Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

รีวิว อาหารแมวโรคไต ยอดนิยม และขายดีที่สุดประจำปี

ปัจจุบัน อาหารแมวโรคไต มีวางขายตามท้องตลาดมากมาย บทความนี้เราจึงได้คัดสรร อาหารแมวยี่ห้อไหนไม่เค็ม สำหรับคนที่เลี้ยงแมวส่วนใหญ่อาจจะพอทราบกันอยู่แล้วว่า เนื่องจากอาหารแมวที่มีรสเค็มนั้นจะมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งเมื่อทานต่อเนื่องกันเป็นเวลานานไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ 

ปัจจุบันหลาย ๆ บ้านจึงเริ่มหันมาเลือกซื้ออาหารแมวสูตรที่มีโซเดียมต่ำ เพราะนอกจากจะมีสารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังมีการจำกัดปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมต่อสุขภาพแมว จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงในระยะยาว หรือโรคไตที่มักพบได้บ่อยในแมวอีกด้วยค่ะซึ่งจะมี อาหารแมวยี่ห้อไหนดี มีอะไรบ้างมาดูกัน

10  อาหารแมวโซเดียมต่ำ ยี่ห้อไหนดี ไม่เค็ม ลดโรคไต

ก็พอจะทราบแนวทางในการเลือกอาหารแมวโซเดียมต่ำกันแล้ว ทีนี้ทาสแมวที่กำลังมองหาอาหารแมวโซเดียมต่ำหรือ อาหารแมวโรคไต จะง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะเราได้คัดสรรสิ่งดี ๆ มาให้คุณแล้ว กับ 10 อันดับอาหารโซเดียมต่ำสำหรับน้องแมว ซึ่งจะมียี่ห้อไหนบ้างที่กินแล้วไม่เค็ม สุขภาพดี ไปดูกันค่ะ

อาหารเปียก ROYAL CANIN EARLY RENAL

อาหารแมว ยี่ห้อแรกที่เราจะมาแนะนำกัน อาหารแมวรอยัลคานิน อาหารสัตว์ชื่อดังที่ชาวทาสแมวรู้จักกันดี โดยอาหารเปียกสูตรนี้ก็เป็นอาหารเปียกสูตรสำหรับ แมวเป็นโรคไต โดยเฉพาะ ซึ่งแน่นอนามีปริมาณของโซเดียม และฟอสฟอรัสที่ต่ำกว่าปกติ 

เพื่อลดภาระการทำงานของไต และยังมีส่วนผสมของกรดไขมัน EPA, DHA ที่ให้พลังงาน และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงร่างกาย รวมถึงสุขภาพของลำไส้ให้ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้อีกด้วย แต่เป็นอาหารเปียกที่เหมาะสำหรับแมวอายุ 1 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับแมวเด็กค่ะ สำหรับใครที่สนใจ อาหารแมวโรคไต หรือ อาหารแมวเพื่อสุขภาพ แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3IN66iM

อาหารแมวแบบเปียก HILL’S PRECRIPTION DIET

อีกหนึ่งตัวที่เราอยากแนะนำมาจากแบรนด์ Hill’s อาหารเปียกสูตรโซเดียม และฟอสฟอรัสต่ำ ซึ่งมีโซเดียมอยู่เพียง 0.24% ทำให้ แมวเป็นไต สามารถทานได้ เพราะไม่ทำให้หัวใจ และไตทำงานหนักจนเกินไป อักทั้งยังมีกรดอะมิโน และโปรตีนคุณภาพดีที่ดูดซึมได้เร็ว ทำให้ร่างกายของน้องแมวได้รับพลังงานอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามิน E, C, โอเมก้า 3 และแอลคาร์นิทีน เหมาะสำหรับแมวอายุ 1 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับแมวเด็กค่ะ

สำหรับใครที่สนใจ  อาหารแมวยี่ห้อไหนดี หรืออาหารแมวโรคไต แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3mnyoIR

CAT MOJO  อาหารแมวเกรด Holistic สูตรโซเดียมต่ำ

อาหารแมวเกรด Holistic อีกตัวที่อยากมาแนะนำกัน อาหารเม็ดแมว สูตรโซเดียมต่ำเป็นอาหารสูตรที่เหมาะสำหรับแมวอายุ 4 เดือนขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับแมวเด็ก ที่มีส่วนผสมของโซเดียมเพียง 0.21% เท่านั้น

 อาหารแมวโรคไต ช่วยให้ไตของน้องแมวไม่ต้องทำงานหนักมีส่วนผสมของใยอาหารจากธรรมชาติช่วยในเรื่องการขับถ่าย และยังเป็น อาหารแมวเพื่อสุขภาพ  อีกหนึ่งยี่ห้อเพราะมีสารสกัดจากเมล็ดทานตะวัน, น้ำมันปลา, อีฟนิ่งพริมโรส ที่ช่วยบำรุงเส้นขน และผิวหนังให้แข็งแรงอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอาหารแมวโรคไต แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3kzQDdW

CLOVER ULTRA HOLISTIC  อาหารแมวแบบเม็ด

อาหารแมวโรคไต จากแบรนด์ Clover ที่มาในสูตร Ultra Holistic เหมาะสำหรับ แมวอายุ 2 เดือนขึ้นไปอาหารแมว ที่จะไม่มีส่วนผสมของธัญพืช แต่จะเน้นโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของแมวที่มาจากเนื้อสัตว์ถึง 95% ทั้งไก่, ทูน่า และแซลม่อน แต่ก็มีปริมาณไม่สูงเกินไปจนร่างกายดูดซึมไม่หมด อีกทั้งอาหารสูตรนี้ยังมีการควบคุมปริมาณโซเดียม รวมถึงยังเหมาะกับแมวที่แพ้ธัญพืชอีกด้วย

 สำหรับใครที่สนใจ  อาหารแมวยี่ห้อไหนดีต่อไต หรืออาหารแมวโรคไตแบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3kAP5jT

COHOO COHOO อาหารเสริมบำรุงแมว

หากน้องแมวตัวไหนที่ป่วย แน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาคือปัญหาเบื่ออาหาร และทานอาหารยาก อาหารเสริมแมว เหมาะสำหรับแมวอายุ 3 เดือนขึ้นไป จากแบรนด์ ChooChoo ตัวนี้ช่วยคุณได้ค่ะ เพราะเป็นอาหารเสริมในรูปแบบซุปที่ทานได้ง่าย อาหารแมวป่วย ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ เหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารเสริมให้น้องแมวเป็นโรคไต และเริ่มเบื่ออาหารเพราะมีปริมาณของโซเดียม และฟอสฟอรัสต่ำ อีกทั้งยังช่วยให้น้องแมวได้รับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีกด้วยสำหรับ 

ใครที่สนใจ อาหารแมวยี่ห้อไหนดีต่อไต หรืออาหารแมวโรคไต แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3kP7UQ9

MAXIMA CAT MAINTENANCE อาหารแมวแบบเม็ด

อาหารแมว โรคไต MAXIMA เป็นที่รู้กันในชาวทาสแมวว่าเป็นแบรนด์ที่จะได้อาหารแมวคุณภาพดี อาหารแมวราคาถูก ในปริมาณที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ซึ่งอาหารแมวแบบเม็ดตัวนี้ก็เป็นสูตรควบคุมระดับของเกลือ ช่วยป้องกันการเกิดโรคไตวาย และยังควบคุมปริมาณของแมกนีเซียมเพื่อป้องกันการเกิดโรคนิ่ว อุดมไปด้วยโปรตีนจากเนื้อแกะ และเนื้อปลา ปราศจากส่วนผสมของธัญพืช และผสม MOS ช่วยเรื่องระบบการทำงานของทางเดินอาหาร เหมาะสำหรับแมวทุกสายพันธุ์, แม่แมว, ลูกแมว

ใครที่สนใจ อาหารแมวยี่ห้อไหนดีต่อไต หรือ อาหารแมวโรคไต แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3y4Tvm0

CANAGAN  อาหารแมว สูตรปลาแซลมอน

อาหารแมว แบบเม็ดสูตรโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป ที่มีปริมาณโซเดียมเพียง 0.25% แต่มีส่วนผสมจากเนื้อปลาทะเลแท้ ๆ ถึง 85% นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของผัก, ผลไม้ และสมุนไพร ที่ช่วยบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยมาในรูปทรงเม็ดอาหารที่มีขนาดเล็ก น้องแมวเคี้ยวง่าย ช่วยให้ทานได้เยอะขึ้นค่ะ แต่เป็น อาหารแมว ราคา ทีค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอาหารแมวแบรนด์อื่น ๆ ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน

ใครที่สนใจ อาหารแมวเพื่อสุขภาพ หรือ อาหารแมวโรคไต แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3mk6P3t

