ผู้เขียน: guscats

วันนี้เราจะมารวมความรู้เคล็ดลับ การเข้าใจ พฤติกรรมน้องแมว มาฝาก ใครที่เป็นทาสแมวอยู่แล้วรับรองได้เลยว่าจะเข้าใจเขาได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยแต่ละสายพันธุ์มีนิสัยและลักษณะที่แตกต่างกัน รับรองได้เลยว่าใครที่กำลังมองหาน้องแมวมาเลี้ยง ในบทความนี้จะบอกนิสัย และความเลี้ยงง่าย เพื่อที่จะได้เลือกน้องแมวที่ถูกใจ พร้อมอธิบายการดูแล การเล่นกับน้องแมวให้ถูกต้อง ตามไปดูกันได้เลย

วิธีเล่นกับแมวยังไง ไม่ให้แมวกัด

วิธีเล่นกับแมวยังช่วยพัฒนาการให้แมวมีความฉลาด และสุขภาพดี แถมยังทำให้แมวไม่รู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวเกินไป ยังทำให้ฝึกการรับรู้ประสาทสัมผัสอีกด้วย สามารถเล่นกับของเล่นแมว หรือประดิษฐ์เองก็ได้ เพื่อปฏิสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้นของคุณกับน้องแมว ไม่ควรเล่นแรงหรือเล่นหาง อาจจะโดนกัดได้ ไม่ควรเล่นกับแมวที่ไม่สนิท เพราะเราอาจจะไม่รู้นิสัยและความพอใจของเขา 

เปรียบเทียบอายุแมวกับคนจากอะไร มีคำตอบ 

แมวเป็นสัตว์ที่มีพัฒนาการรวดเร็วมาก เฉพาะสองปีแรกก็ถือว่าโตเต็มวัยได้แล้ว โดยการวัดอายุก็คือในช่วงปีแรก 1 ขวบ เท่ากับ 15 ปีของมนุษย์ และปีต่อไปก็ลดลง หนึ่งปีของมนุษย์ เท่ากับ 4 ปีของอายุแมว อายุไขของแมวอยู่ที่ 10-15 ปี ถ้าอยากให้น้องแมวอยู่ยาวๆ ควรที่จะดูแลอย่างดี และฉีดวัคซีนให้ครบตามที่กำหนด 

ไขข้อสงสัย พฤติกรรมน้องแมว ภาษากายที่มนุษย์ก็เข้าใจได้ 

หลายคนเลี้ยงน้องแมวเป็นลูกรัก เหมือนคนในครอบครัว มีอะไรให้ได้หมด เรียกได้ว่าเป็นทาสแมวเลยทีเดียว หลายพฤติกรรมน้องแมวที่จะแสดงถึงความรู้สึก และแสดงถึงความต้องการในช่วงเวลานั้น 

พฤติกรรมนี้เรียกร้องความสนใจ

พฤติกรรมที่น้องแมวอยากจะให้คุณสนใจ น้องแมวร้องเรียก ด้วยเสียงโทนต่ำ และเรียกซ้ำ เดินเข้าใกล้คุณ นอนแผ่ หงายพุง เข้ามานัวเนียพันแข้งพันขา หากเจ้าเหมียวพยายามเลียตัวให้คุณ พฤติกรรมของน้องแมวนี้ เกิดจากความรัก ความต้องการที่จะดูแลคุณเท่านั้นและบ่งบอกว่ากำลังเรียกร้องความสนใจคนอยู่ หรือกำลังขอให้คุณเติมอาหารให้นั่นเอง

ภาษากายของแมวที่มีท่าทีโกรธ 

ภาษากายของแมวที่ดูง่ายมาก แมวมีสัญญาณที่โกรธ จะมีลำตัวที่แข็งนิ่ง หางชี้ตรง หรืออาจจะมีอาการขู่ แม้แต่การพองตัวให้ดู หูแนบไปด้านหลัง แสดงถึงความโกรธให้ได้รับรู้อย่างเห็นได้ชัด ตาของแมวจะดูแข็ง จ้องไม่กระพริบ ม่านตาบางตัวอาจทำตาโตขึ้น พร้อมกับจ้องมองไม่กระพริบตา ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปจองหน้า หรือการตะโกนใส่ เพราะอาจทำให้แมวโต้ตอบอย่างรุนแรงได้

พฤติกรรมแมวที่มีท่าทีผ่อนคลายมีความสุข 

พฤติกรรมน้องแมวที่รู้สึกผ่อนคลาย จะเห็นได้ชัดส่วนของตา หู ลำตัว ดูผ่อนคลาย บางตัวอาจจะทำตาปรือ และเลียขนร่างกายทุกส่วน กรณีที่แมวนั่ง หรือนั่งตัวตรง มีใบหูตั้งขึ้น และชี้มาด้านหน้าในลักษณะไม่เกร็ง ขยับใบหูไปมาช้าๆ อยู่ในช่วงที่เขามีความสุข ดูผ่อนคลายเหยียดตัว สัญชาตญาณที่น้องแมวที่รู้สึกดี ไม่มีความโกรธ จะมีพฤติกรรมเช่นนี้ ที่สามารถเข้าไปใกล้ได้ เข้าไปเล่น ไปหยอกได้ แบบไม่ต้องเกรงกลัว 

พฤติกรรมแมวมีปัญหาสุขภาพ

แมวที่ป่วย จะมีลักษณะซึม ไม่ร่าเริง ไม่เล่น ขับถ่ายไม่เป็นที่ และบางตัวอาจจะออกไปจากบ้าน เพื่อที่จะหาหญ้ามาเคี้ยว เพราะสัญชาตญาณแมว หญ้ามีไฟเบอร์เป็นยาระบายได้ดี แต่ปัจจุบันไม่นิยมให้แมวกินหญ้าเรื่อยเปื่อย เพราะอาจจะทำให้เกิดโรค หรือมีเชื้อโรคแทรกเข้ามาในลำไส้ได้ อาจจะมีโอกาสย่าตำคอ หรือทิ่มตาได้  

พฤติกรรมแมวที่วิตกกังวล 

พฤติกรรมน้องแมวที่มีความวิตกกังวล มีหลายระดับ ดวงตาของแมวเบิกกว้าง ม่านตาขยาย หูจะเปลี่ยนไปชิดด้านหน้า เพื่อสแกนหาข้อมูลในความกังวลของน้องแมว หัวกดต่ำลงนิดนึงเมื่อเขากังวล จะเริ่มย่อตัวลงอยู่ในท่าหมอบ เพื่อที่จะเตรียมตัววิ่ง ถ้าเห็นแล้วมีพฤติกรรมแบบนี้ สามารถเข้าไปปลอบได้ เพื่อคลายกังวล หรือเข้าไปป้อนขนม เพื่อทำให้น้องรู้สึกมีความสุขขึ้น

พฤติกรรมแมวที่มีอาการกลัว 

แมวกำลังกลัว จะกลับมาเป็นปกติได้ก็ต่อเมื่อเขารู้สึกปลอดภัยเท่านั้น ไม่ควรรีบปลอบเร็วเกินไป เขาอาจมองคุณเป็นภัย ขู่ฟ่อ ไปจนถึงขู่คำราม ตบด้วยอุ้งเท้าที่กางเล็บออกได้ควรปล่อยให้น้องแมวสงบสติอารมณ์ลงเอง พฤติกรรมน้องแมวอาจวิ่งหนี หาที่ซ่อน ชอบไปอยู่ที่แคบๆ ถ้าเขาวิ่งหนีไม่ได้ ก็อาจยืน หรือหมอบลงอยู่นิ่งๆ เพราะอาจรู้สึกหลบซ่อนได้ปลอดภัยกว่า 

บทส่งท้าย

พฤติกรรมที่แสดงของน้องแมว ทำให้เราดูแลเขาได้อย่างถูกต้องในสถานการณ์นั้น ถ้าใครไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน ก็สามารถอ่านบทความของทางเราได้ เพื่อไขรหัสพฤติกรรมของน้องแมวแต่ละตัว อาจจะทำอะไรแปลกๆ แสดงความเป็นเจ้าของ ด้วยการเอากลิ่นตัวไปติดที่มนุษย์ แต่มีความหมายแน่นอน แมวเป็นสัตว์ที่รู้สึกไว แถมยังมีสัญชาตญาณที่เป็นนักล่า แต่ก็มีความอ่อนโยน เลี้ยงง่าย แถมยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฮีลใจได้ดี

ขอขอบคุณคลิปจาก ECOBOX Channel

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ guscats.com

5 พฤติกรรมแปลกๆ ของแมว ที่คุณอาจไม่เคยรู้

สำหรับทาสแมวคนไหนที่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน ก็คงจะเข้าใจหัวอกเหล่าทาสแมวด้วยกันดีว่าบางครั้ง พฤติกรรมแปลกๆ ของแมว ก็ทำให้เรารู้สึกไม่เข้าใจและสงสัยเหลือเกินว่าน้องแมวต้องการจะสื่อสารอะไรกับเรา หรือพวกมันต้องการแสดงออกถึงสิ่งที่เป็นสัญชาตญาณแมวอะไรหรือเปล่า แต่ยิ่งคิดกลับยิ่งปวดหัว ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจน้องแมวกันให้มากขึ้นกับ 5 พฤติกรรมสุดแปลกของน้องแมวที่คุณอาจไม่เคยรู้ในบทความนี้กันได้เลย

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของแมวให้มากขึ้น

ถึงแม้ว่าการแสดงออกของน้องแมวรวมถึง พฤติกรรมแปลกๆ ของแมว อาจจะทำให้เรารู้สึกขำ และเอ็นดูไปกับความน่ารักของพวกมัน แต่ในบางครั้งการแสดงพฤติกรรมอะไรออกมา อาจจะซ่อนความหมาย รวมไปถึงความรู้สึกภายในของแมวเอาไว้ก็ได้ เพราะพวกมันไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาที่พวกเราเข้าใจได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจน้องแมวผ่านพฤติกรรมแมวจึงมีข้อดีมากกว่าที่หลายคนคิด เช่น

• สามารถเข้าใจนิสัยแมวและตอบสนองความต้องการของแมวได้ดีมากขึ้น
• หาทางรับมือกับอาการหรือความผิดปกติที่เกิดกับแมวได้
• ระมัดระวังการกระทำที่อาจจะส่งผลต่อแมว
• ดูแลและให้ความใส่ใจกับแมวได้ดีมากยิ่งขึ้น

รวม 5 พฤติกรรมแปลกๆ ของแมวที่ทาสไม่เข้าใจ

แมวเป็นสัตว์ซึ่งมีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีนิสัยอยากทำอะไรก็ทำ และที่สำคัญคือมีการตอบสนองต่อสัญชาตญาณแมวที่สูงมากอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการแสดงออกของแมวผ่านการกระทำซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมายนัก ก็อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจและรู้ได้เลยว่าตอนนี้แมวกำลังรู้สึกอย่างไร รวมถึงชอบและไม่ชอบอะไรบ้างจากการสังเกตพฤติกรรมแปลกๆ ของแมวเหล่านี้

แมวไล่ตามแสง

มาเริ่มกันที่พฤติกรรมแปลกๆ ของแมวในข้อแรกกันเลย ซึ่งพฤติกรรมแมวในข้อนี้หลายคนที่เคยเล่นกับแมวหรือเคยดูคลิปวิดีโอตลกของน้องแมวกันมาก่อน ก็น่าจะเคยเห็นแล้วว่าน้องแมวมักจะชอบวิ่งตามแสง หรือจุดแสงที่เจ้าของชอบนำมาหลอกล่อน้องแมว จนเกิดเป็นท่าทางตลก ๆ จนทำให้อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้

