วิธีการเลี้ยงบริติชช็อตแฮร์

บริติชช็อตแฮร์ เป็นแมวเรียบร้อย สุขภาพโดยพื้นฐานร่างกายก็ดี เรียกว่าเป็นแมวเลี้ยงง่ายพันธุ์หนึ่ง แต่ถึงอย่างไรน้องแมวบริติชช็อตแฮร์ก็ยังต้องการการดูแลเอาใจใส่เหมือนกับน้องแมวพันธุ์อื่นๆ และมีข้อมูลอาหารการกิน สุขภาพจำเพาะที่เฉพาะสายพันธุ์อยู่เหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ สาวกแมวบริติชช็อตแฮร์ต้องห้ามละเลย

แมวบริติชช็อตแฮร์ กินอย่างไรถึงจะดีที่สุด

            แมวบริติชช็อตแฮร์ นิสัยกินง่าย อยู่ง่าย มีโครงสร้างใหญ่ตามแบบแมวสายพันธุ์ยุโรป จึงต้องทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แต่ควรเป็นอาหารไขมันต่ำเพราะสรีระอ้วนง่ายเหมือนสก็อตติชโฟล์ด ควรมีใยอาหารสูงเพื่อดูแลการขับถ่ายด้วย และที่สำคัญควรมีวิตามิน เพื่อดูแลขนที่แน่นนุ่มของบริติชช็อตแอร์ให้สวยอยู่เสมอ  

            สัดส่วนอาหารของแมวบริติชช็อตแฮร์ในวัยเด็ก ควรให้กินนมแม่จนอายุอย่างน้อย 1 เดือน และเสริมอาหารเปียกเล็กน้อยกับนมแพะ 3 มื้อต่อวัน ก่อนจะค่อยๆปรับให้อาหารมากขึ้น ให้นมลดลง และให้อาหารเม็ดเป็นหลักเมื่อแมวโตเต็มวัย ในแมวบริติชช็อตแฮร์วัยชรา ให้อาหารลดลงเหลือ 2 มื้อ แต่เปลี่ยนอาหารเป็นสูตรไขมันต่ำ มีโปรตีนคุณภาพ ย่อยง่าย

            แมวบริติชช็อตแฮร์ที่ตั้งครรภ์ ให้เสริมอาหารไขมันสูงและโปรตีนสูงเพื่อการสร้างน้ำนมและให้พลังงานแก่ลูกแมวในท้อง ควรบำรุงแม่แมวท้องเพิ่มด้วยนมแพะบางครั้ง  ให้อาหารให้เพียงพอในปริมาณเท่าเดิมกับก่อนท้อง โดยค่อยๆผสมอาหารบำรุงเข้ากับอาหารเดิม

การดูแลแมวบริติชช็อตแฮร์

           วิธีการเลี้ยงแมวบริติชช็อตแฮร์มีขนที่หนา เส้นขนแน่น คือการดูแลความสะอาดคือการอาบน้ำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์และเป่าขนให้แห่งสนิทเพราะขนที่แน่นจะเสี่ยงต่อความอับชื้น จากนั้นควรตัดเล็บทุก 2 สัปดาห์ และทำความสะอาดหู ดวงตาด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นๆทุกเช้า รวมถึง การพาเดินออกกำลังกายทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ในสวนสาธารณะ/บริเวณบ้าน หรือ ซื้อกงล้อหมุนให้แมวเดินมาให้ออกกำลังกายในบ้าน เพราะบริติชช็อตแฮร์กับสกอตติชโฟลด์จะต้องควบคุมน้ำหนักเพื่อไม่ให้มีปัญหาสุขภาพตามมา

ระวังเรื่องโรคที่คุกคามสุขภาพ

           แมวบริติชช็อตแฮร์มีสุขภาพที่ไม่ค่อยน่ากังวลนัก เพราะโดยรวมแข็งแรง แต่ก็มีความเสี่ยงในโรคหัวใจคล้ายกับอเมริกันช็อตแฮร์ จึงต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพ ตามมาด้วยโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งอาจจะเกิดจากโปรตีนในช่องปากไม่สมดุล ติดเชื้อไวรัส กินน้ำน้อย ที่ต้องดูแลสุขภาพช่องปากกับพฤติกรรมการกินอย่างใกล้ชิด ส่วนอาการก้อนขนอุดตันในระบบทางเดินอาหาร พบได้ไม่มากแต่ก็มีโอกาสเป็นได้ จึงควรหมั่นพาไปฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพกับคุณหมออยู่เสมอ