Kaniva ชุดเซ็ตอาหารแมวโซเดียมต่ำ สำหรับแมวทุกสายพันธุ์

อาหารแมวไม่เค็ม เกรดพรีเมียมเม็ดสูตรโซเดียมต่ำ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารจากจากเนื้อไก่, ปลาทูน่า และข้าว อาหารแมวเพื่อสุขภาพ ที่จะช่วยให้น้องแมวมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อีกทั้งยังมีส่วนผสมของน้ำมันปลาแซลมอน และน้ำมันพริมโรส ที่ช่วยบำรุงสายตา และช่วยบำรุงเส้นขนให้เงางาม มีส่วนผสมของไซลีนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน มีส่วนผสมของพรีไบโอติกส์ และใยอาหารจากธรรมชาติช่วยในเรื่องของการขับถ่าย และยังช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ของน้องแมวอีกด้วย

ใครที่สนใจ อาหารแมวเพื่อสุขภาพ หรือ อาหารแมวโรคไต แบรนด์นี้สามารถสั่งซื้อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ https://bit.ly/3SQCXrC

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ อาหารแมวโรคไต สูตรโซเดียมต่ำหลากหลายแบรนด์ จะเห็นได้ว่าอาหารแมวบางสูตรที่มีโซเดียมต่ำนั้น เป็นอาหารแมวสำหรับ แมวเป็นโรคไต ทำให้มีการจำกัดปริมาณโซเดียม โปรตีน และสารอาหารสำคัญบางชนิด จึงไม่ค่อยเหมาะกับแมวสุขภาพปกติที่ต้องการสารอาหารครบถ้วน ดังนั้นถ้าหากน้องไม่ได้ป่วย ก็แนะนำให้เลือกซื้ออาหารแมวสูตรโซเดียมต่ำที่ไม่ได้กำกับเอาไว้ว่าเหมาะสำหรับน้องแมวที่เป็นโรคไตก็จะดีกว่า เพื่อจะได้รับอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายจะดีกว่าค่ะ guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวไม่ชอบน้ำ ปัญหาหนักใจที่ทำให้หลายคนอาบน้ำแมวไม่สำเร็จ

หลายคนอาจมองว่าแมวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่สะอาดเป็นอย่างมากและพวกมันก็มักจะดูแลทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เป็นประจำ ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำพวกเขาแต่อย่างใด แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาไปเล่นซนจนทำให้ร่างกายสกปรกพวกเขาก็ต้องได้รับการอาบน้ำเช่นเดียวกัน แต่ปัญหาหนักอกหนักใจของคนเลี้ยงแมวหลายคนก็คือแมวไม่ชอบน้ำเสียอย่างนั้น จะพาอาบน้ำทั้งทีนึงเหมือนพากันไปทำสงคราม วันนี้เราจึงจะพาคุณไปหาคำตอบกันว่าเพราะอะไรพวกเขาจึงไม่ชอบน้ำได้ถึงขนาดนั้น

cat behavior1

เปิดสาเหตุที่ทำให้แมวกลัวและไม่อยากอาบน้ำ

  1. การถ่วงน้ำหนักตัว การที่แมวไม่ชอบน้ำนั้นย่อมมีสาเหตุโดยเฉพาะการอาบน้ำ เพราะหลังจากที่เราอาบน้ำพวกเขาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็จะต้องเอาผ้าขนหนูมาคลุมตัวพวกเขาเพื่อเช็ดให้แห้ง แต่นั่นก็ยังไม่หนักหน่วงเท่ากับการที่ขนของพวกเขาจะเปียกโชกจนทำให้พวกเขารู้สึกหนักไปทั้งตัว ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ พวกเขารู้สึกไม่สบายตัวดังนั้นพวกเขาจึงมีพฤติกรรมแมวที่ก้าวร้าวออกมาเวลาเราต้องการจะอาบน้ำ 
  2. วิวัฒนาการ เป็นสิ่งที่เราต้องย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่าแมวนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ร่วมกับน้ำแต่อย่างใด พวกเขามาอาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งดังนั้นบรรพบุรุษจึงไม่ได้มีวิวัฒนาการที่เตรียมให้พวกเขาต้องมาคุ้นชินกับการอาบน้ำในภายหลัง 
  3. กลิ่นเคมี ในน้ำประปาของเรานั้นสำหรับเราอาจจะไม่ได้มีกลิ่นอะไรแต่สำหรับแมวที่จมูกไวพวกเขาจะได้กลิ่นสารเคมีในน้ำ ดังนั้นบางครั้งพวกเขาจะไม่มีปัญหากับการเล่นน้ำเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามหาพวกเขาถูกจุ่มลงไปทั้งตัวเมื่อนั้นก็จะเกิดปัญหาตามมาในทันที
  4. สูญเสียการควบคุม แมวนั้นไม่เหมือนกับสุนัขบางสายพันธุ์ที่ชื่นชอบการเล่นน้ำนั่นก็เป็นเพราะว่าพวกมันรู้สึกว่าไม่มีอำนาจในการควบคุมสถานการณ์ หากพวกมันอยู่ในสถานการณ์ที่แห้งดีเวลามีเหตุอะไรมันก็สามารถกระโจนออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่ในน้ำหรือบริเวณที่เปียกลื่นจะทำให้พวกมันรู้สึกไม่สบายใจเพราะคิดว่าตัวเองกำลังเสียการควบคุมนั่นเอง
cat behavior

เปิดรายชื่อสายพันธ์ของแมวที่ไม่กลัวน้ำ

หากคุณเคยเลี้ยงแมวมาหลายสายพันธุ์จะพบว่าส่วนใหญ่แล้วแมวไม่ชอบน้ำไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดก็ตาม เวลาอาบน้ำทีไรพวกเขาก็มักจะมีพฤติกรรมแมวที่ก้าวร้าวอยู่เสมอ แต่ความเป็นจริงแล้วแมวบางตัวก็ชื่นชอบน้ำเช่นเดียวกันอย่างเช่นแมวเมนคูนที่ขนของพวกเขาสามารถกันน้ำได้ แมวอะบิสซิเนียที่ชื่นชอบการเล่นน้ำเป็นอย่างมาก หรือเเทอร์คิชแวนที่ขนสามารถกันน้ำได้แถมยังว่ายน้ำเป็นอีกต่างหาก guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

พฤติกรรมแมวสามารถบอกได้ว่าวันนี้พวกเขามีความสุขและสุขภาพดีหรือไม่

สิ่งที่คนเลี้ยงแมวต้องการก็คือการได้เห็นแมวของตนเองนั้นมีความสุขและสุขภาพดี มันทำให้คนเลี้ยงอย่างเรารู้สึกมีความสุขไปด้วยถึงแม้ว่าบางครั้งเราเองอาจจะไม่ได้เป็นคนที่แมวรักเลยก็ตามที แต่เพราะแมวน้ำเป็นสัตว์ที่แสดงออกไม่เก่ง มันเลยทำให้เราไม่รู้ว่าในตอนนี้พวกเขามีความสุขและสุขภาพดีมากน้อยแค่ไหน เราจึงจะพาทุกคนไปสังเกตพฤติกรรมแมวกันว่าพฤติกรรมแบบไหนที่กำลังบอกว่าพวกเขากำลังมีวันดีๆ อยู่

happy cat

รวมพฤติกรรมของแมวที่กำลังบอกว่าพวกเขามีความสุขและสุขภาพดี 

  1. การสำรวจบ้าน หากคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแมวมีพฤติกรรมแมวออกสำรวจบ้านตั้งแต่ยังเช้า คนนู้นคนนี้ว่ามีอะไรใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำความคุ้นเคยก่อนหน้านี้เหลืออยู่อีกหรือไม่ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจภายในบ้านหรือแม้แต่นอกบ้านก็ตาม อาการนี้สามารถบอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขากำลังมีความสุขและสุขภาพดีอย่างไม่ต้องสงสัย 
  2. การรับประทานอาหาร ให้เราสังเกตว่าแมวของเรายังคงสามารถรับประทานอาหารได้ดีเยี่ยมเหมือนเดิมหรือไม่ หากพวกเขารับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมเมื่อเราให้อาหารพวกเขาอยู่เป็นประจำก็แปลว่าไม่มีอะไรน่ากังวลใจ พวกเขายังคงมีสุขภาพที่ดีและเป็นแมวมีความสุขดีนั่นเอง 
happy cat2
  1. การบิดขี้เกียจ เป็นพฤติกรรมที่หลายคนหลงรักเป็นอย่างมากเพราะเวลาแมวบิดขี้เกียจนั้นพวกเขาจะน่ารักน่าชังเป็นพิเศษ แถมมันยังเป็นพฤติกรรมที่พวกเขามักจะทำอยู่ตลอดเวลาเป็นประจำทุกวันอีกด้วย การที่พวกเขายืดเส้นของตนเองนั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพของพวกเขา ช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายและยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย 
  2. การนอนกลางวัน แมวเป็นสัตว์นักล่าที่โดยปกติทั่วไปและตามสัญชาตญาณพวกเขามักจะหากินตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน ดังนั้นในช่วงเวลากลางวันพวกเขาจึงมักจะนอนหลับพักผ่อนก่อนที่จะตื่นมาวุ่นวายในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตก นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสัตว์ที่นอนได้อย่างยาวนานถึง 16 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว เราจึงต้องสังเกตว่าพวกเขายังนอนกลางวันได้ตามปกติหรือไม่ หาพวกเขายังนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายใจ เราก็สามารถสบายใจไปด้วยได้เลยเพราะพวกเขากำลังรู้สึกผ่อนคลายแบบสุดๆ นั่นเอง
happy cat1