โดยเหตุผลที่ทำให้แมวไล่ตามแสงนั้นเป็นหนึ่งในพฤติกรรมตามสัญชาตญาณ เพราะโดยธรรมชาติแล้วแมวจะสามารถจับสัญญาณหรือการเคลื่อนไหวของสิ่งเล็ก ๆ ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วได้ดี ดังนั้นเมื่อเรานำแสงไปหลอกล่อแมว จึงทำให้แมวเกิดความสนใจ มีความอยากรู้อยากเห็นและอยากจะเล่นด้วยนั่นเอง

แมวนอนในอ่างล้างจาน

พฤติกรรมแปลกๆ ของแมวอย่างการที่แมวกัดขาเจ้าของอาจจะทำให้เหล่าทาสแมวเกิดความไม่สบายใจ และไม่รู้ว่าจะหาคำตอบจากการที่แมวทำท่าแปลกด้วยการลงไปนอนในอ่างล้างจานอยู่เป็นประจำได้อย่างไร จึงเลือกที่จะพาแมวไปนอนที่อื่นและหลีกเลี่ยงไม่ให้แมวเข้าใกล้อ่างล้างจานอีก กลายเป็นว่าเจ้าของก็ไม่สบายใจ น้องแมวก็ไม่มีความสุข

เพราะเหตุผลที่ทำให้แมวนอนในอ่างล้างจานนั้น อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายหรือส่งผลเสียต่อน้องแมวอย่างที่หลายคนคิด โดยเราต้องสังเกตก่อนว่าเมื่อน้องแมวไปนอนในบริเวณดังกล่าวมีอาการอะไรร่วมด้วยหรือไม่ ถ้ามันแค่นอนหลับไปและยังใช้ชีวิตได้ปกติ นั่นแสดงว่ามันอาจจะกำลังต้องการหาที่นอนเย็น ๆ เพื่อดับร้อนก็เท่านั้น

แมวม้วนตัวเป็นวงกลม

หากน้องแมวที่บ้านมักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ของแมวอย่างการนอนม้วนตัวเป็นวงกลม จนทำให้เราเกิดความสงสัยว่าท่านอนแบบนี้มันสบายจริงหรือไม่ และกังวลว่ามันอาจจะทำให้ส่งผลกระทบกับสุขภาพของน้องแมวหรือเปล่า ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีนิสัยชอบนอน ดังนั้นไม่ว่าจะนอนท่าไหนหากทำให้มันรู้สึกสบายตัวได้ มันก็นอนได้ทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นการที่แมวม้วนตัวเป็นวงกลมจึงไม่ได้สร้าวอันตรายให้กับแมวแต่อย่างใด ในทางกลับกันลักษณะของพฤติกรรมดังกล่าว นั้นกลับช่วยให้แมวรู้สึกสบายตัวมากขึ้นเพราะกระดูดสันหลังให้ยืดอย่างเต็มที่(เหมือนเวลาที่คนเราบิดขี้เกียจ) ทั้งยังช่วยสร้างความอบอุ่นและทำให้แมวรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นได้ด้วย

แมวจ้องมองไปที่ผนัง

การที่แมวจ้องมองไปที่ผนังเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมแปลกๆ ของแมวที่อาจจะทำให้ทาสแมวหลายคนรู้สึกขนลุก และจินตนาการไปไกลว่าแมวที่เลี้ยงเอาไว้มีสัมผัสพิเศษที่ทำให้มองเห็นสิ่งลี้ลับได้หรือเปล่า แต่ในความเป็นจริงตามหลักการวิทยาศาสตร์นั้น ได้มีการกล่าวเอาไว้ว่าดวงตาของแมวมีความละเอียดอ่อน ทั้งยังสามารถมองเห็นช่วงแสงที่ละเอียดกว่ามนุษย์ได้หลายเท่า

เนื่องจากเป็นลักษณะทางธรรมชาติและสัญชาตญาณแมวสำหรับการเอาตัวรอด ดังนั้นท่าทางผิดปกติอย่างการที่แมวจ้องมองที่ผนังอยู่อย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้มีอะไรอยู่ในบริเวณนั้นเลย นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกมันมองเห็นแสงอะไรที่ลอดเข้ามา หรือจับความเคลื่อนไหวของช่องแสงที่ละเอียดเกินกว่าสายตาของมนุษย์เรานั่นเอง

แมวกัดขาเจ้าของ

เชื่อว่าหลายคนที่เป็นทาสแมวคงจะเคยมีประสบการณ์ที่อยู่ดี ๆ แมวก็กัดเข้าที่แขนหรือขาของเราเข้าอย่างจัง จนในบางครั้งก็เกิดอาการตกใจจนไม่ทันได้ระวังตัว และอาจจะพลาดไปทำให้แมวบาดเจ็บเอาได้ ซึ่งพฤติกรรมแปลกๆ ของแมวอย่างการที่แมวกัดขาเจ้าของนั้น ก็เป็นเพียงหนึ่งในพฤติกรรมตามสัญชาตญาณที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ รวมถึงต้องการเรียกร้องความสนใจจากเราเท่านั้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องทำการสังเกตกันด้วย ว่าก่อนที่แมวทำท่าแปลกออกมาแบบนั้น เกิดเหตุการณ์อะไรหรือน้องแมวมีอารมณ์อะไรค้างอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ เพราะมันอาจจะเกิดได้จากการที่แมวกำลังโมโห รู้สึกไม่ปลอดภัยจนต้องแสดงสัญชาตญาณนักล่า หรือเกิดอาการกลัวอะไรอยู่หรือเปล่าก็ได้ด้วย

สัญชาตญาณแมวที่เตือนว่ากำลังมีอันตราย

นอกเหนือจากพฤติกรรมแปลกๆ ของแมว ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องความสนใจ การแสดงความเป็นเจ้าของหรือตอบสนองต่อสิ่งเร้าตามสัญชาตญาณ เราก็ยังสามารถทำความเข้าใจและป้องกันอันตรายที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นจากการสังเกตท่าทางของแมวได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการที่หางของแมวชี้ฟู หรือการที่แมวก้มตัวลงต่ำและโก่งหลังขึ้นในขณะที่ดวงตาจดจ้องไปที่ด้านหน้า อาจแสดงได้ว่ากำลังเจอกับคนแปลกหน้าหรือสัตว์ตัวอื่นที่อันตรายนั่นเอง

บทสรุป

ถึงแม้ว่าแมวจะไม่สามารถสื่อสารกับพวกเราได้ด้วยภาษาเดียวกัน แต่เราก็ยังสามารถทำความเข้าใจน้องแมวให้มากขึ้นได้ จากการหมั่นสังเกตพฤติกรรมแปลกๆ ของแมวว่ามันกำลังรู้สึกอะไร หรือต้องการแสดงออกตามสัญชาตญาณอย่างไร รวมถึงกำลังจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับแมวของเราหรือเปล่า เพราะในบางครั้งการละเลยการกระทำเล็กน้อยเหล่านั้นก็อาจจะทำให้เราพลาดสิ่งสำคัญที่น้องแมวต้องการจะบอกเราก็ได้

ขอขอบคุณคลิปจาก ECOBOX Channel

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ guscats.com

5 เทคนิค ตัดเล็บแมว อย่างง่ายดาย ไร้กังวล

ตัดเล็บแมว ถือเป็นปัญหากวนใจและสร้างรอยแผลให้กับหลายคนไม่น้อย เนื่องจากทาสแมวส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้วิธีตัดเล็บแมวที่ถูกต้อง รวมถึงไม่รู้วิธีการซึ่งจะช่วยให้ปลอดภัยทั้งกับตัวคนตัดเองหรือกับน้องแมวก็ตาม เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับ การตัดเล็บแมว ง่ายๆ เราจึงมีเทคนิคการตัดเล็บ พร้อมแนะนำอุปกรณ์ตัดเล็บแมวที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถดูแลเล็บของน้องแมวได้ แบบไม่ต้องกลัวโดนข่วนหรือโดนกัดมาแชร์ให้ลองไปทำตามกันดูได้

ทำไมต้องตัดเล็บแมวอยู่เสมอ

ก่อนที่เราจะไปศึกษาเทคนิคตัดเล็บแมวง่ายๆ ซึ่งทำเองได้ที่บ้านแบบไม่ต้องกลัวเจ็บตัวกันนั้น เราจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยกันก่อนว่าทำไมการตัดเล็บให้น้องแมวจึงมีความสำคัญ และทำไมเหล่าทาสแมวที่ใส่ใจดูแลน้องเหมียวกันเป็นพิเศษ จึงมักจะให้ความสำคัญกับการตัดเล็บรวมถึงการทำความสะอาดเล็บแมวกันเป็นอย่างดี

ซึ่งเหตุผลที่ควรตัดเล็บแมวอยู่เสมอ ก็เป็นสาเหตุด้านสุขภาพและความปลอดภัยของตัวน้องแมวเอง เพราะหากปล่อยให้เล็บของแมวยาวเกินไป ก็จะมีความเสี่ยงทำเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย เช่นกรณีที่แมวปีนป่ายหรือกระโดดขึ้นที่สูง จึงมีการรับน้ำหนักที่บริเวณอุ้งเท้ามากกว่าปกติ จนทำให้เล็บที่ยาวนั้นหัก ฉีก หรือแทงเข้าไปในเนื้อของน้องเหมียวได้ หากมีการติดเชื้อร่วมด้วยก็จะเป็นอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ตัดเล็บแมว

การละเลยที่จะตัดเล็บแมวไม่ให้ยาวจนเกินไปนั้น อาจจะดูเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมาย แต่ในความเป็นจริงนอกจากมันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการบาดเจ็บในแมวได้แล้ว การที่แมวของเรามีลักษณะเล็บที่ยาว คม แหลม และขาดการดูแลเล็บแมวอยู่เป็นประจำ ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาในด้านอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น

• เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการโดนแมวข่วน
• อาจจะเป็นอันตรายต่อเด็ก
• เชื้อโรคอาจจะเข้าไปสะสมอยู่บริเวณซอกเล็บได้ง่าย
• เมื่อแมวไปข่วนเฟอร์นิเจอร์ก็อาจจะเกิดความเสียหายได้มากกว่าปกติ
• ส่งผลกระทบต่อการเดินที่ผิดปกติ อาจทำให้ป่วยเป็นโรคไขข้อหรือกระดูก
• เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเล็บแมวหรือโรคแมวข่วน (เชื้อแบคทีเรียบริเวณเล็บแมว)

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการตัดเล็บแมว

ปัจจุบันทาสแมวส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงแมวกันทั้งแบบจำกัดพื้นที่ และปล่อยให้น้องแมวเดินออกไปใช้ชีวิตภายนอกกันได้อย่างอิสระ ซึ่งไม่ว่าจะเลี้ยงด้วยวิธีไหนการตัดเล็บแมวก็ยังมีความสำคัญ เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่จะติดมากับเล็บรวมถึงลดความเสี่ยงของอันตรายที่จะเกิดกับแมวได้ แต่หลายคนก็อาจจะไม่สะดวกพาแมวไปที่ร้าน เพราะฉะนั้นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับใครที่อยากจะตัดเล็บให้แมวด้วยตัวเองก็มีดังนี้

• ผ้าสำหรับใช้ห่อตัวน้องแมวหรือคลุมแขนไม่ให้โดนข่วน
• น้ำสะอาดเพื่อเช็ดทำความสะอาดเล็บแมว
• กรรไกรตัดเล็บแมวซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ เช่น กรรไกรตัดเล็บทั่วไป กรรไกรพร้อมตะไบเล็บแมว กรรไกรตัดเล็บไฟฟ้า เป็นต้น
• ขนมแมวเลียหรืออาหารที่น้องแมวชอบเพื่อสร้างความผ่อนคลาย

