้น้องได้ฝึกขับถ่ายเป็นที่ตั้งแต่เด็ก  เราควรทำความสะอาดกระบะทราย เปลี่ยนทราย และล้างกระบะทรายให้น้องอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะช่วยให้น้องสุขภาพดี แข็งแรง และปราศจากโรค

พาน้องไปรับวัคซีน

ก่อนจะเริ่มให้วัคซีนควรจะต้องพาไปพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพเสียก่อน  และเริ่มให้วัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุครบ 2 เดือน จากนั้นจึงฉีดตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องในระยะยาวค่ะ

 การเปลี่ยนอาหารให้น้องเหมียว

        วิธีดูแลลูกแมว ในช่วง 6-8 สัปดาห์แรก คือช่วงที่เริ่มหย่านม  ควรให้อาหารแมวแบบเม็ด-แบบเปียกสลับกันไป และควรลดการให้นม เปลี่ยนมาเป็นการให้อาหาร 3-4 มื้อ / วัน  และให้นำน้ำสะอาดจัดวางไว้เพื่อให้น้องเหมียวได้ดื่ม  กรณีที่น้องอาจจะยังเด็กและดื่มน้ำเองยังไม่เป็นให้ใช้เป็นไซริงค์ป้อนน้ำแทนค่ะ         

          เป็นยังไงกันบ้างคะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ สำหรับวิธีเตรียมตัวที่เราจะต้องรู้ก่อนเลี้ยงน้องแมวแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลน้องเหมียว หรือสัตว์ชนิดใดก็ตามเราจะต้องดูแลอย่างพิถีพิถันใส่ใจเหมือนกับว่าเราเลี้ยงทารกตัวน้อยที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณแม่แล้ว  เราก็ต้องทำตัวให้เหมือนคุณพ่อคุณแม่ของเขาด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการป้อนนม การดูแลรักษาความสะอาด การดูแลการขับถ่าย การเสริมภูมิต้านทานโดยการฉีดวัคซีน  สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆในอนาคต  เป็นวิธีดูแลลูกแมวให้ลูกแมวสุขภาพดีในระยะยาว  น้องจะได้เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่  มีสุขภาพแข็งแรง  และอยู่กับเราไปนานๆยังไงละคะ

 

 

 

Categories
สุขภาพ

แมวร้องไห้ได้จริงหรือไม่ และมีสาเหตุเกิดจากอะไร

แมวร้องไห้ได้จริงหรือไม่ และมีสาเหตุเกิดจากอะไร

               สัตว์เลี้ยงที่เดาอารมณ์และความรู้สึกได้ยากชนิดหนึ่ง คงหนีไม่พ้นแมวที่ภายนอกดูแสนจะน่ารัก นุ่มนิ่ม แต่ในบางครั้งกลับทำความเข้าใจได้ยาก ถึงได้มักจะมีคำเปรียบเปรยอยู่เสมอว่า อารมณ์แมวไม่แตกต่างจากผู้หญิง เพราะมักจะทำความเข้าใจยากได้ไม่แพ้กัน สิ่งที่ยังเป็นที่สงสัยอยู่อย่างน้ำตา หลายคนมักจะเข้าใจว่าที่แมวมีน้ำตานั้นเกิดจากอาการระคายเคืองนัยน์ตา หรืออาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งได้เช่นกัน หลายคนมักจะสงสัยว่าจริงๆ แล้วแมวร้องไห้ได้หรือเปล่า และที่เจ้าเหมียวมีน้ำตามาจากสาเหตุอะไร ซึ่งเราจะมาอธิบายคร่าวๆ ดังนี้