การชมวิว พฤติกรรมที่บอกว่าแมวกำลังมีความสุขและสุขภาพดี 

แมวก็เหมือนมนุษย์ที่หากสุขภาพดีและมีความสุขก็จะดำเนินชีวิตไปตามปกติทั่วไป สำหรับมนุษย์อาจเป็นการออกไปเรียนหรือทำงาน แต่สำหรับแมวแล้วพฤติกรรมแมวที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นการชมนกชมไม้ดูวิวข้างนอกที่ไม่เคยออกไปสัมผัสกับของจริงมาก่อน หากพวกเขายังคงชมนกชมไม้ตามปกติก็หมายว่าพวกเขาเป็นแมวมีความสุขดีและสุขภาพยังแข็งแรงมากพอที่จะทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบได้ ในขณะที่ทาสอย่างพวกเรานั้นก็ต้องหาวิธีการที่พวกเขาได้ชมนกชมไม้อย่างสะดวกสบายมากที่สุดต่อไป guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

แมวหายใจแรง สัญญาณที่กำลังอาจบอกว่าสัตว์เลี้ยงของคุณป่วย

สิ่งที่คนเลี้ยงสัตว์จำเป็นจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอนั่นก็คือการสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเราว่าพวกเขายังคงสบายดีอยู่หรือไม่ เพราะบางทีเราก็อาจจะเห็นสัญญาณที่เตือนว่าสัตว์เลี้ยงของเราอาจป่วยจากการที่เราหมั่นสังเกตก็เป็นได้มันช่วยให้เราสามารถพาพวกเขาไปพบแพทย์เพื่อหาต้นตอความผิดปกติและรับการรักษาได้ทันไม่เว้นแม้กระทั่งอาการเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นแมวหายใจแรงที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ สำหรับคนเลี้ยงแมวแล้วคงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่สัตว์เลี้ยงของเราจะหายใจแรง จนบางทีเราก็ไม่ทันได้ระวังว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าแมวของเรากำลังป่วยอยู่ก็เป็นได้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าอาการดังกล่าวของแมวนั้นกำลังจะบอกอะไรกับเราบ้าง 

sick cat1

เปิดสาเหตุและวิธีการสังเกตเมื่อแมวของเราหายใจแรง 

แมวหายใจแรงนั้นเป็นอาการที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า อาการของพวกเขานั้นจะไม่เหมือนกับอาการที่พวกเขาหายใจแรงตามปกติทั่วไป แต่ดูเหมือนแมวป่วยที่ต้องใช้แรงในการหายใจมากขึ้นกว่าเดิมหรือการหายใจนั้นดูมีแรงกระแทกผิดปกติ พฤติกรรมที่มักเกิดขึ้นร่วมด้วยก็คือพวกเขานั้นมักจะนั่งหมอบอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถนอนลงไปได้ทั้งท่านอนหงายหรือนอนตะแคง สาเหตุสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็น

sick cat
  1. ท่อลมบนทางเดินหายใจส่วนบนมีสิ่งแปลกปลอมขัดขวางอยู่ อย่างเช่นการมีปัญหาเนื้องอก การติดเชื้อรา การมีน้ำมูกในปริมาณที่มาก หรือแม้แต่การมีก้อนเนื้อบริเวณโพรงจมูกหรือคอหอย 
  2. ทางเดินหายใจส่วนล่างถูกขัดขวาง อย่างเช่นการที่หลอดลมตีบจากอาการแพ้เนื่องจากแมวนั้นก็สามารถเป็นภูมิแพ้ได้เช่นเดียวกัน อาการที่เรามักจะเห็นร่วมด้วยก็คือหายใจลำบากจนมีเสียงดังออกมา พวกเขาจะต้องใช้แรงในการหายใจผิดปกติ
  3. มีปัญหาในระบบหลอดลมฝอยและปอด อย่างเช่นการมีภาวะน้ำท่วมปอดเนื่องจากหัวใจวาย มีการป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ อาการที่พบได้บ่อยร่วมด้วยก็คือพวกเขาจะแสดงอาการหายใจลำบากผิดปกติไม่ว่าจะเป็นการหายใจเข้าหรือออกก็ตาม หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นบริเวณช่องอกไม่ว่าจะเป็นของเหลว ของแข็ง หรือแก๊ส พวกเขานั้นจะรู้สึกหายใจลำบากมากขึ้นแต่ไม่ส่งเสียงดังแต่อย่างใด 
  4. การมีน้ำในช่องอก อาการที่พบร่วมด้วยก็คือพวกเขามักจะไม่สามารถนอนหงายหรือนอนตะแคงได้เนื่องจากปริมาณของเหลวที่อยู่ในช่องอกหรือช่องท้องมีปริมาณมาก 
  5. ป่วยเป็นโรคหวัดแมว หากแมวของคุณไม่ได้ฉีดวัคซีนแล้วเลี้ยงระบบเปิดก็อาจจะไปติดเชื้อไวรัสไข้หวัดแมวซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่อันตรายจากแมวตัวอื่นนอกบ้านได้ โดยอาการที่พบร่วมด้วยก็คือการที่พวกเขามีน้ำมูกสีเขียวและมีขี้ตามากขึ้นกว่าเดิม หากวินิจฉัยจะพบว่าพวกเขามีระดับออกซิเจนในเลือดน้อย บริเวณเยื่อเมือกจะซีดเผือกหรือม่วงช้ำอย่างเห็นได้ชัด 
  6. การมีแก๊สอยู่ในช่องอก เกิดจากการแตกออกหรือการถูกกัดทำลายของถุงลม
sick cat2

วิธีการวินิจฉัยและรักษาเมื่อแมวของเราหายใจแรง 

หากคุณพบว่าแมวหายใจแรงไม่ควรนิ่งนอนใจและควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าแมวป่วยหรือไม่ โดยวิธีการวินิจฉัยนั้นจะประกอบไปด้วยการเอกซเรย์เพื่อตรวจสอบความผิดปกติในร่างกาย การอัลตร้าซาวด์ การตรวจเลือด การตรวจน้ำหรือเก็บเซลล์ก้อนเนื้อในช่องอกไปตรวจสอบ ส่วนวิธีการรักษานั้นก็จะประกอบไปด้วยการดมออกซิเจน การนำเอาแก๊สหรือน้ำในช่องอกออกด้วยวิธีการเจาะ และการรับประทานยาเป็นต้น guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

แนะนำวิธีเลือก ทรายแมว แบบไหนดี ฉบับทาสแมวตัวยง

ทรายแมว เป็นหนึ่งในไอเทมหลักที่ทาสแมวทุกคนต้องมี โดยเฉพาะบ้านไหนที่ เลี้ยงแมว แบบระบบปิด คงรู้ดีว่า หากเลือกทรายแมวพลาดจะเกิดปัญหาตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นไม่พึงประสงค์ เศษทรายติดเท้าน้องแมวเลอะทั่วบ้าน ฝุ่นคลุ้งฟุ้งกระจาย หากวัสดุไม่ดีพอก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องแมวและทาสอีกด้วย ในบทความนี้ เราจึงนำเคล็ดวิชา เลือกทรายแมว แบบครบจบได้ผลจริงมาฝากกัน

ทรายแมว คืออะไร?