5 เทคนิคตัดเล็บแมวอย่างไรให้ถูกต้องปลอดภัย

เพราะว่าการตัดเล็บแมวมีความสำคัญ และเป็นวิธีการดูแลความสะอาดรวมถึงป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับน้องแมวรวมถึงตัวของผู้เลี้ยงได้ง่ายมากที่สุด ถึงแม้ว่าในบางครั้งมันอาจจะทำให้เหล่าทาสต้องเสียน้ำตาและมีรอยแผลกันไปเป็นแถวก็ตาม ซึ่งหากใครได้ลองนำเอา 5 เทคนิคตัดเล็บแมวให้ปลอดภัยเหล่านี้ไปปรับใช้ ก็จะช่วยให้การตัดเล็บง่ายและปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น ดังนี้

• เลือกพื้นที่ในการตัดเล็บแมวที่เหมาะสม ไม่วุ่นวาย

เทคนิคแรกสำหรับการตัดเล็บแมวอย่างไรให้ปลอดภัย ก็คือจะต้องเลือกสถานที่ในการตัดเล็บที่ไม่วุ่นวาย ไม่มีเสียงรบกวน รวมถึงไม่ควรตัดเล็บแมวในขณะที่มีแมวหรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ข้างๆ เพราะจะทำให้น้องแมวเกิดความกระวนกระวาย ไม่ปลอดภัย และดิ้นไปมาจนเกิดอันตรายกับตัวเราและน้องแมวได้

• สร้างความคุ้นชินให้กับแมว

หากเราไม่มีประสบการณ์ในการตัดเล็บแมวมาก่อนที่ ไม่ควรที่จะออกแรงบังคับหรือตัดเล็บในตอนที่น้องแมวเผลอ เพราะมันจะทำให้แมวเกิดอาการสะดุ้งตกใจ รวมถึงออกแรงขัดขืนที่มากขึ้น จนทำให้ความคมของกรรไกรพลาดไปโดนเนื้อบริเวณอุ้งเท้าได้ ควรค่อยๆ สร้างความคุ้มชินและทำให้แมวรู้สึกผ่อนคลายให้ได้มากที่สุดก่อน

• จับอุ้งเท้าแมวอย่างปลอดภัยและมั่นคง

อีกหนึ่งวิธีตัดเล็บแมวตามแบบฉบับมืออาชีพ ที่จะช่วยให้การตัดเล็บง่ายและปลอดภัยมากที่สุดก็คือการจับอุ้งเท้าให้มั่นคง พร้อมทั้งบีบนวดบริเวณอุ้งเท้าให้น้องแมวรู้สึกผ่อนคลายและทำการกางเล็บออกมาเพื่อจะได้ง่ายต่อการตัดเล็บ และในขณะที่ตัดเล็บไปหากน้องแมวเกิดอาการเกร็ง ขืนตัว ก็ให้ทำการนวดเบาๆ ซ้ำไปมาเพื่อให้น้องแมวเพลินและกลับมาผ่อนคลาย

• ตัดเล็บแมว โดยระวังไม่ให้โดนเนื้อเยื่อ

เทคนิคการตัดเล็บให้กับน้องแมวที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน ก็คือการตัดโดยเลือกตัดแค่ส่วนของเล็บที่มีความยาวและมีปลายแหลมคมเท่านั้น ซึ่งจะต้องใช้กรรไกรตัดเล็บแมวเล็มไปตามแนวของเล็บ ไม่ต้องตัดให้สั้นกุดเพราะอาจพลาดไปโดนส่วนของเนื้อด้านข้าง ซึ่งจะทำให้เกิดแผลหรือสร้างความเจ็บปวดให้กับน้องแมวจนเป็นการยากที่จะตัดเล็บแมวในครั้งต่อไป

• ให้รางวัลน้องแมวทุกครั้งหลังตัดเล็บเสร็จ

หากใครที่คิดว่าขั้นตอนการตัดเล็บแมวเสร็จสิ้นแล้วก็ต้องบอกว่ามันไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะวิธีซึ่งจะทำให้น้องแมวมีความสุข ทั้งยังจดจำได้ว่าการตัดเล็บนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับน้องแมว ก็คือการที่เรามอบของรางวัลให้กับน้องนั่นเอง ซึ่งทุกคนก็สามารถเลือกขนมหรืออาหารที่น้องชอบได้เลย เช่น ขนมแมวเลีย กุ้งต้ม ปลาทู หรืออื่นๆ พร้อมกับลูบหัวและเกาคางให้น้องแมวของเรามีความสุขมากขึ้นได้ด้วย

บทสรุป

การตัดเล็บแมวมีความสำคัญต่อสุขภาพ รวมถึงความปลอดภัยของน้องแมวและเจ้าของเป็นอย่างมาก เพราะมันอาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เป็นต้นเหตุของอาการบาดเจ็บ รวมถึงสร้างความเสียหายให้กับสิ่งของในบ้านได้ ซึ่งสำหรับมือใหม่การตัดเล็บน้องแมวด้วยตัวเองอาจจะเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงไม่ควรเร่งรีบบังคับน้องแมว แต่ควรสร้างความผ่อนคลายพร้อมกับให้รางวัลน้องแมวหลังจากตัดเล็บเสร็จสิ้นในทุกครั้งด้วยนั่นเอง

ขอขอบคุณคลิปจาก Saranair Channel

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ guscats.com

เหมียวเบื่ออาหาร! 5 สาเหตุที่ แมวไม่กินอาหารเม็ด

เหล่าทาสอย่างเรา คงเคยเจอปัญหา แมวไม่กินอาหารเม็ด เลือกกินแต่อาหารเปียก สร้างความกังวลใจ กลัวว่าเหมียวจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน

บทความนี้ เราจะพาทาสแมวทุกคนไปไขปริศนาสาเหตุที่แมวไม่ยอมกินอาหารเม็ด ความสำคัญของอาหารเม็ด พร้อม เทคนิคการฝึกให้แมวกินอาหารเม็ดและวิธีแก้ไขให้แมวกินอาหารเม็ดแบบง่ายๆ ที่ทาสอย่างเราสามารถทำได้เอง

แมวไม่กินอาหารเม็ด ปัญหาใหญ่ที่เจ้าของต้องแก้ไข

แมวเบื่ออาหารเม็ดเป็นปัญหาใหญ่เนื่องจากอาหารเม็ดเป็นที่นิยมในการให้อาหารแมวและมักจะมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของแมวอย่างครบถ้วน การที่แมวเบื่ออาหารอาจทำให้แมวขาดสารอาหารสำคัญได้ เช่น โปรตีน วิตามินแมว และแร่ธาตุทำให้เกิดผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของแมวอาทิเช่นปัญหาน้ำหนักและระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ดังนั้น การแมวไม่ยอมกินอาหารเม็ดจึงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขเพื่อรักษาสุขภาพของแมวให้ดีที่สุดที่เป็นไปได้

ทำไมอาหารเม็ดจึงสำคัญต่อสุขภาพแมว?

ความสำคัญของอาหารเม็ดช่วยให้แมวของเรามีสุขภาพที่ดีและบำรุงร่างกายแมว บำรุงขน บำรุงไต บำรุงสายตา บำรุงเลือดไปด้วย มันไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารที่มีรสชาติดีและสีสันสวยงาม เอาไว้ให้น้องแมวของเรากินตามความประสงค์ แต่มันมีความสำคัญอย่างมากสำหรับสุขภาพของน้องแมวเรา

1. สารอาหารที่ครบถ้วน: อาหารเม็ดมักจะถูกออกแบบมาเพื่อให้มีสารอาหารที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ ทำให้แมวได้รับพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและฟื้นฟูร่างกาย
2. ควบคุมน้ำหนัก: อาหารเม็ดมักมีการควบคุมพอร์ชันแคลอรีอย่างเหมาะสม ทำให้เป็นวิธีที่ดีในการควบคุมน้ำหนักของแมว ทำให้ไม่เกิดปัญหาน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักน้อยในน้องแมว
3. ป้องกันโรค: อาหารเม็ดที่มีสารอาหารที่ครบถ้วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แมว ทำให้มันสามารถป้องกันโรคต่างๆได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ลดโอกาสที่จะเจ็บป่วยและเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค
4. ความสะดวกสบาย: การให้อาหารเม็ดมีความสะดวกสบายสำหรับเจ้าของ ราคาถูก แมวสามารถกินเมื่อมีความพร้อม และไม่ต้องเปลี่ยนอาหารบ่อยๆ เหมาะสำหรับเจ้าของที่มีกิจวัตรประจำวันที่ไม่คงที่
5. ส่งเสริมทางสมอง: การเลือกใช้อาหารเม็ดที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมสามารถส่งเสริมทางสมองของแมวให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยให้มีความคิดและการเรียนรู้ที่ดีขึ้นได้

อาหารเม็ดเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้อาหารเม็ดที่เหมาะสมและการให้มันเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของควรคำนึงถึงอย่างยิ่ง เพื่อให้น้องแมวของเรามีชีวิตที่มีคุณภาพและมีความสุขที่สุด

5 สาเหตุที่แมวไม่ยอมกินอาหารเม็ด

สาเหตุที่แมวไม่ยอมกินอาหารเม็ด มีเหตุผลหลายประการที่เราควรพิจารณาดังนี้

1. การชอบกินอาหารเปียกมากกว่า

บางแมวมีความชอบที่ชัดเจนต่ออาหารเปียก เนื่องจากมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดึงดูดใจมากกว่าอาหารเม็ด ทำให้แมวอาจเลือกกินอาหาร

2. ความไม่คุ้นเคยกับอาหารเม็ด

แมวบางตัวอาจไม่เคยรับประทานอาหารเม็ดมาก่อน หรือไม่เคยเรียนรู้การกินอาหารเม็ดในช่วงเด็กหรือหลังจากนั้น ซึ่งอาจทำให้พวกเขาปฏิเสธการกิน

3. รสชาติหรือกลิ่นอาหารไม่ถูกปาก

อาหารเม็ดบางชนิดอาจมีรสชาติหรือกลิ่นที่แมวไม่ชอบ ทำให้แมวไม่กิน แม้ว่าจะเป็นอาหารแมวที่ดีและเหมาะสม

4. ขนาดหรือความแข็งของอาหารเม็ด

บางแมวอาจมีปัญหากับขนาดของอาหารเม็ดหรือความแข็งที่เกินไป โดยมีทั้ง อาหารเม็ดสำหรับแมวเด็ก อาหารเม็ดสำหรับแมวโต อาหารเม็ดสำหรับแมวแก่ ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีความยากลำบากในการเคี้ยวหรือกินหากเลือกขนาดและความแข็งที่ไม่หมาะสม

5. ปัญหาสุขภาพ

ปัญหาสุขภาพแมวเช่นโรคในช่องปาก โรคไต หรือความเครียด สามารถส่งผลต่อความอยากอาหารของแมวได้ โรคในช่องปากอาจทำให้แมวรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวดเมื่อกิน โรคไตอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพทั่วไปของแมว และความเครียดก็สามารถทำให้แมวเบื่ออาหารเม็ดได้

วิธีแก้ไขและเทคนิคการฝึกให้แมวกินอาหารเม็ด

หากคุณเจ้าของแมวกำลังเผชิญกับปัญหาที่น้องแมวปฏิเสธการกินอาหารเม็ด นี่คือกลยุทธ์เปลี่ยนแมวกินอาหารเม็ดที่อาจช่วยคุณได้

1. ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน

ผสมอาหารเปียกกับอาหารเม็ดทีละน้อยค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนอาหารเม็ดจนแมวกินอาหารเม็ดได้