  1. แมวก็เศร้าเป็น

อย่าคิดว่าแมวจะร้องไห้ไม่เป็น แม้ว่าโดยธรรมชาติแมวเป็นสัตว์ที่เก็บอาการดีอย่างมาก แต่สำหรับแมวบางตัวที่ติดเจ้าของมากๆ อยู่กินนอนตัวติดกันอยู่เป็นประจำ เมื่อในบางเวลาที่จำเป็นต้องห่างจากเจ้าของ หรือเจ้าของต้องออกไปธุระข้างนอกบ้านเป็นเวลานาน อาจจะข้ามวัน อาจเป็นสาเหตุให้แมวรู้สึกเศร้าและมีน้ำตา เหมือนแมวร้องไห้ได้เช่นกัน เพราะแมวก็มีความรู้สึกและอารมณ์ไม่แตกต่างกับมนุษย์เช่นกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากบางครั้งจะพบว่าแมวร้องไห้มีน้ำตานั่นเอง

  1. ปัญหาด้านสุขภาพ

เป็นสิ่งแรกที่เจ้าของต้องคำนึงถึงเมื่อพบว่าแมวร้องไห้ มีน้ำตานั้น มาจากปัญหาสุขภาพของสายตาหรือไม่ เพราะมีสาเหตุที่หลากหลาย เช่น อาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้าลูกตา เช่นเศษแก้ว เศษผงฝุ่นต่างๆ หรือแม้แต่ท่อน้ำตาอุดตัน มีการอักเสบของเปลือกตา หรือเยื่อลูกตา ทั้งนี้ในกรณีเป็นแมวที่มีอายุมากมักจะเป็นอยู่บ่อยๆ แต่หากเลี้ยงหลายตัวก็อาจเกิดกรณีแมวทะเลาะกัน จนเผลอโดนข่วนหรือโดนตบแถวบริเวณลูกตาได้เช่นกัน หากมีคราบน้ำตาที่หัวตา หรือมีน้ำตาไหลปริมาณมาก มีคราบน้ำตาเป็นสีน้ำตาลแดง ควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อทำการวินิจฉัยอาการต่อไป

  1. เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ

แปลกแต่จริง เจ้าเหมียวมักจะมีวิธีเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของได้หลากหลายวิธีจนเราคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นการเดินมามองหน้า เหยียบเท้า เดินตามไปทุกที่ ส่งเสียงร้องโวยวาย หรือแม้แต่การร้องไห้บีบน้ำตา ก็สามารถทำได้ มีรายงานข่าวจากต่างประเทศยืนยันแล้วว่า แมวสามารถร้องไห้เพราะต้องการให้เจ้าของสนใจ ซึ่งปกติส่วนใหญ่มักจะส่งเสียงร้อง แต่การร้องไห้ก็ถือเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่แมวสามารถเรียนรู้ได้จากการกระทำของมนุษย์ ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจหากพบว่าแมวร้องไห้ เพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจจากเราได้นั่นเอง

แมวเป็นสัตว์ที่อ่อนไหว และรู้สึกตื่นตัวแทบจะตลอดเวลา แม้แต่ในยามหลับก็ตาม การที่แมวร้องไห้นั้น ให้เจ้าของลองสังเกตให้ดีก่อนจากหลายๆ สาเหตุ อย่าวิตกกังวลมากเกินไป แต่ถ้าเข้าข่ายจะมีปัญหาด้านสุขภาพก็ควรรีบพาไปหาสัตวแพทย์ทันทีนั่นเอง

เล่นบาคาร่าออนไลน์เว็บตรง ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ https://sa-game.bet/ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ/ ระบบออโต้ การเงินมั่นคง

Categories
สุขภาพ

ขนมแมวเลียให้แมวทานอย่างไรเพื่อไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