ทรายแมว กับแมวเป็นของคู่กันฉันท์ใด ทรายแมวกับทาสย่อมเป็นของคู่กันฉันท์นั้น ตามธรรมชาติน้องแมวเป็นสัตว์นักล่าที่รักสะอาด ไม่ชอบทิ้งกลิ่นไว้ให้เหยื่อรู้ตัว หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จจึงทำการกลบทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้น แน่นอนว่า ทาสแมวอย่างเราก็มีหน้าที่ต้องจัดเตรียมทรายแมวคุณภาพดีไว้ให้น้องด้วย  

ทำความรู้จักทรายแมวแต่ละประเภท

ก่อนจะเลือกทรายแมวได้นั้น เราต้องมาทำความรู้จักกับ ประเภทของทรายแมว กันก่อน โดยหลัก ๆ แล้ว จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. ทรายแมวเต้าหู้ 2. ทรายแมวภูเขาไฟ 3. ทรายแมวคริสตัล และ 4. ทรายแมวธรรมชาติ  แต่ละแบบจะมีคุณสมบัติโดดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้

ทรายแมวเต้าหู้

ทรายแมว ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่าง ถั่ว ขั้นตอนกรรมวิธีการทำคล้าย เต้าหู้ซึ่งนำกากใยของถั่วมาอัดเป็นก้อนแล้วนำไปอบแห้งทรายแมวชนิดนี้ เป็นที่นิยมของทาสแมวชาวเอเชียมาก ทั้ง จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีและไทย มายาวนานเกือบ 10 ปี เพราะหาซื้อง่าย กลิ่นหอมละมุน

ทรายเต้าหู้คุณสมบัติเด่น คือ ดูดซับกลิ่นดีเยี่ยม เม็ดเรียวยาว ไม่ติดซอกเท้าน้องแมวเหมือนทรายชนิดอื่น ๆ เนื้อทรายเกาะตัวแน่น ไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจาย บางยี่ห้อน้องแมวสามารถกินได้ เมื่อโดนน้ำจะอ่อนนุ่มละลายหายไป จึงสามารถนำไปทิ้งลงชักโครกหรือทำเป็นปุ๋ยต้นไม้ได้ ย่อยสลายเร็วเหมาะกับทาสแมวสายรักษ์โลก มีให้เลือกมากมายหลายกลิ่น เช่น กลิ่นกาแฟ กลิ่นเต้าหู้ กลิ่นชาเขียว กลิ่นพีช

ในส่วนของ ข้อเสียทรายเต้าหู้ ก็มีเช่นกัน คือ ซื้อมาแล้วน้องแมวบางตัวอาจไม่ใช้ เพราะเนื้อสัมผัส กลิ่น และลักษณะโดยรวมของทรายแมวเต้าหู้แตกต่างกับทรายตามธรรมชาติมากเกินไป ทาสที่เพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ทรายเต้าหู้อาจต้องใช้เวลาฝึกนายท่านเพิ่ม

สำหรับใครที่สนใจ ทรายเต้าหู้คุณภาพดี น้องแมวชิมแล้วไม่เป็นอันตราย ย่อยสลายง่าย ดูดซับกลิ่นดีเยี่ยม ไม่ติดซอกเท้าน้อง ราคาไม่แรงมาก ขอแนะนำ แคสตี้ (KASTY) ทรายเต้าหู้จากถั่วลันเตาจากประเทศญี่ปุ่น ปราศจากเชื้อรา ไรฝุ่น และกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ใช้งานง่าย หลังน้องแมวทำธุระเสร็จจะจับตัวเป็นก้อนภายใน 3 วินาที ปริมาณ 6 ลิตร ราคาอยู่ที่ 200-300 บาท

ทรายแมวภูเขาไฟ

ทรายแมวภูเขาไฟ วัตถุดิบหลัก คือ แร่เบนโทไนท์ (BENTONITE) ที่มาจากเถ้าภูเขาไฟ มีคุณสมบัติเด่น คือ สามารถดูดซับของเหลวที่มีน้ำหนักมากกว่าได้ถึง 3 เท่าตัว จับตัวเป็นก้อนเร็ว ลักษณะจะเป็นเม็ดทรายเนื้อละเอียด อ่อนโยนต่อน้องแมว ไม่มีกลิ่น ต้านแบคทีเรีย จึงสามารถใช้งานได้นานกว่าทรายแมวชนิดอื่น ทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อน้องแมว บางสูตรผสมสารคาร์บอนช่วยระงับกลิ่นได้ดี

แต่ถ้าเลือกยี่ห้อไม่ดี อาจเจอ ยี่ห้อทรายแมว ภูเขาไฟที่ผสมสารอื่น ๆ หรือทรายแมวคุณภาพต่ำ และยังมี ข้อเสียทรายแมวภูเขาไฟ คือ ทรายแมวภูเขาไฟย่อยสลายยาก จึงทิ้งลงชักโครกไม่ได้ ไม่เหมาะกับห้องน้ำแมวอัตโนมัติ บางยี่ห้อมีฝุ่นเยอะ อีกทั้งเม็ดทรายยังเล็กติดตามซอกเท้าน้องแมวก่อให้เกิดปัญหาไรฝุ่นตามมา บางยี่ห้อก็ใส่น้ำหอมเยอะเกินจนน้องแมวไม่ยอมใช้

สำหรับใครที่มองหาทรายแมวภูเขาไฟคุณภาพดี ขอแนะนำ ทรายแมวออเดอร์ล็อค (ODOUR LOCK) เก็บกลิ่นดี ไร้น้ำหอม น้องแมวแพ้ง่าย เซนซิทีฟเรื่องกลิ่นก็ใช้ได้สบาย เมื่อโดนของเหลวจับตัวเป็นก้อนอย่างรวดเร็วใน 1 วินาที ซึมซับดีเยี่ยม การันตีใช้งานได้นานสูงสุดถึง 40 วัน ในปริมาณ 6 กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ 350-400 บาท

ทรายแมวคริสตัล

ทรายแมวคริสตัล ทำมาจากซิลิก้า (SILICA) หรือ โซเดียมซิลิเกต (SODIUM SILICATE) ที่สกัดมาจากทราย มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ ตัดเหลี่ยมใสคล้ายคริสตัล จึงเรียกกันว่า ทรายแมวคริสตัล มีคุณสมบัติเด่น คือ ดูดซับของเหลวและกลิ่นได้ดี เม็ดใหญ่ไม่ติดเท้าแมว เวลาน้องแมวขับถ่ายก็ตักแค่อึออก เพราะส่วนที่เป็นน้ำถูกเม็ดทรายดูดซับไปหมดแล้ว แม้ราคาจะสูงกว่าทรายแมวแบบอื่น แต่สามารถล้างทำคามสะอาดและนำไปตากแดดจนแห้งใส เพื่อใช้ซ้ำได้ 

แม้ ทรายสำหรับแมว คริสตัล จะใช้งานได้ยาวนาน ไร้ฝุ่น ทั้งยังนำกลับมาใช้ได้อีกหลายครั้ง แต่ประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อย ๆ และไม่เหมาะกับน้องแมวที่ชอบกินทรายแมว หรือชอบนอนเกลือกกลิ้งในกระบะทรายแมว เนื่องจากเม็ดทรายคริสตัลค่อนข้างคม อาจบาดเท้าแมวได้ และถ้าทาสเผลอเหยียบก็เจ็บไม่แพ้กัน สำหรับน้องแมวที่บาดเจ็บมีแผลสดควรหลีกเลี่ยง เพราะทรายแมวคริสตัลมีคุณสมบัติเกาะติดของเหลวที่เป็นเมือกและดึงออกยากมาก

ใครอ่านแล้วถูกใจอยากได้ทรายแมวคริสตัลมาลองใช้ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากยี่ห้อไหนดี ขอนำเสนอทรายแมวคริสตัล แคทตี้ แคท(CATTY CAT) ประสิทธิภาพดูดซับน้ำและกลิ่นสูง ปราศจากฝุ่นผง พร้อมเม็ดบีทสีน้ำเงินฆ่าเชื้อโรค ปริมาณ 5 ลิตร ในราคาเพียง 150-200 บาท

ทรายแมวธรรมชาติ  

นอกจาก ทรายแมวเต้าหู้ แล้ว ยังมีทรายแมวที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษรีไซเคิล เปลือกไม้สน ซังข้าวโพด ข้าวสาลี เปลือกวอลนัท หญ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย นำมาอัดเป็นก้อน ลักษณะเหมือนทรายแมวเต้าหู้ ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและน้องแมว ซึ่งราคาและคุณสมบัติเด่นจะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ทำ  

ยกตัวอย่างเช่น ทรายแมวจากกระดาษรีไซเคิล ราคาถูก ไม่ติดเท้าแมว แต่ดูดซับน้ำและกลิ่นแย่ ซังข้าวโพด ปลอดภัย ดูดซับกลิ่นและของเหลวดี แต่น้องแมวบางตัวอาจแพ้ ซึ่งทรายแมวธรรมชาติส่วนใหญ่จะมีราคาสูงตามคุณภาพ จึงควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ และเช่นเดียวกับทรายแมวเต้าหู้ น้องแมวบางตัวอาจไม่ยอมใช้ เพราะไม่คุ้นชินกับวัสดุนั้น ๆ

สำหรับใครที่หาแหล่งซื้อ ทรายแมวราคาถูก จากวัตถุดิบธรรมชาติ ราคาย่อมเยา ขอแนะนำ คูรินแคท (KURIN KAT) ทรายแมวซังข้าวโพดธรรมชาติปลอดสารพิษ ยี่ห้อไทย จับตัวเป็นก้อน ย่อยสลายง่าย ทิ้งในชักโครกได้ ฝุ่นน้อยและดูดซับกลิ่นดีเยี่ยม ในราคาเพียง 5 ลิตร 200 บาท 10 ลิตร 300-400 บาทเท่านั้น 

ทรายแมว แบบไหนถูกใจแมวหมียว?