• เริ่มต้นด้วยการผสมอาหารเปียกกับอาหารเม็ดในอัตราส่วน 1:1
• ค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนอาหารเม็ดทีละน้อย ใช้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์
• เมื่อแมวคุ้นเคยกับอาหารเม็ด ก็สามารถลดสัดส่วนอาหารเปียกลงได้

2. กำหนดเวลาให้อาหาร

ให้อาหารแมวเป็นเวลา เก็บอาหารหลังจาก 30 นาที แมวจะหิวและกินอาหารเม็ด

• กำหนดเวลาให้อาหารแมว 3 มื้อต่อวัน เช้า กลางวัน เย็น
• เก็บอาหารหลังจาก 30 นาที แมวจะหิวและกินอาหารเม็ด
• ไม่ควรให้ขนมแมวกินจุบจิบระหว่างมื้อ

3. ใช้อาหารเม็ดหลากหลาย

ลองเปลี่ยนอาหารเม็ดหลายๆ ยี่ห้อ รสชาติ และขนาด เพื่อหาอาหารที่แมวชอบ

• แมวแต่ละตัวมีรสนิยมการกินที่แตกต่างกัน
• ลองให้อาหารเม็ดหลายๆ ยี่ห้อ รสชาติ และขนาด
• สังเกตว่าแมวชอบอาหารเม็ดแบบไหน

4. เพิ่มกลิ่นหอม

โรยทูน่ากระป๋องบนอาหารเม็ด เพิ่มกลิ่นหอมดึงดูดแมว

• แมวมีประสาทรับกลิ่นไว
• โรยทูน่ากระป๋องบนอาหารเม็ด เพิ่มกลิ่นหอมดึงดูดแมว
• สามารถใช้น้ำซุปปลาทูน่า หรือน้ำซุปไก่ ราดบนอาหารเม็ดได้

5. ให้อาหารเม็ดเป็นของว่าง

ให้อาหารเม็ดเป็นของว่างระหว่างมื้อ อาหารเม็ดจะน่าสนใจสำหรับแมว

• แมวชอบกินอาหารเป็นมื้อย่อย
• ให้อาหารเม็ดเป็นของว่างระหว่างมื้อ
• อาหารเม็ดจะน่าสนใจสำหรับแมว

6. ปรึกษาสัตวแพทย์:

หากแมวไม่ยอมกินอาหารแมวเลยเป็นเวลานาน ควรปรึกษาสัตวแพทย์

• สัตวแพทย์จะตรวจสุขภาพแมว เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้แมวไม่ยอมกินอาหารเม็ด
• สัตวแพทย์อาจแนะนำอาหารเม็ดสูตรพิเศษ ที่เหมาะกับแมวที่มีปัญหาสุขภาพ

สัตวแพทย์อาจแนะนำวิธีอื่นๆ ในการช่วยให้แมวกินอาหารเม็ด

ทาสแมวอย่างเรา

ต้องเข้าใจธรรมชาติของเจ้าเหมียว ค่อยๆ ฝึกฝนอย่างใจเย็น เท่านี้เจ้าเหมียวก็จะกลับมากินอาหารเม็ดอย่างเอร็ดอร่อย สุขภาพดี แข็งแรง

ขอขอบคุณคลิปจาก Pettochi

อ่านบทความเพิ่มเิมได้ที่ guscats.com

5 ยี่ห้อ ขนมแมวเลีย ไม่เค็ม อร่อยดี มีประโยชน์ เจ้านายปลื้ม

ขนมแมวเลีย ขนมแสนอร่อยของน้องแมวสุดน่ารัก ซึ่งถือว่าเป็นไอเทมประจำบ้านที่เหล่าทาสแมวจะต้องมีติดบ้านกันเอาไว้อยู่เสมอ เพื่อไว้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าวให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น แต่การให้ขนมชนิดนี้จะต้องเลือก สูตรลดโซเดียม และไม่มีสารปรุงแต่งใดๆ ก็จะทำให้น้องแมวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่

ประโยชน์ของขนมแมวเลีย?

ขนมแมวเลียเป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งที่มีความคล้ายกับอาหารสำเร็จรูป  จะประกอบไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามิน โดยมีการเพิ่มเติมกลิ่นและรสให้น่าทานมากยิ่งขึ้น แถมยังมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่สามารถพกพาง่ายอีกด้วย

ขนมแมวเลียเหมาะกับน้องแมวอายุเท่าไหร่?

ขนมแมวเลียควรให้น้องแมวเริ่มกินในช่วงอายุ 4-5 เดือน ซึ่งจะต้องเลือกสูตรที่มีความเค็มน้อยที่สุด มีสารอาหารที่ครบถ้วน เลือกขนมที่เหมาะสำหรับน้องแมวของเรา อีกทั้งยังต้องกำหนดในเรื่องของปริมาณการให้ขนม โดยจะให้วันละ 1-2  ซอง เพื่อไม่ให้เสี่ยงเป็นโรคไตได้ในอนาคต

ขนมแมวเลียควรกินวันละกี่ซอง?

ขนมแมวเลียไม่ว่าจะเป็นแมวเด็กหรือแมวโต ควรให้วันละ 1-2  ซอง เพียงเท่านั้น เพราะขนมชนิดนี้ไม่สามารถเทียบเท่ากับอาหารหลักของแมวได้ การให้รับประทานมากจนเกินไปจะทำให้แมวของเรามีปัญหาในเรื่องของสุขภาพได้ ทางที่ดีควรเลือกขนมที่เป็นสูตร บำรุงขน มีแร่ธาตุต่างๆ ก็เสริมสร้างให้แมวของเรามีสุขภาพดี

ขนมแมวเลียยี่ห้อไหนบ้างที่ไม่เค็ม?

ขนมแมวเลียในยุคปัจจุบันถือว่ามีหลากหลายยี่ห้อให้เหล่าทาสแมวได้เลือกซื้อให้เจ้านายรับประทานกันอย่างมากมายเลยทีเดียว โดยต้องเลือกขนมที่มี โซเดียมต่ำ เช่น ยี่ห้อ Pramy และยี่ห้อ VF Core จะไปอุดมด้วยสารอาหารอย่างครบถ้วน มีเนื้อสัมผัสที่ทานง่าย มีรสชาติที่ ไม่เค็ม ลดความเสี่ยงเป็น โรคไต ได้ในอนาคต

5 ขนมแมวเลียไม่เค็ม อร่อยดี มีประโยชน์ เจ้านายปลื้ม มียี่ห้อไหนบ้าง ไปดูกันเลย!!!

ขนมแมวเลียเป็นขนมว่างที่เจ้านายหลายตัวชื่นชอบในเรื่องของรสชาติมากที่สุด และในปัจจุบันก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกทานอย่างจุใจ มาพร้อมกับสารอาหารที่จะช่วยบำรุงสุขภาพของแมวอย่างครบถ้วน ดังนั้นขนมแมวเลียที่มีรสชาติไม่เค็ม มีดังนี้

ขนมแมวเลียPramy

ขนมแมวเลียซึ่งเป็นยี่ห้อยอดนิยมมากที่สุด มาในรูปแบบของการเสริม วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆอย่างครบถ้วน มีส่วนผสมของเนื้อปลาแซลมอนเกรดดี ที่จะมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องแมวได้ดี และที่สำคัญยังมีส่วนช่วยในการบำรุงข้อต่อและเส้นขนที่สวยงาม

ขนมแมวเลียVF Core

เป็นขนมแมวเลียที่ประกอบไปด้วย วิตามิน และกรดอะมิโน มีเพิ่มเติมรสชาติที่เป็นสูตรโดยเฉพาะของทางแบรนด์ ทำให้แมวสามารถทานได้ทุกวันโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยน้องแมวสามารถทานได้ง่ายอีกด้วย

ขนมแมวเลียLifemate

ขนมแมวเลียจากแบรนด์อาหารสัตว์น้องใหม่ที่ได้รับความนิยมอีกยี่ห้อหนึ่ง มีการผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพดี มีปริมาณไขมันที่ต่ำ และไม่มีการเติมสารปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น จึงทำให้น้องแมวสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยและปลอดภัยต่อสุขภาพ

ขนมแมวเลียJinny

ขนมแมวเลียที่มีการใช้วัตถุดิบหลักจากเนื้อสัตว์ที่มีการคัดเลือกคุณภาพมาเป็นอย่างดี ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีส่วนผสมของทอรีน ที่ช่วยบำรุงการทำงานของสมองและเพิ่มการมองเห็นให้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังมีสารสกัดจากชาเขียวที่ช่วยลดกลิ่นปัสสาวะอีกด้วย

ขนมแมวเลียToro Plus

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม มีรสชาติที่ถูกใจเจ้าแมวน้อยเป็นอย่างมาก โดยมีให้เลือกทั้งสูตรธรรมดาและสูตรพิเศษที่มีการเพิ่มสารอาหาร จึงถือว่าเป็นขนมแมวเลียที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์อย่างครบถ้วน ทำให้น้องแมวมีสุขภาพที่ดี

ขนมแมวเลียกับการฝึกน้องแมว

สำหรับ ขนมแมวเลีย เป็นตัวช่วยในการฝึกแมวให้สามารถทำตามคำสั่งได้ แต่ไม่ควรให้บ่อยจนเกินไป โดยจะต้องมีการกำหนดในการให้ประมาณ 1-2 ซอง ต่อวัน หรือให้เพื่อเป็นรางวัลในการชื่นชม เพื่อเป็นการไม่ให้น้องแมวติดการรับประทาน ขนมแมวเลีย มากจนเกินไป

การเลือกซื้อขนมแมวเลีย

การเลือกซื้อขนมแมวเลียให้มีความเหมาะสมสำหรับน้องแมวของเราเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรคำนึงถึงมากที่สุดโดยจะต้องคัดเลือกที่มีรสชาติที่ ไม่เค็ม จนเกินไปที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นการเลือกซื้อขนมแมวเลียที่ถูกต้องมีดังนี้

ห้ามซื้อขนมที่ไม่มียี่ห้อ

การซื้อขนมแมวเลียให้น้องแมวแสนรักของเราทาน ต้องเลือกซื้อที่มียี่ห้อ และเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยม มีสารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อป้องกันไม่ให้แมวเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคร้ายต่างๆ อีกทั้งการทานขนมแมวเลียที่มียี่ห้อ ก็จะช่วยลดอาการแพ้ได้ในระดับหนึ่ง

รสชาติอร่อยถูกปาก

ควรเลือกซื้อขนมแมวเลียที่มีรสชาติเอร็ดอร่อย มีความหอมหวาน มีเนื้อสัมผัสที่ทานได้ง่าย อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างครบถ้วน ก็จะมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย การเสริมสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรง โดยจะทำให้แมวของเรา มีความสุขในขณะที่รับประทานขนมแมวเลียอีกด้วย

ขนมที่ดีต่อสุขภาพ

การเลือกซื้อขนมแมวเลียที่ไม่มีส่วนผสมของโซเดียม และสารปรุงแต่งอื่นๆ ไม่ใส่เกลือ อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของน้องแมว ถือว่าเป็นขนมแมวเลียที่เหมาะสมกับน้องแมวของเรามากที่สุด มีส่วนช่วยในการลดการเกิดโอกาสการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ในระดับหนึ่ง

บทส่งท้าย

ขนมแมวเลีย เป็นขนมว่างของน้องแมวชนิดหนึ่งที่แมวส่วนใหญ่ชื่นชอบในการรับประทานเป็นอย่างมาก โดยเราจะต้องเลือกขนมที่ ไม่เค็ม มีการเติมสารอาหารอย่างครบถ้วน เพิ่ม วิตามิน ในการบำรุงสุขภาพของน้องแมวของเรา ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพของน้องแมวที่ดียิ่งขึ้น

ขอขอบคุณคลิปจาก Sasi Cat Craft

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ guscats.com

มาทำความรู้จัก แมวสฟิงซ์ หรือที่ใครๆก็รียกว่า แมวหนังไก่ มีวิธีดูแลยังไง ให้สบายใจทั้งคนทั้งแมว

แมวสฟิงซ์ หรือที่หลายคนเรียกกันว่าแมวไม่มีขน หลายคนตกหลุมรักมันเพราะลักษณะนิสัยของมัน แมวสฟิงซ์ขี้อ้อน ติดเจ้าของ มีความขี้เล่นสูง เป็นแมวที่กระตือรือร้น มีความอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา อีกทั้งลักษณะทั่วไปของมันก็ต่างจากแมวสายพันธุ์อื่น คือไม่มีขน ทำให้หลายคนตกหลุมรักในความโดดเด่น ไม่เหมือนใครของมัน

แมวสฟิงซ์มีนิสัยยังไง?