การทานอาหารสำหรับเจ้าเหมียวนั้น ควรได้รับสารอาหารให้ได้อย่างครบถ้วนเพียงพอต่อร่างกาย นอกจากอาหารมื้อหลักอย่างอาหารเม็ด อาหารเปียกที่เหมาะสมกับแมวแต่ละช่วงวัยแล้ว การให้แมวได้ทานอาหารเสริมประเภทอื่นๆ จะช่วยทำให้แมวไม่เบื่ออาหาร และมีสุขภาพดีได้ ขนมแมวเลียเองก็เป็นหนึ่งในอาหารเสริมสำหรับเจ้าเหมียวที่ได้รับความนิยมไม่แพ้อาหารเสริมหรือขนมสำหรับแมวประเภทอื่นๆ อย่างมาก สามารถทานได้ทุกวัย โดยแมวที่มีอายุ 2 เดือนขึ้นไปถึงจะสามารถทานได้ ขนมแมวเลียยังเป็นที่ชื่นชอบของเจ้าเหมียวอย่างมาก แต่จะทาน ขนมแมวเลียแบบไหน ให้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของแมวได้ มีเคล็ดลับง่ายๆ ดังนี้

  1. ก่อนเลือกซื้อ ขนมแมวเลีย ควรเลือกจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีบอกรายละเอียดและส่วนผสมต่างๆ ให้ชัดเจน ที่สำคัญ หากมีเครื่องหมายรับรองผ่านการดูแลควบคุมของหน่วยงานที่เกี่ยวกับการดูแลสัตว์จะยิ่งเป็นขนมแมวเลียที่สามารถทานได้อย่างปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของแมว
  2. ส่วนผสมของ ขนมแมวเลียเป็นสิ่งที่เจ้าของต้องใส่ใจ เพราะบางยี่ห้ออาจมีปริมาณแคลอรี่จำนวนมากหากให้แมวทานมากเกินไป นอกจากจะส่งผลต่อน้ำหนักตัวเจ้าเหมียวแล้ว อาจทำให้มีผลกระทบในเรื่องระบบการทำงานภายในร่างกายด้วย เช่น ระบบลำไส้ การย่อยอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้สิ่งสำคัญภายในส่วนประกอบของ ขนมแมวเลียนั้น ไม่ควรมีความเค็มมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไตของแมวทำงานหนัก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เจ้าของเองก็สามารถลองชิมขนมของเจ้าเหมียวก่อนที่จะให้แมวทานได้ เพื่อเป็นการทดสอบรสชาติได้อีกทางหนึ่งด้วย
  3. ปริมาณการทาน ขนมแมวเลีย การทานขนมแมวเลียแบบที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเจ้าเหมียวนั้น สามารถคำนวณได้จากวัยและน้ำหนักตัวของแมว ทั้งนี้การทานขนมแมวเลียที่เหมาะสมที่สุดคือ ให้ทานได้ไม่เกิน 10% ของพลังงานที่ร่างกายจะต้องได้รับในแต่ละวัน โดยแมวจะต้องมีสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์ไม่ป่วยเป็นโรคใดๆ ส่วนอีก 90% ที่เหลือควรได้จากสารอาหารหลักถึงจะพอเพียงต่อแมวนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ขนมแมวเลียนั้น ไม่ควรให้แมวบ่อยครั้งเพราะอาจทำให้แมวเสียนิสัยไม่ยอมทานอาหารหลัก หากการให้ขนมแมวเลียที่ถูกต้องอาจใช้เป็นรางวัลหลอกล่อ ใช้เป็นรางวัลในการทำกิจกรรมร่วมกัน หรือฝึกเจ้าเหมียวให้ทำตามคำสั่งง่ายๆ หรือแม้แต่การชวนให้แมวออกกำลังกายก็ได้ คล้ายกับเป็นแรงจูงใจให้แมวได้เช่นกัน ที่สำคัญเจ้าของต้องใจแข็งอดทนไม่ให้เมื่อแมวเรียกร้องอยากทานขนมด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าเหมียวนั่นเอง

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ทำอย่างไรหากแมวร้องไม่หยุด และเพราะอะไรทำไมถึงร้อง?