นอกจากการเลือก ทรายแมว แล้ว ยังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ ทาสแมว ควรรู้ คือ ปริมาณของทรายที่ใช้ โดยเราสามารถกะได้จากพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำแมวของนายท่าน ถ้าน้องแมวค่อย ๆ กลบหลังเสร็จกิจอย่างนุ่มนวล การเททรายไว้เยอะ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่หากน้องแมวชอบคุ้ยกลบอย่างดุเดือดกระจุยกระจาย ให้ใส่ทรายในปริมาณพอกลบได้เท่านั้น 

ส่วนเคล็ดลับในการเลือกลิ่นนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน โดยแมวมักจะชอบทรายแมวที่ไม่มีกลิ่นหรือกลิ่นน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี แต่หากถามว่า กลิ่นไหนกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีที่สุด ขอยกให้ 2 กลิ่นยอดนิยม ทรายแมวกลิ่นกาแฟ และ ทรายแมวชาเขียว อย่าลืมเลือกดูยี่ห้อที่ทำจากวัสดุธรรมชาติได้มาตรฐานและวันหมดอายุบนบัณจุภัณฑ์ เพื่อความปลอดภัยของน้องแมว 

บทสรุป

อ่านมาถึงตรงนี้ สาวกน้องเหมียวทุกคนคงมีความรู้เรื่อง ทรายแมว กันพอสมควรแล้ว หวังว่า บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นความสำคัญของการเลือกทรายแมวมากขึ้น และตามหา ทรายแมวถูกและดี โดนใจน้องแมวกันจนเจอ แต่หากใครอ่านจนจบแล้ว ยังไม่ได้คำตอบที่ใช่ ก็ไม่เป็นไร เพียงคุณตั้งใจหาข้อมูล เพื่อเลือกสรรสิ่งต่าง ๆ ให้น้องแมวที่รักอย่างเต็มที่ น้องแมวของคุณต้องมีความสุขอย่างแน่นอน  guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว

แมวข่วนโซฟา ปัญหาที่ทำให้ทาสหลายคนใจสลาย 

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นแน่นอนว่าคนเลี้ยงสัตว์ย่อมทำใจมาในระดับหนึ่งแล้วว่าข้าวของภายในบ้านจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงมันก็ทำให้เรารู้สึกใจสลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นกว่าจะซื้อมาได้ต้องอาศัยน้ำพักน้ำแรงในการทำงานตั้งเท่าไหร่ ยิ่งเป็นโซฟาที่ในปัจจุบันราคาพุ่งสูงขึ้นแตะหลักหมื่นเรายิ่งอยากจะรักษาให้มันอยู่คู่บ้านของเราไปนานๆ แต่ แมวข่วนโซฟา จนพังเสียอย่างนั้น แน่นอนว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของเขาและอาจจะเกิดจากความซุกซนเฉพาะตัว แต่มันก็มีสาเหตุและวิธีการแก้ไขเช่นเดียวกัน จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย 

แมวข่วนโซฟา

รวมวิธีการป้องกันอย่างไรไม่ให้ แมวข่วนโซฟา จนพัง 

  • หาที่ลับเล็บให้พวกเขา วิธีการแก้ปัญหาแมวข่วนโซฟาที่ดีที่สุดก็คือการหาที่ลับเล็บให้กับพวกเขาโดยเฉพาะ อย่างเช่นเสาลับเล็บหรือเตียงลับเล็บเป็นต้น ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงรวมไปถึงบนอินเทอร์เน็ต หรือหากคุณไม่ต้องการเสียเงินก็สามารถใช้ฟองน้ำหรือเชือกป่านพันบริเวณขาโต๊ะหรือขาโซฟาเพื่อป้องกันแมวซนไม่ให้มาทำลายเฟอร์นิเจอร์ของเราก็ได้เช่นเดียวกัน 
แมวข่วนโซฟา
  • ทำโทษและให้รางวัล หากเราจัดเตรียมอุปกรณ์ลับเล็บให้กับพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงปีนมาขนโซฟาของเราอยู่ดี วิธีการที่จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมก็คือการทำโทษอย่างเช่นการใช้ฟ๊อกกี้ฉีดน้ำพ่นใส่พวกเขาเมื่อพวกเขาปีนขึ้นโซฟาเพื่อลับเล็บ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาลับเล็บถูกที่เราก็ให้รางวัลเพื่อให้พวกเขาเกิดการเรียนรู้ว่าพวกเขาควรลับเล็บบริเวณไหนในบ้านบ้าง 
แมวข่วนโซฟา
  • ใช้สมุนไพรช่วย สมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนอย่างเช่นใบมะกรูดหรือต้นตะไคร้นั้นสามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นำเอาผ้าชุบน้ำที่มีกลิ่นสมุนไพรเหล่านี้ไปเช็ดบริเวณเฟอร์นิเจอร์ที่แมวมักจะมาข่วนอยู่เสมอ หรือจะเอาน้ำสเปรย์สมุนไพรพ่นก็ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากแมวไม่ชอบกลิ่นของสมุนไพร พวกเขาจะไม่เข้าใกล้บริเวณที่มีกลิ่นดังกล่าว 
  • ทำให้โซฟาไม่น่าเย้ายวนใจ หากวิธีที่ว่ามาไม่ได้ผลสิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือการทำให้โซฟาไม่ใช่สิ่งที่น่าเย้ายวนใจในการขึ้นไปลับเล็บสำหรับพวกเขาอีกต่อไป อย่างเช่นการนำเอาเปลือกส้มไปวางบริเวณที่พวกเขาชอบข่วน เนื่องจากพวกเขาไม่ชอบกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยว หรือการนำเอาสำลีชุบกลิ่นที่พวกเขาไม่ชอบอย่างเช่นเมนทอลหรือน้ำหอมไปวางบริเวณโซฟาเป็นต้น 

รวมสาเหตุที่ทำให้แมวมักข่วนโซฟาอยู่เสมอ 

แมวข่วนโซฟา

การที่แมวข่วนโซฟาไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นแมวซนหรือต้องการจะทำลายข้าวของแต่อย่างใด มันเป็นพฤติกรรมธรรมชาติที่พวกเขาเพียงแค่ต้องการจะทำเครื่องหมายว่าบริเวณตรงนี้เป็นอาณาเขตของพวกเขาเพื่อไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง มันเป็นธรรมชาติของสัตว์นักล่าที่จำเป็นจะต้องทำให้เล็บของตนเองคมอยู่เสมอ พวกเขาจึงคิดว่าเราซื้อโซฟามาให้พวกเขาลับเล็บนั่นเอง และสุดท้ายก็คือมันเป็นการออกกำลังกายและการเล่นที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อของพวกเขาได้เป็นอย่างดี บางทีมันก็สนุกจนพวกเขาไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้อยู่ 

บทความเพิ่มเติม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

โรค FIP แมว โรคติดต่อแมว อันตรายถึงชีวิต ที่เหล่าทาสควรให้ความสำคัญมาก ๆ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันนี้นอกจากจะพบว่าผู้คนเจ็บป่วยด้วยโรคที่หลากหลายขึ้นแล้ว น้องแมวเองก็มีโรค หรืออาการเจ็บป่วยหลาย ๆ แบบเพิ่มขึ้นด้วย โดยโรคที่เกิดขึ้นกับแมวก็มีทั้งโรคที่ไม่รุนแรง แต่ก็มีบางโรคที่รุนแรงมากถึงขนาดสามารถคร่าชีวิตน้องแมวไปจากทาสอย่างเราได้เลย โดยเฉพาะ โรค FIP แมว ที่ตอนนี้ถือว่าอันตรายมาก ๆ และเหล่าทาสจำเป็นที่จะต้องรู้จักเอาไว้เลย เพื่อที่จะทำให้สามารถเฝ้าสังเกตอาการของน้องแมวได้ว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ 

FELINE CORONAVIRUS

โรค FIP แมว โรคติดต่อในแมวที่อันตราย และทาสมองข้ามไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด

โรค FIP แมว หรือ FELINE INFECTIOUS PERITONITIS เป็นโรคติดต่อในแมวที่จะเกิดการติดเชื้อมาจากที่ระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อมีการติดเชื้อจึงทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดอักเสบขึ้นมา หากว่าการติดเชื้อเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อที่อวัยวะใดก็ตาม เชื้อจะต้องส่งผลเสีย และทำลายระบบนั้น ๆ ซึ่งโรคนี้จะพบได้บ่อยว่ามักจะมีการติดเชื้อที่บริเวณช่องอก, ตา หรือว่าระบบประสาท อย่างไรก็ตามโรคนี้มีสาเหตุหลักมากจากการที่น้องแมวติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในแมว หรือ FCOV นั่นเอง

สำหรับการที่แมวติดเชื้อ FELINE CORONAVIRUS แล้ว ก็นับว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตของน้องแมวมาก ๆ โดยเฉพาะในลูกแมวที่มีแนวโน้มว่าจะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มากเป็นพิเศษ ยิ่งลูกแมวต้องอาศัยรวมกันกับแมวตัวอื่น ๆ ด้วยแล้ว โอกาสที่จะติดเชื้อก็จะมีสูงมากขึ้นไปอีก

อาการของแมวที่ป่วยเป็น โรค FIP แมว 

ในส่วนของอาการแมวที่เป็น โรค FIP แมว นั้น ช่วงเริ่มแรกอาการจะมีความคล้ายคลึงกับการเป็นโรคอื่น ๆ ของแมว โดยแมวบางตัวอาจจะมีอาการขึ้นมาแบบกะทันหัน สำหรับอาการที่เกิดขึ้นก็เป็นผลที่มาจากเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาการของแมวที่เป็นโรคนี้ก็สามารถแบ่งได้ 2 แบบ ก็คือ แบบเปียก (EFFUSIVE FORM) และแบบแห้ง (NON- EFFUSIVE FORM) ทั้งนี้อาการทั้งสองแบบนี้จะไม่มีการแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนนัก แต่มักจะมารู้ในช่วงที่แมวแสดงอาการที่รุนแรงออกมาแล้ว

สำหรับแมวที่มีอาการแบบเปียก จะสามารถสังเกต และรู้ได้จากการที่ในช่องท้องของน้องแมวจะมีของเหลวสะสมอยู่ โดยเป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งจะสังเกตได้เลยว่าน้องจะมีช่องท้องที่ขยายใหญ่ขึ้น และนอกจากนั้นก็จะมีอาการหายใจลำบาก, หายใจเร็ว และมีความผิดปกติของการเต้นที่หัวใจของน้องแมวด้วย อย่างไรก็ตาม อาจจะพบว่าน้องแมวบางตัวจะมีของเหลวที่ช่องอกด้วย 

FIP

ส่วนแมวที่มีอาการแบบแห้ง จะสามารถสังเกต และรู้ว่าน้องแมวติดเชื้อได้ยากกว่าแบบเปียก เนื่องจากว่าในช่องท้องของน้องแมวไม่ได้มีของเหลวสะสมอยู่ แต่อาจจะพบว่ามีก้อนผิดปกติเกิดขึ้นมาในช่องท้องแทน โดยเป็นก้อนที่เกิดขึ้นมาจากภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นร่วมกันกับสารประกอบบนผนังหลอดเลือด และยังประกอบเข้ากับเซลล์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย จึงทำให้เกิดเป็นกระบวนการอักเสบในท้องแมวขึ้นมานั่นเอง นอกจากนั้นก็จะมีอาการอื่น ๆ ที่ไม่จำเพาะเกิดขึ้นด้วย เช่น ซึม, เบื่ออาหาร, ม่านตาอักเสบ ฯลฯ

แม้ว่าอาการของโรคนี้จะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าน้องแมวจะมีอาการเพียงแบบเดียวเท่านั้น เพราะในแมวบางตัวก็สามารถแสดงอาการได้จากทั้งสองรูปแบบพร้อมกันเลย นอกจากอาหารทั้ง 2 แบบนี้แล้ว น้องแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็มักจะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้, น้ำหนักลด, เบื่ออาหาร, ตัวร้อน, เหงือกมีลักษณะสีขาวซีดหรือมีสีเหลือง และอาจจะมีอาการอีกหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งนี้หากสงสัยในอาการที่น้องแมวเป็นแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นโรคนี้หรือเปล่า ก็ควรรีบพาน้องไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน

ทาสแมวควรรู้ไว้ FIP แมว ติดต่อทางไหน บ้าง และจะรู้ได้อย่างไรว่าแมวติดเชื้อแล้ว

การติดเชื้อของ โรค FIP แมว จะเกิดขึ้นจากแมวสู่แมว แต่จะไม่ติดเชื้อมายังคน โดยส่วนใหญ่แล้วแมวที่มักจะติดเชื้อ ก็คือ แมวเด็ก หรือแมวที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี รวมถึงแมวที่มีปัญหาด้านระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังพบการติดเชื้อมากในน้องแมวที่เป็นเพศผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการทำหมัน และแมวที่เป็นพันธุ์แท้ ปกติแล้วเชื้อไวรัสของโรคนี้จะมีการฟักตัวแตกต่างกันออกไปในแมวแต่ละตัว ซึ่งมักจะมีการฟักตัวตั้งแต่ระยะเวลาเป็นสัปดาห์ไปจนถึงระยะเวลาเป็นปีได้เลย หลังจากที่น้องแมวได้รับเชื้อมาแล้วในครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม อันที่จริงแล้วเรื่องการติดต่อของเชื้อไวรัสในโรคนี้ ยังไม่ได้ทราบอย่างแน่ชัดว่ามีการติดต่อกันอย่างไร แต่เชื่อว่าการติดต่อเกิดการขึ้นมาจากการกลายพันธุ์ของเชื้อโคโรนาไวรัสจากลักษณะปกติที่มีความรุนแรงมากขึ้นในตัวแมว ซึ่งแมวแต่ละตัวก็ตอบสนองต่อเชื้อไวรัสไม่เท่ากัน ทั้งนี้หากว่าเชื้อไม่ได้มีการกลายพันธุ์ก็อาจจะทำให้น้องแมวไม่ได้เป็นโรคนี้ก็ได้ แต่อย่างไรแล้วการหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องแมวเสี่ยงติดเชื้อก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทั้งนี้หากจะรู้ได้ว่าแมวเป็นโรคนี้หรือไม่ ก็ต้องสังเกต และพาไปพบแพทย์

FCOV

วิธี รักษา FIP แมว จะต้องทำอย่างไร แล้วค่ารักษาแพงมากไหม

ปัจจุบันนี้การรักษา โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมว ยังเป็นการรักษาแบบตามอาการ เพื่อช่วยพยุงอาการของน้องแมวเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการคิดค้น และพัฒนายาต้านไวรัสมาใช้ในแมวที่ป่วยเป็นโรคนี้กันอยู่ ซึ่งยาบางตัวก็รักษาได้ผล แต่ยาบางตัวก็ให้ผลการรักษาที่น่าพึงพอใจเลย แต่ทั้งนี้ก็แลกมากับราคายา และ ค่ารักษา FIP แมว ที่ค่อนข้างสูงเลย โดยมีแนวทางการรักษาโรค FIP ในแมว ก็มีดังนี้

  1. การให้ยากลุ่ม ANTIVIRAL DRUGS โดยยากลุ่มนี้จะมีกลไกการทำงาน 2 ประเภท คือ การออกฤทธิ์ต่อ CELLULAR MACHINERY ที่จะทำหน้าที่ในการขัดขวางการจำลองตัวของไวรัส และจะเป็นการออกฤทธิ์ต่อกลไกอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการจำลองตัว และการแพร่ของไวรัสด้วย ซึ่งนอกจากนั้นแล้วยากลุ่มนี้ยังช่วยลดการอักเสบให้กับแมวได้อีกด้วย
  2. การให้ยากลุ่ม ANTI-INFLAMMATORY และ IMMUNOSUPPRESIVE DRUGS เช่น ยา CYCLOPHOSPHAMIDE เป็นตัวยาที่นำมาใช้รักษาเพราะหวังว่าจะช่วยลดการอักเสบ และช่วยตอบสนองจากภูมิคุ้มกัน รวมถึงช่วยลดอาการทางคลินิก
  3. การให้ยากลุ่ม IMMUNE MODULATOR เป็นยากลุ่มที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นยากลุ่มที่มีการใช้อย่างแพร่หลายเลย เพราะสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นในแมวได้ดี ซึ่งจะให้ผลได้ดีมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับยาที่อยู่ในกลุ่ม CORTICOSTEROIDS 
  4. NON-SPECIFIC IMMUNOSTIMULANT DRUGS เป็นยากลุ่มที่ใช้กระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ ซึ่งยาตัวนี้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายมาร่วมทศวรรษแล้ว ยากลุ่มนี้สามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคนี้แบบแห้งได้ รวมถึงช่วยยืดระยะเวลาในการดำรงชีวิตของแมวได้ด้วย 
  5. การรักษาแบบพยุงอาการอื่น ๆ โดยการรักษาด้วยการพยุงอาการนี้ จะมีการรักษาในหลายรูปแบบ เช่น การเจาะดูดของเหลวออกมาจากช่องท้องที่อักเสบหากว่าแมวมีอาการแบบเปียก หรือการให้ยาปฏิชีวนะถ้าเกิดว่าน้องแมวมีอาการการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน รวมถึงยังมีการให้สารอาหาร หรือวิตามินบำรุงอื่น ๆ ที่เหมาะสมร่วมด้วย