หลายคนอาจมองว่า แมวสฟิงซ์ ดูดุๆ ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกที่ไม่ได้คล้ายแมวสายพันธุ์อื่น แต่นิสัยของมันบอกเลยว่าขัดกับลักษณะภายนอกเป็นอย่างมาก เพราะความจริงแล้ว แมวสฟิงซ์น่ารัก ติดเจ้าของ ไม่ว่าเจ้าของจะทำอะไร เจ้าแมวหนังไก่ก็ต้องไปอยู่ใกล้ๆเสมอ เป็นแมวที่มีความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา

แมวสฟิงซ์กินอาหารแบบไหน?

แม้ว่าแมวหนังไก่มีลักษณะที่แตกต่างจากแมวทั่วไป แต่การให้อาหารสามารถให้อาหารเหมือนกันกับแมวสายพันธุ์อื่นๆได้เลย แต่เนื่องจากเป็นแมวไร้ขน ปริมาณของอาหารที่ต้องการเลยมากกว่าแมวต่างสายพันธุ์ที่ไซส์เดียวกันเล็กน้อย เนื่องจากจะต้องไปใช้เป็นพลังงานความร้อนให้แก่ร่างกาย

แมวสฟิงซ์ดูแลยังไง?

เนื่องจากเป็นแมวไร้ขนทำให้การดูแลพิเศษกว่าแมวสายพันธุ์อื่น จะต้องใส่ใจเรื่องความอบอุ่นของร่างกายเป็นพิเศษ ที่นอนควรเป็นห้องที่อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก หากนอนในห้องแอร์ก็ควรอยู่ในอุณหภูมิที่พอดี ไม่หนาวจนเกินไป การอาบน้ำควรอาบน้ำบ่อยๆ เนื่องจากแมวสฟิงซ์มีเหงื่อและไขมันมากกว่าสายพันธุ์อื่น

แมวสฟิงซ์ชอบอะไร?

สิ่งที่แมวสฟิงซ์ชอบมากกว่าสิ่งอื่นใดเลยคือการกอด อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าแมวสฟิงซ์ติดเจ้าของ ดังนั้นการกอด ให้ความรักความอบอุ่นจึงเป็นสิ่งที่เจ้าแมวไร้ขนชอบมาก หากเจ้าของไม่ได้กอดหรือให้ความอบอุ่น ก็จะคอยไปอยู่ใกล้ๆ ตามติดไปตลอด เพื่อแสดงให้เห็นว่าต้องการความอบอุ่นและความใส่ใจ

มาทำความรู้จักแมวสฟิงซ์ หรือที่ใครๆก็เรียกว่าแมวหนังไก่ มีวิธีดูแลยังไง ไปดูกันเลย

วิธีดูแลแมวสฟิงซ์จะมีความพิเศษกว่าการดูแลแมวสายพันธุ์อื่น ไม่ว่ะเป็นการอาบน้ำที่ต้องอาบบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การดูแลผิวของแมวสฟิงซ์ สามารถใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือน้ำมันที่ใช้ทาผิวที่เจ้าของใช้ได้เลย เพื่อให้ผิวของเจ้าแมวหนังไก่ดูสุขภาพดี นุ่มลื่น ป้องกันการแห้งกร้านของผิว

แมวไร้ขน จริงหรอ ?

เชื่อว่าหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับผิวหนังหรือขนของแมวสฟิงซ์ ซึ่งต้องบอกว่าแมวสายพันธุ์นี้ไม่ใช่แมวไร้ขนจริงๆแบบที่หลายคนเรียก แต่มีระดับของการไร้ขน เช่น บางตัวมีขนน้อยมากจนแทบจะเป็นผิวหนัง แต่บางตัวมีขนที่ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มเหมือนแพรไหม ดังนั้น

• ถิ่นกำเนิดแมวสฟิงซ์

หลายคนอาจคิดว่าเจ้าแมวหนังไก่มีถิ่นกำเนิดจากดินแดนตะวันออก ด้วยรูปร่างหน้าตาของมันที่ดูคล้ายแมวสายพันธุ์เก่าแก่ แต่แมวสฟิงซ์มีถิ่นกำเนิดจากประเทศแคนาดา เมืองโตรอนโต ซึ่งเป็นแมวสีขาวดำตัวหนึ่งที่ถูกเลี้ยงอย่างธรรมดาในบ้านหลังหนึ่งแต่ให้กำเนิดแมวที่มีการกลายพันธุ์ทางพันธุรกรรม ซึ่งจาดเหตุการณ์นั้นก็เป็นการถือกำเนิดแมวไร้ขน

• สฟิงซ์แมวอายุยืน

แมวสฟิงซ์เป็นแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่หากได้รับการเพาะพันธุ์ที่ถูกต้องจะเป็นแมวอายุยืน มีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ยืนยาว แต่บางตัวอาจเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้นได้ หากได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม อย่างไรก็ตามสภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาดังกล่าว สามารถควบคุมได้ด้วยตัวยาเฉพาะ ที่จะต้องได้รับจากสัตวแพทย์โดยตรง

• แมวสฟิงซ์ดูอ่อนแอ แต่แข็งแกร่ง

หากสังเกตดูจากลักษณะภายนอกของแมวสฟิงซ์หลายคนคงคิดว่ามันดูบอบบาง อ่อนแอ ดูไม่ร่าเริง มีสุขภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เจ้าแมวไร้ขนพวกนี้เป็นแมวที่แข็งแกร่งมาก สังเกตได้จากท้องของมันที่มีความแน่น เต่งตึงตลอดเวลา นั่นเพราะมันทานอาหารมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น เนื่องจากต้องการให้ร่างกายอบอุ่น และได้รับสารอาหารเพียงพอ

• สฟิงซ์สุดยอดแมวขี้อ้อน

บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นแมวทำพฤติกรรมที่แสดงถึงความฉลาดของมัน แต่แมวสฟิงซ์ฉลาดจนเกินตัว เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง แต่พฤติกรรมต่างๆแสดงให้เห็นว่ามันฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคมเก่ง อ้อนเจ้าของ ขี้เล่น และจะคุยเก่งเฉพาะกับเจ้าของเท่านั้น แมวสฟิงซ์จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดแมวขี้อ้อนนั่นเอง

• แมวสฟิงซ์ราคาถูก?

เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าเจ้าแมวไร้ขนมีราคาสูงมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่ไม่เลย เพราะถึงแม้แมวสฟิงซ์จะมีราคาสูงกว่าแมวทั่วไปแต่ก็ยังอยู่แค่หลักหมื่น ยังมีสายพันธุ์อื่นที่ราคาสูงกว่า โดยเจ้าแมวหนังไก่มีราคาอยู่ที่ราวๆ 25,000 – 70,000 บาท แล้วแต่แบบและฟอร์มของมัน

บทส่งท้าย

แมวสฟิงซ์ เป็นแมวที่มีลักษณะต่างจากแมวสายพันธุ์อื่น โดยเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก ที่แทบจะไม่มีส่วนคล้ายสายพันธุ์อื่นเลย แต่เป็นแมวที่ค่อนข้างเลี้ยงง่าย ไม่ได้มีการดูแลต่างจากสายพันธุ์อื่นเท่าไหร่นัก ที่สำคัญคือลักษณะนิสัยของเจ้าแมวไร้ขน ยังสร้างความประทับใจ และทำให้คนตกหลุมรักพวกแมวหนังไก่เมื่อได้ทำความรู้จักมากขึ้นด้วย

ขอขอบคุณคลิปจาก Pet Lover by Jerhigh

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ guscats.com

แมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

แมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)

แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

กระบะทรายแมว หรือ ห้องน้ำแมว คือ สิ่งจำเป็นที่ทาสแมวทุกคนต้องมี เช่นเดียวกับห้องน้ำคน เจ้าเหมียวเองก็อยากมีห้องน้ำแมวดี ๆ ไว้ใช้เช่นกัน ซึ่งการเลือกกระบะทรายแมวนั้นสำคัญมาก เพราะหากเลือกไม่ดีอาจทำน้องแมวโกรธจนไม่ยอมใช้ แล้วแก้เผ็ดทาสด้วยการปล่อยของเสียเรี่ยราด บทความนี้ เราจึงอยากมาแนะนำกระบะทรายแมวคุณภาพที่น้องเหมียวต้องเลิฟ พร้อมวิธีการเลือกให้เหมาะสม

กระบะทรายแมว ที่ดีต้องเป็นอย่างไร? คลายข้อสงสัยเรื่องกระบะทราย

กระบะทรายแมว ที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็น กระบะทรายแมวขนาดใหญ่ เสมอไป เพียงแค่น้องแมวเข้าไปแล้วสามารถเคลื่อนไหว หมุนตัวได้สะดวก ถ้าห้องน้ำไม่สบายมากพอ น้องแมวอาจหงุดหงิด ไม่ยอมทำการกลบ แล้วรีบออกมาทันทีที่ทำธุระเสร็จ เพื่อบ่งบอกให้มนุษย์รู้ว่า ไม่พอใจกับห้องน้ำอันนี้มากๆ

เลี้ยงแมวหลายตัว ควรมีห้องน้ำแมวกี่อัน ?

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ขนาด คือ จำนวนกระบะทรายแมว รู้หรือไม่ว่า น้องแมวเป็นสัตว์หวงของมาก หากบ้านไหนมีแมวหลายตัว มักจะเกิดสงครามแย่งห้องน้ำกันขึ้น บางตัวอาจทิ้งระเบิดไม่ยอมกลบเพื่อให้ตัวอื่นรู้ว่า “ห้องน้ำนี้มีเจ้าของแล้วนะ” ในกรณีที่เจ้าของไม่มีเวลาทำความสะอาดกระบะทรายบ่อยๆ หรือมีน้องแมวหลายตัว จึงควรมีกระบะทรายเผื่อไว้ให้มากกว่าจำนวนแมวที่มีเท่านึงเสมอ ยกตัวอย่างเช่น บ้านไหนมีน้องแมว 1 ตัว ควรมีกระบะทรายอย่างต่ำ 2 อัน ถ้ามีน้องแมว 2 ตัวก็ 4 อัน ที่ต้องมีกระบะทรายเผื่อไว้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลเรื่องสุขอนามัยเพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งน้องแมวของเราอาจมีอารมณ์อินดี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศขึ้นมาเฉยๆ อีกทั้งการมี ห้องน้ำแมว สำรองไว้ ตอนนำไปทำความสะอาด ยังสะดวกกว่าด้วย

วางกระบะทรายแมวไว้ตรงไหนดี  ?

ตำแหน่งวางกระบะทราย ให้เลือกทำเลที่ระบายอากาศดี ไม่อับชื้น เงียบสงบ น้องแมวสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่รบกวนการขับถ่ายของน้องแมวและการใช้ชีวิตประจำวันของทาสทั้งหลาย หากคิดไม่ออกจะเอาไว้ในห้องน้ำโซนแห้งก็ได้

กระบะทรายแมวมีกี่แบบ ?

