รากามัฟฟิน แมวสายพันธุ์สุดน่ารักที่จะทำให้คุณตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย
แมวแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป หลายคนชื่นชอบแมวสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กเนื่องจากดูแลง่ายและน่ารัก ในขณะที่หลายคนชื่นชอบแมวขนาดใหญ่เนื่องจากมันฟัดสนุกดี อย่างที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นแมวสายพันธุ์สุดน่ารักที่มาพร้อมกับขนาดใหญ่อลังการนั่นก็คือรากามัฟฟิน แมวที่สามารถมีน้ำหนักได้สูงสุดถึง 9 กิโลกรัมเลยทีเดียว พวกมันจะน่ารักสมกับชื่อหรือไม่วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักพวกมันให้มากยิ่งขึ้นกัน
รายละเอียดและลักษณะนิสัยของแมวสายพันธุ์ Ragamuffin
รากามัฟฟินเป็นแมวขนยาวตัวใหญ่ที่เพศพูดอาจมีน้ำหนักสูงกว่า 9 กิโลกรัม เพศเมียจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 4.5 กิโลกรัมถึง 7 กิโลกรัมเลยทีเดียว พวกมันจึงถูกจัดให้เป็นแมวที่มีขนยาวและมีขนาดที่ใหญ่ อายุขัยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 12 ถึง 16 ปี สามารถปรับตัวอาศัยอยู่ในที่แคบได้เป็นอย่างดีเนื่องจากสงบเสงี่ยม ใช้พลังงานน้อย เรียบร้อยทั้งกับคนอื่นและเจ้าของ สามารถเข้ากับผู้คนได้ดี ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น มันจึงเหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่เป็นอย่างมาก สามารถทนต่อสิ่งเร้าได้อย่างยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่พวกมันไม่ค่อยอยู่ตามลำพังได้สักเท่าไหร่เนื่องจากพวกมันเป็นแมวขี้อ้อนที่มักกังวลเมื่อเราทิ้งให้มันอยู่ตามลำพังจนมักแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์อย่างเช่นกันกับโซฟาอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีขนยาวแต่ก็สามารถทนกับอากาศได้ดีทั้งร้อนและหนาว เป็นมิตรกับเด็ก ครอบครัว และแมวตัวอื่น เนื่องจากพวกมันชอบเข้าสังคม เราจึงสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับมันได้อย่างง่ายดาย สามารถทนเสียงเด็กหรือการเล่นของเด็กได้เป็นอย่างดี พวกมันเป็นแมวที่ผลัดขนค่อนข้างบ่อยดังนั้นเราจึงไม่แนะนำสำหรับเจ้าของที่แพ้ขนสัตว์ นอกจากนี้ยังต้องคอยดูแลอาหารให้ดีเนื่องจากน้ำหนักเพิ่มได้ง่ายอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามพวกมันเป็นแมวที่มีพลังงานสูงแข็งแรงกระฉับกระเฉง ทำให้ชอบออกกำลังกายหรือเล่นกระโดดอยู่เป็นประจำ
เปิดประวัติความเป็นมาของแมวสายพันธุ์ Ragamuffin
รากามัฟฟินเป็นแมวขนยาวที่เริ่มจากแมวสายพันธุ์แร็กดอลล์มาก่อนพวกมันจึงมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก โดยเริ่มจากแมวสายพันธุ์แร็กดอลล์มาก่อนพวกมันจึงมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากประวัติเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1960 รัฐแคลิฟอร์เนียประวัติเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1960 รัฐแคลิฟอร์เนีย มีจุดเริ่มต้นจากการผสมผสานกันระหว่างแมวสายพันธุ์เปอร์เซียและแมวสายพันธุ์เบอร์มีส เบอร์แมน หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาให้เกิดรูปแบบและสีที่แตกต่างกันออกไปจนกลายเป็นความบังเอิญในการเกิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาในชื่อใหม่นั่นเอง