FIP แมว ป้องกัน ได้อย่างไรบ้าง สิ่งที่ต้องรู้ไว้ เพื่อให้แมวห่างไกลจากโรคนี้

มาถึงในส่วนของการป้องกันน้องแมวให้ห่างไกลจาก โรค FIP แมว กันบ้าง เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการติดต่อกันของเชื้อนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร การป้องกันที่ดีที่สุดให้น้องแมวห่างไกลจากโรคนี้ได้ ก็คือ การรักษาความสะอาดภายในบ้าน หรือบริเวณที่น้องแมวอาศัยอยู่ รวมถึงจะต้องหมั่นทำความสะอาดกระบะทรายของแมวให้สะอาดอยู่เสมอด้วย อีกทั้งควรที่จะทำการวางชามอาหารของน้องแมวที่ป่วยแยกกับแมวที่ไม่ป่วยด้วย ที่สำคัญควรเลี้ยงแมวให้ไม่มีความเครียด และมีสุขภาพที่ดี

นอกจากที่จะต้องให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดแล้ว น้องแมวควรจะได้รับวัคซีนด้วย โดยเฉพาะลูกแมว หรือแมวที่มีอายุไม่เกิน 2 ปี สำหรับวัคซีนที่ควรจะได้รับ ก็มี วัคซีนโรคหวัดแมว, วัคซีนไวรัสโรคไข้หัดในแมว และ วัคซีนไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ซึ่งสำหรับ วัคซีน FIP แมว ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในวัคซีนหลักที่ลูกแมวควรฉีด หากว่าต้องการให้น้องแมวฉีดวัคซีนนี้ด้วย ก็จำเป็นต้องปรึกษา และตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ก็จะดีกว่า

แมวท้องใหญ่เกิดจากอะไร คือสัญญาณเตือนว่าเป็น โคโรน่าไวรัสในแมว หรือเปล่า

อาการท้องบวม หรือท้องใหญ่ในแมว จริง ๆ แล้วเป็นสัญญาณเตือนได้ในหลาย ๆ โรค รวมถึง โรค FIP แมว ด้วย โดยอาการที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน หรือแบบที่ค่อย ๆ แสดงอาการออกมาเรื่อย ๆ ทีละน้อย แต่ไม่ว่าจะมีอาการที่แสดงออกมามาก หรือน้อยแค่ไหนก็ตาม การที่แมวเข้าสู่ภาวะท้องป่อง ก็จะเป็นที่จะต้องรีบพาไปเข้ารับการรักษากับสัตวแพทย์ทันที เนื่องจากถือว่าเป็นอาการที่รุนแรง ซึ่งแมวควรได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างเร็วที่สุด guscats.com

อย่างไรก็ตาม หากสงสัยว่าน้องแมวของคุณเป็นโรค FIP หรือไม่ ก็ให้สังเกตจากอาการที่เป็น ถ้ามีอาการต่าง ๆ ตามที่กล่าวไว้ในข้างต้นก่อนหน้านี้ ก็ให้สงสัยไว้เลยว่าแมวของคุณอาจจะเป็นโรคนี้ก็ได้ ซึ่งไม่ควรรีรอว่าอาการจะดีขึ้น ควรรีบพาน้องแมวไปเข้ารับการตรวจรักษาทันทีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที และไม่ทำให้น้องแมวด่วนจากเราไปโดยที่ไม่รู้ตัว

บทความเพิ่มเติ่ม

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

บาร์ฟ อาหารจากธรรมชาติที่คุณควรให้แมวได้รองรับประทาน

สิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้ก่อนที่มนุษย์จะมีวิทยาการเหมือนกับในปัจจุบันต่างก็ใช้ชีวิตตามธรรมชาติของตนเอง ดังนั้นหากย้อนกลับไปในยุคโบราณสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักอย่างแมวของเรานั้นก็เป็นสัตว์ป่าที่อาศัยการล่าสัตว์และกินเนื้อดิบเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้คนเลี้ยงแมวหลายคนจึงนิยมให้แมวกินบาร์ฟหรือ BIOLOGICAL APPROPRIATE RAW FOOD มันเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติโดยที่ไม่ผ่านการปรุงหรือความร้อน เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของแมวเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามหากเราซื้อแบบสำเร็จรูปราคานั้นค่อนข้างสูง เราจึงจะพาทุกคนมาดูสูตรการทำอาหารให้กับพวกเขากันว่าส่วนผสมและขั้นตอนการทำจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง 

เปิดสูตรอาหารสดจากธรรมชาติสำหรับแมวของคุณ 

  1. สูตรเนื้อไก่ บาร์ฟสูตรนี้ต้องใช้เนื้อไก่จะเลือกเป็นเนื้ออกหรือเนื้อน่องก็ได้เช่นเดียวกันจำนวน 2 กิโลกรัม ตับไก่จำนวน 200 กรัม หัวใจไก่จำนวน 400 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง และอาหารเสริมตามความต้องการอย่างเช่นผงแคลเซียมหรือน้ำมันปลาเป็นต้น ให้เรานำเอาเนื้อไก่ ตับไก่ และหัวใจไก่มาบดให้ละเอียด หลังจากนั้นตอกไข่ลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำเอาอาหารเสริมลงไปคลุกเคล้าก็จะได้เป็นอาหารแมวที่สามารถกินได้ยาวนานประมาณ 15 วันเลยทีเดียว หรือหากต้องการทำทีละน้อยจะลดปริมาณวัตถุดิบก็ได้เช่นเดียวกัน 
  2. สูตรเนื้อไก่และปลาแซลมอน สำหรับแมวของใครที่ชื่นชอบปลาแซลมอนเราขอแนะนำสูตรนี้เลย สิ่งที่ต้องใช้จะประกอบไปด้วยเนื้ออกไก่จำนวน 500 กรัม ปลาแซลมอน 300 กรัม หรือสำหรับใครที่ไม่อยากจะใช้ปลาแซลมอนจะเปลี่ยนไปเป็นกุ้ง ปลาทู หรือปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ก็ได้เช่นเดียวกัน หัวใจไก่ 200 กรัม ตับไก่ 100 กรัม ไข่ไก่ 2 ใบ และอาหารเสริมแมวแล้วแต่ความต้องการ วิธีการคือนำเอาเนื้ออกไก่ ปลา ตับไก่ หัวใจไก่มาบดให้ละเอียดผสมให้เข้ากัน จากนั้นตอกไข่แล้วนำเอาไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผสมอาหารเสริมเป็นอันเรียบร้อย สูตรนี้สามารถรับประทานได้ประมาณ 15 วัน 

สูตรเนื้อไก่และเนื้อวัว สูตรนี้จะใช้เนื้อวัวจำนวน 1 กิโลกรัม โครงไก่ 400 กรัม หัวใจไก่ 400 กรัม ตับไก่ 400 กรัม และทูน่ากระป๋องในน้ำแร่หรือแบบจืด 400 กรัม ไข่ไก่อีก 3 ฟอง หากมีอาหารเสริมก็สามารถใส่เข้าไปได้ตามความต้องการ เราขอแนะนำให้เลือกซื้อโครงไก่บดละเอียดมาแล้วจะช่วยเบาแรงได้มากแต่ต้องเป็นแบบที่ยังไม่ผ่านการปรุงหรือทำให้สุกมาก่อน หลังจากนั้นนำเอาเนื้อวัว ตับไก่ หัวใจไก่ และทูน่ากระป๋องมาบดให้ละเอียด นำเอาไปผสมกับโครงไก่และไข่ไก่ ใส่อาหารเสริมก็เป็นอันเรียบร้อย สูตรนี้สามารถรับประทานได้ประมาณ 15 วัน 

อาหารสด สิ่งที่จะทำให้แมวของคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง 