หลักๆแล้วกระบะทรายแมวจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ คือ

1.  ห้องน้ำแมวแบบกระบะทราย

ลักษณะเป็นกระบะทรายแมวถาดแบน มีขอบสูง ห้องน้ำแมวแบบกระบะทราย นี้จะมีราคาถูกที่สุด เพราะไม่ค่อยมีออฟชั่นเสริมอะไรมาก วิธีใช้งานก็แสนง่ายดาย แค่เททรายใส่กระบะในปริมาณที่น้องแมวพอใช้กลบได้ เมื่อน้องแมวทำธุระเสร็จก็ตักของเสียออกไปทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ข้อดีของกระบะทราย คือ ระบายอากาศดี ราคาถูก ทำความสะอาดง่าย เพียงล้างน้ำ ขัดถูให้สะอาด แล้วตากแดดหรือเช็ดด้วยผ้าจนแห้งสนิทแต่ด้วยความที่เป็นห้องน้ำแบบเปิดโล่ง จึงต้องเลือกทำเลที่ตั้งดีๆ เพราะไม่มีคุณสมบัติช่วยเก็บกลิ่นของเสีย และหากมีสิ่งเร้าเยอะ เช่น เป็นบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน เสียงดัง น้องแมวอาจไม่มีสมาธิในการทำธุระส่วนตัวแล้วอั้นไว้จนเสียสุขภาพ หรือเกรี้ยวกราดใส่ทาสได้ ทั้งยังไม่เหมาะกับน้องแมวที่ชอบเล่นทรายหรือกลบคุ้ยรุนแรงจนกระจุยกระจาย ไม่เหมาะกับน้องแมวที่ชอบรีบกระโจนออกมาจากห้องน้ำหลังเสร็จกิจห้องน้ำแมวแบบนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ซึ่งมีรูปทรงและลวดลายน่ารักๆ ให้เลือกมากมาย หรือทางร้านค้าออนไลน์ก็มีขายเช่นกัน

2.  ห้องน้ำแมวแบบโดม

ห้องน้ำแมวโดม มีราคาสูงกว่ากระบะทรายแมวแบบแรก เพราะมีหลังคาโดมครอบ ดูสะอาดตา ทันสมัย สามารถเก็บกลิ่นได้ดี น้องแมวมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ป้องกันทรายแมวไม่ให้กระเด็นออกข้างนอกได้ดี บางแบบมีประตูแมวช่วยชะลอความเร็ว ดัดนิสัยน้องแมวที่ชอบกระโดดออกนอกห้องน้ำ

แต่ในขณะเดียวกันก็ถอดทำความสะอาดยาก แออัด ระบายอากาศได้ไม่ดีและพกพาไปไหนไม่สะดวกเท่าแบบกระบะทราย ด้วยข้อจำกัดด้านขนาด หากน้องแมวไม่ชอบที่แคบหรือห้องน้ำแมวมีขนาดเล็กเกินไปก็อาจไม่ยอมใช้ สำหรับน้องแมวขี้ระแวง ระหว่างทำธุระอยู่อาจเกิดอาการวิตกกังวล เพราะมองไม่เห็นภายนอก ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการใช้ห้องน้ำแมวแบบโดมใส

3.  ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ

ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ คือ ห้องน้ำแมวล้ำสมัยราคาสูง อำนวยความสะดวกทั้งน้องแมวและทาสด้วยเทคโนโลยีที่คิดมาแล้วว่า จะทำให้การกำจัดกลิ่นและของเสียของน้องแมวง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ห้องน้ำแมวอัตโนมัติจะมีฟังก์ชันการใช้งานมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับการกำจัดของเสีย เช่น เมื่อเลเซอร์พบว่าน้องแมวทิ้งระเบิดเสร็จแล้ว จะจัดเก็บเข้าถุงให้อัตโนมัติ หรือบางรุ่นก็มีการฆ่าเชื้อของเสียและทำความสะอาดตัวเองได้ด้วยข้อเสียห้องน้ำแมวอัตโนมัติ คือ เป็นระบบไฟฟ้า ต้องใช้งานด้วยการเสียบปลั๊ก ต้องเสียค่าไฟเพิ่ม จึงไม่เหมาะกับน้องแมวที่ชอบกัดแทะสายไฟเป็นอย่างยิ่ง หากเลือกแบบที่ไม่มีประสิทธิภาพมา อาจเป็นอันตรายได้ และเช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป การซ่อมแซมหรือหาอะไหล่เปลี่ยนค่อนข้างยุ่งยาก ขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ ขนย้ายลำบาก บางรุ่นอาจมีเสียงมอเตอร์รบกวนระหว่างทำงานจนน้องแมวไม่กล้าใช้สำหรับห้องน้ำแมวแบบอัตโนมัติยอดฮิตจะมีด้วยกัน 2 ยี่ห้อ คือ  CATLINK และ PETREE ราคาราวๆ 10,000 บาท CATLINK ราคาสูงกว่า มีประกัน พร้อมบริการหลังการขายและแอพลิเคชั่นเชื่อมต่อกับมือถือ ส่วน PETREE ราคาถูกกว่าหน่อย คุณภาพตามราคา เป็นห้องน้ำแมวอัตโนมัติทั่วไป น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่ายกว่า

4.  ห้องน้ำแมวแบบ DIY

ถ้าหาซื้อที่ถูกใจไม่ได้ก็ทำเองซะเลย ในโซเชียลมีวิธีการ ทำกระบะทรายแมว แบบง่ายๆ ให้คุณได้ทดลองทำมากมาย ซึ่งกระบะทรายแมวส่วนใหญ่จะเป็นแบบกล่องที่ใส่ ทรายแมว ไว้ด้านใน ด้านบนมีช่องเจาะไว้ให้น้องแมวใช้ทำธุระส่วนตัวที่การออกแบบส่วนใหญ่เป็นลักษณะนี้ เพราะไม่อยากให้น้องแมวเหยียบทรายติดเท้า หรือคุ้ยเขี่ยทรายแมวจนกระเด็นไปทั่ว ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย

แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่มีฝีมือด้านการประดิดประดอย การทำ ห้องน้ำแมว DIY ต้องใช้ทั้งเวลา แรงกาย แรงใจ ซึ่งอาจทำออกมาไม่เวิร์คเท่าซื้อเอง เพราะน้องแมวบางตัวอาจไม่เก็ตว่า นี่คือห้องน้ำแมว และหากไม่ควบคุมต้นทุนในการทำให้ดีก็เสียค่าใช้จ่ายบานปลายกว่าการซื้อกระบะทรายแมว ทั่วไปเสียอีก

มีกระบะทรายแมวแล้ว อย่าลืม แผ่นดักทรายแมว

อีกหนึ่งปัญหาที่ทาสแมวแก้ไม่หาย คือ ทรายแมวกระเด็นออกนอกกระบะ บ้างก็ติดเท้าน้องแมวเลอะเทอะทั่วบ้าน จะแก้โดยการซื้อทรายแมวดีๆ ไม่ติดเท้าแมว หรือห้องน้ำแมวที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ก็มีราคาสูงเกินไป วิธีแก้ง่ายๆ ที่ได้ผลดี คือ การใช้แผ่นดักทรายแมวราคาหลักสิบ ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะใช้วัสดุอะไรปูรองเป็นแผ่นดักทรายแมวดี ตามท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หญ้าเทียม แผ่นยางพาราตาข่ายกันลื่น แผ่นซิลิโคนมีชั้นกรอง แต่ไม่ว่าจะใช้เป็นวัสดุใด แนะนำว่าควรเลือกที่ยึดเกาะพื้นได้ดี มีคุณสมบัติในการดักทรายแมว แห้งเร็ว ไม่อับชื้น ปลอดภัยต่อน้องแมว และควรทำความสะอาดเป็นประจำ อย่าปล่อยให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจนน้องแมวล้มป่วยอาจกล่าวได้ว่า แผ่นดักทรายแมว ถือเป็นส่วนหนึ่งของห้องน้ำแมวเลยก็ว่าได้ เพราะของมันต้องมีจริงๆ ข้อดีของการใช้แผ่นดักทรายแมว แน่นอนว่าสามารถช่วยลดการกระจายของทรายแมวที่กระเด็นออกมาจากกระบะทรายหรือที่ติดตามเท้าน้องแมวได้ดีจริง ส่วนข้อเสีย คือ ทาสแมวมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากต้องคอยทำความสะอาด กระบะทรายแมว แล้ว ยังต้องทำความสะอาดแผ่นดักทรายแมวด้วย

บทสรุป

หลังจากอ่านบทความนี้จบ หลายคนคงได้คำตอบในใจกันแล้วว่า จะเลือก กระบะทรายแมวแบบไหนดี แต่สำหรับใครที่ยังคิดไม่ตกว่า จะซื้อกระบะทรายแมวยี่ห้อไหนดี ? ซื้อกระบะทรายแมวราคาถูก ไปก่อนดีไหม? ให้คิดถึงหน้าน้องแมวไว้แล้วค่อยตัดสินใจ เราเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว คุณจะได้พบกับกระบะทรายแมวในฝัน ที่ถูกใจทั้งคุณและน้องแมวอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณคลิปจาก หมอหมาหมอแมว

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ guscats.com

อาหารเปียกแมว ยี่ห้อไหนดี รสชาติอร่อย แนะนำทั้งสูตรแมวโต และลูกแมว

คอนโดแมว ของเล่นชิ้นใหญ่ที่ต้องเลือกให้ดีที่สุด

อาหารเปียกแมว ที่เจ้านายหลายคจัดให้เป็นอาหารจานเด็ดสำหรับต้าวเหมียว เนื่องจากมีกลิ่นหอม รสชาติก็มีความอร่อยนัว จึงทำให้น้องแมวติดใจ และนิยมซื้อติดบ้านไว้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันอาหารเปียกแมวมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อจริง แต่ก็ อาหารเปียกแมวยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำ

อาหารแมวแบบเปียก ยี่ห้อไหนดี 2024 หากช่วงนี้ แมวไม่กินอาหาร , แมวเบื่ออาหาร  มีปัญหากินยาก หรือดูแล้วกินอาหารน้อยลง ! ลงมาเปลี่ยนเมนูจากมื้ออาหารธรรมดาสุดจำเจ ให้กลายเป็นมื้อพิเศษไปพร้อมกันด้วย “ อาหารเปียกแมว” เน้นคุณภาพ ผลิตจากเนื้อสัตว์แท้ พร้อมกลิ่นหอมเย้ายวน รสชาติอร่อยโดนใจ อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพเจ้าเหมียวแข็งแรง กลับมากินอิ่มเต็มอีกครั้งด้วย อาหารเปียก แมว 2024 กันดีกว่า

1. อาหารเปียกแมวมีโอ

ชนิดซอง 80g *12 ซอง ราคา 153 บาท

อาหารเปียกแมวที่สามารถหาซื้อได้ง่ายมาก อาหารเปียกแมวราคาถูก ใครที่งบน้อย หรือมีเจ้านายที่บ้านให้ดูแลหลายตัว แบรนด์นี้ก็ตอบโจทย์มาก เพราะสินค้าคุณภาพดี แต่ราคาประหยัดสุดๆ หรือหากหาซื้ออาหารที่กินประจำไม่ได้ อาหารเปียกแมวมีโอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามรถทดแทนได้อย่างดี เรียกว่าต้องมีติดไว้ เพราะกินเมื่อไหร่ก็อร่อยไม่ผิดหวัง สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อทางช่องทางอย่าง