ทาสแมวทั้งหลายเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหม อยู่ ๆ แมวก็ร้องไม่หยุด ไม่รู้ว่าเป็นอะไรและร้องนานมาก ส่งผลเสียต่อหลาย ๆ อย่าง เช่น เพื่อนบ้านรำคาญ หรือ รบกวนคนอื่นแล้วเราจะมีวิธีการจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี ในบทความนี้มีคำตอบ

สาเหตุที่ทำให้แมวร้องไม่หยุดมีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ก็ละเลยไม่ได้เชียว

มาดูกันเลยว่าทำไมเจ้านายที่แสนน่ารักของเราจึงกลายเป็นแมวร้องไม่หยุด ซึ่งสาเหตุก็สามารถมาจากไม่กี่ปัจจัย ได้แก่

  • น้องเหมียวตัวน้อยแสนน่ารักเรียกร้องความสนใจ อยากให้อยู่ใกล้ ๆ อยากอ้อน แน่นอนว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับแมวทุกเพศ และทุกวัยเลยสำหรับปัจจัยนี้ ยิ่งหากเป็นแมวสก็อตทิช โฟลด์ที่มีนิสัยขี้อ้อนอยู่แล้ว และไม่ชอบการอยู่ลำพัง ยิ่งต้องให้ความสนใจ ใส่ใจเป็นพิเศษ
  • น้องเหมียวน้อยกำลังคิดถึงเพื่อน ๆ สถานที่ที่คุ้นเคย หรือแม่ของมันเอง เพราะบางทีแมวที่ร้องอยู่อาจเป็นแมวที่พึ่งนำมาเลี้ยงใหม่ ๆ ซึ่งน้องอาจจะยังไม่คุ้นชินกับสถานที่ ทำให้รู้สึกกลัวไม่ปลอดภัย และร้องหาเพื่อน ๆ , แม่ หรือทาสคนเก่าของมันนั่นเอง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะน้องเหมียวจะร้องแค่ 3 – 4 วันแรกที่มาอยู่บ้านใหม่เท่านั้นแหละ เดี๋ยวพอชินมีลุ้นห้องพังแน่ เพราะเจ้าตัวเล็กเนี่ยซนมาก
  • ร้องเพราะอยู่ในช่วงติดสัด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้มาก เพราะแมวอาจรู้สึกกระวนกระวายอยากหาคู่ตลอดเวลา จึงร้องออกมาเพื่อหาเพศตรงข้าม
  • แมวของคุณมีอาการหิว แน่นอนว่าการร้องของงมันอาจเป็นการส่งสัญญาณถึงคุณก็ได้ว่ามันรู้สึกหิวมาก “เจ้าทาสเอาอาหารมาให้ฉันได้แล้ว”
  • แมวของคุณอาจจะป่วยก็ได้ เช่นเดียวกับมนุษย์หากรู้สึกเจ็บป่วยก็มีบ้างที่จะต้องร้องโอดโอย แมวเองก็เช่นกัน และที่ร้องอีกอย่างก็เพราะอยากให้คุณสังเกตถึงพฟติกรรมที่เปลี่ยนไปของมัน เพื่อที่จะรู้ว่าป่วยและนำส่งไปรักษา

เสียงร้องของแมวก็มีหลายลักษณะแตกต่างกันไป

ทาสแมวต้องสังเกตด้วยว่าแมวร้องไม่หยุดในลักษณะแบบไหน อาจจะร้องเบา ๆ, คราง ๆ เสียง, ร้องแบบโดหยหวนชวนคิดถึง, ร้องแบบขู่ หรือร้องแบบเจ็บปวดทุรนทุรายหรือเปล่า เพราะงั้นต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับการร้องของน้องเหมียวเป็นอย่างมาก และหากคุณรู้สึกว่าแมวของคุณกำลังเหงาอยากมีเพื่อนเล่น GUSCAT ของเราก็มีน้องแมวน่ารัก ๆ มากมายให้เลือกรับไปอุปการะเป็นเพื่อนเล่นได้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook page : GUS CAT FARM british shorthair and scotishfold