บาร์ฟเป็นอาหารแมวแบบสดที่ฟังดูค่อนข้างน่ากลัวหากเราจะให้แมวของเรากินอาหารแบบที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกมาก่อน หลายคนอาจกังวลว่ามันจะไม่ดีต่อสุขภาพพวกเขาหรือไม่ ความจริงแล้วมันเป็นอาหารที่ช่วยพวกเขามีร่างกายที่แข็งแรง ช่วยให้ไม่มีกลิ่นปาก สุขภาพในช่องปากดี มีขนที่เงางาม เพียงแต่เราต้องเลือกวัตถุดิบที่มั่นใจได้ว่าสะอาดอย่างแน่นอน 

guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

ไม่อยากซื้ออาหารแมวเอาอาหารหมาให้แมวกินได้หรือไม่ไปดูกัน

บางครั้งในบ้านของเราก็อาจจะมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 1 สายพันธุ์ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะบรรดาสัตว์เลี้ยงนั้นสามารถสร้างความสุขให้กับเราได้เป็นอย่างดี การมีสัตว์เลี้ยงอยู่รายล้อมตัวจึงเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่การมีสัตว์เลี้ยงหลายสายพันธุ์ก็ตามมาพร้อมกับอาหารหลากหลายชนิดเช่นเดียวกัน อย่างเช่นคนที่เลี้ยงสุนัขและแมวก็ต้องซื้ออาหารทั้งของสุนัขและแมว ด้วยความที่ภายนอกอาหารเม็ดต่างก็ดูเหมือนกันหมด เราจึงเกิดความสงสัยว่าเราสามารถนำเอาอาหารหมามาแทนอาหารแมวได้หรือไม่ เราจะพบคนไปหาคำตอบกัน 

ตอบคำถามเอาอาหารหมาให้แมวกินได้หรือไม่ 

สำหรับคนที่อยากจะเอาอาหารหมามาแทนอาหารแมวแล้วสงสัยว่าสามารถทำได้หรือไม่เราสามารถตอบได้ว่าความจริงแล้วพวกเขานั้นสามารถกินอาหารหมาได้แบบปลอดภัย แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็กินได้ในปริมาณเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ดังนั้นหากคุณเลี้ยงแมวและหมาด้วยกันแล้วบางครั้งแมวมาออดอ้อนอยากจะชิมอาหารหมาดูสักครั้ง คุณสามารถให้พวกเขาลองชิมได้ แต่หากคุณต้องการที่จะเอาอาหารหมาให้พวกเขากินเป็นหลักเราขอแนะนำว่าไม่ควรทำโดยเด็ดขาด

เนื่องจากในอาหารของสุนัขนั้นมีไขมันและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ต่ำกว่าความต้องการในแมว นอกจากนี้ยังไม่มีสารอาหารบางชนิดที่จำเป็นต่อพวกเขาอีกด้วย เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าแมวนั้นเป็นสัตว์กินเนื้อในขณะที่สุนัขนั้นเป็นสัตว์ที่กินทั้งเนื้อทั้งพืช อาหารของแมวตามธรรมชาติจึงเป็นเนื้อสัตว์เสียส่วนใหญ่ อาหารที่ทำมาสำหรับแมวนั้นจึงเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่สูงกว่าในอาหารหมา นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่ร่างกายของแมวต้องการ มีกรดอะมิโนอย่างทอรีนที่ได้มาจากเนื้อสัตว์รวมไปถึงกรดไขมันบางชนิดที่ไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ในอาหารหมา

เนื่องจากในร่างกายของสุนัขนั้นสามารถผลิตกรดอะมิโนพวกนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเองแต่แมวไม่สามารถทำเช่นนั้นได้แต่อย่างใด และหากแมวกินอาหารหมาเป็นประจำก็จะทำให้พวกเขามีปัญหาสุขภาพร่างกายตามมาไม่ว่าจะเป็นสูญเสียการมองเห็น จอประสาทตาเสื่อม มีปัญหาในด้านหัวใจ หากเป็นลูกแมวก็จะเติบโตช้า และยังมีปัญหาในการย่อยอาหารอีกด้วย

รู้หรือไม่ แมวบางตัวไม่สามารถกินอาหารหมาได้

ถึงแม้ว่าเราจะบอกว่าแมวบางตัวนั้นสามารถกินอาหารหมาได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแมวทุกตัวจะสามารถกินอาหารหมาได้แต่อย่างใด เพราะอาหารแมวคืออาหารที่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับร่างกายของพวกเขาแล้ว แมวบางตัวที่มีอาการแพ้อาหารหรือมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้วคนเลี้ยงแมวไม่ควรนำเอาอาหารหมาให้พวกเขากินเพราะอาจจะเป็นพวกเขาแพ้ส่วนประกอบที่อยู่ในอาหารหมาก็เป็นได้ guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : ufaball.bet

Categories
สาระน่ารู้เกี่ยวกับแมว สุขภาพ

รู้หรือไม่ อาหารคนแมวกินได้แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

สำหรับใครที่อ่านหัวข้อแล้วรู้สึกกำหมัดเราขอแนะนำให้ใจเย็นลงก่อนเพราะเชื่อว่าหลายคนมีความเชื่อว่าแมวไม่สามารถกินอาหารคนได้แถมมันยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารคนแมวกินได้เช่นเดียวกันแต่ต้องเป็นอาหารบางประเภทจึงจะดีต่อสุขภาพของพวกเขา มีอาหารคนอะไรบ้างที่แมวสามารถกินได้และดีต่อสุขภาพไปดูกันเลย 

เปิดรายชื่ออาหารคนที่แมวกินได้ ไม่ทำลายสุขภาพ

  1. เนื้อไก่ ไก่นั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอย่างมากโดยเฉพาะแมว ดังนั้นมันจึงกลายเป็นอาหารคนแมวกินได้ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพแมวอีกด้วย เนื่องจากบางส่วนของเนื้อไก่นั้นมีปริมาณโปรตีนสูงและไขมันต่ำ แต่กรรมวิธีการปรุงนั้นควรใช้วิธีการต้มหรือนึ่งและไม่ใส่เครื่องปรุงจึงจะดีต่อสุขภาพของพวกเขาที่สุด 
  2. เนื้อปลา เชื่อว่าหลายคนมีภาพจำว่าแมวกินปลา นั่นก็เป็นเพราะว่าในปลานั้นอุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพของพวกเขาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชอบในรสชาติปลาอีกด้วย แต่ก่อนที่จะให้พวกเขากินเราควรปรุงสุกด้วยการนึ่งหรือต้มโดยไม่ใส่เครื่องปรุงลงไป
  3. ไข่ไก่ เป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอดสำหรับบรรดาแมวเหมียวทั้งหลายแถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกด้วย แต่ต้องไม่รับประทานดิบโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะมีแบคทีเรียและเชื้อโรคบางชนิดที่ทำให้พวกเขาท้องเสียหรือมีอาการป่วยตามมา ให้เรานำเอาไข่ไปต้มก่อนแล้วค่อยนำเอามาให้พวกเขากินจึงจะปลอดภัย 
  4. กล้วย เป็นผลไม้อุดมไปด้วยประโยชน์มากมายแถมยังมีรสชาติที่หวานถูกใจบรรดาแมวเหมียวอีกต่างหาก เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยโพแทสเซียมและกากใยมากมาย เราจึงสามารถนำเอาผลไม้ชนิดนี้มาให้เป็นของว่างพวกเขาได้ แต่ก็ต้องจำกัดปริมาณเพราะหากให้มากจนเกินไปพวกเขาก็จะได้รับน้ำตาลในปริมาณที่เกินจำเป็นเช่นเดียวกัน 
  5. ฟักทอง เป็นผักที่เต็มไปด้วยกากใยอาหารแถมยังมีแคลอรี่ต่ำจึงส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายของน้องแมวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกต่างหาก มันจึงเป็นของว่างที่เหมาะไม่น้อยสำหรับแมวเหมียวที่กำลังประสบปัญหาขับถ่ายไม่ออก แต่เราต้องนำไปนึ่งหรือต้มจนสุกก่อนและไม่ผ่านการปรุงรสจึงจะปลอดภัย 

ให้แมวกินอาหารคนได้เท่าไหร่จึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพ 

อาหารคนแมวกินได้ก็จริงแต่ก็เป็นเพียงแค่อาหารบางอย่างเท่านั้นจึงจะดีต่อสุขภาพแมว นอกจากนี้เรายังต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสมอีกด้วย อาหารเหล่านี้เป็นเพียงแค่ของว่างหรือของกินเล่นที่ไม่ควรเกินปริมาณ 15% ของจำนวนพลังงานทั้งหมดที่แมวต้องได้รับต่อวัน ยิ่งเป็นผักผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงยิ่งต้องกำหนดปริมาณให้ดี ไม่เช่นนั้นก็อาจจะทำให้พวกเขามีน้ำหนักเกินตามมาได้ guscats.com

บทความเพิ่มเติม

Sponsor : hilo-88.net