Shopee https://bit.ly/3SE2V1m 

2. อาหารเปียก ROYAL CANIN

ขนาดซองละ 85 กรัม 12 ซอง ราคา 329 บาท

ROYAL CANINอาหารเปียกแมวอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในร้านคลินิกรักษาสัตว์หลายร้านต่างแนะนำอาหารแมวนี้เป็นสูตรสำหรับแมวโตที่ทำหมัน อายุ 12 เดือน ขึ้นไป สารอาหารครบ , โภชนาการสูง มีพลังงานและระดับไขมันที่เหมาะสม ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินปัสสาวะ อาหารแมวมีไขมันต่ำช่วยควบคุมน้ำหนักน้องแมวทำหมัน เนื้อสัมผัสดูดีน่ากิน เนื้อชิ้นพอคำ ซอสGravyรสกลมกล่อม กลิ่นอาหารค่อนข้างแรง ช่วยดึงดูดความอยากอาหารของน้องแมว สำหรับใครที่กำหลังมองหา อาหารแมวเปียก สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3Yu0i3D

3. อาหารเปียกแมว CAT’S TASTE  ไม่มีโซเดียม

ขนาด75g*12ซอง ราคา 690 บาท

อาหารเปียกแมวโซเดียมต่ำ อาหารแมวเปียกเพื่อสุขภาพ ที่ใช้วัตถุดิบในการผลิตเกรดพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น แล้วที่สำคัญเลยคือ เป็นอาหารเปียกที่ไม่ใส่ธัญพืช จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือมีปัญหาเรื่องขนร่วงเหมาะสำหรับแมวที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป หรือแมวที่ต้องการเพิ่มการบำรุงร่างกายเป็นพิเศษ และความอยากอาหารได้สำหรับใครที่กำหลังมองหาอาหารเปียกแมวสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3miqQXY

4. อาหารเปียกแมวNEKKO

ขนาด 70กรัม *12 ซอง  ราคา 690 บาท

เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อ อาหารแมวแบบเปียก ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน E ทอรีน และน้ำมันปลา ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของสารกันบูดด้วยหลายคนต่างก็ชื่นชอบมากๆ เพราะมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ที่สำคัญยังอร่อยทุกรส ไม่ว่าจะซื้อกลิ่นไหนก็ถูกใจเจ้านายไปหมด ราคาก็ยังดีมากอีกด้วย ใครยังไม่เคยลองแนะนำว่ายี่ห้อนี้เอาอยู่ จะซื้อไปผูกมิตร หรือจะซื้อไปเอาใจก็คุ้มค่านะบอกเลย สำหรับใครที่กำหลังมองหาอาหารเปียกแมวสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3miDYMR

5. อาหารเปียกแมว PRAMY สำหรับลูกแมว

ขนาด 70 กรัม ราคา 22 บาท

อาหารเปียกแมวสูตรนี้เป็นอาหารเปียกแมวสำหรับลูกแมวอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะ ถูกออกแบบให้มีเนื้อเป็นมูสเขี้ยวง่ายและดูดซึมสารอาหารได้ง่าย อาหารเปียก ที่โภชนาการครบถ้วน โปรตีนสูงใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียมและออกแบบกลิ่นให้ดึงดูดลูกแมว เพิ่มความอยากอาหารให้สามารถทานได้จนหมด อร่อยถูกใจแมว ราคาสบายกระเป๋าเจ้าของอีกด้วย

สำหรับใครที่กำหลังมองหาอาหารเปียกแมวสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3J97ygR

6. MONCHOUอาหารเปียกแมวบรรจุกระป๋อง

แบบกระป๋อง 70g ราคากระป๋องละ 29 บาท

อาหารเปียกแมวบรรจุรูปแบบกระป๋องไม่มีส่วนผสมของแป้ง ที่ให้คุณค่าทางอาหารจำเป็นครบถ้วนจาก MONCHOU อาหารบรรจุกระป๋อง ที่สะอาดปลอดภัย ใช้เนื้อสัตว์แท้แบบเป็นชิ้นไม่ใช่มูส เพื่อให้แมวมีอรรถรสในการเคี้ยว เพิ่มความอยากอาหารได้ดี

MONCHOU อาหารเปียกแมวเกรด HOLISTIC ตัวเลือกหนึ่งที่สามารถเพิ่มน้ำหนักให้แก่แมวได้ค่ะโดยสารอาหารสามารถช่วยบำรุงขน กระดูกรวมถึงช่วยลดกลิ่นมูลและปัสสาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับใครที่กำหลังมองหาอาหารเปียกแมวสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3ELRxuD

7. NATURAL COREอาหารเปียกแมวอาหารแมวคุณภาพสูงไม่ใส่เกลือ

แบบกระป๋อง 90g ราคากระป๋องละ 45 บาท

บางคนกังวลกับส่วนผสมภายในอาหารเปียกแมวที่จะมีรสชาติที่เค็ม เพราะต้องการรักษาคุณภาพของเนี้อ แต่สำหรับยี่ห้อนี้ สามารถมั่นใจในความสะอาดและความปลอดภัยได้ ด้วยกรรมวิธีแบบเฉพาะ บรรจุในรูปแบบกระป๋องจึงสามารถซื้อเก็บไว้ได้อย่างยาวนาน กลิ่นหอมเย้ายวนมีรสชาติถูกปาก เป็น อาหารเปียกแมวไม่เค็ม จึงไม่มีส่วนผสมของเกลือซึ่งทำลายระบบการทำงานของไตแมว

สำหรับใครที่กำหลังมองหา อาหารเปียกแมว สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/41DSr6d

บทสรุป

และนี่คือ รีวิวอาหารเปียกแมว ที่นำมาแนะนำในวันนี้  อาหารเปียกแมว เป็นอาหารอีกหนึ่งประเภทที่เรียกว่าถูกอกถูกใจน้องแมว มีประโยชน์แบบอัดแน่นแบบเต็มที่มากกว่าอาหารเม็ด แต่อาจไม่สะดวกเท่ากับอาหารเม็ด หากวันไหนที่คุณไม่ได้เร่งรีบมากหรือในช่วงเช้า ช่วงเย็นที่เราได้ดูแลน้องแมวอย่างเต็มที่ ลองให้อาหารเปียกกับน้องแมวเพื่อสุขภาพที่ดีและยังเป็นรางวัลให้น้องได้อีกด้วย

แต่ก็ควรให้อย่างเหมาะสมและบาลานซ์ เพราะปริมาณของโซเดียม และวัตถุกันเสียต่างๆ ที่สะสมในอาหารเปียกแมว ก็อาจหลงเหลือไปสะสมในร่างกายของแมวได้เช่นกัน เพื่อให้แมวมีสุขภาพที่ยืนยาวเช่นเดียวกับคน ก็ควรให้ทานแต่พอดี และอย่าลืมให้น้องแมวดื่มน้ำกันเยอะๆ ด้วยนะ

ขอขอบคุณคลิปจาก Sasi Cat Craft

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ http://guscats.com

คอนโดแมว ของเล่นชิ้นใหญ่ที่ต้องเลือกให้ดีที่สุด

รีวิว อาหารแมวโรคไต ยอดนิยม และขายดีที่สุดประจำปี

เอดส์แมว โรคร้ายแรงในแมว ที่ควรระวังไว้

คอนโดแมว อุปกรณ์สำหรับน้องแมวชิ้นหนึ่งที่มีราคาสูงเสียจนทาสหลายคนรู้สึกกังวลว่า ซื้อไปจะไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปหรือไม่ แต่เมื่อตัดสินใจ เลี้ยงแมว แล้ว เหล่าทาสคงมีความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมที่จะเลี้ยงให้ดีที่สุด สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะซื้อ คอนโดแมวแบบไหนดี บทความนี้ เราจะมาแนะนำข้อดีของการมีคอนโดแมวติดบ้านและวิธีเลือกซื้อคอนโดแมวให้ถูกใจทั้งทาสและน้องเหมียว

ทำไม คอนโดแมวถึงสำคัญกับเจ้าเหมียว

คอนโดแมว เปรียบเสมือนบ้านหลังจิ๋วสำหรับน้องเหมียว ที่มีทุกอย่างที่ต้องการแบบครบวงจร และมีข้อดีมากมายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้น้องแมวรู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ช่วยฝึกทักษะร่างกายให้น้องแมวมีสุขภาพแข็งแรง เช่น ทักษะการปีนป่าย กระโดด ทรงตัว เป็นที่ระบายอารมณ์ยามรู้สึกเกรี้ยวกราด ตึงเครียด วิตกกังวล และยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่ดูดี

คอนโดแมว ต้องมีอะไรบ้าง

          คอนโดแมวแต่ละแบบจะมีองค์ประกอบต่างๆ แตกต่างกัน เหมือนบ้านที่แต่ละหลังจะมีความแตกต่างเฉพาะตัว เช่น บางบ้านมีสนามหลังบ้าน แต่บางบ้านไม่มี ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับราคาด้วย โดยองค์ประกอบหลักๆ ของคอนโดแมว มีดังนี้

1.ที่นอนแมว

ที่นอนแมวเป็นองค์ประกอบหลักที่ขากไม่ได้ คอนโดแมวที่ไร้ที่นอนแมว ไม่อาจเรียกว่าคอนโดแมวได้ เหมือนบ้านคนที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมีห้องนอนสำหรับพักผ่อนนอนหลับ ซึ่งในส่วนนี้ จะมีให้เลือกมากมายหลายวัสดุ ขึ้นอยู่กับว่าน้องแมวของเราชอบแบบไหน โดยให้สังเกตว่า น้องแมวชอบนอนบนพื้นผิวแบบใด ถ้าเลือกตรงส่วนนี้ถูกใจน้องแมว รับประกันเลยว่า คอนโดแมวที่ซื้อมาจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าแน่นอน

2.ที่ฝนเล็บแมว

          ที่ฝนเล็บแมวหรือ ที่ลับเล็บแมว คือ จุดคลายเครียดที่ไม่มีไม่ได้ หากเลือกคอนโดแมวที่มีที่ฝนเล็บแมวแบบที่น้องแมวชอบ น้องแมวจะแวะมาเล่นที่คอนโดแมวบ่อยขึ้นจนเกิดความคุ้นชิน โดยวิธีการเลือกที่ฝนเล็บให้โดนใจแมว ต้องดูว่า แมวของเราชอบฝนเล็บแนวนอนหรือแนวตั้ง ชอบเครื่องสาน กล่องลังหรือเชือก หากยังไม่กล้าใช้ให้จับอุ้งเท้าน้องแมวไปถูตามที่ฝนเล็บแมวดู เพื่อให้น้องแมวรู้ว่า ที่นี่เป็นที่ของเค้า รับรองว่าน้องแมวต้องติดใจ

3.ที่ปีนป่าย

          แมวเป็นสัตว์นักล่าปราดเปรียว ชอบความท้าทายและมีความสามารถในการปีนป่ายสูง ซื้อคอนโดแมวทั้งทีก็ควรเลือกแบบที่ไม่ดูถูกความสามารถน้องแมวจนเกินไป ยิ่งสูง ยิ่งยาก น้องแมวยิ่งชอบ แต่ในขณะเดียวกัน ทาสทั้งหลายก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและข้อจำกัดต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อด้วย เช่น ต้องเลือกวัสดุที่แข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักน้องแมวได้ดี ไม่สูงหรือใหญ่จนมีอุปสรรคในการขนย้าย

4.เปลแมว

          หนึ่งในเตียงแมวที่น้องแมวทุกตัวต้องเลิฟ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบเสริมที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีจะฟินมากทั้งทาสทั้งเจ้านาย เพราะเราจะได้เห็นภาพน้องแมวนอนอย่างมีความสุขบนเปลแมวที่ค่อยๆ แกว่งไกวเบาๆ อย่างผ่อนคลาย มีผ้าเปลที่คอยโอบล้อมนวดตัวให้รู้สึกปลอดภัย และเชื่อว่าหลายคนที่ชอบนอนเปลต้องเข้าใจ

5.ของเล่นแมว

          ของเล่นแมว ถือว่าสำคัญพอๆ กับที่ลับเล็บแมวเลยทีเดียว เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยหลอกล่อให้น้องแมวยอมเข้าใกล้คอนโดแมวมากขึ้น โดยของเล่นบนคอนโดแมวนั้นจะมีมากมายหลายแบบ เช่น ไม้ตกแมว ลูกตุ้ม ตุ๊กตาสปริง กระดิ่ง ขนนก ล้อวิ่งออกกำลังกาย  ไว้ให้น้องแมวได้ฝึกฝนทักษะ ไหวพริบ การตอบสนองและกัดแทะคลายเครียด ที่แค่เห็นก็รู้สึกถึงความสนุกหรรษาแล้ว

ข้อดีของ คอนโดแมวแต่ละแบบ

1.คอนโดแมวติดผนัง

          คอนโดแมวติดผนัง เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ติดตั้งแล้วดูสะอาดเรียบร้อยทันสมัย เป็นคอนโดแมวที่บิวท์อินยึดติดกับผนัง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้แบบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ซึ่งต้องเลือกแบบคุณภาพดี ราคาสูง ถึงจะไว้ใจได้ ทั้งยังมีค่าติดตั้งที่ต้องจ่ายเพิ่มด้วย ไม่เหมาะกับทาสแมวที่ชอบเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องตามฮ้วยจุ้ยและอารมณ์บ่อยๆ

2.คอนโดแมวไม้

          คอนโดแมวไม้ ทำจากวัสดุธรรมชาติย่อยสลายง่าย จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงน้องแมวด้วย น้องแมวสามารถกัดทะได้เต็มที่ไม่เป็นอันตราย แต่หากเลือกไม้คุณภาพต่ำอาจประสบปัญหาเชื้อรา ปลวก มอด วัสดุไม่มีคุณภาพ แตกหักง่าย ต้องตั้งใจเลือกพอๆ กับตอนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้าบ้าน ที่แม้จะดูสวยสบายตา แต่ต้องแลกมากับราคาที่สูงและการบำรุงรักษา ไม่แนะนำสำหรับบ้านที่มีอากาศชื้น

3.คอนโดแมวกำมะหยี่

          คอนโดแมวกำมะหยี่ คือ คอนโดแมวทั่วไป โครงภายในทำมาจากวัสดุแข็งแรงทนทาน เช่น เหล็ก ไม้ พลาสติก ภายนอกใช้ผ้ากำมะหยี่คลุมให้ดูหรูหรา เหมาะกับน้องแมวที่ชอบนอนบนผ้านุ่มลื่น ข้อดี คือ น้องแมวส่วนใหญ่จะชอบมาก ดีไซน์ดูหรูหราน่าสัมผัส แต่หากทำความสะอาดไม่ดีอาจกลายเป็นที่สะสมเชื้อโรคและไรฝุ่นได้ อีกทั้งยังไม่เหมาะกับน้ำแมวที่มีนิสัยชอบกัด แทะ ข่วน ส่วนราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำและขนาด

4.คอนโดแมวทำเอง

          สำหรับใครที่มีงบจำกัดหรือเลือกคอนโดแมวสำเร็จรูปที่ถูกใจไม่ได้ คอนโดแมวทำเอง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณสามารถควบคุมงบและเลือกวัสดุที่ต้องการได้เอง อยากได้ดีไซน์ไหนให้เข้ากับบ้านและน้องแมวก็จัดไป แต่อย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่มีฝีมือด้านงานช่างและบางครั้งการทำ คอนโดแมว DIY อาจต้องเสียค่าวัสดุแพงกว่าซื้อสำเร็จรูปเสียด้วยซ้ำ ทาสแมวคนไหนไม่มั่นใจว่าจะทำได้ตลอดรอดฝั่งไม่ควรเสี่ยง

5.คอนโดแมวต้นไม้

          เป็นเทรนด์มาแรงที่นำต้นไม้จริงๆ ที่แตกกิ่งก้านสาขาแข็งแรงมาทำเป็นคอนโดแมว ราคาจะแพงกว่าต้นไม้ทั่วไป ดูดีมีสไตล์ น้องแมวเข้าถึงง่าย ออร์แกนิกซ์ เหมาะกับน้องแมวที่ชอบปีนป่าย กัดแทะ รักธรรมชาติ  ต้องการการดูแลแบบต้นไม้ทั่วไป อาจมีปัญหาเรื่องปลวก มอดและแมลงอื่นๆ ตามมา และบางต้นมีอายุการใช้งานน้อยกว่าคอนโดแมวที่ทำจากไม้สำเร็จรูปเสียอีก

คอนโดแมว กับคำถามยอดฮิต

ควรเลือก คอนโดแมว กี่ชั้นดี?

หากบ้านของคุณมีน้องแมวมากกว่า 1 ตัว การเลือก คอนโดแมวหลายชั้น จะประหยัดทั้งเงินและพื้นที่มากกว่าการซื้อคอนโดแมวเล็กๆเพียง 1 – 2 ชั้นหลายหลัง อย่างที่บอกไปว่า สำหรับน้องแมวยิ่งสูงยิ่งดี กี่ชั้นน้องก็ไม่หวั่น แต่ที่ควรหวั่นคือทาส เพราะการเลือก ซื้อคอนโดแมว ที่สูง ใหญ่ มีน้ำหนักมาก มีรายละเอียดเยอะ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำความสะอาดและซ่อมบำรุงในภายหลังได้

คอนโดแมวแบบไหนดีที่สุด?

นิยามของคอนโดแมวที่ดี ไม่ใช่ คอนโดแมวราคาถูก หลายชั้นหรือแข็งแรงเสมอไป แต่ต้องเป็นคอนโดแมวที่เหมาะกับทั้งทาสและน้องแมว ยกตัวอย่างเช่น

– บ้านไหนน้องแมวร่างกายอ่อนแอ อายุมาก น้ำหนักเยอะ ไม่ชอบปีนป่าย มีคอนโดแมวหลายชั้นไปก็เท่านั้น

– ซื้อแบบราคาถูกมา วัสดุไม่แข็งแรงไม่นานก็พัง

– คอนโดแมวใหญ่ๆ แข็งแรงทนทาน แต่ไม่คำนึงถึงน้ำหนักก็อาจส่งผลให้พื้นทรุด ขนย้ายลำบาก

-คอนโดแมวราคาสูง มีลูกเล่นเยอะ แต่ไม่ดูความชอบน้องแมว น้องแมวไม่เล่นก็จบ ดังนั้น การเลือกซื้อคอนโดแบบที่ดีจึงต้องดูหลายปัจจัยประกอบกัน

บทสรุป

          สำหรับใครอ่านบทความนี้จนจบ คงเห็นถึงความสำคัญและเรียนรู้เคล็ดลับการ คอนโดแมว กันพอสังเขปแล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทาสแมวทุกคน หากใครที่ยังเลือกไม่ได้ว่า คอนโดแมวแบบไหนเหมาะสมกับตัวเองและน้องแมวที่สุด แนะนำให้ลองหารีวิวจากหลายแหล่งดู ไม่ช้าก็เร็วคุณจะได้ซื้อคอนโดให้น้องแมวที่รักอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณคลิบจากช่อง GTry2 Channel

อ่านบทความอื่นๆได้ที่ guscats.com

แนะนำวิธีเลือก ทรายแมว แบบไหนดี ฉบับทาสแมวตัวยง

หลายคนอาจจะชื่นชอบที่แมวของตัวเองอ้วนตุ๊บตั๊บน่ากอด เพราะแมวอ้วนนั้นจะมีความน่ารักน่าชังเป็นพิเศษ พวกเขามักจะมีท่าทางที่ทำให้เราตกหลุมรักได้อย่างง่ายดายอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตามความจริงแล้วการที่เราปล่อยให้พวกเขามีน้ำหนักมากจนเกินไปนั้นอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีตามมาก็เป็นได้โดยเฉพาะผลเสียทางสุขภาพของพวกเขาเอง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูวิธีการลดความอ้วนแมวอย่างไรให้พวกเขามีสุขภาพดีให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน

เปิดเทคนิคการลดน้ำหนักแมวให้พวกเขาสุขภาพดี 

1. จำกัดปริมาณอาหาร เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจแต่หากคุณอยากลดความอ้วนแมวคุณก็จำเป็นต้องทำเพื่อที่พวกเขาจะได้มีสุขภาพแมวที่ดีขึ้น เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีน้ำหนักเกินอาจเป็นเพราะว่าพวกเขากินอาหารมากเกินความจำเป็นก็ได้ หลายคนอาจเข้าใจว่าพวกเขาสามารถกินอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ได้แต่ไม่ได้เป็นแบบนั้นแต่อย่างใด เราจะต้องคำนวณปริมาณอาหารให้พวกเขาอย่างพอเหมาะในแต่ละวัน 
2. เปลี่ยนอาหาร อาหารบางอย่างอาจจะทำให้พวกเขาอ้วนขึ้นมาได้เนื่องจากมีพลังงานที่สูง ยิ่งหาพวกเขาอยู่แต่ในบ้านและไม่ค่อยได้วิ่งเล่นสักเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะน้ำหนักเกิน ดังนั้นลองเปลี่ยนสูตรอาหารอย่างเช่นสูตรแมวในบ้านหรือสูตรแมวลดน้ำหนักก็น่าจะพอช่วยให้พวกเขาน้ำหนักลดลงได้บ้าง 

1. หลีกเลี่ยงขนม ถึงแม้ว่าแมวของคุณจะชื่นชอบการกินขนมมากแค่ไหนก็ตามแต่หากเราให้พวกเขากินมากจนเกินไปหรือขนมเหล่านั้นมีพลังงานสูงเราก็อาจจะต้องให้พวกเขาน้อยลงกว่าเดิม แต่หากเราไม่อยากจะให้พวกเขาคิดว่าเราไม่รักก็สามารถเปลี่ยนไปให้ขนมพวกเขาเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำแทนก็ได้เช่นเดียวกัน 
2. พาออกกำลังกาย การที่แมวมีน้ำหนักเกินอาจเกิดจากการที่ในวันหนึ่งพวกเขาไม่ค่อยได้ขยับร่างกายสักเท่าไหร่ ยิ่งหากพวกเขาทำหมันแล้วพวกเขาจะยิ่งขี้เกียจมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เราจึงอาจจะต้องกระตุ้นให้พวกเขาออกกำลังกายบ้างอย่างเช่นชวนพวกเขาเล่นหรือพาไปเดินเล่นเป็นต้น

สิ่งที่จะตามมาหากคุณยังไม่ยอมลดน้ำหนักแมว 

หากแมวของคุณมีน้ำหนักเกินและคุณไม่ยอมใจแข็งลดความอ้วนแมวสักทีรับรองว่าสุขภาพแมวจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ถึงพวกเขาจะน่ารักแต่ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคทั้งความดันโลหิตสูง หัวใจ เบาหวาน ไขมันพอกตับ และยังอาจมีปัญหาเกี่ยวกับข้ออีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องดูแลสุขภาพร่างกายของพวกเขาให้แข็งแรงและเหมาะสมอยู่เสมอ พวกเขาจะได้อยู่กับเราไปนานๆ guscats.com

บทความเพิ่มเติม

• แมวไม่ชอบน้ำ ปัญหาหนักใจที่ทำให้หลายคนอาบน้ำแมวไม่สำเร็จ
• ที่นอนแมว อุปกรณ์เลี้ยงแมว จุดชาร์จแบตเหมียวที่ทาสแมวต้องมี